ข้อมือของเซี่ยเสี่ยวหลานอาจจะเจ็บ และหัวใจของโจวเฉิงก็อาจจะปวดได้เช่นกัน
ทว่าไม่แน่ใจว่าสิ่งใดเ็ปกว่ากัน
เซี่ยเสี่ยวหลานถูกโจวเฉิงจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ จู่ๆ ก็รู้สึกละอายที่จะโกหกต่อไป
“ได้ จริงๆ แล้วยังเจ็บอยู่นิดหน่อยน่ะ แต่ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก ั้แ่าเ็จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมา 20 วันแล้ว เดิมทีแค่กระดูกร้าวเท่านั้น ฉันไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนถึงถอดเฝือกออก หากไม่ถือของหนักก็สบายมาก”
โจวเฉิงร้องอืมจากลำคอเบาๆ “คราวหลังถ้ามีเื่แบบนี้อีกห้ามปิดบังฉันแล้วนะ เสี่ยวหลาน ฉันหวังว่าจะได้ร่วมทุกข์สุข และมีส่วนร่วมกับชีวิตของเธอนะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เธอลังเลใจอยู่นาน สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่พูดว่าสาเหตุของอาการาเ็ที่มือเธอมาจากการที่เซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยเล่นสกปรก
สำหรับปัญหาในอนาคตเธอจะพยายามบอกโจวเฉิงเท่าที่ทำได้ แต่กับเื่นี้เธอใช้วิธีของตนเองแก้เผ็ดแล้ว ดังนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานไม่้าให้โจวเฉิงเข้ามามีส่วนพัวพันอีก—
เธอคิดว่าตนเองกำลังคำนึงถึงโจวเฉิง
โจวเฉิงกลับรู้สึกผิดหวังมาก แต่เขาก็ไม่ได้พูดแทงใจดำภรรยาตน ลูกผู้ชายตัวจริงจะถกเถียงเกี่ยงงอนกับสตรีไม่ได้ และวันนี้ยังเป็วันเกิดของเสี่ยวหลานด้วย ยิ่งมิอาจสร้างความขัดเคืองใจให้ภรรยาตน
“รีบนอนนะ เที่ยวบิน่บ่ายพรุ่งนี้ของเธอ ฉันจะลองดูว่าขอลางานครึ่งวันอีกได้หรือเปล่า”
โจวเฉิงมอบจูบอันแสนอ่อนโยนให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลาน ในใจเขายังห่วงเื่มือของเซี่ยเสี่ยวหลานที่าเ็อยู่ เป็ไปไม่ได้ที่จะมีความคิดความใคร่ปรารถนาทางเพศใดๆ เกิดขึ้นในเวลานี้
สถานที่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานค้างแรมคือบ้านพักรับรองประจำหน่วยงานของคังเหว่ยนั่นเอง เพราะคุ้นเคยกันดี และเธอมีจดหมายแนะนำที่คังเหว่ยจัดการให้ อีกทั้งบ้านพักรับรองของกระทรวงกับคณะกรรมการต่างๆ ปลอดภัยมาก โจวเฉิงเองจึงวางใจ
พอส่งโจวเฉิงกลับไปแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานถึงแกะของขวัญจากคนตระกูลโจวออก
ป้าสะใภ้ อาหญิงรอง และอาหญิงเล็กของโจวเฉิงให้อั่งเปา จำนวนเงินก็เท่ากัน ใส่ต้าถวนเจี๋ยในซองไว้สิบใบ แต่ละคนให้เธอ 100 หยวน? นี่ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย อย่างไรเสียพวกเธอก็เป็แค่ญาติ และโจวเฉิงพาคนรักเข้าบ้านเพื่อร่วมมื้ออาหารอย่างจริงจังเป็ครั้งแรก การให้อั่งเปา 100 หยวนถือว่าให้เกียรติมากแล้ว ถ้าจะละเอียดลออจริงๆ กลับเป็เซี่ยเสี่ยวหลานด้วยซ้ำที่ไม่รู้ว่าจะมีคนมามากมายปานนั้น จึงเตรียมของขวัญพบปะไปเพียงสี่ชุดเท่านั้น
ผู้ไม่รู้ย่อมไร้ความผิด เธอนึกไม่ถึงเช่นกันว่าความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวโจวเฉิงจะใกล้ชิดสนิทสนมขนาดนี้ ชดเชยเพิ่มในภายหลังก็ไม่มีปัญหา
ของที่ย่าโจวให้เธอคือกำไลกุ้ยเฟย [1] หยกล้อมทอง ลายเส้นเรียวบางซึ่งทำจากทองคำล้อมรอบบนหยกขาวผุดผ่อง เซี่ยเสี่ยวหลานดูไม่ออกว่าคือหยกมันแพะ [2] หรือไม่ แต่นี่เป็น้ำใจจากหญิงชรา ไม่สามารถใช้เป็มาตรฐานว่ามีราคาหรือไม่ในการวัดคุณค่าได้
สำหรับของที่กวนฮุ่ยเอ๋อให้เธอนั้น คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็ตุ้มหูเพชรหนึ่งคู่
ใช้ทองคำขาวเป็ตัวเรือน ฝังด้วยเพชรเม็ดเล็กทรงสี่เหลี่ยมสองเม็ด ขนาดประมาณครึ่งกะรัต เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ทราบราคาจำหน่ายของเครื่องประดับเพชรในยุค 80 แต่ดูท่าจะไม่ได้ย่อมเยาเสียด้วย ตุ้มหูสวยแวววาวมาก ครอบครัวของโจวเฉิงก็อัธยาศัยกว่าที่เธอคิดไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานเก็บกำไลข้อมือกับตุ้มหูไว้อย่างเรียบร้อย วันเกิดครั้งนี้ทำให้เธออิ่มเอมใจไม่น้อยเลยทีเดียว
จุดยืนของโจวอี๋เป็ตัวกำหนดทัศนคติ สนิทชิดใกล้กับต่งลี่ลี่มากกว่า ย่อมไม่ถูกใจเธอเป็ธรรมดา
ป้าสะใภ้ของโจวเฉิงก็พูดจามีนัยยะแอบแฝงเหมือนกัน เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าคงไม่เกี่ยวข้องกับตน คงอาจเป็เื่ความสัมพันธ์ภายในตระกูลโจว—มันไม่มีทางกลมเกลียวเป็หนึ่งทั้งหมด ครอบครัวไหนไม่มีพวกชอบยุแยงตะแคงรั่วบ้าง เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็มีญาติที่น่ารำคาญเป็กอง เฉกเช่นป้าสะใภ้ของโจวเฉิงนี้ อย่างน้อยยังเห็นแก่หน้าตนเองอยู่บ้าง
และถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องพิจารณาเื่การสร้างสัมพันธ์อันดีกับคนตระกูลโจว
ต่อให้ในอนาคตต้องสนทนาเื่วิวาห์กับโจวเฉิงจริง เพียงได้การยอมรับจากพ่อแม่ของโจวเฉิงก็พอ เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าใจแจ่มแจ้งดีแล้ว! บิดามารดาโจวเฉิงไม่จำเป็ต้องโปรดปรานเธอมากนัก ขอแค่ทั้งสองมีเหตุผลก็หมดเื่
พอโจวเฉิงพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับ คนตระกูลโจวอภิปรายเกี่ยวกับเซี่ยเสี่ยวหลาน จนกระทั่ง 5 ทุ่มถึงแยกย้ายกันกลับบ้านของตน
สองผู้เฒ่าโจวมีรถพิเศษคอยรับส่ง ทว่าคนอื่นๆ ต่างต้องหาวิธีกลับไปด้วยตนเอง ไม่ใช่ทุกคนในตระกูลโจวจะมีระดับถึงขนาดที่รถประจำตำแหน่ง
อย่างครอบครัวอาหญิงเล็กของโจวเฉิงทั้งสี่คน ล้วนขี่จักรยานมาที่นี่ ส่วนบ้านใกล้ที่สุดคือบ้านของอาหญิงรอง เดินครู่เดียวก็ถึงบ้านแล้ว
แต่โจวอี๋กับมารดานั่งรถยนต์มา และคนขับรถก็ไม่มีทางรอพวกเธอสองคนจวบจนบตอนนี้ โจวกั๋วปินบอกว่าจะเรียกรถไปส่งให้ แต่พ่อเฒ่าโจวห้ามเขาไว้ “นี่มันดึกมากแล้ว แกเห็นใจคนขับรถหน่อยสิ ให้คนเขาเสียเวลาถ่อมาที่นี่อีกทีเพื่ออะไร? ให้โจวอี๋กับพี่สะใภ้แกนั่งรถพวกเราไปก็ได้”
โจวอี๋อยากหดศีรษะซ่อนไว้ที่คอเหลือเกิน
เหนือความคาดหมาย ตลอดทางปู่เธอกลับไม่ได้ตำหนิเธอเลยแม้แต่ประโยคเดียว เมื่อโจวอี๋ถึงบ้านก็รู้สึกโล่งใจทันที ทว่ามารดาไร้ซึ่งรอยยิ้มบนใบหน้า แววตาที่มองตามรถประจำตัวของสองผู้เฒ่าล่องลอยอยู่ในภวังค์ พอได้สติคืนก็สั่งสอนโจวอี๋อย่างกราดเกรี้ยว
“ลูกยังรื่นเริงบันเทิงใจได้อยู่อีกนะ!”
นึกว่าการไม่โดนชายชราตำหนิจะเป็เื่ดีสินะ รู้สึกครึ้่มอกครึ้มใจใช่ไหมเล่า?
มารดาโจวอี๋โมโหโทโสเป็อย่างมาก เธอให้กำเนิดบุตรสาวที่โง่เง่าขนาดนี้ออกมาได้อย่างไรกัน การดุด่าต่างหากที่แสดงถึงความใกล้ชิด โดนดุด่าหน่อยจะเป็อะไรไป นั่นหมายความว่าชายชรายินดีตักเตือนชี้แนะโจวอี๋ แต่ที่ไม่ดุด่า เป็เพราะว่าพ่อเฒ่าโจวไม่ใยดีโจวอี๋แม้แต่นิดเดียวต่างหาก!
ชายชราลำเอียงโปรดปรานครอบครัวน้องรอง ั้แ่โจวกั๋วปินจนถึงโจวเฉิง กวนฮุ่ยเอ๋อให้บุตรชายแก่ตระกูลโจว สถานะของครอบครัวน้องรองในตระกูลโจวเหนือกว่าสะใภ้ใหญ่อย่างเธอโดยสิ้นเชิง! เพียงเพราะเธอไม่ได้ให้กำเนิดบุตรชาย ตำแหน่งหน้าที่การงานของสามีเธอด้อยกว่าโจวกั๋วปิน
ไม่ว่าเธอและโจวอี๋จะประจบสองผู้เฒ่าโจวอย่างตั้งใจแค่ไหน เื่ดีๆ ก็ไม่มีวันตกถึงครอบครัวของเธอ!
หันกลับไปมองบ้านโจวกั๋วปิน โจวเฉิงแค่มีคนรักหาใช่แต่งงานไม่ ย่าโจวกลับตื่นเต้นเรียกคนทั้งตระกูลมารวมตัวกัน เพื่อยกยอปอปั้นคนรักที่โจวเฉิงพาเข้าบ้าน... ยังมิใช่เพราะว่าลำเอียงรักโจวเฉิงอีกหรือ?
มารดาโจวอี๋เจ็บใจเหลือทน หากวันนี้เธอเห็นว่าคนรักที่โจวเฉิงพากลับบ้านมีคุณสมบัติย่ำแย่ เธอถึงจะสามารถเยาะเย้ยกวนฮุ่ยเอ๋อได้ เธอรอคอยให้โจวเฉิงทะเลาะกับครอบครัวอย่างหมดท่าแทบไม่ไหว เพราะเลือกภรรยาผู้ไม่น่าชื่นชม—ทว่าหญิงสาวที่โจวเฉิงพามาเยือนในวันนี้ แม้ฐานะชาติตระกูลจะไม่ดี แต่ความสามารถเฉพาะตัวโดดเด่นอยู่ในระดับสูงสุด ได้รับความนิยมชมชอบจากสองผู้เฒ่าโจวเป็อย่างมาก!
โจวอี๋พยายามทำให้อีกฝ่ายอับอาย แต่กลับดันโดนใช้เป็หินรองเท้า สะท้อนความยอดเยี่ยมของอีกฝ่ายให้ชัดเจนยิ่งขึ้นแทน
กู้เจิ้งชิงก็สรรเสริญเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างไม่ลืมหูลืมตา
มารดาโจวอี๋ไม่พอใจต่างๆ นานา โจวอี๋ถูกมารดาบังเกิดเกล้าด่าโดยจับต้นชนปลายไม่ถูก เมื่อครู่แม่ยังช่วยเธออยู่เลยมิใช่หรือ ทำไมตอนนี้ถึงติเตียนเธอกันเล่า?
ตลอดทั้งหัวค่ำ โจวอี๋จมอยู่ในความอับอายขายขี้หน้า ตอนเธอรายงานข่าวคราวเื่โจวเฉิงพาคนรักกลับบ้านมาพบผู้ใหญ่ในวันนี้ให้ต่งลี่ลี่รับรู้ อารมณ์ย่อมไม่ดีเป็ธรรมดา
“ลี่ลี่ เธอทำเอาฉันน่าสมเพชเลยนะ เื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ฉันไม่อยากพูดถึงด้วยซ้ำ ถ้าอนาคตโจวเฉิงแต่งงานกับเซี่ยเสี่ยวหลานจริง ฉันต้องเล่นงานน้องสะใภ้คนนี้ให้ถึงที่สุดให้ได้!”
แม้ดึกมากแล้วต่งลี่ลี่ก็ยังคงนอนไม่หลับ นั่นเพราะเธอกำลังรอโทรศัพท์จากโจวอี๋นั่นเอง
ต่งลี่ลี่อุตส่าห์เตรียมสถานการณ์อันยิ่งใหญ่ให้เซี่ยเสี่ยวหลาน เพราะรู้ว่าปีศาจจิ้งจอกสามารถเสแสร้งแกล้งทำบางอย่างต่อหน้าผู้ชายได้ แต่จะคืนสู่ร่างเดิมก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่อย่างแน่นอน คนอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานนั้่น พอพบกับสมาชิกตระกูลโจวซึ่งแต่ละคนล้วนไม่ได้โง่เขลา ไม่รู้ว่าจะมีจุดด่างพร้อยมากเท่าไร
มันคงแปลกประหลาดมากหากมารดาของโจวเฉิงจะชอบลูกสะใภ้ที่ใจแคบ และซอมซ่อ!
ต่งลี่ลี่สาธยายความคิดของเธออย่างชัดเจนและมีเหตุผลเป็ระเบียบ โจวอี๋ถึงกับพูดสิ่งที่เหลือไม่ทัน
เมื่อต่งลี่ลี่พูดจบแล้ว โจวอี๋ถึงกับถอนหายใจออกมา
“...เ้าหล่อนไม่เหมือนกับที่พวกเราเคยคิดไว้แม้แต่น้อย! ในโทรศัพท์ฉันก็เล่าให้กระจ่างไม่ได้ เจอกันพรุ่งนี้ค่อยคุยกันดีกว่า”
สถานการณ์ยิ่งใหญ่กว่าที่ควรจะเป็ก็จริง แต่ยืนยันได้ว่าผลลัพธ์ไม่ใช่อย่างที่ต่งลี่ลี่้าเห็นแน่นอน ถ้าต่งลี่ลี่ไม่จุ้นจ้าน อาเขยเล็กกู้เจิ้งชิงย่อมไม่ปรากฏตัว คืนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานก็คงจะร่วมโต๊ะกับพ่อแม่ของโจวเฉิงเสร็จอย่างสงบ มีโอกาสให้เซี่ยเสี่ยวหลานอวดโอ้สรรพคุณของตนมากขนาดนั้นเสียที่ไหน!
ลี่ลี่ นี่คือการยกก้อนหินขึ้นมาหล่นทับเท้าของตัวเองโดยแท้!
เชิงอรรถ
[1]贵妃镯收 กำไลกุ้ยเฟย คือ กำไลทรงวงรี ว่ากันว่ากำไลทรงวงรีคือเครื่องประดับโปรดของสนมหยางกุ้ยเฟย กำไลทรงวงรีจึงถูกเรียกว่า กำไลกุ้ยเฟย
[2]羊脂玉 หยกมันแพะ คือ หยกชนิดเนฟไฟรต์ มีส่วนประกอบหลักเป็แร่เทรโมไลต์ สีขาวสะอาด เนื้อละเอียดเงาวาว มูลค่าสูงมาก