“ผู้าุโชิว ผู้จัดการฉาง! ลงมือเร็ว!”
หลิววั่นซานพยายามยับยั้งอารมณ์พลุ่งพล่าน ก่อนจะรีบหันหน้าไปบอกพวกเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ
ผู้จัดการฉางเป็คนฉลาด เขายิ้มพลางคำนับแล้วกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็สถานที่ของแหล่งการค้า ต้องยึดหลักความยุติธรรมเที่ยงตรง ไม่เหมาะสมที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ หวังว่าทุกท่านคงจะไม่ตำหนิเรา”
เซียวจั้นที่ยืนอย่างมั่นคงหัวเราะเสียงดังออกมา เขากล่าวว่า “โรงประมูลมิได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจริงๆ ด้วย!”
“หึ เ้าอย่าลำพองไปหน่อยเลย! ในเมื่อตระกูลหลิวของข้าลงมือแล้วย่อมมีวิธีจัดการกับเ้าแน่!” หลิววั่นซานเหลือบมองผู้จัดการฉางแวบหนึ่ง แม้ในใจเขาจะรับไม่ได้ แต่ก็มิกล้าแสดงความไม่พอใจออกมาต่อหน้าผู้าุโชิว
แม้ผู้าุโชิวจะมีรูปร่างผอมบาง แต่ระดับพลังยุทธ์ของเขานั้นเหนือชั้นกว่าพวกเขาทั้งหมด
เมื่อโรงประมูลแสดงเจตนาชัดเจนแล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเื่ในวันนี้ หลิววั่นซานจึงไม่จำเป็ต้องกังวลเกี่ยวกับเื่นี้อีกต่อไป
“กรงล้อมอสูร!”
หลิววั่นซานะโเสียงดัง ลำแสงแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ก่อนจะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วทะลุผ่านเมฆหมอกลงมา
ขอบเขตของลำแสงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็ม่านแสงหลายชั้น กรงล้อมอสูรตกลงมาจากท้องฟ้าก่อนจะคลุมตัวเซียวจั้นไว้ทั้งสี่ด้าน
“เหอะเหอะ แค่กรงล้อมอสูร นี่หรือวิธีที่เ้าบอกว่าจะจัดการข้า? ช่างน่าขันยิ่งนัก!”
เซียวจั้นมองกรงล้อมอสูรที่กำลังปกคลุมร่างกาย เขาอดมิได้ที่จะแสดงสีหน้าเย้ยหยันออกมา
“ฟิ้ว”
หลิววั่นซานหยิบเม็ดยาสีดำขึ้นมาก่อนจะขว้างเข้าไปในกรงล้อมอสูรนั้น
เมื่อหยวนจุนเห็นเม็ดยานั้น เขารู้สึกปั่นป่วนในร่างกายขึ้นมาทันที
“เมือกหลงิญญา! ฮาฮา นึกไม่ถึงว่าผู้นำเมืองที่สง่างามจะใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้! หากผู้อื่นรู้เข้า เ้าไม่กลัวที่จะถูกหัวเราะเยาะหรืออย่างไร!”
ขณะที่เซียวจั้นกำลังเอ่ยวาจาเหยียดหยามหลิววั่นซาน เมือกอสูรที่อยู่ในเม็ดยาสีดำได้พุ่งเข้าสู่กรงล้อมอสูร ก่อนจะทะลุเข้าไปยังพื้นที่แคบด้านใน
เมื่อถูกหลิววั่นซานควบคุม ยาเม็ดนั้นจึงะเิออกมาเป็หมอกควัน
กว่าเซียวจั้นจะรู้ว่ามีหมอกควัน เมือกหลงิญญาก็ซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว แม้แต่ระดับจันทราที่แข็งแกร่ง เพียงหายใจเข้าไปเล็กน้อยก็ยังต้องอ่อนแรง จนในที่สุดเนื้อก็ถูกแยกออกจากกระดูก เรียกได้ว่าเป็วิธีที่โเี้อย่างมาก
ปู่ของเสี่ยวเมิ่งก็ถูกเจียงเฮ่อใช้ยานี้ปลิดชีวิต! ซึ่งทุกครั้งที่นึกถึงความตายอันน่าสลดใจของชายชรา ในใจของหยวนจุนก็เต็มไปด้วยความรู้สึกปั่นป่วนที่ไม่สามารถอธิบายได้
“ตุ้บ”
ร่างกายของเซียวจั้นเริ่มไม่มีความรู้สึก กล้ามเนื้อของเขาค่อยๆ อ่อนแรงลงทีละน้อย มือเท้าเริ่มไม่ฟังคำสั่งของเขาอีกต่อไป
ปราณดาราที่วนอยู่รอบตัวเขาทำลายกรงล้อมอสูรของหลิววั่นซานจนกลายเป็จุดสว่างทั่วท้องฟ้า ก่อนจะพุ่งไปยังหลิววั่นซานกับเจียงอิงอย่างรวดเร็ว
“ไอ้นักยุทธ์เลวทรามต่ำช้า!”
มู่ชิงหยางถูกเซียวจั้นเตะออกไป เืของเขาสาดกระเซ็นอยู่เหนือท้องฟ้า ก่อนร่างกายจะกระแทกเข้ากับซากปรักหักพังที่อยู่ด้านหลัง
เซียวจั้นกระชากแขนของเจียงอิงและหลิววั่นซานอย่างรุนแรง!
เสียงกระดูกแตกร้าวอันน่ากลัวดังมาจากแขนของหลิววั่นซาน แขนนั้นถูกเซียวจั้นบดขยี้จนแหลกลาญ!
“อ๊าก”
สภาพของเจียงอิงนั้นน่าสังเวชยิ่งกว่าหลิววั่นซานหลายเท่า หัวไหล่ซ้ายมีเืพุ่งออกมาไม่หยุด เนื่องจากแขนซ้ายของเขามิใช่แค่เพียงกระดูกหักแต่กลับถูกดึงออกมาจากลำตัว
เืที่พุ่งออกมาจากหัวไหล่ของเจียงอิงกระเด็นออกไปหลายเมตร สายลมพัดหยดเืกระจายไปทั่ว จนทำให้ผู้คนที่ได้เห็นต่างหวาดผวากันทั้งหมด
“อั่ก”
การที่เซียวจั้นโต้กลับอย่างหนักหน่วงส่งผลให้เมือกหลงิญญาในร่างกายแพร่กระจายออกไปมากขึ้น จนทำให้เขารู้สึกเหมือนมีมีดหมื่นเล่มกำลังทิ่มแทงร่างกายอยู่
เขากระอักลิ่มเืสีดำออกมา จากนั้นจึงทรุดตัวลงในทันที
“ท่านพ่อ!”
เซียวหานใกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางรีบพุ่งไปคว้าตัวเซียวจั้นไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งสองจะล้มลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยเศษหิน
เมื่อเห็นเซียวจั้นหายใจรวยรินและดวงตาริบหรี่ เซียวหานจึงตัวสั่นออกมาด้วยความใ นางทำอะไรไม่ถูกเพราะความตื่นกลัว
หลิววั่นซานฝืนเจ็บอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกระชากลำคอเซียวหานขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะฆ่านางกับเซียวจั้นให้ตาย!
“หลิววั่นซาน เ้ากระทำการต่ำทรามต่อหน้าผู้คนของเมืองเทียนอวิ่นเช่นนี้ ไม่กลัวตระกูลหลิวจะถูกสาปแช่งหรืออย่างไร!”
เซียวจั้นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดุดัน เขามองหลิววั่นซานด้วยแววตาอาฆาต
“หึหึ คนตายพูดไม่ได้! ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเื่ในวันนี้ ข้าจะส่งพวกเขาไปสู่สุคติเอง!”
“ในเมื่อผู้าุโชิวกับผู้จัดการฉางแสดงเจตนาชัดเจนแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเื่ความแค้นระหว่างตระกูล พวกเขาจะยังพูดเื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้อีกหรือ?”
ทันทีที่หลิววั่นซานกล่าวออกมาเช่นนี้ เหล่านักยุทธ์ที่อยู่ชมการต่อสู้ก็โกรธเคือง พวกเขาตำหนิพฤติกรรมที่ไร้ความปรานีของหลิววั่นซานออกมาทันที
“ไม่นึกเลยว่าหลิววั่นซานจะเป็คนชั่วช้าถึงเพียงนี้ ใช้วิธีต่ำทรามทำร้ายเซียวจั้นว่าแย่แล้ว ตอนนี้ยังจะฆ่าเราทุกคนเพื่อปกปิดการกระทำอันน่ารังเกียจของเขาอีก!”
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าตระกูลหลิวมิใช่คนดี เขาไม่เพียงแต่ฉวยโอกาสจากความวุ่นวาย แต่ยังดึงตระกูลมู่กับตระกูลเจียงมาร่วมทำเื่ที่น่ารังเกียจนี้อีกด้วย!”
“หากไม่มีตระกูลหลิว เมืองเทียนอวิ่นคงไม่ตกต่ำเหมือนอย่างทุกวันนี้ ซึ่งกองทหารรักษาเมืองของเขานั้นเป็ส่วนหนึ่งที่ทำลายความสงบสุขของเมือง! ดังนั้นผู้ที่คิดฆ่าปิดปากผู้อื่นเช่นนี้จะเป็คนดีไปได้อย่างไร?”
ใบหน้าของหลิววั่นซานกระตุกเกร็ง เขาแสดงท่าทีเยาะเย้ยและเหยียดหยาม พยายามไม่สนใจเสียงด่าทอที่ดังมาจากทุกทิศทาง
เขาเข้าใจดีว่านักยุทธ์ระดับดาราพวกนี้ทำได้แค่วิจารณ์ออกมาเท่านั้น หากเขาลงมือขึ้นมาจริงๆ พวกนั้นคงถูกส่งไปอยู่ในนรกนานแล้ว!
เมื่อหลิวหรูเยียนเห็นนักยุทธ์ขี้ขลาดบางคนฉวยโอกาสหนี นางจึงรีบชักกระบี่ยาวออกมา เสียงกระบี่บินแปดส่วนดังขึ้น ก่อนที่ปราณกระบี่จะแตกออกเป็คมมีดแปดส่วนแล้วพุ่งตรงไปตัดร่างของนักยุทธ์พวกนั้นทันที
ยังไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้องออกมา พวกเขาก็ล้มลงเกลื่อนกลาดแล้ว
“ผู้ใดที่คิดหนี จะต้องมีจุดจบเหมือนกับพวกเขา!”
หลิวหรูเยียนลงมือฆ่าผู้อื่นด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น การดูถูกเหยียดหยามถูกสะท้อนออกมาผ่านดวงตาของนาง
“วิ้ว”
หลิววั่นซานลงมืออย่างรวดเร็วจนเซียวหานแทบมองไม่เห็น นางเห็นเพียงมือใหญ่ของหลิววั่นซานปรากฏอยู่ตรงหน้า ก่อนที่นางจะรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาในทันที
“ผ่าง”
ขณะที่เซียวหานถูกพลังปราณปะทะจนแทบจะหายใจไม่ออก ผู้าุโชิวได้เข้ามาขัดขวางทันที แม้จะมิได้แผ่ปราณดาราออกมามากนัก แต่เขาก็สามารถผลักหลิววั่นซานให้ถอยออกไปหลายร้อยเมตรได้
“ผู้นำหลิวเป็ถึงนักยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในเมืองเทียนอวิ่น ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย...ตอนนี้เซียวจั้นมีเมือกหลงิญญาอยู่ในร่างกายซึ่งไม่มีทางหนีได้ เหตุใดผู้นำหลิวจึงต้องลงมือโเี้กับผู้เยาว์อีก?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้