หลงอวี้เก็บหอกัปรภพ
เงาร่างในชุดขาวที่ดูสูงสง่าของชิวจิ้นโหย่วมีเืสดๆ ไหลทะลักและล้มลงไปต่อหน้าหลงอวี้ บนใบหน้าอันซีดเผือดยังคงเป็สีหน้าตื่นใไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
“ระดับิญญา...”
ปากของชิวจิ้นโหย่วขยับพึมพำเป็คำพูดสั้นๆ แต่เขาก็ไม่อาจพูดจนจบได้เพราะไม่เหลือแรงอีกแล้ว
ยุทธภัณฑ์ระดับิญญา วิทยายุทธ์ระดับิญญา
บางที่สิ่งที่เขาอยากจะพูดออกมาอาจจะเป็สองคำนี้ ไม่ว่าจะเป็ยุทธภัณฑ์หรือวิทยายุทธ์ระดับิญญาก็ล้วนเป็สิ่งที่เขาวาดฝันมาตลอด
แต่กระนั้นตัวเขายังไม่ทันได้มันมา กลับต้องตายภายใต้สิ่งของทั้งสองอย่างนั่น
เมื่อร่างของชิวจิ้นโหย่วล้มลง เหล่าผู้ฝึกยุทธ์พเนจรที่อยู่รอบๆ ก็พากันตื่นตระหนกทันที
ผู้คนทั้งหมดต่างจ้องมองชายหนุ่มชุดดำตรงหน้าโดยที่ไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไร ก่อนหน้านี้พวกมันยังส่งเสียงเฮโลกันอย่างครึกครื้น บัดนี้กลับเงียบเป็เป่าสาก ไม่มีใครคิดเลยว่าลูกพี่ของพวกมันที่มีระดับิญญาแท้จะถูกชายหนุ่มชุดดำคนหนึ่งฆ่าตายง่ายๆ เช่นนี้
หลังจากชิวจิ้นโหย่วจบชีวิตลง ิญญาแท้อสรพิษตนนั้นก็ได้สลายหายไปในอากาศ
ในที่สุดก็มีคนตั้งสติได้ รีบคุกเข่าลงร้องไห้โฮทันที
“ท่านจอมยุทธ์โปรดไว้ชีวิตด้วยเถอะ เื่ทั้งหมดล้วนเป็ฝีมือของเ้าชิวจิ้นโหย่วนั่นคนเดียว ไม่เกี่ยวกับข้าเลยแม้แต่เศษเสี้ยว ท่านปล่อยข้าไปเถอะนะ!”
หลังจากคนผู้นี้ส่งเสียงร้องไห้โฮ ผู้คนทั้งหมดก็เริ่มส่งเสียงร้องโฮตามทันที พวกมันรู้ว่า หากหลงอวี้คิดจะฆ่า ต่อให้พวกมันทุกคนร่วมมือกันก็ไม่อาจต่อกรกับหลงอวี้
แรงกดทับที่หนักอึ้งราวกับถูกูเาไท่ซานกดทับไว้เมื่อครู่นี้ยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจของพวกมัน!
แต่หลงอวี้ไม่มีเหตุผลที่ต้องไว้ชีวิตพวกมัน หลังจากเขาเก็บหอกัปรภพไปแล้ว เขาได้หันไปทางหอวิทยายุทธ์ของตระกูลเฟิงแล้วเดินออกไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือไปดูสถานการณ์ของสมาชิกตระกูลเฟิงก่อน!
‘หากพวกนั้นมีเื่อะไรเกิดขึ้น ข้าจะให้พวกเ้าทั้งหมดชดใช้ด้วยชีวิต!’
หลงอวี้คิดในใจพร้อมกับปล่อยจิตสังหารออกมาทั่วร่าง มุ่งหน้าออกไปทางหอวิทยายุทธ์ตระกูลเฟิง!
......
หอวิทยายุทธ์ตระกูลเฟิงตอนนี้ มีผู้ฝึกยุทธ์พเนจรสี่คนยืนเฝ้าหน้าประตูอยู่ ต่างก็ชี้ไปยังลานกว้างตรงหน้าพร้อมกับพูดคุยอะไรบางอย่าง
บนลานกว้างหน้าหอวิทยายุทธ์ตระกูลเฟิงตอนนี้ มีเด็กหนุ่มตระกูลเฟิงคนหนึ่งถูกมัดมือมัดเท้าไว้ ผู้ฝึกยุทธ์ที่เป็ชายฉกรรจ์สองคนควบคุมตัวไว้อย่างแ่า
เด็กหนุ่มตระกูลเฟิงคนนั้นมีหน้าตาอ่อนเยาว์ น่าจะอายุเพียงสิบหกปี ระดับวิถียุทธ์เพียงขั้นสี่เท่านั้น
ตอนนี้เขาถูกชายฉกรรจ์สองคนนั้นควบคุมตัวไว้อย่างแ่า นอกจากนี้ยังมีชายอ้วนที่ถือดาบใหญ่เล่มหนึ่งอีกคนยืนรอบางอย่างอยู่ใกล้ๆ
“ไอ้ลูกเจี๊ยบสามตัวเอ๋ย คอยดูข้าให้ดีล่ะ!”
เ้าอ้วนที่ถือดาบใหญ่ราวกับคนขายเนื้อกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นอย่างโหดร้ายทารุณ
“หากพวกเ้ายังไม่ออกมาอีกล่ะก็ ข้าจะบั่นคอเ้าหนูนี่ทิ้งในดาบเดียวเลย! ข้าจะนับถึงสามเท่านั้น ข้าจะดูสิว่าพวกเ้าจะใจดำถึงขั้นปล่อยให้สหายถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาเลยหรือเปล่า!”
หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้จบ เด็กหนุ่มที่ถูกจับตัวไว้คนนั้นก็แสดงสีหน้าหนักแน่นเด็ดเดี่ยวออกมาทันที
“ฮ่าวเฟิง เสี่ยวเฟย อวี่ซิน พวกเ้าอย่าออกมานะ ถ้าออกมาพวกเ้าไม่รอดแน่!”
เด็กหนุ่มแผดเสียงะโอย่างเข้มแข็ง!
เด็กหนุ่มตระกูลเฟิงผู้นี้แม้จะยังอายุน้อย แต่กลับห้าวหาญเืร้อนไม่แพ้ใคร
อันที่จริง สมาชิกตระกูลเฟิงทั้งหมดที่เลือกจะอยู่ต่อนั้นก็ไม่มีใครเป็คนขี้ขลาดอยู่แล้ว!
ภายในหอวิทยายุทธ์ตระกูลเฟิงพลันมีเสียงะโด่าทอ เห็นได้ชัดว่าคนอื่นๆ ของตระกูลเฟิงถูกขังอยู่ข้างใน พอเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังจะถูกบั่นคอก็พากันโกรธแค้นสุดขีด
“ไอ้พวกเศษเดน รีบปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!”
“ไอ้เดรัจฉาน! หากพวกเ้าลงมือล่ะก็ พวกข้าแลกชีวิตกับเ้าแน่!”
“ทุกคนวางใจเถอะ อดทนอีกสักนิด พี่ใหญ่ ฮ่าวเฟิง จะต้องมุ่งหน้าไปถึงลัทธิสยบฟ้าและแจ้งข่าวกับพี่ใหญ่หลงอวี้แล้วแน่ๆ!”
สมาชิกของตระกูลเฟิงใหม่ที่ถูกขังอยู่ในหอวิทยายุทธ์ มีอยู่ทั้งหมดสามสิบเก้าคน แต่ผู้ฝึกยุทธ์พเนจรทั้งสี่คนที่คอยเฝ้าหน้าประตูอยู่นั้น กลับเป็ยอดฝีมือระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้าทั้งสิ้น
ต่อให้สมาชิกตระกูลเฟิงทั้งหมดร่วมมือกันก็ไม่สามารถต่อกรกับหนึ่งในนั้นได้เลย!
ผู้คนทั้งหมดได้แต่มองดูเด็กหนุ่มที่กำลังจะถูกบั่นคอบนลานกว้างจากหน้าต่างของหอวิทยายุทธ์ ต่างก็รู้สึกเดือดดาลสุดขีด
“พูดมากกันจริงๆ”
เ้าอ้วนดาบใหญ่นั่นถ่มน้ำลายใส่เด็กหนุ่มไปหนึ่งคำ พร้อมพูดอย่างดูแคลน
“ยอมให้ตัวเองตายมากกว่าจะให้คนอื่นมาช่วยอย่างนั้นหรือ? ไอ้หนู เ้าช่างโง่เขลาใช้ได้เลยจริงๆ! ข้าจะเริ่มนับถอยหลังล่ะ สาม! สอง!”
ในตอนนั้นเอง เงาร่างของเด็กหนุ่มสองคนก็พลันพุ่งผ่านกำแพงคฤหาสน์ตระกูลเฟิงที่อยู่ข้างๆ ออกมาปรากฏตัวตรงหน้าของผู้คนทั้งหมด
หนึ่งในนั้นมีรูปร่างกำยำสวมชุดสีดำ ท่าทางน่าจะอายุประมาณสิบแปดปี ใบหน้าดูเด็ดเดี่ยว แววตาดุจเหล็กกล้าก็ไม่ปาน!
เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งนั้น มีรูปร่างผอมแห้งราวกับวานร สวมชุดสีเทาเหมือนกัน ดูคล่องแคล่วว่องไว ดวงตาฉายแววฉลาดหลักแหลมมีไหวพริบ
“หยุดนะ พวกข้ามาแล้ว!”
เด็กหนุ่มสองคนแผดเสียงะโพร้อมกัน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำเอาผู้คนบนลานกว้างถึงกับตะลึงงัน!
“ฮ่าวเฟิง เสี่ยวเฟย!”
เด็กหนุ่มที่ถูกมัดอยู่เผยสีหน้าตื่นใทันที ไม่คิดเลยว่าในตอนที่เขาตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ เฟิงฮ่าวเฟิงและเฟิงเสี่ยวเฟยจะปรากฏตัวจริงๆ!
แต่กระนั้นการที่ทั้งสองคนปรากฏตัวเช่นนี้ถือเป็การฆ่าตัวตายชัดๆ เลย!
ไม่ว่าจะเฟิงฮ่าวเฟิงหรือเฟิงเสี่ยวเฟย ถึงแม้่นี้ทั้งสองคนจะมีการพัฒนาอยู่บ้าง แต่ระดับพลังของทั้งสองก็ยังอยู่แค่วิถียุทธ์ขั้นเจ็ดเท่านั้น
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์พเนจรในยุทธ์จักรที่ชั่วช้าแล้ว ทั้งสองนั้นไม่มีโอกาสชนะเลยอย่างสิ้นเชิง การปรากฏตัวเช่นนี้เท่ากับรนหาที่ตาย!
“กล้าออกมาจริงๆ หรือนี่ จะบอกว่าพวกเ้ากล้าหาญดี หรือบอกว่าพวกเ้ามันโง่บรมดีล่ะ?”
เ้าอ้วนดาบใหญ่นั่นหัวเราะอย่างเหี้ยมโหด
“ในที่สุดพวกเ้าก็ยอมออกมากันเสียทีนะ พวกเ้าแค่สองคนยังกล้าคิดจะช่วยชีวิตไอ้หนูนี่อย่างนั้นหรือ?”
“เ้าไม่รักษาคำพูด!”
เฟิงฮ่าวเฟิงที่ราวกับเป็เหล็กกล้านั้นเบิกตาโต
“เ้าเป็คนพูดเองไม่ใช่หรือว่า หากพวกเรายอมออกมาเ้าจะปล่อยตัวประกันไป?”
“ข้าบอกให้พวกเ้าออกมาทั้งสามคน แต่ตอนนี้ พวกเ้ากลับออกมาเพียงแค่สองคน!”
เ้าอ้วนดาบใหญ่นั่นส่งเสียงหัวเราะอย่างโเี้และเย้ยหยัน
“แล้วนังหนูอีกคนหนึ่งล่ะ มันไปไหนแล้ว? ลูกพี่ของพวกข้ากำลังตามหานางอยู่เลยนะ!”
“ไอ้ชิวจิ้นโหย่วนั่นเป็ใครถึงได้กล้าคิดอะไรกับอวี่ซินของพวกเรา? ถุย!”
เฟิงเสี่ยวเฟยที่ดูคล่องแคล่วว่องไวแสดงแววตาดูถูก
“แน่จริงก็รอให้อวี่ซินไปพาพี่ใหญ่หลงอวี้กลับจากลัทธิสยบฟ้า มาต่อสู้กับไอ้ชิวจิ้นโหย่วนั่นก่อนสิ พวกเ้ากล้าหรือเปล่าล่ะ?”
“ไอ้เด็กเวรนี่ ถ้าคิดจะข่มขู่ข้าต้องแข็งกร้าวยิ่งกว่านี้”
ดวงตาของเ้าอ้วนที่ดูราวกับเป็คนขายเนื้อฉายแววอำมหิตแวบหนึ่ง
“ไม่ว่าพวกเ้าจะเรียกหลงอู้หรือหลงอวี้มา วันนี้ข้าก็จะหั่นพวกเ้าทิ้งเป็ชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!”
เมื่อมันพูดประโยคนี้จบ เฟิงฮ่าวเฟิงและเฟิงเสี่ยวเฟยก็หน้าซีดเผือดทันที
ตระกูลเฟิงใหม่ในตอนนี้ไม่มีพลังที่จะสามารถต่อกรกับผู้ฝึกยุทธ์พเนจรที่เป็ราวกับหมาป่าฝูงนี้ได้เลย
ตอนนี้สมาชิกของตระกูลเฟิงใหม่ทั้งหมดต่างนึกย้อนไปถึงเมื่อวันก่อน วันที่ตระกูลเฟิงใหม่ก่อตั้งขึ้น
นึกถึงภาพของเงาร่างในชุดสีดำ หลงอวี้ ที่ยืนตระหง่านอยู่ด้านหน้าของพวกเขาและกำราบประมุขของอีกสามตระกูลใหญ่ในเมืองอวี้กวน!
แม้ว่าพวกเขาจะส่งให้เฟิงอวี่ซินมุ่งหน้าไปที่ลัทธิสยบฟ้าเพื่อแจ้งข่าวกับหลงอวี้แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่อาจมั่นใจว่า หากต้องเผชิญหน้ากับชิวจิ้นโหย่วที่มีพลังระดับิญญาแท้ หลงอวี้จะสามารถเอาชนะได้อีกหรือเปล่า?
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เฟิงฮ่าวเฟิงและเฟิงเสี่ยวเฟยสองคนก็ดูเหมือนจะไม่อาจมีชีวิตรอดไปจนถึงตอนนั้นได้แล้ว!
ทั้งสองหันมาสบตากัน ในดวงตาของทั้งคู่ฉายแววตาเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว
ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องขัดขวางไม่ให้ไอ้คนพวกนี้ทำร้ายสมาชิกของตระกูลเฟิงได้แม้แต่คนเดียว ต่อให้ต้องเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงก็ตาม!
“ย้าก!!!”
เฟิงฮ่าวเฟิงและเฟิงเสี่ยวเฟยทั้งสองคนก็ได้รวบรวมลมปราณภายในตัว พริบตานั้นก็เปิดฉากโจมตีไอ้อ้วนดาบใหญ่นั่นจากคนละทิศทาง!
“ไม่เจียมตัว”
เ้าอ้วนนั่นยกดาบใหญ่ในมือขึ้นสูง เผยสีหน้าดุร้ายอำมหิต จากนั้นก็รวบรวมลมปราณมาไว้ที่คมดาบ
ด้วยระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้าของเขา มีหรือจะหวาดกลัวไอ้ลูกเจี๊ยบสองตัวตรงหน้าที่มีวิถียุทธ์เพียงขั้นเจ็ด?
เพียงแต่ว่า ในตอนที่เขากำลังจะฟาดฟันดาบใหญ่เล่มนั้นลงเพื่อฆ่าเด็กหนุ่มที่ถูกมัด แรงกดทับอันน่าสะพรึงกลัวสุดขีดก็ได้กดหัวเขาลงจากบนฟ้าทันที ทำให้เขาตัวแข็งค้าง
“เขตแดนสยบฟ้า สะกด!”
เสียงของหลงอวี้ดังขึ้นจากไม่ไกล จากนั้นเงาร่างในชุดสีดำสายหนึ่งก็ค่อยๆ ก้าวเท้ามายังหอวิทยายุทธ์ตระกูลเฟิง
ตอนที่มาถึงแล้วพบว่ามีคนคิดจะทำร้ายตระกูลเฟิงอยู่จริงๆ เขาย่อมต้องเดือดดาลสุดขีดอยู่แล้ว
เพียงแต่เขายังไม่รีบลงมือสังหารศัตรูทิ้งในทันที เลือกที่จะแอบดูอยู่ข้างๆ อยากจะรู้ว่าเฟิงฮ่าวเฟิงและเฟิงเสี่ยวเฟยสองคนจะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
จะละทิ้งผู้อื่นแล้วหนีเอาตัวรอดไปเอง หรือจะบุกฝ่าออกไปเพื่อช่วยคน?
และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ถึงแม้ว่าการออกมาช่วยคนอาจจะทำให้พวกเขาต้องเอาชีวิตมาทิ้ง แต่พวกเขาก็ยังคงออกมาโดยไม่ลังเล!
พวกเขาไม่ทำให้หลงอวี้ผิดหวังเลย
สมาชิกของตระกูลเฟิงใหม่ที่เหลืออยู่นั้น ล้วนมีแต่ผู้ที่ใจกล้าและเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมทั้งสิ้น!
ในตอนที่เ้าอ้วนนั่นคิดจะลงมือ หลงอวี้ก็ปล่อยเขตแดนสยบฟ้าทันที ทำให้เ้าอ้วนและผู้ฝึกพเนจรทั้งหลายที่อยู่รอบๆ ต่างถูกพลังเขตแดนครอบคลุมเอาไว้ทันที
คราวนี้ แรงกดทับที่หนักอึ้งดุจูเาไท่ซานก็ได้ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์พเนจรทั้งหมดในลานกว้างไม่สามารถขยับตัวได้เลย!
“เกิดอะไรขึ้น?”
ผู้ฝึกยุทธ์พเนจรทั้งหมดมีเหงื่อเย็นๆ แตกพลั่ก แรงกดทับอันทรงพลังนี้มันคืออะไรกันแน่?
เมื่อถูกแรงกดทับอันทรงพลังของเขตแดนสยบฟ้าสะกดไว้ แค่จะหันหน้าไปมองหลงอวี้พวกมันก็ยังทำไม่ได้!
เมื่อได้ยินเสียงของหลงอวี้ เด็กหนุ่มตระกูลเฟิงทั้งหมดก็มีสีหน้ายินดีขึ้นมาทันที
พี่ใหญ่หลงอวี้มาแล้ว!
‘ต่อให้เป็พี่ใหญ่หลงอวี้ แต่หากต้องเผชิญหน้ากับระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้าจำนวนมากขนาดนี้เกรงว่าก็คงยากลำบากเช่นกัน ข้ากับเสี่ยวเฟยต้องช่วยกันก่อกวนพวกมันด้วย!’
เมื่อเฟิงเฮ่าเฟิงคิดได้เช่นนั้นก็หันไปสบตากับเฟิงเสี่ยวเฟยครู่หนึ่ง ทั้งสองต่างมองออกว่าอีกฝ่ายเองก็มีความคิดแบบเดียวกันอยู่
ถ้าอย่างนั้นก็ลุยกันเลย!
เฟิงฮ่าวเฟิงนั้นไร้ซึ่งความลังเล วิทยายุทธ์ระดับธรรมดาขั้นกลางของตระกูลเฟิง ลูกเตะทลายฟ้า พลันถูกใช้ เขาหวดขาเตะออกไปทางเ้าอ้วนดาบใหญ่นั่นอย่างรุนแรงจนเกิดลมพายุสายหนึ่งทันที!
ลูกเตะนี้เป็การโจมตีหลอกเท่านั้น หากเ้าอ้วนนั่นคิดจะสวนกลับ เฟิงฮ่าวเฟิงก็จะสามารถถอยได้ทันที ส่วนเฟิงเสี่ยวเฟยก็จะสามารถฉวยโอกาสนั้นเข้าไปก่อกวนต่อได้
เพียงแต่ว่า เฟิงฮ่าวเฟิงกลับพบว่าเ้าอ้วนนั่นไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งบนใบหน้าของมันยังมีเหงื่อไหลออกมาจนเปียกโชก ดวงตาเล็กๆ ของมันนั้นได้ฉายแววหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เกิดอะไรขึ้น?
เฟิงฮ่าวเฟิงและเฟิงเสี่ยวเฟยไม่รู้เลยสักนิดว่าเขตแดนสยบฟ้าของหลงอวี้มีอานุภาพน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ ถึงกับทำให้เ้าอ้วนนั่นและผู้ฝึกยุทธ์พเนจรคนอื่นๆ ทั้งหมดในลานกว้างถูกสะกดไว้อย่างสมบูรณ์!
วิทยายุทธ์ของพวกเขานั้นได้โจมตีเข้าใส่ร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันของเ้าอ้วนนั่นเต็มๆ พละกำลังของทั้งสองรวมกันนั้นสูงถึงหนึ่งแสนชั่ง เพียงครั้งเดียวก็สามารถซัดเ้าอ้วนจนกระเด็นออกไปอย่างรุนแรงพร้อมกับกระอักเืสดๆทันที!
ในสภาพที่ไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างสิ้นเชิงเช่นนี้ แม้เ้าอ้วนนั่นจะมีวิถียุทธ์สูงถึงขั้นเก้า แต่การที่ต้องรับการโจมตีอย่างเต็มกำลังของวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดสองคนไปเต็มๆ ก็สามารถทำให้ได้รับาเ็สาหัสไม่น้อยได้เหมือนกัน!
