เพียงแค่ทองคำแท้หนึ่งแท่งขนาดเล็ก ที่ซูอันนำไปขายก็ทำเงินให้นางมากถึงสิบตำลึงทอง แต่นางไม่ลืมแลกเป็ตำลึงเงิน กับเหรียญอีแปะเผื่อเอาไว้ยามหยิบใช้จะได้สะดวก ก่อนออกเดินทางไปยังเมืองผู่เถียน เมืองที่ขึ้นชื่อเื่งานศิลปะและผ้าปักอันงดงาม ซูอันไม่ลืมพาครอบครัวไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่ราคาไม่แพงเกินไปมาใส่ชั่วคราว
ระหว่างการเดินทางซูอันตระหนักได้ว่า เมื่อนางมาอยู่ในยุคโบราณเช่นนี้ เงินทองที่ใช้จ่ายย่อมมิใช่ที่ใช้ในยุคที่จากมา จึงให้จีจี้หยกวิเศษช่วยเปลี่ยนทองคำแท่งทั้งหมด ให้กลายเป็ตำลึงทองและตำลึงเงิน รวมถึงเหรียญอีแปะไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ง่ายต่อการหยิบมาใช้สอยได้ทุกเวลา
ครอบครัวตระกูลจินจ้างรถม้ารับจ้าง ให้ไปส่งพวกเขาที่เมืองผู่เถียน ระหว่างเดินทางซูอันกับเยี่ยนหลิง นั่งมองทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ผ่านหน้าต่างรถม้า การเดินทางไม่พบเจอปัญหาอันใด ทุกอย่างราบรื่นจนผ่านมาสิบห้าวัน ในที่สุดซูอันกับครอบครัวก็มาถึงจุดหมายของพวกเขา
เมื่อผ่านประตูเข้าสู่เมืองผู่เถียน ความคึกคักของตลาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมืองก็ปรากฏแก่สายตา เสียงพ่อค้าแม่ค้าะโเรียกลูกค้า กลิ่นอาหารหอมกรุ่นจากร้านแผงลอย และสีสันของผืนผ้าที่วางเรียงรายอยู่ในร้านค้าต่าง ๆ ทำให้ซูอันรู้สึกว่าที่นี่คือศูนย์กลางการค้า เกี่ยวกับผ้าอันมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง
แม้จะเป็หญิงสาวที่ทะลุมิติมาจากโลกปัจจุบัน แต่ด้วยประสบการณ์ที่เคยเป็มาเฟียสาว ผู้เชี่ยวชาญการเจรจาและการวางแผนทางธุรกิจมาก่อน ซูอันจึงไม่หวั่นกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองแห่งนี้
แต่ก่อนจะเริ่มทำการค้าซูอันกับครอบครัวต้องหาจวน ที่เหมาะสมให้กับตนเองเสียก่อน นางจึงให้รถม้าไปส่งยังศาลาว่าการของเมือง ซึ่งเป็สถานที่ที่พ่อค้าหรือชนชั้นสูง มักมาซื้อขายจวนหรือหาร้านค้าทำเลทอง สำหรับกิจการของตนล้วนอยู่ที่นี่ทั้งสิ้น
เ้าหน้าที่ในชุดขุนนางรีบออกมาต้อนรับ เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็ครอบครัวเล็ก ๆ การแต่งกายดูธรรมดาทั่วไป แต่ยังให้การต้อนรับเป็อย่างดี
“คารวะทุกท่าน ไม่ทราบว่าท่านสนใจจวนเพื่ออยู่อาศัย หรือว่าร้านค้าภายในเมืองผู่เถียนดีขอรับ?" เ้าหน้าที่ถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ซูอันก้าวขึ้นมาด้านหน้าเพื่อจัดการเื่นี้ด้วยตนเอง “ข้า้าจวนที่กว้างขวางสำหรับอยู่อาศัย รวมถึงร้านค้าในตลาดทำเลดี มีผู้คนเดินผ่านพลุกพล่านอีกหนึ่งร้าน ขอเป็ร้านขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่เ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่แขกตรงหน้า้า เ้าหน้าที่จึงเชิญพวกเขาไปนั่งรอ จากนั้นจึงเข้าไปด้านในห้อง ๆ หนึ่ง เพื่อนำแบบจวนแต่ละหลังมาให้ครอบครัวซูอันได้เลือก
รอไม่ถึงหนึ่งจิบชาแบบจวนหลังใหญ่ ก็ถูกนำมากางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง ให้ครอบครัวของซูอันได้เลือกตามแบบที่ชอบ ส่วนอีกโต๊ะหนึ่งนั้นเป็ร้านค้าเช่นที่ซูอันบอกไว้นั่นเอง
“ท่านพ่อท่านแม่ พี่หญิงพวกท่านชอบจวนหลังใดเ้าคะ ข้าดูอย่างไรก็คล้ายกันไปเสียหมด เลือกไม่ถูกเลยเ้าค่ะ” ซูอันคิดเช่นนั้นจริง ๆ
ทั้งสามคนที่ถูกซูอันเอ่ยถามต่างช่วยกันมองดูและค่อย ๆ พิจารณา สุดท้ายก็มีความเห็นตรงกัน ที่จะซื้อจวนขนาดใหญ่ที่มีทางเดิน ตัวจวนเป็อาคารสองชั้นที่สร้างจากไม้และอิฐ ดูมั่นคงและมีพื้นที่สวนด้านหลัง ที่เหมาะสำหรับการทำเป็โรงทอผ้าขนาดย่อม และพื้นที่ว่างมากพอในการสร้างโรงเก็บผ้าได้ ส่วนร้านค้ากลางเมืองก็เลือกได้แล้วเช่นกัน
ซูอันเมื่อได้คำตอบจากทุกคนแล้ว จึงได้หันไปหาเ้าหน้าที่คนเดิมอีกครั้ง “ท่านเ้าหน้าที่ข้าเลือกจวนหลังขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือใกล้ลำธารเล็ก ๆ หลังนี้เ้าค่ะ และร้านค้าก็เอาเป็ร้านอยู่ติดกับร้านเครื่องประดับ รบกวนท่านรวมเงินทั้งอย่าง และจัดการเื่หนังสือซื้อขายให้ด้วยนะเ้าคะ”
เ้าหน้าที่คนเดิมรีบรับคำอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าเช้าวันนี้เขาจะทำงานได้ราบรื่น มีคนมาซื้อทั้งจวนและร้านค้า “ได้เลยขอรับ ๆ คุณหนูกับครอบครัวนั่งรอข้าสักประเดี๋ยว ไม่นานหนังสือรับรองการซื้อขายทั้งสองอย่าง จะมาอยู่ในมือของพวกท่านแน่นอนขอรับ”
“ขอบคุณท่านเ้าหน้าที่มากเ้าค่ะ”
หลังการเจรจาซื้อขายจบลง เ้าหน้าที่คนเดิมได้พาครอบครัวของซูอัน มาส่งยังจวนที่นางได้ซื้อทำให้ซูอันต้องมีน้ำใจ ตอบแทนค่าน้ำร้อนน้ำชาไปเล็กน้อย เมื่อมีจวนเป็ของครอบครัวแล้ว ทั้งสี่คนจึงเริ่มลงมือทำความสะอาดจวนทันที กว่าจะทำความสะอาดจนทั่วก็เข้าสู่ยามเซิน
ซูอันเกรงว่าร้านค้าจะปิดเสียก่อน จึงให้มารดากับพี่สาวพักอยู่ที่จวนรอ ส่วนนางกับบิดาจะรีบไปหาซื้อฟูกนอน หมอนและผ้าห่มสำหรับคืนแรกในเมืองผู่เถียนแห่งนี้ แต่ก่อนจะไปซูอันไม่ลืมนำอาหารออกมา เพื่อให้มารดากับพี่สาวได้ทานรองท้อง
ภายหลังจัดการเื่สิ่งของจำเป็ และให้ทางร้านนำไปส่งที่จวนแล้ว ซูอันเห็นว่ายังพอมีเวลาเหลือเล็กน้อย นางได้ชักชวนบิดาแวะไปดูร้านค้าสักหน่อย “ท่านพ่อเ้าคะก่อนกลับพวกเราแวะไปดูร้านค้าเสียหน่อยดีไหมเ้าคะ จะได้วางแผนปรับปรุงเสียั้แ่เนิ่น ๆ เ้าค่ะ”
“อืม ดีเหมือนกันนะอันเอ๋อร์ของพ่อช่างคิดนัก ระหว่างการปรับปรุงร้านค้าพวกเราควรหาลูกจ้างไว้ด้วยนะ หากทำกันเพียงลำพังสี่คนอาจเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับเื่การทอผ้าหรือปักผ้าได้” มู่ถงเป็กังวลเื่นี้หลังจากเปิดร้านค้าแล้วมากกว่า
“เื่นี้ท่านพ่อปล่อยให้เป็หน้าที่ของข้าเถิดเ้าค่ะ” แค่การหาคนมาทำงานมิใช่เื่ยากสำหรับซูอัน
สองคนพ่อลูกเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านค้าสองชั้น ที่ยังคงดูดีไม่น้อยเมื่อได้เข้าไปดูภายในร้าน ต่างก็พอใจกับการดูแลของทางการ ส่วนเื่ปรับปรุงร้านคงมีไม่มากนัก เพียงแค่ต้องเพิ่มโต๊ะวางผ้า ราวแขวนผืนผ้าลวดลายต่าง ๆ รวมถึงหุ่นไม้สำหรับใส่ชุดตัดสำเร็จ ของพวกนี้ต้องใช้ช่างไม้ฝีมือดีในการทำ มิเช่นนั้นอาจสร้างความเสียหายกับผ้าราคาแพงได้
“ท่านพ่อเ้าคะ พรุ่งนี้ข้ากับพี่ใหญ่จะออกไปหมู่บ้านใกล้ ๆ เพื่อมองหาลูกจ้างที่จะมาทำงานให้ร้านของเรานะเ้าคะ ส่วนเื่ช่างไม้คงต้องรบกวนท่านพ่อจัดการแทนข้าแล้วเ้าค่ะ” ซูอันคิดว่าการแบ่งงานกันทำย่อมสำเร็จเร็วกว่า
มู่ถงเองก็คิดไม่ต่างกับบุตรสาวนัก หากต้องทำไปทีละอย่างอาจเกิดความล่าช้าได้ “ได้สิลูก แต่เ้ากับหลิงเอ๋อร์ต้องดูแลตัวเองให้ดีเล่า พวกเรายังไม่รู้จักผู้คนในเมืองนี้มากนัก ระวังตัวเอาไว้ย่อมดีที่สุดนะ”
“เ้าค่ะท่านพ่อ ข้าจะดูแลพี่หญิงเป็อย่างดี หากใครหน้าไหนกล้าเข้ามาหาเื่แล้วละก็ ฮึ่ม! ข้าจะอัดพวกมันให้จำทางกลับบ้านไม่ได้เลยเ้าค่ะ” ซูอันที่เริ่มมีแรงมากขึ้น หลังจากได้กินอิ่มและพักผ่อนเพียงพอมาเกือบหนึ่งเดือน พูดกับบิดาพร้อมชูกำปั้นเล็ก ๆ อย่างจริงจัง
“หึ ๆ เก่งเสียจริงเกรงว่าอันเอ๋อร์ของพ่อ คงจะหาคนแต่งด้วยยากเสียแล้วกระมัง ฮ่า ๆ ๆ” มู่ถงนึกขั้นกับท่าทางห้าวหาญของบุตรสาว ที่ไม่มีท่าทางเรียบร้อยอ่อนหวาน แตกต่างกับพี่สาวอย่างเยี่ยนหลิงคนละขั้ว
เื่แต่งงานมีครอบครัวไม่เคยมีอยู่ในหัวของซูอัน “ใครสนเื่นั้นกันเ้าคะท่านพ่อ ถ้าร่ำรวยเงินทองเมื่อใดไม่จำเป็ต้องแต่งงาน ไปเป็สาวใช้ให้ครอบครัวสามีจนไม่มีความสุข มิสู้ข้าอยู่ดูแลท่านพ่อท่านแม่จะไม่ดีกว่าหรือเ้าคะ หากจะให้ข้าแต่งงานออกเรือนจริง ๆ บุรุษที่จะมาเป็ลูกเขยของท่านพ่อ ต้องรักมั่นในตัวข้าผู้นี้เพียงหนึ่งเดียว ไม่หวั่นไหวแม้พบสตรีใบหน้างดงามล่มเมือง ที่สำคัญต้องเลี้ยงดูข้าให้อยู่สุขสบาย ยิ่งมีอำนาจในมือด้วยแล้วจะพิจารณาเป็กรณีพิเศษเ้าค่ะ
แต่ถึงอย่างไรการค้าของครอบครัวเรา ย่อมพบเจออุปสรรคจากคนที่เสียผลประโยชน์ ข้าไม่มีทางนั่งงอมืองอเท้ารอบุรุษมาปกป้องแน่ ฝีมือการต่อสู้ของข้าก็มิได้ด้อยไปกว่าทหาร ฉะนั้นนอกจากหาลูกจ้างมาทำงานที่ร้านแล้ว ยังต้องสร้างกองกำลังของตนเอง เพื่อปกป้องผ้าราคาแพงของครอบครัวเราด้วยเ้าค่ะท่านพ่อ”
มู่ถงตะลึงกับความคิดของบุตรสาว ที่คิดวางแผนครอบคลุมเอาไว้ล่วงหน้า “แม้จะมีสำนักคุ้มภัยที่รับจ้างดูแลการส่งสินค้า แต่การมีกำลังคนเป็ของตนเอง ย่อมป้องกันเื่ร้ายได้อีกทาง พ่อไม่ได้เก่งเื่แผนการที่ซับซ้อนนัก เช่นนั้นยกให้อันเอ๋อร์เป็คนจัดการดูแลโดยตรงนะลูก”
“เ้าค่ะ รับรองท่านพ่อไม่มีทางผิดหวังแน่นอน พวกเรารีบกลับจวนกันเถิดเ้าค่ะท่านพ่อ ป่านนี้ท่านแม่กับพี่หญิงรอทานมื้อเย็นแล้วล่ะ”
พอสังเกตสีของท้องฟ้าก็เห็นเป็จริง เช่นที่ซูอันได้บอกกับเขาจริง ๆ “พวกเราเร่งฝีเท้ากันหน่อยเถิด อย่าให้ทั้งสองคนต้องรอนานดีไหม”
“เ้าค่ะท่านพ่อ”
สองพ่อลูกปิดประตูร้านค้าไว้เช่นเดิม ก่อนจะเดินกลับจวนด้วยความเร็ว ส่วนสตรีอีกสองคนที่จวน มิได้นั่งรอเฉย ๆ พวกนางนำสิ่งของที่ร้านค้านำมาส่ง ไปจัดวางในห้องของแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว และระหว่างนั้นได้เดินดูรอบ ๆ จวน ที่ยามนี้ขึ้นชื่อว่าเป็บ้านของพวกเขาจริง ๆ
เมื่อซูอันกับบิดามาถึงจวนการทานอาหารมื้อเย็น จึงได้เริ่มขึ้นอย่างมีความสุขกับครอบครัวเล็ก ๆ พวกเขาทั้งสี่คนพูดคุยเื่การค้า เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของกันและกัน ซึ่งการทำการค้าจะเร่งรีบมากเกินไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าเื่เล็กหรือเื่ใหญ่ ทุกอย่างต้องคิดอ่านวางแผนให้รอบคอบมากที่สุด นอกจากแผนการหลักแล้วยังต้องมีแผนสำรอง เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะได้ใช้มันรับมือได้ทันที
