"เมื่อยไหม กระรอกน้อย" รัชทายาทถามพลางจับใบหน้ากับใบหูของอีกฝ่ายเพื่อตรวจอาการเบื้องต้น เพราะเขาไม่รู้เลยว่าการที่อีกคนมาอยู่อีกโลกร่างกายจะได้รับความเสียหายอะไรไหมจากการเดินทาง สภาพแวดล้อมสามารถอยู่ได้ไหม
"ผมไม่เป็ไรครับ แค่เมื่อยก้นนิดหน่อยเพราะนั่งมานานแล้ว" เสียงทุ้มนุ่มตอบพลางขยับตัวไปมาบิดี้เีในรถม้า ท่าทางดูเป็ธรรมชาติเหมือนกับการถูกเลี้ยงดูมาแบบ สามัญชนสินะ ถ้าต่อไปต้องมาทำวางท่าแล้วจะเหนื่อยหรือเปล่านะ
"มีอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าดูไม่ดีเลย"
"ข้ากังวลเื่ต่อจากนี้ไปของกระรอกน้อย จะไหว จะทำได้หรือเปล่า จะทนได้ไหม คิดไปเยอะมากจนปวดหัว"
ผู้ชายคนนี้เป็ถึงแวมไพร์สายเืบริสุทธิ์ของโลกนี้ เป็คนที่จะมาสืบทอดตำแหน่งต่อจากองค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดินี มีเื่ราวมากมายให้ทำในแต่ละวันแต่กลับคิดหนักเื่ของไวท์มากขนาดนี้ ต้องเป็คนที่อ่อนโยนขนาดไหนกันนะ คนที่ต้องแบกรับชะตากรรมของผู้อื่นไว้มากมาย ความรู้สึกต้องกดดันมากแค่ไหน
"ไม่เป็ไรนะครับพี่คีย์ ผมเป็ลูกผู้ชาย สบายมากครับ"
"แต่เ้าเป็ลูกครึ่งเทพกับั ไม่รู้จะอยู่ภายใต้แรงกดดันได้มากแค่ไหน"
"ออกจะเท่นะครับ เป็ทั้งลูกเทพและั ไม่เห็นมีอะไรน่าเสียใจเลยสักนิด" ใบหน้าหวานบอกพลางชูมือทั้งสองข้างให้อีกฝ่ายรู้สึกดี แต่เป็สิ่งที่รัชทายาทไม่เคยเห็นมาก่อนเลยได้แต่ทำท่างงว่าหมายถึงอะไร
"ชูมือที่เอานิ้วโป้งออกมาแบบนี้หมายความว่าดีมากครับ ให้สองมือคือโคตรเยี่ยมมากเลย"
"ผมรู้สึกดีนะที่ตัวเองเป็เทพเป็สิ่งที่คนนับถือ เป็ัที่ใครๆ ก็เกรงกลัว ไม่มีอะไรน่ากังวลเลยครับ พี่คีย์คิดมากเกินไปหรือกลัวว่าจะสูญเสียผมเหมือนตอนที่เสียคุณตาไปหรือเปล่า" คำพูดไม่กี่คำเหมือนจี้ใจในปมของเขาไปหมดทุกอย่าง แสดงว่าคิดมากเกินไปสินะ
"อย่าคิดมากครับ ผมอยู่ได้แน่นอน ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์แล้วนะ"
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
บานกระจกถูกเคาะสามครั้งเป็การให้สัญญาณก่อนที่มือของเมล์จะเปิดหน้าต่างช่องลมออกแล้วให้สัญญาณมือกลับมา องค์รัชทายาทพยักหน้ารับแล้วปิดกระจกลง
"มีอะไรเหรอครับ"
"ชู่ว! เงียบก่อนไวท์ มีคนกำลังตามพวกเรามา" คีย์บอกพลางขยับมานั่งประชิดร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามในตอนแรก หลังจากข่าวการเปิดตัวออกไปแบบนี้ ต้องมีพวกไม่เห็นด้วยหวังจะมาทำร้ายร่างกายแน่ เพราะมันเป็เื่ปกติในหมู่แวมไพร์ด้วยกัน หากอยากเป็ใหญ่จงล้มคนที่ใหญ่กว่าให้ได้ จะได้มาซึ่งสิ่งที่้านั่นเอง
ผัวะ! พลั่ก! โครม!
เหล่าแวมไพร์ทกระหายอำนาจโจมตีที่ล้อหมุนของม้าบินทันทีแต่ก็ถูกเหล่าองค์รักษ์ของรัชทายาทและคนดูแลไวท์ต่อสู้สวนกลับไปทั้งหมด ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมให้กันและกัน เหมือนการต่อสู้ลอยฟ้าไม่มีผิด กรงเล็บ ปีก เขี้ยวที่ถูกเผยให้เห็นเวลาต่อสู้ เริ่มออกมาทีละคน ต่างคนต่างเริ่มสู้กันทันทีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ ร่างสูงได้โอกาสออกไปควบม้าบินหนีกลับวังดีกว่า ยังไงตอนนี้มีเด็กคนนี้อยู่พวกเราเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
ถึงริค ไวท์จะไม่ใช่มนุษย์อย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนี้มีพลังพิเศษอะไรไหม ทำอะไรได้บ้างนอกจากทำขนม พอฟันดาบเป็ เล่นกีฬาเก่ง ถึงจะเก่งในโลกมนุษย์แค่ไหนก็ตามแต่ในโลกของการใช้พลังนั้นมันแตกต่างกัน มันไม่มีอะไรเหมือนกันเลย
โครม!!!
แวมไพร์คนหนึ่งที่หลุดรอดมาจากวงโคจรการต่อสู้นั้นได้ใช้พลังของตนเองทำให้ล้อม้าบินแตกละเอียดจนมีแค่ม้าเท่านั้นที่วิ่งกลับวัง สภาพรถม้าแตกละเอียดเหมือน้าให้คนในรถตายไปพร้อมกับซากปรักหักพังพวกนั้น มีแสงสีขาวออกมาหลังจากซากะเิของรถม้าที่แตกละเอียด ปีกสีขาวบริสุทธิ์ค่อยๆ งอกออกมาแต่เป็ปีกที่มีขนาดเล็กมาก ออร่าสีแดงฉานปกคลุมไปทั่วร่างไม่ได้สติ ทำให้แวมไพร์ที่ลักลอบมาทำร้ายแตกตื่นพากันหนีกลับไปหมด หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเด็กคนนี้เป็มนุษย์แต่พอมาเจอแบบนี้เลยพอกันหนีไปสินะ
"ทำยังไงกันต่อดีครับ รัชทายาท" เมล์ถามด้วยสีหน้าหนักใจ เพราะไม่มีใครเข้าใกล้ร่างไม่ได้สติได้เลยสักคนเดียว พลังของเทพกับันั้นเกินกว่าที่แวมไพร์เืผสมจะเข้าใกล้ได้ ทุกคนลงความเห็นว่าแวมไพร์เืบริสุทธิ์อาจจะเข้าใกล้ได้
องค์รัชทายาทค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ร่างสูงโปร่งที่ยังนอนไม่ได้สติพร้อมกับรังสีของเทพและัอยู่ด้วยกัน มือหนายื่นออกไปใกล้รังสีแดงฉานที่โอบล้อมเอาไว้อย่างระมัดระวังแต่ก็มีประกายไฟเล็กๆ ต่อต้านไม่ให้เข้าใกล้ร่างนี้ เขาจึงร่ายคาถาล้อมรอบร่างนี้แล้วพาเคลื่อนย้ายไปด้วยพลังขั้นสูงแทนการจับตรงๆ แทนเพราะเกรงว่าอาจจะมีใครตายได้หากเข้าใกล้มากกว่านี้
ณ พระราชวังตะวันออก
"พวกเราจะทำยังไงกันต่อไปดีพะยะค่ะ รัชทายาท" เฟลิกซ์ถามหลังจากที่นายของตนเองไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะให้คำสั่งได้
"พวกเ้าทุกคน ตามข้าเข้าห้องทำงานมา"
"พะยะค่ะ"
แกร๊ก!
"พวกเ้ารู้ใช่ไหม ว่าข้า้าจะพูดอะไร" คีย์ถามออกไปเหมือนคำถามปลายเปิดที่ให้คำตอบได้หลากหลายมาก
"หม่อมฉันคิดว่าน่าจะเป็เื่ที่พวกเราพากันปลอมตัวใส่ชุดมอมแมมโดยไม่ปรึกษาพระองค์ก่อน ใช่หรือไม่ พะยะค่ะ" เฟลิกซ์ตอบคำถามออกไปอย่างไม่ลังเลเพราะเขาคือหัวหน้าคนในหมู่บ้านลูกครึ่งแวมไพร์ ที่มนุษย์และแวมไพร์ก็รังเกียจ หากหลายร้อยปีก่อนไม่ได้รัชทายาทองค์ปัจจุบันคอยให้ความเมตตาป่านนี้อาจจะตายอย่างคนไร้ญาติขาดมิตรไปแล้ว
"หึ! แล้วยังไงต่อ พูดต่อสิ"
"ไหนจะเื่ที่ดุคุณชายริคต่อหน้าคนอื่น เื่ที่สอนคุณชายริคหนักเกินไป ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะทำให้คุณชายปรับตัวไม่ทันเพราะว่ามาจากต่างโลก"
"เ้ารู้ทุกอย่างนะเฟลิกซ์...แต่ก็ยังคิดที่จะทำอีก มันหมายความว่ายังไงเหรอ"
"หม่อมฉัน..." ยังไม่ทันที่เฟลิกซ์จะตอบ ก็มีประโยคเย็นๆ ที่ถ่ายทอดคำสั่งออกมาเสียแล้ว
"ไปรับโทษด้วยการโดนขังในคุกใต้ดินของที่นี่ซะ พวกเ้าทุกคนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาจนกว่าริค ไวท์จะตื่นอีกครั้ง"
"พะยะค่ะ รัชทายาท"
ช่างทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลยสักนิด เ้าพวกไม่รู้จักคิด ถึงจะมีคนเตือนว่าให้ระวังการตัดสินใจเฟลิกซ์ไว้บ้าง แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ หากเพิ่งได้อำนาจมาก็เริ่มออกลายเสียแล้วรึ ทำไมมนุษย์นี่มันช่างโอหังเสียจริง
"ผิดหวังที่ลูกครึ่งแวมไพร์มีท่าทีโอหังใช่หรือไม่ พะยะค่ะ" เมล์ถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท ไม่ได้รักใคร่อะไรเ้านายของตนเองเลยแม้แต่นิดเดียว
"ถ้าเ้ารู้อยู่แล้ว จะมาถามข้าอีกทำไม"
"การให้เ้านายของตนเองเรียนรู้สิ่งที่ผิด ก็คือสิ่งที่หม่อมฉันควรทำพะยะค่ะ" สิ่งที่เมล์พูดไม่ได้ผิดเท่าใดนัก เขาอาจจะให้อำนาจกับเฟลิกซ์มากจนเกินไปทำให้เหลิงอำนาจแล้วเอาไปลงกับริค ไวท์ ที่ไม่รู้เื่รู้ราวอะไร มันช่างน่าฆ่าให้ตายเสียจริงเ้าพวกนี้ แต่เกรงว่าคนที่หลับใหลจะไม่พอใจเอาได้ รอให้ตื่นมาตัดสินใจเองแล้วกัน
