บทที่ 146 กายทิพย์
ไวน์แดงในแก้วเป็สีแดงเข้มพาให้คนใจสั่น ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ไวน์ไหลจากมุมปากลงมาตามลำคอ ทำให้ในวินาทีนี้ตีเทียนดูเยือกเย็นผิดปกติ
เสียงใสของแก้วไวน์ทำให้คนหนาวสั่นถึงไขสันหลัง เขาจับก้นแก้วไวน์ไว้พร้อมกับเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าซูเหยียน แล้วไล้นิ้วไปตามแก้มเธอเบาๆ
"กลัวเหรอ?"
ร่างกายของซูเหยียนสั่นเล็กน้อย เธอจะไม่กลัวได้ยังไง เพียงอีกฝ่ายออกแรงแค่นิดเดียว หน้าเธอได้เสียโฉมแน่
"ฉันพอใจกับท่าทางของเธอในตอนนี้มากเลย หวาดกลัว ไม่พอใจ แค้นใจ...ฉันชอบมากเลยล่ะ"
"นายเตรียมตัวตายได้เลย เดี๋ยวพอเย่จื่อเฉินมาถึง เขาไม่ปล่อยนายไว้แน่"
เซี่ยเขอเข่อถลึงตามองอย่างดุดัน ตี้เทียนขมวดคิ้ว ก่อนที่ความไม่พอใจจะฉายวาบขึ้นในดวงตา
"ดื้อนักนะ หรือว่าเธอไม่เชื่อ..."
พรึบ!
ก้นแก้วเฉียดผ่านหน้าเซี่ยเขอเข่อไป รอยเืจางๆ ปรากฏขึ้นที่แก้มของเธอ
"โอ๊ะ! ขอโทษจริงๆ นะ ไม่ได้ผ่อนแรงลง เร็ว รีบปิดปลาสเตอร์ให้เธอหน่อย"
"อาเสี่ยไม่ปล่อยนายไว้แน่"
เซี่ยเขอเข่อะโ ซึ่งในขณะเดียวกัน ซูเหยียนที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นอย่างคับแค้นใจ
"ตี้เทียน นายทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย พ่อฉันกับปู่ฉันไม่ปล่อยนายไปแน่"
ตี้เทียนเผยยิ้มเยาะขบขันตรงมุมปาก
"ตระกูลซู เธอคิดว่าฉันเห็นมันอยู่ในสายตาเหรอ ฉันจับเธอมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว เธอเห็นเงาของพ่อกับปู่เธอไหมล่ะ?"
ตี้เทียนขำพรืด แล้วก็กลับไปที่โซฟาอีกครั้ง
เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาในห้องนั่งเล่น
"เตรียมตัว ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ถ้าเกินหนึ่งนาทีก็กรีดลงบนหน้าพวกเธอสองคนเลย"
"ค่ะ"
จู่ๆ มีดพกเงาวับก็ได้ปรากฏขึ้นมาในมือของผู้หญิงสองคนที่คุมตัวซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อเอาไว้
"ไม่รู้ว่านายจะมาทันหรือเปล่านะ"
ตี้เทียนหรี่ตาลงหัวเราะเบาๆ
บรื้นนน!
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้นมา เย่จื่อเฉินรีบขับรถมายังสถานที่ที่ตี้เทียนส่งมาให้เขาด้วยความเร็วสูงสุด
สิ่งที่ฉายเข้ามาในสายตาคือคฤหาสน์เดี่ยวหลังหนึ่ง ราวกับป้อมปราการ ด้านนอกคฤหาสน์มีชายร่างกำยำสวมชุดดำสิบกว่าคนกำลังเดินลาดตระเวนอยู่
"ใคร ลงมา"
ทันทีที่รถยนต์ของเย่จื่อเฉินปรากฏขึ้น ชายร่างกำยำกลุ่มนี้ก็เข้ามาล้อมทันที
"ตี้เทียนให้ฉันมาหาเขา ให้ฉันเข้าไป"
"นายน้อยไม่ได้บอกว่าจะมีแขกมาพบ เชิญกลับไปเถอะ"
ชายสวมเสื้อกล้ามสีดำรัดตัวคนหนึ่งในกลุ่มผายมือเป็เชิงว่าเชิญกลับไป
เมื่อเห็นการกระทำของพวกเขา เย่จื่อเฉินก็เข้าใจทันที
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ตี้เทียนจัดเตรียมเอาไว้
กรอด!
กำหมัดแน่นทันที เย่จื่อเฉินจ้องมองประตูใหญ่สีดำที่อยู่ข้างหลังชายร่างกำยำสิบสองคนเขม็ง
เหลือเวลาอีกสิบนาที
ในเมื่อนายอยากเล่นแบบนี้ งั้นฉันก็จะเล่นกับนายเอง
เมื่อกลับเข้ามารถ เย่จื่อเฉินก็รัดเข็มขัดไว้แน่น ดวงตาจดจ้องประตูใหญ่สีดำทะมึนนั้น แล้วแสยะยิ้มออกมา
บรื้นนน!
ยกเท้าเหยียบคันเร่ง แล้วปอร์เช่ราคาแพงคันนั้นก็พุ่งเข้าใส่ชายร่างกำยำทั้งสิบสองคน
ชายร่างกำยำในชุดดำพากันเบี่ยงตัวหลบออกไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ แล้วรถยนต์คันนั้นของเย่จื่อเฉินก็ขับชนประตูเหล็กบานใหญ่นั้นอย่างไม่ลังเล
โครม!
ประตูพังเสียงดังโครมคราม ตี้เทียนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น บนโต๊ะตรงหน้าเขามีเครื่องจับภาพตั้งไว้ั้แ่ตอนไหนก็ไม่รู้
เขาเลิกคิ้วมองดูเย่จื่อเฉินที่ขับรถชนประตูเหล็กไม่หยุดอย่างกับคนบ้า แล้วก็อดส่ายหน้าขำไม่ได้
"เ้าอารมณ์ชะมัด"
ตึง!
ตึง!
โครม!
กันชนหน้าแตกกระจายไปนานแล้ว ประตูเหล็กสีดำนั้นก็มีรูกว้างปรากฏออกมาเช่นกัน
หน้ารถค่อยๆ เกิดควัน แต่เย่จื่อเฉินยังคงขับรถชนอยู่อย่างนั้นโดยไม่สนใจอะไร
"พวกเธอดูสิ"
ตี้เทียนหันกล่องจับภาพไป เมื่อซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อเห็นภาพนั้นก็พากันะโลั่น
"ะโออกจากรถเร็ว ะโออกจากรถ!"
แต่เสียงะโของพวกเธอกลับส่งไปไม่ถึงเย่จื่อเฉิน
ในใจของเขาตอนนี้มีอยู่แค่ความตั้งใจเดียว
คือต้องชนให้มันเปิดออก
ชายร่างกำยำสิบกว่าคนนั้นก็ตะลึงไปเช่นเดียวกัน พวกเขาโดนตี้เทียนสั่งให้ขัดขวางเย่จื่อเฉินอยู่ตรงนี้
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะใช้วิธีที่รุนแรงสุดโต่งขนาดนี้
ยืนตะลึงงันมองดูเขาขับรถชนประตูเหล็กครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยดวงตาเบิกโพลง
โครม!
ทันใดนั้น ประตูเหล็กก็ล้มลงเสียงดังสนั่น
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น รถยนต์คันนั้นก็โดนเย่จื่อเฉินใช้ขับชนจนหน้ารถยับเยินไปหมด
ควันด้านหน้ารถมีมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าอีกเดี๋ยวก็คงจะะเิแล้ว เย่จื่อเฉินกระชากตัวฮ่าวเหวินะโออกจากรถด้วยความรวดเร็ว
ตู้มมมม!
ราวกับดอกบัวสีเพลิงดอกหนึ่งะเิกระจาย ยังไม่ทันที่เย่จื่อเฉินจะได้วิ่งไปถึงที่ปลอดภัย เขาก็โดนวงะเิกลืนกินทันที
"เย่จื่อเฉิน!"
ซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อที่อยู่ในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์กรีดร้องสุดเสียง ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ดวงตาทั้งสองข้างของเซี่ยเขอเข่อ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีทองอ่อนๆ อีกทั้งเส้นผมก็ได้เปลี่ยนจากสีดำเป็สีทอง
"ตี้เทียน นายทำฉันฟิวส์ขาดแล้ว"
ทันใดนั้น น้ำเสียงเยือกเย็นก็ได้ดังขึ้นมาจากกล้องจับภาพ
ท่ามกลางกลุ่มะเินั้น เย่จื่อเฉินที่เสื้อผ้าโดนไฟไหม้จนขาดเป็รู ผมก็โดนไฟไหม้จนหัวล้าน กำลังลากฮ่าวเหวินที่ไม่รู้ว่าเป็หรือตายค่อยๆ เดินออกมาจากกลุ่มะเิ
"นายทำฉันฟิวส์ขาดแล้วจริงๆ"
เสียงพึมพำของเย่จื่อเฉินดังขึ้นในจอภาพไม่หยุด เมื่อเห็นภาพนั้น ซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อก็ร้องไห้โฮออกมาด้วยความดีใจอีกครั้ง
ดวงตากับผมสีทองของเซี่ยเขอเข่อก็กลับมาเป็สีปกติอีกครั้ง
"น่าสนใจดี ยิ่งดูยิ่งน่าสนใจจริงๆ"
ตี้เทียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเวลา
เหลืออีกห้านาที
"แจ้งทีมสองให้ขวางเขาไว้!"
เดินไปข้างหน้าทีละก้าว เมื่อครู่นี้ตอนที่รถยนต์ะเิ เย่จื่อเฉินก็ได้เปิดใช้งานกายล้อมเพชร
แต่มันไหม้ขนาดนี้ ร่างกายของเย่จื่อเฉินก็ได้รับาเ็หนักเช่นกัน
ที่ยังสามารถยืนอยู่ตรงนี้ แล้วมุ่งหน้าเดินไปทางคฤหาสน์ได้ ก็เพราะความตั้งใจล้วนๆ
เขาจะต้องรีบไปให้ถึงภายในเวลาที่กำหนด แล้วช่วยซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อออกมาให้ได้
พรึบ!
ผู้หญิงผมสั้นในชุดสีแดงสี่คนยืนขวางหน้าประตูเอาไว้ เย่จื่อเฉินเงยหน้าขึ้นกวาดตามองพวกเธอ
พร้อมแสยะยิ้มพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
"พวกเธอจะขวางฉันเหรอ?"
ไม่มีใครพูดอะไร
ผู้หญิงทั้งสี่คนพุ่งเข้าไปหาเย่จื่อเฉินพร้อมกัน
เย่จื่อเฉินโยนฮ่าวเหวินลงบนพื้น เมื่อช้อนตาขึ้นประกายในดวงตาก็ได้จางหายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยความโกรธเกรี้ยวที่พุ่งทะยานถึงขีดสุด
"ไสหัวไปซะ!"
ตุบ!
เงื้อหมัดต่อยเข้าที่ตัวของผู้หญิงหนึ่งคนในกลุ่ม หญิงสาวที่ได้รับแรงโจมตีที่แฝงไว้ด้วยความเคียดแค้นของเย่จื่อเฉินกระอักเืและล้มไปกองกับพื้นทันที ราวกับว่าวที่สายขาด
อีกสามคนที่เหลือสบตากัน ราวกับว่าเห็นความน่ากลัวในดวงตาของเย่จื่อเฉิน
แต่เพราะตี้เทียนที่กำลังดูกล้องอยู่ พวกเธอจึงต้องกัดฟันวิ่งเข้าใส่
ตุบ!
ผู้หญิงอีกคนกระเด็นออกไปอีกครั้ง
"พวกเธออย่ามาบังคับฉันนะ ฉันไม่อยากทำร้ายผู้หญิง แต่ถ้าพวกเธอยังเข้ามาอีก ก็ตาย!"
เย่จื่อเฉินกระทืบเท้าขวาลงกับพื้นอย่างแรง รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นหินแกรนิตทันที
ตี้เทียนที่อยู่ในบ้านรูม่านตาหดเกร็ง
กายทิพย์
มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นมองเวลา้าอีกครั้ง
หนึ่งนาที
ตี้เทียนหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา แล้วเอ่ยสั่งเสียงเบา จากนั้นประโยคเดียวกันก็ดังขึ้นในอินเอียร์ของผู้หญิงสี่คนที่อยู่ข้างนอก
"ขวางเขาไว้อีกหนึ่งนาที ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม"