ทั้งตัวงูล้วนเป็สมบัติล้ำค่า แม้จะเป็งูพิษ แต่เพียงแค่ตัดหัวทิ้งไป เนื้อทั้งตัวก็ยังเอามาทำอาหารกินได้
นอกจากประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลากชนิด ยังสามารถขจัดความเหนื่อยล้า สิ่งสำคัญที่สุดคือมีฤทธิ์ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ขจัดภาวะเืคั่ง ลดอาการบวม และบรรเทาอาการปวด ซึ่งเหมาะกับิเป่าอวี้ที่ถูกเตะาเ็พอดี
นางไม่กล้ารั้งอยู่อีกต่อไป ิเป่าจูหันหลังกลับแล้วคลำทางลงจากเขาตามทางที่ขึ้นมา หากมีสัตว์ที่อันตรายกว่านี้โผล่ออกมาจะได้ไม่คุ้มเสีย
หลังกลับมาถึงบ้าน ิเป่าจูก็ปลดกระบุงสะพายหลังลง แล้วไปดูน้องชายก่อน
เป่าอวี้ตื่นแล้ว ดูจากสีหน้าน่าจะไม่เป็ไรแล้ว
เห็นดังนั้นแล้วนางถึงกลับไปที่ลานสวนอย่างสบายใจ หยิบสมุนไพรออกมาจากกระบุงอย่างระมัดระวัง ปลูกลงในดิน รดน้ำให้ชุ่ม แล้วปล่อยให้มันเติบโตอย่างอิสระ
หลังจากนั้นก็หยิบงูออกมา คว้านเครื่องในออก แล้วเก็บดีงูเอาไว้อย่างดี คิดว่าพรุ่งนี้จะเอาเข้าเมืองพร้อมกับสมุนไพร ดูว่าจะขายได้ราคาดีหรือไม่
ในบ้านมีเครื่องปรุงไม่มาก ิเป่าจูพยายามทำน้ำแกงข้นงูอย่างสุดความสามารถ ได้ออกมาสามชามพอดี
เนื้อส่วนที่ถูกหวังซื่อกินไปหลายคำก่อนหน้านี้ หลี่ไหวฺอวี้เอาไปโยนทิ้งหมดแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกมาก โดยรวมแล้วแทบไม่มีผลกระทบอะไร ประกอบกับน้ำแกงข้นงู ช่างเป็มื้อเย็นที่อลังการจริงๆ
“กินข้าวได้แล้ว”
นางวางน้ำแกงข้นงูลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เรียกทั้งสองคนมากินข้าว
ิเป่าอวี้เพิ่งลุกขึ้นมานั่ง ก็ถูกพี่สาวเลิกเสื้อ จึงรีบดึงลงไม่ยอมให้ดู
“พี่หญิง พี่ไหวฺอวี้ยังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอยู่เลย”
“อย่าขยับ ให้พี่ดูหน่อย” ิเป่าจูจะดูให้ได้ ิเป่าอวี้ยืนกรานไม่ยอม
“ทำไม กับข้ายังต้องอายอีกหรือ” หลี่ไหวฺอวี้พูดหยอกเย้า
ิเป่าอวี้ไม่สามารถเอาชนะพี่สาวได้ จำต้องปล่อยมือ
รอยบวมแดงยังดูน่ากลัวมาก และมีแต่จะขยายเพิ่ม เห็นได้ว่าหวังซื่อลงมือโเี้ยิ่ง
“กินข้าวก่อน กินเยอะหน่อย จะเป็ผลดีต่ออาการาเ็ของเ้า”
เมื่อเห็นน้องชายยกชามข้าวขึ้นมากินแต่โดยดี รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของิเป่าจู
ทั้งสามร่วมโต๊ะอาหาร บรรยากาศอบอุ่นเป็พิเศษ
ค่ำคืนหนึ่งผ่านไป ท้องฟ้าทางตะวันออกปรากฏเป็สีขาวพุงปลา ิเป่าจูได้ยินเสียงไก่ในหมู่บ้านขันก็ลุกขึ้นมา
วันนี้นางจะเข้าเมือง ต้องตื่นแต่เช้ารีบออกเดินทาง มิเช่นนั้นตอนข้ากลับฟ้าอาจมืดเสียก่อน
หลังจากเดินเท้าไปครึ่งชั่วยาม ก็พบกับท่านลุงใจดีคนหนึ่งให้นางขึ้นเกวียนมาด้วยกัน
เมื่อเท้าทั้งสองข้างถูกปล่อยให้เป็อิสระ นางถึงมีอารมณ์สุนทรีย์ชมทิวทัศน์ข้างทาง
สายลมแ่เบาโชยผ่านพวงแก้มนำพาความเย็นสดชื่นสายหนึ่งมาให้ พร้อมกับพัดพาหยาดเหงื่อบนหน้าผากให้เหือดแห้งไป
ทั้งสองด้านของถนนลูกรังที่กว้างขวางคือทุ่งนากว้างใหญ่ไพศาล คนขยันขันแข็งเริ่มทำงานกันแล้ว ยังมีคนอีกมากมายอยู่บนถนนสายเดียวกับนาง ต่างคนต่างเร่งรีบไปทำธุระของตน
“แม่หนู ตื่นได้แล้ว แม่หนู...”
“ขอบคุณมากเ้าค่ะท่านลุง” ิเป่าจูหน้าแดงซ่าน
รู้สึกเก้อเขินอยู่บ้าง ระหว่างชมทิวทัศน์ริมทางเกิดรู้สึกง่วงขึ้นมาถึงกับผล็อยหลับไปอย่างสบายใจ
ความระแวดระวังช่างต่ำยิ่ง เคราะห์ดีท่านลุงเป็คนดี หากเป็คนมีความคิดชั่วร้าย พานางไปขายแล้วก็ยังไม่รู้ตัว
นางพลิกตัวลงจากรถ เดินเท้าตามถนนไปทางทิศใต้
มีประสบการณ์แล้วครั้งหนึ่ง ิเป่าจูจึงไม่ต้องเสียเวลา ตรงไปร้านขายยาที่ตกลงร่วมมือกันครั้งก่อน
“เถ้าแก่หวัง” ิเป่าจูะโเสียงดังั้แ่ตัวยังไม่ปรากฏที่หน้าประตู
“แม่หนู มาแล้วรึ ครั้งนี้เอาสมุนไพรอะไรมาบ้างล่ะ” ชายชราที่อยู่หลังโต๊ะได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นิเป่าจูดวงหน้าก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนใจดี
“ท่านดูก็รู้เองเ้าค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง”
ร้านขายยาแห่งนี้มีชื่อว่าจี้ซั่นถัง เถ้าแก่หวังเป็เ้าของที่นี่ ขณะเดียวกันก็นั่งเป็หมอประจำอีกด้วย
แม้อายุของเขาจะเกินเจ็ดสิบปีแล้ว แต่ยังคงสดใสมีพลังและมีความกระฉับกระเฉงยิ่ง มีความเชี่ยวชาญเป็พิเศษในด้านเสริมสร้างร่างกายและบำรุงสุขภาพ
นอกจากนี้เขายังใช้ตนเองเป็ป้ายโฆษณามีชีวิต ดึงดูดคนไข้เข้าร้านได้เป็จำนวนมาก
ทั้งยังเป็คนเดียวที่ไม่มองว่าิเป่าจูยังเด็ก จึงจงใจกดราคาเพื่อหลอกลวงนาง
“ได้สิ ไหนให้ข้าดูหน่อย”
เถ้าแก่หวังยกกระบุงสะพายหลังขึ้นมา แต่เพียงมองไปข้างในปราดหนึ่งก็ต้องตกตะลึง
อูเฉียว [1] ซางจื่อ [2] ไม้จันทน์ ล้วนแต่เป็สมุนไพรที่ล้ำค่าและหายากทั้งสิ้น
“นี่คือ?”
เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
เพียงเสี้ยววินาทีถัดไป
เถ้าแก่ก็ไม่กลัวความสกปรกอีกต่อไป เขายื่นมือลงไปในกระบุง แล้วหยิบสมุนไพรที่ยังมีดินห่อหุ้มอยู่ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพิจารณาอย่างพิถีพิถันเพื่อความแน่ใจ
ิเป่าจูคอยอยู่เงียบๆ รอคอยเสียงอุทานด้วยความตื่นเต้น
“ต้นเกล็ดั [3] !”
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็ต้นเกล็ดัที่หาได้ยากยิ่ง
เทียบกับโสมมนุษย์และเห็ดหลินจือแล้ว ยังคุ้มค่ายิ่งกว่า สามารถฟื้นฟูสภาพผิว กล้ามเนื้อ และกระดูกได้ ช่วยต่ออายุให้ยืนยาว เป็ของหาได้ยากในรอบร้อยปี!
ขนาดคนงานเก็บสมุนไพรมืออาชีพยังหาไม่พบ ถึงพบก็ไม่แน่ว่าจะรู้จัก แต่เด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งไปเอาความรู้ความสามารถในการแยกแยะสมุนไพรมาจากไหน
“แม่หนู เ้าไปเก็บสมุนไพรล้ำค่ามากมายเช่นนี้มาจากที่ใดกันแน่”
ไม่ใช่ว่าเขาเป็คนแก่โลภมากคิดถึงแต่ผลประโยชน์ แต่เขาอยากรู้จริงๆ ว่าต้องเป็สถานที่ชัยภูมิขุมทรัพย์แบบไหน ถึงสามารถให้กำเนิดสมุนไพรล้ำค่าหายากมากมายขนาดนี้ออกมาพร้อมกันได้
“ท่านตอบมาแค่ว่าจะรับหรือไม่ก็พอ”
นางไม่บอกความลับหลังเขาให้ใครอยู่แล้ว นั่นเป็เส้นทางหาเงินของนาง ดูจากท่าทีของเถ้าแก่หวัง หากการค้าครั้งนี้ราบรื่น ความปรารถนาของนางก็จะเป็จริงในไม่ช้า
“รับ รับแน่นอนอยู่แล้ว”
ของล้ำค่าแบบนี้จะพลาดไปได้อย่างไร “คืออย่างนี้ ข้าน่ะไม่โกงเ้าอยู่แล้ว ต้นเกล็ดัหนึ่งต้นรวมกับสมุนไพรอย่างอื่นข้าให้เ้า...”
นิ้วหัวแม่มือนิ้วนางและนิ้วก้อยงอลงมา เหลือสองนิ้วที่ชูแยกออกจากกัน นี่คือ...
“สองตำลึง?”
เป็ไปไม่ได้ นี่มันห่างจากราคาที่นางตั้งไว้ในใจลิบลับ
เถ้าแก่หวังส่ายหน้า
“สิบสองตำลึง?”
แบบนี้ก็ยังพอว่า แม้ไม่ถึงราคาที่นางกะเกณฑ์ไว้ แต่หากร่วมมือกันระยะยาว ก็พอรับได้
เพียงแต่... คำพูดถัดไปของเถ้าแก่หวังกลับทำให้ิเป่าจูใจนกรามแทบร่วงไปกองอยู่ที่พื้น
“ยี่สิบตำลึง!”
ิเป่าจูตะลึงงัน ก่อนจะยินดีปรีดาอย่างเหนือความคาดหมาย
ต้นเกล็ดันางรู้จัก และรู้ว่ามันมีมูลค่าสูงมาแต่ไหนแต่ไร แต่ในยุคปัจจุบันเริ่มมีการเพาะปลูกกันเป็วงกว้าง ราคาจึงลดลงทุกปี
แต่พอมาเป็ยุคสมัยนี้ แค่สิบสองตำลึงนางก็ว่าใช้ได้แล้ว ไม่คาดคิดว่าจะได้ราคาถึงยี่สิบตำลึง
หากนางสามารถหามาได้เยอะกว่านี้ เงินทองมิไหลมาเทมาทุกวันหรอกหรือ แล้วยังจะต้องเปิดโรงหมอไปทำไม แค่กลับไปขุดต้นเกล็ดัเพิ่มอีกหน่อยก็รวยเป็เศรษฐีแล้ว
“ตกลง!”
นางรับปากอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล
“เพียงแต่...” ครานี้กลับเป็เถ้าแก่หวังที่เริ่มจะลังเลขึ้นมา
หัวใจของิเป่าจูพลันบีบรัด ไม่น่าจะคืนคำเร็วขนาดนี้กระมัง เถ้าแก่หวังดูไม่เหมือนคนเยี่ยงนั้น
“แม่หนู ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เปลี่ยนใจแน่นอนอยู่แล้ว”
มองปราดเดียวก็ดูออกถึงความวิตกกังวลของนาง เขาประกอบอาชีพด้านการแพทย์มาหลายปี และให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความซื่อสัตย์มาโดยตลอด ย่อมไม่ตบหน้าตนเองอยู่แล้ว
“เช่นนั้นก็ได้ ไม่เป็ไร ท่านพูดมาตามตรงเถอะเ้าค่ะ” ิเป่าจูถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนเอ่ยถาม
“ข้าไม่รู้ว่าเ้าไปเอาสมุนไพรมากมายเหล่านี้มาจากไหน แต่เ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่บีบให้เ้าตอบ เพียงแต่่นี้ที่ร้านมีคนไข้คนหนึ่ง ้าสมุนไพรล้ำค่าหลายอย่าง ข้าถามพ่อค้าสมุนไพรหลายรายแล้วของก็ขาดหมด ไม่รู้ว่าแม่หนูจะช่วยหามาให้ได้หรือไม่”
พื้นที่ที่ต้นเกล็ดัสามารถเกิดและเติบโตได้ สมุนไพรเหล่านี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหากระมัง เถ้าแก่หวังคิดเช่นนี้
“เื่นี้ข้ายังไม่รับปาก แต่จะกลับไปค้นหาดู หากมีจะส่งมาให้ท่านเป็รายแรกอย่างแน่นอน”
เชิงอรรถ
[1] อูเฉียว หรือ บัควีท เป็ธัญพืชที่มีประโยชน์ มีทั้งสารอาหารและช่วยรักษาโรคระบบทางเดินอาหารอ่อนแอ แน่นท้องปวดท้อง ท้องเสียจากความชื้น โรคบิด ทั้งยังช่วยลดความดันและไขมันในเื โรคหลอดเืสมองได้อีกด้วย
[2] ซางจื่อ เป็สมุนไพรจีนอย่างหนึ่ง สรรพคุณ มีฤทธิ์ขับลม ทำให้เส้นลมปราณคล่องตัว รักษาอาการปวดข้อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ ใช้แก้อาการมือเท้าเป็ตะคริว
[3] ต้นเกล็ดั (หลงหลินเฉ่า) เป็สมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ใบมีลักษณะกลมคล้ายเกล็ดั ทั้งต้นสามารถทำเป็ยาได้ มีสรรพคุณช่วยขจัดความร้อนขับพิษ ลดอาการบวม บรรเทาอาการปวด รักษาติ่งเนื้อในจมูก โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้