“ก็อาจจะนะ”
จางเทียนหยางพูดอย่างมีความหวังว่า “แต่เขาทำได้ขนาดนี้ มันก็ทำให้สายเลี่ยนเหยียนของเรามีหน้ามีตามากแล้วนะ แถมเขายังฆ่าพวกหวงเฮ่า ช่วยระบายความแค้นในใจของเราด้วย!”
“ข้าจำได้ว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนในศึกหอคอยเลี่ยนถ่า เขายังเป็แค่ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง แต่ตอนนี้ เขากลับไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง เขาจะต้องมีเคล็ดวิชาอะไรที่ร้ายกาจมากแน่ๆ ”
พอพูดถึงตรงนี้ จางเทียนหยางก็กำหมัดแน่น
เดิมทีเขาอาศัยผลงานที่โดดเด่นมาที่สายเลี่ยนเหยียน ในศึกหอคอยเลี่ยนถ่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาเองก็ได้ลำดับที่ห้า เดิมคิดว่าเมื่อเข้ามาในสนามรบร้างโบราณจะสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เป็อย่างดี และได้ผลการต่อสู้ที่สุดยอด คิดไม่ถึงเลยว่า เพิ่งจะเริ่มหาเบาะแสัทะเลทรายโดยยังไม่ได้ทำภารกิจเลย ก็ถูกบีบจนต้องคุกเข่าลงแล้ว
สำหรับจางเทียนหยางแล้ว มันถือเป็ปมที่ใหญ่มาก
และการที่ิอวี่แข็งแกร่งขึ้นนั้นก็ถือเป็แรงกระตุ้นอย่างมากให้กับเขา มันทำให้เขาแอบเห็นิอวี่กลายเป็เป้าหมายในการต่อสู้ของตนเอง เขาหวังว่าจะสามารถขยับการฝึกฝนได้มากกว่านี้ เพื่อให้เหนือกว่าิอวี่ให้ได้
“อือ”
คนที่เหลืออีกสี่คนเองก็พยักหน้า พวกเขาไม่อยากนึกถึงเื่ที่ต้องคุกเข่าลงกับพื้นเลย มีคนพูดแทรกทำลายบรรยากาศขึ้นมา “ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไรเลย ลูกผู้ชายยืดได้หดได้ ความผิดหวังแค่ครั้งเดียวมันไม่ได้หมายถึงว่าเราเสียทุกอย่างไปแล้วนะ ภารกิจขโมยไข่ักำลังจะเริ่มแล้ว ครั้งนี้ิอวี่ช่วยพวกเขา ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ตามไปให้ความร่วมมือกับเขา เอาความสามารถของเรา ทำให้เขามองเราใหม่อีกครั้งเถอะ”
“ได้”
“ใช่แล้ว ต้องใจกล้าๆ หน่อย”
“ข้าเห็นด้วย”
พวกของจางเทียนหยางพยักหน้า พวกเขาเป็หนุ่มเืร้อน แต่ละคนมีศักดิ์ศรีของตน พวกเขาเริ่มปรับอารมณ์และค่อยๆ สลายความทุกข์ในใจกัน จากนั้นก็ขี่อสูรสัตว์ปีกแล้วบินไปบนท้องฟ้า มุ่งหน้าไปทางเหนือ
......
ด้านหน้า วิหคัปีกมืดบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว พุ่งทะยานราวกับลูกธนู
จากความเร็วในการเดินทางแบบนี้ ิอวี่รับประกันเลยว่าจะสามารถตามศิษย์ชั้นยอดคนอื่นได้ทัน และตามพวกซูอี้หรานได้ทันหลังจากพวกเขาไปถึงทะเลทรายทางเหนือได้ไม่นาน
“ิอวี่ เ้ารอก่อนสิ หลิงเอ๋อร์ของข้าไม่ไหวแล้วนะ” เิหยูเยียนพูดขึ้นมาด้วยความร้อนใจจากด้านหลัง
หลิงเอ๋อร์ก็คือชื่อของเ้ากระเรียนขาว
ิอวี่ขมวดคิ้วแน่น เขาหันหลังไปมองก็พบว่าเ้ากระเรียนขาวกำลังหอบหนักมาก ลมปราณในตัวของมันปั่นป่วนไปหมด ความถี่ในการกระพือปีกเริ่มไม่แน่นอน
เมื่อหันกลับมามองเ้าวิหคัปีกมืดของตัวเอง ปีกของมันยังกระพือนิ่ง ร่างกายยังสมดุลตามปกติ ดูสง่างามเหมือนเดิม เมื่อแสงส่องลงมาที่ปีกก็เป็ประกายสีทองอร่าม
ต่อให้เป็คนที่สายตาไม่ดีก็ยังสามารถมองออกว่าเ้าวิหคัปีกมืดกับเ้ากระเรียนขาวนั้นแตกต่างกัน
เ้ากระเรียนขาวกับเ้าวิหคัปีกมืดล้วนแต่เป็อสูรระดับสิบ แต่หากมองจากมุมด้านสายเืแล้ว เ้าวิหคัปีกมืดเหมือนจะดีกว่าเ้ากระเรียนขาวเยอะมาก
“เ้าบีบหยกกลับไปก่อนเถอะ หากเป็อย่างนี้ต่อไป อาจตามไปไม่ถึงทะเลทรายทางเหนือแน่ แล้วไข่ัก็อาจจะถูกพวกเขาชิงเอาไปนะ” ิอวี่ตัดสินใจแล้วว่า เขาจะต้องขัดขวางการเคลื่อนไหวของพวกซูอี้หรานให้ได้
และระหว่างทางหากเขาเจอศิษย์ชั้นยอดของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนอีก เขาก็จะทำการสังหารอีก ซึ่งมันก็จะเสียเวลาเพิ่มขึ้น
หากิอวี่ไม่ได้มีความเร็วที่มากพอ เขาก็อาจจะตามไม่ทัน
“เ้าจะทิ้งข้าแบบนี้หรือ”
เิหยูเยียนกัดฟันแล้วพูดอย่างโมโหว่า “เราต่างเป็ศิษย์ของซ่งหยวนหยวนนะ แล้วก็เป็ศิษย์พี่ศิษย์น้องกันด้วย ควรจะช่วยเหลือกันสิ คนอื่นยังรู้จักปกป้องศิษย์น้องของตัวเอง แต่สิ่งแรกที่เ้าจะทำคือการทิ้งข้าอย่างนั้นน่ะหรือ”
“ ... ”
ิอวี่เองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร เมื่อหลายวันก่อนเิหยูเยียนยังคิดจะทิ้งเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับตื้อไม่เลิก ทำตัวติดหนึบไม่ยอมปล่อย
ผู้หญิงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเก่งแบบนี้ทุกคนเลยใช่ไหม?
“ถ้าอย่างนั้นเ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไร” ิอวี่ยักไหล่เพื่อแสดงท่าทีจนใจของตัวเอง
ที่จริงเขาไปคนเดียวมันสะดวกกว่า เพราะเขากับเิหยูเยียนก็น่าจะไม่ได้เข้าขากันขนาดนั้น เวลาเขาทำอะไรก็จะได้ไม่มีความกังวล
“นี่เ้าโง่จริงหรือว่าแกล้งโง่?”
เิหยูเยียนพูดจบนางก็ดีดตัวจากหลังกระเรียนขาวไปที่หลังของเ้าวิหคัปีกมืด จากนั้นก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรว่า “ข้ามานั่งอสูรสัตว์ปีกเ้าก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง?”
“แล้วอสูรสัตว์ปีกของเ้าล่ะ?” ิอวี่พูดไม่ออก
“หลิงเอ๋อร์เร่งเดินทางมากเกินไป มันอ่อนล้ามากแล้ว ตอนนี้ให้มันออกจากสนามรบร้างโบราณไปก่อนเถอะ”
เิหยูเยียนนั้นค่อนข้างจะไม่พอใจกับท่าทีของิอวี่เท่าไร เมื่อนางถูกบีบหนักเข้าก็เลยหยิบหยกขาวออกมาจากบริเวณหน้าอก ในขณะที่ิอวี่กำลังตะลึงที่นางบีบหยกจนแตก นางก็โยนหยกชิ้นนั้นไปที่เ้ากระเรียนขาวที่อยู่ด้านหลังทันที
“นี่เ้าบ้าไปแล้วหรือ?”
ิอวี่เห็นแล้วถึงกับอึ้งไปเลย เิหยูเยียนบีบหยกที่เอาไว้รักษาชีวิตของตนเองจนแตก นั่นหมายความว่า นางจะไม่มีไพ่ไม้ตายที่เอาไว้รักษาชีวิตอีกแล้ว เพื่อตามไปขโมยไข่ัแล้ว เิหยูเยียนไม่สนแม้แต่ชีวิตเลยหรือ?
เิหยูเยียนเห็นท่าทางิอวี่ตะลึงมาก นางก็พูดอย่างเอาแต่ใจว่า “เ้าไม่ต้องมายุ่ง”
พูดจบก็นั่งขัดสมาธิอยู่บนตัวของวิหคัปีกมืด ส่วนเ้ากระเรียนขาวที่อยู่ด้านหลังก็ถูกแสงสีขาวห่อหุ้มตัว จากนั้นก็หดตัวลงจนเท่าเข็มและสลายหายวับไปกับตา เ้ากระเรียนขาวถูกส่งออกจากสนามรบร้างโบราณไปแล้ว
“ตอนนี้ข้าออกจากสนามรบร้างโบราณไม่ได้แล้ว หากเ้ายังคิดจะไล่ข้าไปอีก คิดว่าข้าน่ารำคาญ เ้าก็เอาหยกของเ้ามาให้ข้า ข้าจะหายไปจากสายตาของเ้าตอนนี้เลย”
เิหยูเยียนแบมือให้กับิอวี่ สีหน้าท่าทางของนางเรียบเฉยมาก
แต่ในความเป็จริงแล้วมันเป็ท่าทางการโกรธของนาง
“ ... งี่เง่าสิ้นดี” ิอวี่ส่ายหน้า
“ได้”
เิหยูเยียนพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปทะเลทรายทางเหนือด้วยกัน หยกมีแค่ชิ้นเดียว เราสองคนต้องอยู่ด้วยกันถึงจะสามารถออกจากสนามรบร้างโบราณได้ หากเ้าคิดจะทิ้งข้าอีก ข้าเองก็ไม่มีวิธีรักษาชีวิตแล้ว ก็ปล่อยให้ตายไปเลยแล้วกัน”
ตอนนี้ิอวี่รู้สึกปวดหัวมาก เขาไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เิหยูเยียนถึงได้พูดแบบนี้ เขารู้แค่ว่าหลังจากนี้เขากับเิหยูเยียนต้องตัวติดกันห้ามห่างเลย
“ตามใจเ้าเถอะ”
ิอวี่เองก็ี้เีจะเถียง จากนั้นก็ใช้พลังจิตสื่อสารกับเ้าวิหคัปีกมืดให้มันบินเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก
“ว้าย!”
เพราะการเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นมันทำให้ร่างกายของเิหยูเยียนอยู่ไม่นิ่งจนเกือบตก นางจึงยื่นมือไปจับเสื้อิอวี่เองตามสัญชาตญาณ เพราะกลัวว่าตัวเองนั้นจะตกลงไปจากท้องฟ้ากว่าพันเมตร
ิอวี่เองก็หมดคำพูด เขาบังคับเ้าวิหคัปีกมืดให้บินเร่งเดินทางต่อ และเปิดััแห่งิญญาขึ้น ปล่อยพลังจิตแผ่กระจายออกไปด้านหน้าเพื่อััสิ่งต่างๆ รอบตัวระหว่างทาง เมื่อเจอคนจากอีกสองสายเมื่อไหร่ เขาก็จะลงมือสังหารทันที!
หลังจากที่เปิดััแห่งิญญาแล้ว พลังการรับรู้ของเขานั้นก็แข็งแกร่งขึ้น ิอวี่รู้สึกได้ว่าหยกโบราณที่อยู่บริเวณหน้าอกของเขานั้นกำลังสั่น เหมือนว่าทางทิศเหนือมันมีอะไรดึงดูดหยกโบราณ
ิอวี่ลองััเข้าไปในหยกโบราณที่อยู่บริเวณหน้าอก แต่กลับไม่รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง
คิดไปเองหรือ?
ิอวี่ลองอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ
ในเวลานี้ เิหยูเยียนที่อยู่ด้านหลังของิอวี่นั้นก็ไม่ได้ไปสนใจความเคลื่อนไหวอะไรด้านล่างเลย และไม่รู้ด้วยว่าด้านหน้านั้นมีอะไร
นางััได้แค่ว่ามีลมพัดผ่านหน้าแรงมาก ผมและชุดสีแดงของนางปลิวไสว เมื่อเวลาผ่านไป นางก็เลื่อนมือลงมาจับเสื้อบริเวณเอวของิอวี่ และเมื่อเวลาผ่านไปอีก มือของนางก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็เกาะเอวเขาเอาไว้
จนลมวูบใหญ่พัดเข้ามา เิหยูเยียนก็กอดเอวของิอวี่เอาไว้จนหน้าอกของนางนั้นแนบชิดไปกับแผ่นหลังของเขา
นางกอดแน่นมาก หัวของนางซุกไว้ที่แผ่นหลังที่มีอุณหภูมิอุ่นๆ แผ่ออกมานอกเสื้อผ้า ยังได้กลิ่นคาวเืนิดๆ ที่ิอวี่เพิ่งลงมือสังหารคนมาก่อนหน้านี้อยู่เลย
ก่อนหน้านี้ที่ิอวี่สังหารหลินเฮ่าและเล่นงานซูอี้หรานจนล่าถอยไป เิหยูเยียนไม่ได้เห็นด้วยตา แต่ในคราวนี้นางได้เห็นิอวี่สังหารผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองสามคนด้วยตาของนางเองทั้งหมดทุกขึ้นทุกตอน
เิหยูเยียนยอมรับเลยว่า หากเปลี่ยนเป็นางคงไม่สามารถทำได้รวดเร็วและเรียบง่ายแบบนั้นแน่นอน
นางรู้ ิอวี่แข็งแกร่งกว่านางเยอะมาก
ได้อิงอยู่ด้านหลังของิอวี่แบบนี้ มันทำให้นางหลับตาลงได้อย่างสบายใจ รู้สึกปลอดภัยอย่างมาก
แต่ิอวี่กลับไม่ได้รู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด เขารู้สึกว่าเล็บของเิหยูเยียนมันกดจิกเขาแน่นมาก หน้าอกนุ่มๆ อุ่นๆ เต่งตึงนั้นดันแผ่นหลังของเขาอยู่ และถูไถไปตามจังหวะขึ้นลงและสั่นไหวเพราะลม
“เ้าดูมีความสุขใช้ได้เลยนะ”
เสียงดังขึ้นมาจากหยกโบราณ เฮยจีใช้พลังจิตสื่อสารกับิอวี่ สีหน้าของนางในตอนนี้นิ่งมาก หากไม่ใช่เพราะอธิบายที่มาที่ไปไม่ได้ นางคงออกมาแยกิอวี่กับเิหยูเยียนไปแล้ว!
“ธรรมดา คงเพราะ่นี้นางได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจมากไปหน่อย ข้ารู้สึกว่าอย่าไปอะไรกับนางน่าจะดีกว่า”
ิอวี่เองก็รู้สึกจนใจมาก แต่ในเวลานี้มันคงไม่เหมาะที่จะไปบอกให้เิหยูเยียนเอามือออก? เกิดนางตกลงไปจะทำอย่างไร? หากนางทำเื่ประชดประชันอะไรขึ้นมาอีก ใครจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
“เ้า ... ”
เฮยจีเบะปากแล้วพูดว่า “หรือว่าเ้าไม่รู้ว่านางคิดอะไร?”
“คิดอะไรหรือ” ิอวี่ถามด้วยความสงสัย เขารู้สึกว่าผู้หญิงนั้นยากแท้หยั่งถึง บางครั้งเดาทางไม่ถูกเลย
“โอ๊ย เ้านี่มัน ... ” เฮยจีกำหมัดแน่น เหมือนว่าเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็เหล็กกล้าได้ นางหยุดหายใจไปหลายวินาที จนตัดสินใจว่าจะบอกคำตอบกับิอวี่ แต่ตอนที่นางกำลังจะเอ่ยปากนั้นก็ััได้ว่าหยกโบราณเหมือนจะสั่น
“หือ?” ิอวี่รีบรวบรวมจิตไปที่หยกโบราณ เมื่อครู่เขารู้สึกว่าที่หยกโบราณสั่นนั้นเขาน่าจะคิดไปเอง แต่ครั้งนี้เขาััได้จริงๆ ว่ามันกำลังสั่น
เขาเลยรีบถามเฮยจีไปว่า “เมื่อครู่เ้าสั่นหยกโบราณหรือ?”
ที่จริงิอวี่อยากจะถามั้แ่เมื่อครู่แล้ว แต่แค่รู้สึกว่าเฮยจีไม่น่าทำแบบนั้น เขารู้สึกว่าตนคิดไปเองเลยไม่ได้ถาม แต่ครั้งนี้เขาััมันได้จริงๆ เลยถามออกไปอย่างไม่ลังเล
เฮยจีเองก็รู้สึกงงๆ เหมือนกัน นางไม่มีความสามารถในการควบคุมหยกโบราณ มีแต่หยกโบราณที่ควบคุมนาง!
“เป็ไปไม่ได้หรอก ข้าไม่มีอำนาจไปควบคุมอะไรหยกโบราณหรอกนะ อีกอย่างเมื่อครู่หยกโบราณสั่น เหมือนว่า ... ทางเหนือมีอะไรบางอย่างกำลังกระตุ้นมัน? ที่ผ่านมาข้าไม่เคยเห็นหยกโบราณมีปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติแบบนี้มาก่อนเลยนะ!”
เฮยจีรู้สึกตะลึงมาก นางถูกผนึกอยู่ในหยกโบราณมากว่าห้าร้อยปี วันนี้เป็ครั้งแรกที่นางััได้ว่าหยกโบราณมันสั่น ...
“ทะเลทรายทางเหนือหรือ ... ”
มันทำให้ิอวี่นั้นรู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันที ใกล้ถึงทะเลทรายทางเหนือแล้ว หยกโบราณถูกกระตุ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้มันจะเบามาก แต่มันเป็อย่างนั้นจริงๆ !
“ ... ที่ทะเลทรายทางเหนือนั่นมันมีอะไรซ่อนอยู่กันนะ?”
ิอวี่มองไปด้านหน้าที่ไร้ขอบเขตแล้วก็บ่นพึมพำ
