หยางชุนลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความเ็ปที่กัดกินร่างกายและจิตใจ สภาพของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยดินและเศษใบไม้ ร่างของเขานอนพิงกับต้นไผ่ในป่าที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงสายลมพัดผ่านยอดไผ่และแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องผ่านเข้ามา ความเ็ปจากาแบนตัวนั้นไม่อาจเทียบได้กับความรวดร้าวในหัวใจ
หยางชุนพยายามลุกขึ้นยืน ร่างกายสั่นคลอนเหมือนจะล้มลงทุกครั้งที่ก้าวเดิน แต่จิตใจที่แน่วแน่ทำให้เขาฝืนทน แม้ร่างจะอ่อนล้าจนแทบยืนไม่ไหว เขาก็ยังออกวิ่ง วิ่งไปหาเธอ ผู้ที่เป็เหมือนดวงใจของเขา ซูหรูเสียนชื่อของเธอถูกเปล่งออกมาราวกับเป็แรงผลักดันสุดท้ายของชีวิต
เมื่อเขามาถึงบ้านของเธอ หยางชุนหยุดยืนที่หน้าประตู เสียงหายใจหอบหนักของเขาดังท่ามกลางความเงียบ ชายหนุ่มรวบรวมพลังทั้งหมดในร่างกายะโออกมา "ซูหรูเสียน! ข้ามาหาเ้าแล้ว!" เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรักและความเ็ป หยาดน้ำตาเริ่มไหลลงอาบแก้ม แต่เขาไม่สนใจ ความคิดถึงที่กักขังเขาไว้ตลอดค่ำคืนผลักดันให้เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อพบหน้าเธออีกครั้ง
แต่ความทรงจำเมื่อคืนยังคงฉายชัด ภาพของซูหรูเสียนในอ้อมแขนของท่านแม่ทัพ คำพูดและการกระทำที่เขาเห็นมันบาดลึกลงไปในหัวใจเหมือนคมมีด เสียงหัวใจเต้นของเขาในขณะนี้เต็มไปด้วยความเ็ป แม้กระนั้น เขาก็ยังรักเธอ ยัง้าเธอ และยังคงยืนหยัดเพื่อเธอ หยางชุนกำหมัดแน่นพยายามกลั้นน้ำตา แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความสับสน ระหว่างความรักอันลึกซึ้งและความจริงที่แสนเ็ป
“ข้าจะไม่มีวันตัดใจจากเ้า ซูหรูเสียน...” เสียงของเขาแ่ลงราวกับกระซิบ
“ท่านพ่อ... แต่ข้าและนาง อีกไม่นานเราก็จะเข้าพิธีร่วมเรือนหอกันแล้ว ท่านเคยต้อนรับข้าด้วยความอบอุ่น ท่านเคยสนับสนุนเรา... ทำไมถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้?”
เสียงของเขาสั่นไหว แต่ยังคงไว้ซึ่งความหวังที่พยายามยึดเหนี่ยวไว้ในหัวใจ
ชายวัยกลางคนกลับหัวเราะเบา ๆ เป็เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความดูแคลน “หึ... ใครพ่อเ้า? ข้าจำไม่ได้ว่าเคยยอมรับเ้ามาเป็ลูกเขย ข้าต้อนรับเ้าเพียงเพราะเห็นแก่น้ำใจของบุตรสาวข้าเท่านั้น อย่าได้คิดว่าความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของเ้าจะเป็จริงได้ง่าย ๆ”
หยางชุนยืนนิ่ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและเ็ป “แต่ข้าและหรูเสียน...” เขาพยายามอธิบาย แต่ชายวัยกลางคนตัดบททันที
“ทั้งเ้าและนางยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย เ้ายังไม่มีสิทธิ์พูดถึงเื่นี้!” เสียงของเขาเข้มขึ้น น้ำเสียงที่เ็านั้นไม่หลงเหลือความอบอุ่นที่เคยมี “จงไปให้พ้นหน้าข้าซะ! หากยังมาวุ่นวายกับข้าอีก ข้าจะไม่ลังเลที่จะฟ้องท่านแม่ทัพ”คำขู่ดังกล่าวเหมือนตอกย้ำถึงอำนาจที่ชายวัยกลางคนยึดถือและเคารพ หยางชุนกัดฟันแน่น ความโกรธและความน้อยเนื้อต่ำใจพลุ่งพล่านในอก แต่เขารู้ดีว่าคำพูดของตนในยามนี้ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสิ่งใด
หยางชุนหันไปมองแม่ของซูหรูเสียน ใจเต็มไปด้วยความหวังครั้งสุดท้าย น้ำตาของเขาเกือบจะไหลออกมา เขาจำได้ดีว่าทุกครั้งที่มาเยือนบ้านนี้ แม่ของซูหรูเสียนจะมักต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจ และในตอนนี้ เขาหวังให้ความรักที่เขามีต่อซูหรูเสียนได้รับการเข้าใจจากผู้หญิงที่เคยให้การดูแลเขาอย่างดี
“ท่านแม่ ได้โปรดเห็นใจในความรักระหว่างข้ากับนางด้วย” หยางชุนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและเ็ป ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่แม่ของซูหรูเสียน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและอาวรณ์ “ข้ารักนางจริง ๆ ข้าไม่สามารถยอมแพ้ได้…”
แต่คำตอบที่ได้รับกลับไปนั้นกลับทำให้ใจของเขาสั่นไหวรุนแรงยิ่งขึ้น แม่ของซูหรูเสียนยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แต่ในแววตาของนางนั้นกลับแฝงไปด้วยความเศร้าและการตัดสินใจที่หนักแน่น
“หยางชุน... หากเ้ารักบุตรสาวข้าจริง ๆ โปรดอย่ามายุ่งกับนางอีกเลยในตอนนี้” เสียงของนางนิ่มนวล แต่กลับเหมือนมีดคมกรีดบาดลงบนหัวใจของเขา “ตอนนี้ตัวของนางกำลังมีชีวิตที่ดี ข้า้าให้เธอมีอนาคตที่สดใสและมั่นคง พวกเ้าทั้งสองเสมือนอยู่กันคนละโลก...”
น้ำเสียงนั้นแม้จะอ่อนโยน แต่ในทุกคำพูดกลับทิ่มแทงราวกับมีดแหลมคมที่ทำให้หยางชุนรู้สึกถึงความเ็ปในใจ เขาพยายามที่จะหาคำพูดมาขัดแย้ง แต่ไม่สามารถทำได้ ชายหนุ่มยืนนิ่งราวกับโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงอย่างช้า ๆ
“จงเลือกคนที่คู่ควรกับเ้าเถอะ” คำพูดของนางยังคงดังก้องอยู่ในหูของหยางชุน ความหวังที่เคยมีเริ่มพังทลายลงอย่างไม่อาจขัดขืน น้ำตาของเขาไหลออกมาโดยไม่อาจควบคุมได้
เสียงคำสั่งที่หนักแน่นและดุดันของชายวัยกลางคนดังขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจของหยางชุน
"จงไสหัวออกไปจากที่บ้านของข้าซะ!" น้ำเสียงของเขาดูราวกับเต็มไปด้วยความโกรธและการหมดความอดทนที่ยืดเยื้อมาแสนนาน “ความอดทนของข้านั้นมีจำกัด!”
หยางชุนยืนนิ่ง ดวงตาของเขาค่อยๆ เบนไปทางชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า รู้สึกถึงความเกลียดชังและความเ็าที่พุ่งออกมาในท่าทางของเขา คำพูดเ่าั้บาดลึกเข้าไปในจิตใจ ราวกับเส้นทางแห่งความรักของเขาถูกปิดตายไปในทันที
“พวกท่านมันไม่มีศักดิ์ศรี! ที่คิดจะขายลูกสาวกินไปวันๆ ทั้งที่นางเป็เพียงแค่สาวอุ่นเตียงให้ท่านแม่ทัพเท่านั้น! ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ความแค้นในครั้งนี้ ข้าจะต้องหาทางแก้แค้นให้ได้!” คำพูดเ่าั้ดังก้องไปในอากาศเหมือนเสียงคำสาปที่สะท้อนกลับไปยังทุกคนในบ้าน
น้ำตาของเขาหลั่งไหลออกมาอย่างไม่สามารถหยุดได้ เขารู้สึกเกลียดชังทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว แม้แต่ตัวเขาเองที่รู้สึกอ่อนแอจนไม่อาจปกป้องความรักของตนได้ ความเ็ปจากการถูกเหยียดหยามและทิ้งไว้กลางทางทำให้เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทลายลง
“ไสหัวออกไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้แล้วไม่ต้องมาให้ข้าเห็นหน้าอีก!” คำพูดของพ่อของซูหรูเสียนดังก้องออกมาเต็มไปด้วยความโมโหและความอับอายอย่างสุดขีด ชายวัยกลางคนยืนอยู่ที่ประตูในท่าทีที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เขาพยายามจะไม่ให้ความอับอายที่ได้รับจากคำพูดของหยางชุนมาทำให้เขาเสียศักดิ์ศรีมากไปกว่านี้ แม้ในใจลึกๆ จะรู้สึกถึงความอับอายที่ไม่มีที่สิ้นสุด
หยางชุนไม่ได้หันกลับไปแม้แต่น้อย เขาก้าวเดินออกไปด้วยความเ็ปที่ทำให้หัวใจของเขาแทบจะพังทลาย ความโกรธและความผิดหวังยังคงฝังลึกในใจของเขา แต่เขาก็ยังยืนหยัดต่อไปก็เพื่อการแก้แค้น