ตอนที่ 3
ธาราเมื่อเขาเลือกที่จะเปิดใจให้ใครสักคนแต่คนๆนั้นกลับมีเ้าของแล้วเสียนี่ เรียกว่าอกหักั้แ่ยังไม่ทันได้เริ่มจีบด้วยซ้ำ และที่พีคไปกว่านั้นคนที่เขาชอบกำลังตั้งครรภ์กับคนที่เขารัก [ เนื้อเื่มีความเกี่ยวโยงกันเล็กน้อยในเื่ เมื่อแม่จับเราหมั้นกัน ] ซึ่งธาราเองก็เพิ่งไปงานแต่งงานของพวกเขาทั้งคู่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็คลอดแล้วรู้สึกว่าเป็แฝดชายทั้ง 3 คนและเขาก็ดีใจกับทั้งคู่ไม่ลืมซื้อของขวัญส่งไปให้หลานชายทั้งสามเพราะถ้าเขาเอาไปให้เองคงได้โดนฟีนิกซ์ฆ่าตายเอาสักวันที่ก่อนหน้านี้บังอาจไปวอแวเมียเขา
นึกแล้วก็ขำ ธาราคิดว่าบางครั้งเขาก็คงเหมาะกับการอยู่คนเดียว แล้วก็ทำงาน และทำงาน เที่ยว ดื่ม เหนื่อยก็แค่หาที่ระบาย จนเมื่อเดือนที่แล้วเขาก็ได้เจอกับมาร์คซึ่งธารารู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เขายังชื่นชมในความหล่อน่ารัก รู้สึกอยู่ใกล้แล้วสบายใจ
หนึ่งเดือนมานี้เจ๊เอวี่แกก็ชั่งขยันตอบรับงานให้มาร์คเสียเหลือเกิน แทบไม่ได้กระดุกกระดิกตัวไปไหนเลย เช้า สาย บ่าย เย็น ไม่เว้นแม่กระทั่ง่กลางคืนของบางคืน เจ๊รับงานให้เหมือนเขาติดหนี 100 ล้านแล้วต้องรีบใช้คืน ร่างจะพัง -_-
แต่ก็เอาเถอะหลังจากที่เหนื่อยมาเป็เดือนหลังจากนี้ก็ว่างยาว 15 วันเนื่องจากว่าร่างกายเขาเหนื่อยล้าไม่ไหวแล้วจริงๆ เรียกได้แทบจะคลานขึ้นรถไปทำงาน บางวันก็หลับไปจนถึงกองถ่าย เจ๊เอวี่คงเห็นสภาพเลยรับไม่ได้เลยยอมหยุดรับงานให้เขาได้พักผ่อนยาวๆ
เช้านี้มาร์คตื่นเกือบสิบโมงเช้าด้วยความสดชื่นที่ไม่ต้องไปทำงาน ลุกขึ้นจากที่นอนก็ไปล้างหน้าแปลงฟันออกมานอนเล่นที่ห้องนั่งเล่นต่อ เขี่ยอินสตาแกรมอัพเดทชีวิตให้พวกแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกัน
“ถ้าจะหลงเขาขนาดนั้น บินไปเชียงใหม่อีกรอบเลยเถอะ” เอวี่พูดขึ้นมาอย่างขำๆ เธอเห็นั้แ่มาร์คกลับจากเชียงใหม่ก็เอาแต่มองแจ็คเก็ตตัวนั้นในเวลาที่เผลอตลอด
“จะบ้าเหรอเจ๊ ทำเหมือนว่างอ้ะ” มาร์คบ่นๆ ทั้งที่ตอนนี้ก็ว่างแล้วก็ตาม ก็ทำไงได้ั์ตานั้นชั่งน่าหลงไหลทำให้เขานึกถึงทุกครั้งที่หลับตาเลยก็ว่าได้ เขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ถ้าว่างคือจะไป ?” เอวี่ถามกลับอย่างแกล้งหยอก
“ก็เปล่า” มาร์คบอกยิ้มๆ
“ย๊ะ นี่น้ำส้ม” เอวี่วางน้ำส้มลงที่โต๊ะซึ่งอยู่ตรงหน้าของมาร์คแล้วก็เดินออกไปจากห้องปล่อยให้มาร์คได้นอนฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว
หรือว่าเขาต้องบินกลับไปเชียงใหม่จริงๆว่ะ ?
แต่อีกใจกลับคิด ถ้าคนมันจะเจอกัน เดี๋ยวคงได้เจอ
เห้ออออ สงสัยเขาจะหมกมุ่นมากไปละมั้ง ไหนๆก็ว่างแล้วคืนนี้ชวนตินออกไปเที่ยวดีกว่า เขาเองก็ไม่ได้อยากจะนอนอยู่คอนโดอย่างเดียว
หลังจากที่คิดนั่นนี่ไปเรื่อยมาร์คก็คิดได้ว่าเขาคงต้องชวนเพื่อนรักไปเที่ยวให้หายฟุ้งซ่านน่าจะดี มือไวเท่าความคิดกดแชทไลน์นัดตินทันที ตินเองก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นกันเพราะเขาก็ไม่ได้เจอกันเดือนกว่าแล้ว
“เจ๊ คืนนี้ผมออกกับไอ้ตินนะ” บอกเจ๊เอวี่ที่เดินถืออาหารมื้อเที่ยงมาให้ตัวเอง
“ไม่พาเจ๊ไปด้วยเหรอ ?” เอวี่ถามด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนพร้อมทำตาปริบๆอย่างน่าสงสาร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรมาร์คได้
“ไม่อ้ะ” มาร์คตอบกลับโดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ ถ้าเจ๊ไปด้วยคงเผาเื่ของเขาให้ตินฟังอีกแน่และอีกอย่างคือคืนนี้เขากับติน้าเที่ยวตามสไตล์ผู้ชายโสด
“ทำไม ?” เอวี่ถามทันควัน เพียงแค่มาร์คมองตาเอวี่ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่าย้าอะไร
“เออๆ ก็ได้เที่ยวให้สนุกละกัน ฝากบอกติดด้วยว่าดูแลกันดีๆ แล้วพรุ่งนี้ต้องไปช๊อปปิ้งเป็เพื่อนเจ๊ โอเค๊ ?” เอวี่พยักหน้าอย่างเข้าใจ เลยหาข้อแลกเปลี่ยนแทน
“ดีล !!!” มาร์คตอบรับข้อตกลงนั้นทันที ดีซะอีกเขาไม่ได้ช๊อปปิ้งที่ห้างนานแล้ว เพราะส่วนใหญ่สั่งจากช๊อปส่งตรงถึงคอนโด
“ต้องช่วยแต่งตัวมั้ย ?” เอวี่ถามขึ้นอย่างนึกขึ้นได้
“ก็ดีนะเจ๊ ขอหล่อๆ” มาร์คพยักหน้าแล้วบอกยิ้มๆ ถ้าให้เขาจัดการตามสไตล์ก็คงง่ายๆตามปกติ เสื้อยืดกางเกงขาสั้น เซ็ตผมแค่เล็กน้อย
“จัดไปคะ เอาให้ทั้งสาวๆทั้งผู้ชายเหลียวมองเลยคอยดู” เอวี่บอกอย่างมาดมั่น
“หึหึ ครับ” มาร์คบอกอย่างขำๆเมื่อเห็นเจ๊เอวี่ทำท่าทางจริงจัง
พอหนึ่งทุ่มเจ๊เอวี่ก็จับมาร์คหนุ่มหน้าใสมาแปลงลุ๊คเป็หนุ่มสุดเท่
@คลับเควิน
ตินที่มาถึงคลับก่อนก็เข้าไปนั่งรอที่โต๊ะซึ่งเขาได้จองไว้ก่อนแล้วซึ่งอยู่ห่างจากนักร้องไม่มากนักในโซนวีไอพี ค่อนข้างส่วนตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนมาร์คเขาก็ไลน์ไปบอกแล้ว ในระหว่างที่รอมาร์คตินก็สั่งเครื่องดื่ม ดื่มรอไปด้วย ตินดื่มหมดไปสองแก้วคุณชายมาร์คก็เดินตรงมาทางโต๊ะอย่างสง่าผ่าเผย ผู้คนที่โยกย้ายกันอยู่ต่างพร้อมใจแหวกทางให้มาร์คได้เดิน ตลอดทางที่เดินไปยังโต๊ะมาร์คได้ยินเสียงกระซิบกระซาบที่ดังแบบเขาได้ยินเป็ระยะ สาวๆมองกันเหลียวหลังจริงๆ ผู้ชายบางคนยังมองเขาแล้วยิ้มหว่านเสน่ห์เลย
“เอาดีๆ มึงมาเที่ยวหรือมาเดินแบบว่ะ แฟชั่นโคตร จะแพงไปเพื่อ ? ” ทันทีที่มาร์คเดินมาถึงโต๊ะนี่คือคำพูดแรกที่ตินใช้ทักทายกัน ซึ่งวันนี้มาร์คมาเพื่อฆ่าตินชัดๆ เพราะตินใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวปลดกระดุมโชว์อกแกร่งถึง 3 เม็ด สวมกางเกงสแล็ค รองเท้ากุชชี่สวมนาฬิกากุชชี่ หากเทียบกัน ตินคือโคตรธรรมดา
ไม่แปลกที่ไอ้ตินมันจะว่าเขาแบบนั้น ก็ดูสิเจ๊แกเล่นให้เขาใส่แค่เสื้อสูทโชว์กล้ามเนื้อหน้าอกกางเกงสแล็ค สวมต่างหูคาเทียร์ ที่ลำคอขาวสวมสร้อยคอคาเทียร์เยลโลว์โกลด์ ส่วนข้อมือก็สวมกำไลคาเทียร์ และสวมแหวนคาเทียร์อีกสามวง ปิดท้ายด้วยการสวมรองเท้าแบรนด์กุชชี่ เซ็ตผมเปิดหน้า ลงเมกอัพเบาๆ ที่เหลือคือเดินอย่างมั่นหน้านิ่งๆจะได้ดูคลูๆ เพราะถามเจ๊เอวี่แล้วว่าแต่งแบบนี้ไม่เว่อร์ไปเหรอ เจ๊แกบอกว่าเด็กๆ
“ก็มาเที่ยวดิว่ะ” มาร์คตอบอย่างขำๆ เข้าใจดีว่าทำไมเพื่อนถึงทำหน้าแบบนั้น
“ฝีมือเจ๊เอวี่ ?” ตินถามขำๆ ทั้งที่รู้ว่าใช่แต่เขาก็ยังถามเพื่อนรัก พร้อมเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่ม มาร์คพยักหน้ารับยิ้มๆ สักพักพนักงานก็ยกเครื่องดื่มเข้ามาเสิร์ฟมาร์ครับมาชนแก้วกับตินยิ้มๆแยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“เชี่ย สาวไม่มองกูเลย มองแต่มึงเนี่ย !!” ตินพูดแผลักหัวมาร์คด้วยความหมั่นไส้ กูดูสิสาวๆเอาแต่มองมาร์คไม่มองเขาเลยสักคน
“เดี๋ยวกูให้เจ๊มาดูแลมึง 1 วัน เอาป่ะ ?” มาร์คถามอย่างใจดีมุมปากยกยิ้มร้ายนิดๆมองตินอย่างเ้าเลห์
“ไม่อ้ะ เจ๊ชอบลวนลามกู” ตินส่ายหน้าอย่างเร็ว พร้อมทำท่าขนลุกให้ดู
“ฮ่าๆๆๆ มึงไม่ชิน” มาร์คถามอย่างขำๆกับท่าทางของเพื่อนรัก ทีต่อหน้าเจ๊เอวี่ทำหน้าตายิ้มระรื่นยอมให้เธอลูบคลำน่าถ่ายคลิปไปฟ้องจริงๆ
“กูไม่ใช่มึงครับเพื่อน” ตินบอก
ก่อนจะยกยิ้มนิดๆ มาร์คคิดว่าตินคงยิ้มให้สาวๆส่วนเขาก็สนใจแต่แก้วเหล้าในมือเพราะยังติดใจในรสััของเหล้าที่คละคลุ้งอยู่ภายในปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเมื่อโดนตินสะกิดที่แขน
“10 นาฬิกา” มาร์มองไปตามทิศที่ตินบอกก็เห็นสาวสวยยิ้มน้อยๆให้เขาและมีท่าทีอยากขอมาร่วมโต๊ะ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาดึงดูดความสนใจไปจากเขาได้เพราะถัดจากหญิงสาวคนนั้นไปสองโต๊ะในทิศเดียวกัน เขากลับเห็นเ้าของั์ตาสีน้ำตาลปนเทานั่นเสียอย่างนั้น เขาจำได้ดีไม่ผิดแน่ มาร์คกระพริบตาแรงๆ
“มาร์ค เขาเดินมาหามึงแล้ว” เสียงของตินทำให้มาร์คได้สติขยีตาตัวเองเบาๆ เขาก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นแล้ว มีเพียงหญิงสาวแสนสวยหุ่นดีในชุดเดรชสีดำกำมะหยีเดินเข้ามา
“ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานอย่างมีมารยาท
“เชิญครับ” เป็ตินที่ตอบรับคำขอของผู้หญิงคนนั้น
“ขอบคุณคะ ดี้คะ คุณ?” เธอขอบคุณแล้วนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามตินและมาร์ค
“ตินครับ ส่วนนั่นมาร์ค” ตินมองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าผู้หญิงตรงหน้า้าสานสัมพันธ์กับเพื่อนของเขาในคืนนี้เลยบอกทั้งชื่อของตัวเองและเพื่อนรักที่เป็เป้าหมายของเธอ ส่วนคนที่ทำให้ตินสงสัยนั่นก็คือเพื่อนของเขากำลังสับสนอะไร เห็นมองไปทิศทางที่ดี้เดินมาสองสามครั้ง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ดี้พูดยิ้มๆ แล้วทั้งสามคนก็ยกแก้วขึ้นชนกัน
นั่งพูดคุยและดื่มกันไปเรื่อยส่วนใหญ่เป็ตินและดี้คุยกันเสียมากกว่า ส่วนมาร์คก็ดื่มบ้างและตอบบ้างเมื่อมีคำถามเกี่ยวกับตัวเขาแต่ส่วนใหญ่ก็ฟังทั้งคู่คุยกันเสียมากกว่า
“กูไปก่อนนะมึง” อยู่ๆตินก็พูดตัดบทแล้วลุกขึ้นยืนทันที มารค์มองเลยดี้ไปก็เห็นผู้หญิงในเดรชชุดแดงกำลังขอตัวจากเพื่อนร่วมโต๊ะเช่นกัน ทำให้มาร์ครู้ว่าตลอดเวลาที่ตินกำลังพูดคุยกับดี้คือส่งสายตาให้ผู้หญิงคนนั้นตลอด
“เค เดี๋ยวกูก็ไปแล้ว” มาร์คบอกยิ้มๆ โบกมือลาเพื่อน
“ขอไปด้วยได้มั้ยค่ะ มาร์ค?” ดี้ถามอย่างออดอ้อน ก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆมาร์คในตำแหน่งที่ตินนั่งอยู่เมื่อครู่เพื่อแสดงความเป็เ้าของว่าคนนี้ของฉันซึ่งมาร์คเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
“อืมเอาสิ” มาร์คตอบแล้วยกแก้วขึ้นดื่มพยามยามมองไปรอบๆคลับก็ไม่เจอ อาจจะด้วยความมืดของตัวคลับและแสงสีที่กำลังเปิดทำให้เขาหาคนๆนั้นได้ยาก มาร์คเลยหยุดสนใจเื่นั้นแล้วหันมาสนใจสาวข้างกายแทน
สุดท้ายมาร์คก็พาดี้เข้าโรงแรม HG ห้อง 109 ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกันไม่ถึง 10 นาที ธาราก็พาสาวเข้าห้อง 110 ในโรงแรมเดียวกัน
ที่เขาเลือกโรงแรมนี้ก็เพราะที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยรวมถึงการเก็บความลับได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญห้องนอนถูกใจมาร์คมากที่สุดเขาเลยเลือกใช้บริการที่นี่บ่อยครั้ง แต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายก็ถือว่าไม่น้อย
ไม่ต้องถามว่าเปิดห้องทำอะไร คงไม่นอนจับมือกันหรอกครับ ^_^
ธาราออกจากโรงแรม 10 โมงเช้า ส่วนมาร์คออกจากโรงแรมเกือบเที่ยง
ดี้ถือเป็คู่นอนที่ไม่แย่แต่ก็ไม่ได้ถูกใจมาร์คมากนัก เธอไม่ได้เรียกร้องอะไร เขาก็จ่ายตามที่ควรจะจ่าย และดีที่ไม่มีอะไรสูญหาย ไม่อย่างนั้นได้ปวดหัวแน่
@คอนโดมาร์ค
มาร์คแวะทานมื้อเที่ยงก่อนขึ้นคอนโดไม่ลืมซื้อของกินเล็กๆน้อยๆไปฝากเจ๊เอวี่คนสวย
“เป็ไงอิ่มป่ะ ?” ทันทีที่แตะคีย์การ์ดเข้าห้องเสียงเจ๊เอวี่ก็ลอยเข้าปะทะโสตประสาท
“อิ่มมาก” มาร์คตอบไปตามตรง ก็เขาเพิ่งจะทานข้าวมาไม่อิ่มสิแปลก
“เจ๊จะปามาทำไมเนี่ย” เจ๊เอวี่ปาหมอนใบเล็กๆใส่มาร์คทันทีที่มาร์เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น คงคิดว่าเขากินสาวจนอิ่มแน่ๆถ้าดูจากหน้าตา
“หมั่นไส้ไง” เอวี่ว่าอย่างหมั่นไส้
“กินป่ะ ?” มาร์ควางถุงขนมลงบนโต๊ะ เจ๊แกก็ตาลุกวาวทันที รีบเดินมาหาขนมโปรดทันที
“กินสิคะน้องมาร์ค !!” เอวี่รีบตอบอย่างไวแล้วไปหยิบถ้วยมาทันที
“ป่ะ แต่งตัว ไหนเจ๊ว่าจะไปเดินห้าง ?” หลังจากที่มาร์คนั่งดูเจ๊เอวี่ทานขนมไปได้สักพักก็นึกได้ว่าต้องไปห้างก็ชวนเจ๊เอวี่ทันที
“เดี๋ยวสิยังกินไม่หมด” เอวี่ทำหน้าเคืองนิดๆ
แล้วเจ๊เอวี่แกก็รีบยัดขนมทับทิมกรอบเข้าปากอย่างไว สภาพคือหมดสวยกันเลยทีเดียว ในระหว่างนั้นมาร์คก็เดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเครื่องประดับ
@ห้างTR
ใช้เวลาไม่นานทั้งเจ๊เอวี่และมาร์คก็มาเดินช๊อปปิ้งอยู่ที่ห้างหรูใจกลางเมือง
“อยากเข้าช๊อปไหนนำเลยเจ๊” มาร์คบอกเจ๊เอวี่ด้วยรอยยิ้ม เพราะสำหรับเขาเอวี่ก็เปรียบเสมือนญาติของเขาคนนึงไปแล้ว
“งั้นช๊อปนี้ก่อนเลย” พูดแล้วเจ๊เอวี่ก็ลากมาร์คเข้าไปช๊อปแอร์เมสก่อนเลย เลือกไปเลือกมาก็ได้กระเป๋ามาหนึ่งใบยิ้มหน้าบาน
จากนั้นเจ๊เอวี่ก็ลากมาร์คเข้าช๊อปนั้นออกช๊อปนี่ไปเรื่อย จนเขาเริ่มเหนื่อยก็ปล่อยให้เจ๊แกไปเดินเลือกของคนเดียวส่วนเขาก็นั่งรอที่ห้องรับแขกของช๊อปกุชชี่เพราะเขามาหาเสื้อยืดคอลเลคชั่นใหม่ด้วย ช๊อปปิ้งจนสบายใจก็เอาของไปเก็บไว้ที่รถแล้วเข้ามาซื้อของทำอาหารและของใช้อีกรอบ
แต่แล้วก็เหตุการณไม่คาดขวัญก็เกิดขึ้นเมื่อมีพนักงานคนหนึ่งแบกของเดินผ่านไป ถ้าแค่ผ่านคงไม่เป็ไรแต่ของเกิดหล่นมาทางที่มาร์คยืนอยู่พอดี
“ว้ายยยยยยย !!!!” เจ๊เอวี่กรี๊ดดังลั่นด้วยความใเพราะกลัวมาร์คจะได้รับาเ็
“ซี๊ดดด” มาร์คร้องซี๊ดเบาๆ ดีที่เขาหลบได้ทันแต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะแขนซ้ายหลบไม่พ้น ถ้าเกิดโดนเต็มๆเขาไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ
“น้องมาร์ค เจ็บมากมั้ย? นี่นายทำงานยังไงถึงได้เกิดอุบัติเหตุแบบนี้ ?” เอวี่ถามมาร์คอย่างร้อนรนพร้อมต่อว่าพนักงานคนนั้นไปด้วย ตอนนี้รอบๆเรียกได้ว่าไทยมุง มีพลเมืองดีเข้ามาสอบถามอาการเพื่อพาไปโรงพยาบาลแต่มาร์คก็บอกเขาไปแล้วว่าไม่เป็ไร
“เอ่อ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” พนักงานคนนั้นละล่ำละลักขอโทษขอโพย เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้ลูกค้าาเ็แต่มันคืออุบัติเหตุ
“ปล่อยให้เกิดเื่แบบนี้ได้ยังไง ไปเรียกผู้จัดการมา !!!” เอวี่ยังคงไม่ยอม สั่งให้พนักงานที่เข้ามาหาพนักงานคนนั้นให้เรียกผู้จัดการมาพบ
“เอ่อขอโทษครับ ต้องขอโทษจริงๆ” พนักงานคนนั้นยิ่งหน้าซีดตัวสั่นด้วยความกลัว
“แค่ขอโทษคิดว่าพอเหรอ รู้มั้ยถ้าเขาเป็อะไรไปพวกคุณมีปัญญาชดใช้มั้ย ?” เอวี่ยังคงถามต่อด้วยความโกรธพนักงานคนนั้นก็ตอบเสียงเบาราวกับกระซิบ
“ไม่เป็ไรน่าเจ๊ ผมไม่ได้เป็อะไรมาก” มาร์คเองก็พยายามบอกให้เจ๊เอวี่ใจเย็นลง
“เงียบเลยมาร์ค” เอวี่ดุมาร์คนิดๆ มาร์คก็ได้แต่มองพนักงานคนนั้นอย่างสงสารเขาคงไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
“ทางเราขอรับผิดชอบ คุณ้าค่าเสียหายเท่าไหร่ว่ามาเลย” ทันทีที่ผู้จัดการเดินเข้ามาก็พูดเื่ค่าเสียหายทันทีโดยไม่มีการขอโทษใดๆ
“หึ บางครั้งเงินก็ไม่ใช้ช่วยแก้ปัญหาได้ทุกครั้งนะคะผู้จัดการ” เอวี่พูดอย่างโกรธๆ คิดเหรอว่าเงินจะช่วยให้ทุกอย่างจบ
“แล้วคุณ้าให้ผมทำอะไร?” ผู้จัดการห้างพูดจาอย่างถือดี เพราะจากที่มองลูกค้าสองคนนี้ก็ไม่ได้รวยอะไรนักไม่จำเป็ต้องสนใจด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจว่าพนักงานจะตามเขามาทำไมปล่อยให้คนอื่นจัดการไปก็ได้
“คุณที่มีตำแหน่งเป็ผู้จัดการคุณควรอบรมพนักงานให้มีการทำงานที่ดีขึ้น รอบคอบ ปลอดภัยต่อลูกค้า ไม่ใช่แค่ฉันหรือเขา แต่คุณลองคิดดูว่าถ้าคนที่โดนของหล่นทับเมื่อกี้คือเด็กจะเกิดอะไรขึ้น? และคราวหลังฉันคิดว่าคงไม่มีเื่แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอโทษเขาซะ ต่อหน้าทุกคน!” เอวี่ร่ายยาว ซึ่งทุกคนที่ฟังอยู่ก็เข้าใจสิ่งที่เธอ้าจะบอก
“เจ๊เดี๋ยวเป็ข่าว” มาร์คดึงแขนเอวี่เบาๆเมื่อเห็นว่าเอวี่เริ่มพูดเสียงดังมากขึ้น
“เป็ข่าวก็เป็ในเมื่อเขาผิดนะมาร์ค” เอวี่หันมาพูดกับมาร์ค
“ผมขอโทษครับ” เมื่อได้ยินเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นว่าคนตรงหน้าคือนายแบบชื่อดังสุดท้ายผู้จัดการคนนั้นก็ต้องก้มหัวขอโทษเพราะดูจากท่าทางเอวี่คงไม่ยอมจริงๆและที่สำคัญหากเขาไม่ยอมขอโทษเขาอาจถูกไล่ออกในภายหลังเนื่องจากทำให้ห้างเสื่อมเสีย
“อ่อ ถ้าคุณอบรมเองไม่ได้แนะนำให้แจ้งผู้บริหาร” เอวี่บอก และยังไม่ทันที่ผู้จัดการจะได้พูดอะไร
“เดี๋ยวผมจัดการเอง เคลียร์ทุกอย่างด้วย” ธาราพูดขึ้นเสียงเรียบและจริงจัง พยักหน้าให้ลูกน้องที่ยืนข้างกาย ทั้งคู่ก็รู้ว่าเ้านาย้าให้ทำอะไร
“รับทราบครับ” ส่วนพวกพนักงาน และผู้จัดการรีบก้มหัวรับคำทันทีเช่นกัน เมื่อเห็นว่าใครที่เดินเข้ามาจัดการปัญหาในครั้งนี้และนั่นก็ทำให้พวกเขาหน้าซีดไปโดยปริยาย
“ส่วนคุณมากับผม” ธาราบอกแล้วคว้าข้อมือข้างที่ไม่ได้รับาเ็มาจับไว้และออกเดิน
“อื้ออ !!” มาร์คตอบรับในลำคอเบาๆแล้วก็เดินตามแรงดึงไป เขาไม่ได้ใจง่ายไปใช่ป่ะ ?
“เอ้าแล้วชั้นล่ะ?” เอวี่ได้แต่ยืนงงแล้วโวยวายออกมาเมื่อมาร์คเด็กในความดูแลของเธอเดินไปกับผู้ชายคนนั้นแล้ว ส่วนพนักงานและผู้จัดการหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ พร้อมลูกน้องของธารา ตรงนี้ก็เหลือแค่เธอกับลูกน้องอีกคนของธารา อีกฝ่ายพูดขอโทษเธอแทนพนักงานด้วยน้ำเสียงนุ่มทุมเป็ภาษาอังกฤษ
หน้าหล่อ เสียงก็หล่อ หุ่นดี เจ๊ใจอ่อนย๊วบเลย
สุดท้ายเจ๊เอวี่ก็โดนลูกน้องของธาราพาไปเลี้ยงข้าวเป็การขอโทษซึ่งเอวี่ก็พอใจมาก มาร์คคงดูแลตัวเองได้ เน้อะ >\\\<
หลังจากที่มาร์คถูกธาราลากขึ้นรถของตนก็นั่งเงียบตลอดทาง ไม่ถามด้วยซ้ำว่าธาราจะพาตัวเองไปที่ไหน
มาร์ครู้ว่าธารารวยแต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้ บุญตูดของเขามากที่ได้นั่ง Koenigsegg Gemera สีเทาคันนี้
“เจ็บมากมั้ย ?” ธาราถามขึ้นทำลายความเงียบ
“ปกติคุณเป็แบบนี้ ?” มาร์คไม่ได้ตอบในสิ่งที่ธาราถามแต่กลับถามกลับ
“แบบไหน ?” ธาราถามอย่างไม่เข้าใจว่ามาร์คถามถึงเื่อะไรเพราะเราเพิ่งเคยเจอกันครั้งที่สอง
“ดูคุณแตกต่าง คุณใส่สูทแล้วดูแปลกดี” ใช่ในสายตามาร์คธาราดูแตกต่างมาก ทั้งใส่สูททั้งรถที่ขับไหนจะลูกน้องอีกดูไม่เหมือนคนที่เขาเคยเจอที่เชียงใหม่
“หึหึ ส่วนคุณแฟชั่นจ๋า” ธาราขำนิดๆเมื่อได้ยินคำพูดของมาร์ค แล้วแซวกลับไป
“นิดเดียวเอง” มาร์คตอบกลับอย่างอายๆ เขาก็ไม่ได้แฟชั่นมากมายขนาดนั้นรึเปล่า
“แล้วแผลยังเจ็บอยู่มั้ย ?” ธาราถามแต่ตาก็ก็มองถนนไปด้วย
“ความจริงผมไม่ได้เป็อะไร ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้” มาร์คบอกยิ้มๆ คือความจริงเขาเกลียดโรงพยาบาลต่างหาก
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวผู้จัดการคุณจะโวยวายเอา” ธาราพูดขึ้นยิ้มๆ
“เจ๊เอวี่แกก็เป็แบบนี้ตลอด” มาร์คบ่นอุบอิบเมื่อนึกถึงเจ๊เอวี่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอารมณ์ดีขึ้นยัง
“เขาคงเป็ห่วงคุณ” ธาราบอกเสียงเรียบแล้วหันมามองมาร์คเป็จังหวะเดียวกันที่มาร์คเองก็หันไปมองหน้าธารา ทั้งคู่สบตากันแต่เสี้ยววินาทีก็ผละออกจากกัน ธาราก็หันไปสนใจถนนตรงหน้าต่อ ส่วนมาร์คก็มองไปข้างหน้าอย่างเขินๆ ใจเต้นระรัวไม่เป็จังหวะ
“ต้องบอกว่ามาก” มาร์คตอบหลังจากที่เงียบไปได้แป๊ปนึง
“นั่นสินะ” ธาราพูดอย่างเห็นด้วย
“เอ่อ ครั้งก่อนผมยังไม่ได้คืนเสื้อคุณ” เมื่อนึกขึ้นได้มาร์คก็พูดขึ้นในขณะที่ธารากำลังเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลเอกชนขื่อดังแห่งหนึ่ง
“หืม คุณเก็บไว้?” ธาราถามอย่างแปลกใจ ใครบ้างที่คิดว่าจะบังเอิญได้เจอกันอีกทั้งที่รู้จักกันแค่ชื่อ แต่คนที่นั่งข้างเขาตอนนี้กลับเก็บไว้ เป็คนที่แปลกดี
“อื้อ” มาร์คครางรับพร้อมพยักหน้าหงึกๆ แต่ใบหน้าหล่อเริ่มซีดลงนิดๆเมื่อธาราเข้าจอดรถใต้โรงพยาบาล
“คุณ ผมว่าผมโอเค” มาร์คบอกเมื่อธาราเปิดประตูรถลงไปแล้วและเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เขา
“ไม่เป็ไรก็ให้หมอตรวจดูก่อน ลุกได้มั้ย?” ธาราบอกแล้วถามต่อ
“ได้ ขอบคุณ” ถึงมาร์คจะบอกว่าได้แต่ธาราก็ช่วยเขาอยู่ดี
ธาราพามาร์คขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของโรงพยาบาลซึ่งมาร์คคิดว่าต้องเป็ชั้นวีไอพีแน่นอน
“อ่าว เป็อะไรมา?” คุณหมอวัย 40 นิดๆทักทายธาราอย่างสนิทสนม
“พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย รบกวนอาดูให้หน่อย” ธาราบอก ส่วนมาร์คก็ได้แต่ยกมือสวัสดีคุณหมอก็ยิ้มรับอย่างเป็กันเอง
“ไหนถอดเสื้อออกสิ” มาร์คค่อยๆถอดเสื้อออกทั้งที่มือสั่นเบาๆ ถึงห้องนี้จะไม่เหมือนห้องในโรงพยาบาลทั่วไปแต่เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี
“กลัว?” ธาราถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นท่าทีของมาร์คั้แ่พูดเื่โรงพยาบาลแล้ว แต่ชัดขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องนี้ มาร์คพยักหน้ารับเบาๆ ส่วนคุณหมอก็ได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
การตรวจผ่านไปด้วยดี แต่กว่าจะเสร็จทำเอามาร์คหน้าซีดแล้วซีดอีกเหงื่อนี่ไหลแตกพลั่ก โดยรวมแค่ช้ำขัดยอกและมีรอยถลอกนิดหน่อย คุณหมอก็จัดยาให้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยมาร์คก็ขอตัวลาคุณหมอเดินนำธาราออกจากห้องก่อนเลย ทิ้งให้คุณหมอวัยสี่สิบยิ้มขำอยู่คนเดียว
“กลัวขนาดนั้นเลย” เมื่อเข้ามานั่งในรถแล้วธาราก็ถามขึ้นเมื่อยังเห็นเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้า มาร์คไม่ตอบแต่ถือวิสาสะจับมือธารามาจับที่หน้าอกในตำแหน่งของหัวใจ เพื่อหวังให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรู้สึกกลัวที่เขากำลังเผชิญ
“ขับรถสิคุณ” มาร์ครีบบอกเมื่อเห็นธาราเอาแต่นิ่ง
“หิวยังคุณ?” ธาราถามขึ้นหลังจากขับรถออกจากโรงพยาบาลแล้ว มาร์คก็มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนั่นทำให้ธารารู้สึกสบายใจไปด้วย
“หิว” นั่นคือคำตอบของมาร์ค
………………………………………………..
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้