ฝูงชนรวมตัวเนืองแน่นอยู่ที่หน้าคฤหาสน์เ้าเมือง เจียงเจิ้นไห่และเจียงเฉินซึ่งยืนอยู่หน้าประตูหลักคฤหาสน์เ้าเมืองเห็นขบวนแห่กำลังเดินทางตรงมาหาพวกเขา รอยยิ้มเหี้ยมปรากฎขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
"ท่านเห็นนั่นไหม ท่านพ่อ? การที่จัดขบวนแห่ยาวซะขนาดนั้นในงานแต่งงานง่ายๆเช่นนี้ มู่หรงเจิ้นไม่เพียงแค่้าให้พวกเราเป็ที่หัวเราะของผู้คน มัน้าที่จะดึงพวกเราให้ตกต่ำด้วย"
เจียงเฉินกล่าว
"ฮึ่ม!แล้วมาดูกันว่าใครกันแน่ที่จะกลายเป็ตัวตลกในสายตาผู้คน!"
เจียงเจิ้นไห่ตอบกลับ
"ฮ่าฮ่า..พี่เจียง ข้ามารับตัวเ้าบ่าวแล้ว เขาเตรียมตัวพร้อมหรือยัง?"
มู่หรงเจิ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงดังก้อง เขาเน้นเสียงคำว่า 'รับตัวเ้าบ่าว' ดังยิ่งกว่าคำอื่น
"แน่นอน บุตรชายข้าก็พร้อมแล้ว เฉินเอ๋อร์.... ไปพาพี่ชายเ้ามาหน่อยซิ"
เจียงเจิ้นไห่ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
"ท่านลุงมู่หรงโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปพาพี่ใหญ่มาเดี๋ยวนี้"
เจียงเฉินกุมมือต่อมู่หรงเจิ้นเล็กน้อย จากนั้นหันกลับออกไป
มู่หรงเจิ้นสวมชุดสีแดงสด ท่าทางมีความสุข มู่หรงเสี่ยวโหรวที่อยู่ภายในเกี้ยวสวมมุงกุฎหงส์เพลิงและมีผ้าแพรสีแดงพันรอบชุดของนาง บนใบหน้าของนางเผยถึงความเขินอาย ผู้ที่ได้พบเห็นใบหน้าของนางส่วนใหญ่มักจะทานอะไรไม่ลงสามวันสามคืนและไม่กล้ามองหน้านางอีกเป็ครั้งที่สอง
'แม่เ้าโว้ย เ้าจะส่งพญามารไปทรมานคนอย่างนั้นหรือ?'
มันยากที่จะจินตนาการว่าบุรุษผู้นั้นจะมีชีวิตอยู่อย่างไรหลังจากที่ได้แต่งงานกับมู่หรงเสี่ยวโหรว
"หลีกไปๆ"
ในครู่ต่อมา เสียงะโดังออกมาจากคฤหาสน์เ้าเมือง ในขณะที่เจียงเฉินเดินออกมาจากประตูพร้อมกับแบกโลงศพขนาดใหญ่ไว้บนบ่า
ตึง!
เจียงเฉินโยนโลงศพไว้ตรงหน้าประตูราวกับว่ามันไม่มีอะไรพิเศษ ทำให้เกิดเสียงดังก้อง โลงศพได้หันหน้าไปยังขบวนแห่ และตัวอักษรขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน
'ล่วงลับ'
ฝูงชนต่างมองดูโลงศพที่ไม่สมควรมาตั้งอยู่ที่นี่ และทันใดนั้นพลันเงียบสงัด
นี่พวกเขาทำอะไรกัน? นำโลงศพมาในระหว่างพิธีแต่งงาน? นี่มันเป็ลางไม่ดี ไม่รู้ว่าท่านเ้าเมืองคิดอะไรอยู่?
ท่าทางของมู่หรงเจิ้นได้แปรเปลี่ยนทันที เขามองเจียงเจิ้นไห่และถามขึ้นด้วยเสียงอันดัง
"น้องเจียง นี่มันหมายความว่าอย่างไร?"
"โอ้ ขออภัย พี่ชายข้าได้จากไปเมื่อวานด้วยอาการป่วย ดังนั้นแม่นางมู่หรงทำได้เพียงแต่งงานกับศพของพี่ชายข้าเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าสภาพของเขาจะยังดีอยู่ ข้าจึงขอให้คนทำโลงศพให้กับเขา โอ้ แน่นอนว่าเขาสวมชุดเ้าบ่าวอยู่ที่นี่"
เจียงเฉินกล่าวออกมาเสียงดัง ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ยินชัดเจน
"อะไรนะ?!"
ฝูงชนะเิความใออกมาทันที พวกเขาไม่เคยพบเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน! ตระกูลมู่หรงมาเพื่อรับตัวเ้าบ่าว แต่กลับได้พบกับร่างไร้ิญญาของเ้าบ่าว ไม่ว่าเจียงลู่หรงจะตายหรือยังมีชีวิตอยู่ ชัดเจนว่านี่เป็การทำลายชื่อเสียงของพวกเขา
โดยเฉพาะ มู่หรงเจิ้นที่จัดขบวนแห่ซะใหญ่โตเช่นนี้ เพียงโลงศพของคนผู้หนึ่งก็ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาดิ่งลงเหวได้แล้ว
"เจียงเจิ้นไห่ เ้าอย่าได้ล้อเล่นกันแรงนัก!"
มู่หรงเจิ้นไม่อาจอดกลั้นความโกรธของเขาได้อีกต่อไป
"ท่านลุงมู่หรงแห่งตระกูลมู่หรง ท่านจะบอกว่าพวกเราล้อเล่นได้อย่างไร? ท่านมาที่นี่เพื่อรับตัวเ้าบ่าว แต่ท่านไม่เคยเอ่ยถึงว่าจะรับเขาทั้งมีชีวิตหรือตกตายไปแล้วมิใช่รึ"
ได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินกล่าว ทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบรู้สึกราวกับจะกระอักเืออกมา นี่มันอธิบายประเภทไหนเนี่ย?
"ฮึ่ม! เจียงเจิ้นไห่ เ้าและบุตรชายเ้า อย่าได้มาหลอกข้าซะให้ยาก เจียงลู่หรงเป็ถึงผู้เชี่ยวชาญฉีจิงระดับเก้า! เขายังลอยหน้าลอยตาอยู่เมื่อวานนี้ ไม่มีทางที่เขาจะด่วนตายไวเช่นนี้ได้!"
มู่หรงเจิ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า
"ร่างที่อยู่ภายในโลงศพนี่คือเจียงลู่หรง และหากว่าท่านไม่เชื่อข้า ท่านก็ลองเปิดออกและตรวจสอบด้วยตนเองเป็อย่างไร นอกจากนี้ เขาก็เป็หนึ่งในสมาชิกตระกูลของท่านแล้วด้วย"
เจียงเฉินกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส ขณะที่เจียงเจิ้นไห่ที่ยืนอยู่ข้างๆยังคงเงียบไม่พูดจาใดๆ เขาปล่อยให้บุตรชายของเขาจัดการเื่นี้ทั้งหมด
เจียงเจิ้นไห่พอใจมากกับการแสดงออกของเจียงเฉิน ขนาดเผชิญหน้ากับมู่หรงเจิ้นเขายังกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงปกติได้ กระทั่งโต้เถียงกับเขาอีกด้วย นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วๆไปสามารถทำได้ ผู้คนต่างรู้ว่ามู่หรงเจิ้นและเจียงเจิ้นไห่เป็ผู้เชี่ยวชาญในระดับเดียวกัน จุดสูงสุดของขอบเขตฉีไห่
"ระยำ! พวกเรามาที่นี่เพื่อรับตัวเ้าบ่าว แต่เ้ามืองกลับมอบโลงศพให้พวกเรา นี่มันไม่ต่างอะไรจากการดูถูกพวกเรา!"
ชายหนุ่มจากตระกูลมู่หรงก่นด่าออกมาเสียงดัง
"ฮ่าฮ่า....พูดได้ดีนี่ พูดก็พูดเถอะ เป็ตระกูลพวกเ้าที่มาดูถูกตระกูลพวกข้าก่อน ทุกๆคนโปรดมองให้ดีๆ มองไปยังใบหน้าของมู่หรงเสี่ยวโหรว นี่หรือคือการแสดงความจริงใจของพวกเ้าที่มีต่อตระกูลข้า? ข้าขอถามบุรุษทุกคนที่อยู่ที่นี่ หากว่าข้ามอบสตรีรูปลักษณ์อัปลักษณ์ให้แก่พวกเ้า และบอกให้พวกเ้าแต่งงานกับนาง พวกเ้าจะรู้สึกว่าโดนดูถูกหรือไม่? ใครที่้าแต่งงานกับนาง ก้าวออกมาข้างหน้าซะ!"
ขณะที่เจียงเฉินกล่าว เขาได้หัวเราะออกมาเสียงดัง เขาเปิดเผยทุกสิ่งอย่างโจ่งแจ้ง ไม่มีความจำเป็ที่ต้องไว้ไมตรีต่อศัตรู
ใบหน้าทุกคนกลายเป็เขียวคล้ำเมื่อได้ยินคำพูดของเขา 'เวร! ข้ายอมฆ่าตัวตายดีกว่าที่จะแต่งงานกับสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้'
ตระกูลมู่หรงเป็ถึงตระกูลใหญ่ พวกเขากลับจัดให้สตรีอัปลักษณ์ไปแต่งงานกับบุตรเขยตระกูลเ้าเมือง นี่ชัดเจนว่าเป็การดูถูกตระกูลเ้าเมือง
"นอกจากนี้ ข้าล่ะสงสัยจริงๆว่าสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้เป็บุตรสาวของท่านจริงๆน่ะหรือ?"
เจียงเฉินกล่าวพร้อมยิ้มเหี้ยม
"ดีมาก เ้ามีลิ้นที่เฉียบคมยิ่ง ผู้คนต่างกล่าวว่าเจียงเฉินผู้นี้เป็เพียงเ้าโง่ไร้ประโยชน์ของเมืองเทียนเซียง แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเ้าจะเป็คนที่มีความคิดล้ำเลิศเช่นนี้ เจียงเจิ้นไห่ ข้าจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไว้ จากนี้ต่อไปตระกูลข้ากับตระกูลเ้า เป็ศัตรูกัน!"
มู่หรงเจิ้นเดือดดาลอย่างมาก มุมมองที่มีต่อเจียงเฉินได้เปลี่ยนไป มู่หรงเจิ้นเป็คนฉลาด ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเป็เจียงเฉินที่เสนอให้เจียงลู่หรงแต่งงานเข้าตระกูลพวกเขา และสิ่งที่เกิดขึ่้นในวันนี้ ทุกอย่างถูกวางแผนโดยเจียงเฉิน พวกเขาได้ดูถูกตระกูลมู่หรงด้วยวิธีที่เลวร้ายที่สุด ด้วยอายุเพียงแค่นี้ กลับทำถึงขนาดนี้ได้ มู่หรงเจิ้นอดที่จะชื่นชมเจียงเฉินเล็กๆในใจมิได้
"ได้ ข้าไม่สนใจหากว่าพวกเราจะเป็ศัตรูหรือไม่ แต่ท่านลุงมู่หรง ท่านจงพาพี่ชายข้าไปด้วย และอย่าได้ลืมชดใช้ค่าโลงศพนี่มาด้วย ข้าได้จ่ายมันด้วยตนเอง และมันค่อนข้างแพงพอสมควร"
เจียงเฉินกล่าวออกมาด้วยเสียงอันดัง
หลายคนที่กำลังขี่ม้าอยู่แทบร่วงลงพื้นเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เ้าเด็กนี่มันชั่วร้ายจริงๆ
ผู้คนตระกูลเจียงต่างเป็งงกับการแสดงออกของนายน้อยทำให้พวกเขารู้สึกราวกับเป็คนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา เ้าโง่ไร้ประโยชน์ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยรู้จักย่อมไม่มีความกล้าที่จะไปยั่วโมโหมู่หรงเจิ้นโดยเด็ดขาด
แล้ว เหตุใดนายน้อยคนโตถึงตกตายอย่างกระทันหันเช่นนี้ล่ะ? เป็เพราะเขาไม่้าที่จะแต่งงานกับแม่นางมู่หรงงั้นหรือ?
แต่นั่นไม่ใช่เื่ของพวกเขานินะ ความจริงแล้วนายน้อยเป็เพียงคนเดียวที่ท่านเ้าเมืองใส่ใจ
'ไร้ยางอายยิ่งนัก! ชั่วร้ายยิ่ง! มีพร์ยิ่ง!'
นายน้อยแห่งตระกูลเจียงได้กระชากชื่อเสียงตระกูลมู่หรงดิ่งลงเหว ขบวนแห่ที่ยาวเหยียดของตระกูลมู่หรงกลายเป็ที่น่าหัวเราะของผู้คนเมืองเทียนเซียง
"ดี..... ดีมาก เจียงเจิ้นไห่ เ้ากับบุตรชายเ้าล้างคอรอข้าได้เลย ไม่นานนักหรอกก่อนที่ตระกูลของพวกเ้าจะไม่มีที่ยืนอยู่ในเมืองแห่งนี้! กลับ!"
ในขณะนี้มู่หรงเจิ้นโกรธจัด เขาเป็คนฉลาด วันนี้ถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งทำให้อับอายขายหน้าท่ามกลางสาธารณะ นี่ไม่เพียงแค่กระทบต่อชื่อเสียง แต่ยังโดนดูถูกซึ่งๆหน้า
เขาเตะม้า และรีบออกไปจากที่นี่ มู่หรงเจิ้นไม่้าที่จะลอยหน้าอยู่ที่นี่อีก เขาอับอายเกินกว่าที่จะอยู่ร่วมกับขบวนแห่
"ฮึ่ม! เจียงเฉิน วีรบุรุษที่แท้จริงไม่มีวันใช้วิธีที่ชั่วร้ายเช่นนี้ หากว่าเ้ากล้าที่จะต่อสู้ตามลำพัง ข้ามู่หรงหยิงจะทุบตีเ้าจนบิดาเ้าจำเ้าไม่ได้อีกต่อไป!"
ชายหนุ่มผู้หนึ่งกล่าวออกมาขณะที่เขาลงม้า ชี้นิ้วไปยังเจียงเฉิน มู่หรงหยิงเป็รุ่นเยาว์ที่มากด้วยพร์ของตระกูลมู่หรง ถึงแม้ว่ามู่หรงเจิ้นจะจากไปแล้ว มันก็ไม่อาจปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ พวกมันยังไม่แพ้ ดังนั้นหากว่าตัวมันสามารถต่อสู้และชนะเจียงเฉินได้ อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถกู้เกียรติยศกลับคืนโดยแสดงให้เห็นว่าอัจฉริยะแห่งตระกูลมู่หรงดีกว่าเ้าโง่ไร้ประโยชน์แห่งตระกูลเจียงมากนัก
"ใช่แล้ว เจียงเฉิน เ้ากล้ารับคำท้าหรือไม่?"
เสียงะโดังออกมาจากชายหนุ่มแห่งตระกูลมู่หรงอีกคนหนึ่งพร้อมยิ้มแสยะบนใบหน้า เจียงเฉินมันเป็แค่ขยะไร้ประโยชน์ และทุกคนต่างรู้ถึงความจริงข้อนี้ แม้ว่าเขาจะทำให้ตระกูลมู่หรงต้องอับอายต่อสาธารณชนด้วยวิธีการที่ชั่วร้าย พวกเขาก็มั่นใจว่าไม่ว่าใครในตระกูลมู่หรงก็สามารถที่จะจัดการกับเ้านี่ได้ง่ายดาย
"เ้า้าที่จะสู้กับข้างั้นรึ? ข้าน้อมรับคำท้าของเ้าด้วยความยินดี แต่ข้าจะไม่ต่อสู้กับเ้าเปล่าๆ พวกเราจำเป็ต้องมีอะไรมาเดิมพัน"
รอยยิ้มจางๆเผยบนใบหน้าของเจียงเฉิน กระทั่งเจียงเจิ้นไห่ที่ยืนถัดไปจากเขายังอดที่จะยิ้มขึ้นมามิได้ ไม่มีผู้ใดรู้ถึงความแข็งแกร่งของเจียงเฉินดีเท่ากับเขา ผู้เชี่ยวชาญฉีจิงระดับเก้าอย่างเจียงลู่หรงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงเฉิน และมู่หรงหยิงผู้นี้เป็แค่ฉีจิงระดับแปด มันไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย
"ได้ แล้วเ้าจะเดิมพันด้วยอะไร?"
มู่หรงหยิงแปลกใจเมื่อพบว่าเจียงเฉินกล้าที่จะรับคำท้าของมัน
"พวกเราจะเดิมพันด้วยโลงศพนี่ หากว่าข้าแพ้ข้าจะแขวนโลงศพนี่ไว้ที่หน้าคฤหาสน์เ้าเมืองสามวันสามคืน หากว่าเ้าเป็ฝ่ายพ่ายแพ้ ข้าจะให้เ้าแบกโลงศพนี่ไว้บนหลังและนั่งบนเบาะที่เ้าพามาที่นี่ หากว่าเ้าทำไม่ได้ เช่นนั้นพวกเ้าตระกูลมู่หรงทั้งหมดเป็เพียงแค่เต่าหัวหด"
เจียงเฉินจงใจกล่าวออกมาเสียงดัง เจียงเจิ้นไห่แอบยกนิ้วให้แก่เจียงเฉินอย่างลับๆ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเจียงเฉินช่างโหดร้ายจริงๆ ที่นีี่มีคนอยู่มากมายดังนั้นมู่หรงหยิงไม่สามารถที่จะปฎิเสธการเดิมพันได้แน่ หากว่าพวกเขาแบกโลงศพกลับไปยังบ้านเ้าสาว จะต้องเป็ตัวตลกในสายตาผู้คนในเมือง แต่หากว่ามู่หรงหยิงไม่ยอมรับ นั่นหมายความว่าคนตระกูลมู่หรงเป็แค่เต่าหัวหด ชื่อเสียงของพวกเขาคงพังป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี
เจียงเจิ้นไห่ไม่ได้คิดว่าบุตรชายของเขาทำเื่ไม่ดี ในเมื่อทั้งสองตระกูลเป็ศัตรูกัน พวกเขาไม่จำเป็ต้องไว้ไม่ตรี
"ตกลง ข้ารับปากเ้า"
มู่หรงหยิงรับคำโดยไม่ลังเล ตัวมันยังไม่ได้ฟังให้ชัดด้วยซ้ำว่าเดิมพันเื่อะไร ในความคิดของมันสู้กับเจียงเฉินไม่ต่างจากการกระทืบมด ดังนั้นจึงไม่สนใจว่าจะต้องเดิมพันอะไร
"พี่หยิง การเดิมพันนี้มันเกินไปนะ พวกเราไม่ทบทวนดูใหม่หรือ?"
ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวมาด้านหน้าและกระซิบมู่หรงหยิง
"อย่าห่วงไปเลย เ้าขยะนี่เป็เพียงฉีจิงระดับหนึ่ง สู้กับมันก็เหมือนทุบตีสุนัข คอยดูเถอะว่ามันจะแขวนโลงศพไว้หน้าคฤหาสน์เ้าเมืองสามวันสามคืนอย่างไร?"
บนใบหน้าของมู่หรงหยิงเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและหยิ่งผยอง ไม่เห็นเจียงเฉินอยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง
ผู้คนเริ่มมารายล้อมด้วยความสนใจ มู่หรงเจิ้นได้กลับไปแล้ว พวกเขาคิดว่างิ้วสนุกได้จบลงแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าชายหนุ่มทั้งสองจะมีเื่กัน การเดิมพันนี้มิใช่เื่เล็กน้อย นำชื่อเสียงและเกียรติยศของตนเองมาเดิมพัน ทั้งสองฝ่ายเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ หลายๆคนให้ความสนใจต่อเจียงเฉิน พวกเขา้าจะเห็นว่า เ้าขยะไร้ประโยชน์จะต่อสู้กับมู่หรงหยิงซึ่งเป็ผู้เชี่ยวชาญฉีจิงระดับแปดได้อย่างไร
