รถแท็กซี่ซานทาน่าสีเหลืองพาเซียวฉี่เข้ามาบริเวณทุ่งหญ้า ทางขรุขระทำให้รถโคลงเคลง ขณะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ผู้คนอย่างรวดเร็ว
จิตหยั่งรู้ของเย่เฟิงแผ่ออกไป นึกไม่ถึงเลยว่าชายหน้ากากหัวกะโหลกจะเป็คนขับรถ เย่เฟิงมั่นใจมากว่าเป็เขา หลังจากเขากับเซียวฉี่มาถึง ความจริงคงกระจ่างเสียที
เอี๊ยด! แกร๊ก!
รถคันนั้นหยุดอยู่ไม่ห่างจากทุกคนนัก ประตูรถถูกเปิดออก เซียวฉี่รีบลงจากรถ เมื่อเห็นหลินซือฉิงกับเย่เฟิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ซือฉิง ค่อยยังชั่วที่พวกเธอไม่เป็อะไร” เซียวฉี่วิ่งเข้ามา พูดพลางตบหน้าอกตัวเองไปด้วย
“เสียวฉี่ ฉันเป็ห่วงเธอมากเลย” หลินซือฉิงเอ่ยด้วยสีหน้าเป็ห่วง “เธอเป็ยังไงบ้าง ไม่ได้เกิดเื่ใช่ไหม?”
“ฉันไม่เป็อะไรเลย โชคดีที่ได้...” เซียวฉี่พยักหน้าอย่างดีใจ พูดไปยิ้มไปอย่างกระปรี้กระเปร่า เมื่อเหลือบมองเย่เฟิงแล้วเห็นว่าเขาถูกคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจับตัวไว้ก็ไม่พอใจ “พวกคุณจับเขาด้วยเหตุผลอะไร? เขาเป็คนช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าไม่ได้เขา ป่านนี้แผนการชั่วๆ ของไช่เฉ่าหงคงสำเร็จไปแล้ว!”
“แผนการของไช่เฉ่าหงเหรอ? ช่วยบอกทีว่ามันคือเื่อะไร” หลินซือฉิงมึนงงชั่วขณะ ก่อนถามอย่างร้อนรน
“ข้อมูลทุกอย่างอยู่ที่นี่แล้ว” ขณะพูด เซียวฉี่ก็เปิดกระเป๋าสะพายแล้วหยิบเอกสารปึกใหญ่ออกมา เธอมองเย่เฟิงอีกครั้งก่อนยิ้มกริ่ม “ไม่ต้องกังวลนะ ไม่เป็ไรแล้ว พอมีหลักฐานพวกนี้ พวกเขาจะไม่ทำให้คุณต้องลำบากใจ”
คำพูดเหล่านี้เหมือนกำลังปลอบโยนเด็กน้อย ทำให้เย่เฟิงอดยิ้มมุมปากไม่ได้ สาวน้อยคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ
“เอาหลักฐานพวกนี้มาจากไหนเนี่ย?” หลินซือฉิงเข้ามาช่วยหลินเต๋อเทียนและคนอื่นๆ ดูหลักฐาน สักพักสีหน้าของคนทั้งหมดพลันเปลี่ยนไป
ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงกระดาษเท่านั้น แต่ยังมีฮาร์ดดิสก์แบบพกพาและแฟลชไดรฟ์ด้วย ข้อมูลในเอกสารล้วนเป็แผนงานเกี่ยวกับการปฏิบัติการในประเทศจีนทั้งหมดของไช่เฉ่าหงและเพ่ยเค่อกรุ๊ป! หลักฐานเหล่านี้ไม่สามารถรวบรวมได้ในหนึ่งวันแน่
“ซือฉิง เธอคงไม่รู้ว่าเสี่ยวจ้าวคนนั้น เอ่อ จ้าวิเจ๋อน่ะ เมื่อหนึ่งปีก่อนเขาถูกไช่เฉ่าหงจ้างคนฆ่าล้างตระกูล!” ขณะที่เซียวฉี่พูด ใบหน้าน่ารักอ่อนวัยก็แสดงความรังเกียจ “เขาจึงเปลี่ยนชื่อแซ่แล้วเข้าหาไช่เฉ่าหง เพื่อหาทางแก้แค้น...”
ที่แท้ก็เป็เขานี่เอง!
เมื่อเย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็นึกถึงตอนที่ตนสะกดรอยตามไช่เฉ่าหง เขาเห็นผู้ชายท่าทางตุ้งติ้งคนนั้นอยู่กับไช่เฉ่าหงตลอด ไม่นึกว่าจะเป็คนของสำนักประตู์ใต้ ซ้ำยังซ่อนตัวอยู่ข้างกายไช่เฉ่าหงมาตั้งหนึ่งปี!
อย่างไรก็ตามเขาไม่เหมือนชายหน้ากากหัวกะโหลกเลยสักนิด ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา! ไม่เพียงมีความอดทนสูงมาก ยังมีความคิดละเอียดอ่อน กุมเื่ทุกอย่างไว้ในมือ และที่สำคัญคือรู้จักคว้าโอกาสจนร่วมมือกับเย่เฟิงฆ่าไช่เฉ่าหงได้สำเร็จ
“ความจริงเสี่ยวจ้าวคนนั้นคือใครเหรอ? ครอบครัวที่ถูกฆ่ายกครัวเมื่อหนึ่งปีก่อนก็มีแค่...” หลินซือฉิงกล่าวพร้อมเงยหน้ามองพ่อของเธอ
หลินเต๋อเทียนสบตาเหลยิ ต่างฝ่ายต่างรู้ความหมายในดวงตาของกันและกัน “คดีฆ่าล้างตระกูลสำนักประตู์ใต้ ไม่นึกเลยว่าไช่เฉ่าหงเป็คนบงการให้นักล่าิญญาลงมือ!”
“มีวิดีโออยู่ในฮาร์ดดิสก์แบบพกพาจำนวนมาก เป็บันทึกการดำเนินการลับๆ บางอย่างของไช่เฉ่าหง...” เซียวฉี่อธิบายต่ออีกว่าข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไชเฉ่าหงจะเป็หลักฐานมัดตัวอย่างแ่า!
ขณะที่เธอพูดก็ยังไม่หยุดส่งสายตาซาบซึ้งให้เย่เฟิง หากไม่ได้เขาช่วย ชีวิตของเธอคงถูกไช่เฉ่าหงทำลายไปแล้ว จะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ได้หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ บุญคุณช่วยชีวิตยากลืมเลือน! โดยเฉพาะเด็กสาวเพิ่งมีความรัก ราวกับได้พบฮีโร่ในดวงใจ
เมื่อเห็นสายตาของเซียวฉี่ หลินซือฉิงก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือเด็กผู้หญิงคนนี้เริ่มหวั่นไหวแล้ว? เธอไม่รู้ว่าเพื่อนของตนต้องเจอกับอะไร เกือบโดนหลินซิวเหวินขืนใจในบ้านของตัวเอง วันต่อมาที่ห้องใต้ดินในบ้านพักของไช่เฉ่าหง ยังเกือบถูกสัตว์ประหลาดทั้งห้าย่ำยี ต้องเข้าใจว่าเธอใช้ชีวิตสงบสุขในเมืองเยี่ยนจิงมาตลอด แม้แต่การชกต่อยก็ไม่เคยเห็น พอต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กะทันหัน จิตใจคงพังทลาย ใน่เวลาแห่งความเป็ความตาย ชายสวมหน้ากากก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเธอและช่วยเธอให้พ้นจากอันตรายทั้งสองครั้ง จะไม่ให้เธอเกิดความรู้สึกนี้ได้อย่างไร?
แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่สนใจจุดนี้เลยสักนิด ตอนนี้เขาจดจ่ออยู่กับการโคจรพลังภายในวิถีเซียนของเคล็ดสุสานดวงดาวอย่างเต็มกำลังเท่านั้น ในที่สุดพลังลมปราณที่ถูกยับยั้งก็เลื่อนขึ้นเป็ห้าปีแล้ว!
ได้เวลาลงมือแล้ว!
เขาไม่้าถูกจับเข้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ การทรมานอย่างไร้ความปราณีนั่น และที่สำคัญคือซูเมิ่งหานกำลังรอเขาอยู่
“งั้นทำอย่างนี้แล้วกัน” เมื่อเย่เฟิงตัดสินใจแล้ว พริบตาเดียวพลังชี่ก็เดือดพล่านทั่วร่าง ก่อนรวมกันที่ขาทั้งสองข้างของเขา
ย่างก้าวไร้เงา!
แรงที่ส่งจากใต้เท้าทำให้เขาหลุดจากพันธนาการของสมาชิกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติทั้งสองคนในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จากนั้นร่างของเขาก็กลายแสงสว่างวาบ ทิ้งไว้เพียงภาพเงาอยู่ที่เดิมและหายไปในความมืดมิดอย่างรวดเร็ว
ก่อนหนีออกมา ชายหนุ่มเหลือบมองชายหน้ากากหัวกะโหลกที่อยู่ในรถซานทาน่า และพบว่าอีกฝ่ายมองมาทางเขาเช่นกัน ทั้งยังยกนิ้วให้เขาด้วย จากนั้นติดเครื่องยนต์ เหยียบคันเร่งแล้วออกรถทันที แต่คาดไม่ถึงว่าจะพุ่งไปทางที่หลินซือฉิงกับคนอื่นๆ ยืนอยู่
“ระวัง!!!” ฉับพลันสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหน้าเปลี่ยนสี
ไม่มีใครคาดคิดเลยจริงๆ คนที่โดนยิงจุดชีพจรสี่นัดยังสามารถใช้พลังลมปราณเพื่อหลบหนีได้! พวกเขาย่อมไม่รู้ว่าเย่เฟิงไม่ได้ฝึกฝนพลังลมปราณภายใน แต่เป็พลังที่แท้จริงหรือพลังชี่นั่นเอง
คนเ่าั้ยังไม่ทันเคลื่อนไหว ชายหน้ากากหัวกะโหลกก็ขับรถพุ่งมาใกล้อย่างรวดเร็ว!
ใน่ชุลมุน ผู้คนต่างวิ่งหาที่หลบ แต่ใครจะรู้ว่ารถแท็กซี่สีเหลืองคันนี้ขับมาตรงหน้าพวกเขาแล้วหักพวงมาลัยในระยะประชิดจากนั้นเหยียบคันเร่งหนีออกไป เหลือไว้แค่ควันรถและฝุ่นตลบอบอวลเป็ทาง
“สกัดเขาไว้!” เหลยิออกคำสั่งทันที ทหารของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่อยู่ด้านข้างยกปืนในมือขึ้นพร้อมยิงสกัดรถคนนั้น
“เฮ้ยๆๆ พวกคุณอย่ายิงมั่วนะ!” เซียวฉี่เห็นเหตุการณ์นี้ก็รีบวิ่งไปขวางหน้าพวกเขาแล้วจ้องตาเขม็ง “พวกเขาไม่มีความผิด พวกคุณมีเหตุผลอะไรไปจับพวกเขา?”
เมื่อถูกเธอขวางไว้อย่างนี้ ทหารหลายคนก็ได้แต่มองหน้ากัน เวรเอ๊ย นี่มันเื่บ้าอะไรวะเนี่ย?
“เสียวฉี่ เธอ...” คิ้วเรียวสวยของหลินซือฉิงขมวดแน่นขณะมองเซียวฉี่ เธอเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง สาวน้อยคนนี้กับเสี่ยวจ้าวตกลงกันมาก่อนล่วงหน้าแล้วใช่ไหม?
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า ชายหน้ากากหัวกะโลกผู้เป็คนขับรถแท็กซี่ซานทาน่าสีเหลืองคือเสี่ยวจ้าวหรือจ้าวิเจ๋อ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคุ้มกันให้ ‘โม่จิ่วเกอ’ หลบหนีไป สุดท้ายให้เซียวฉี่ก่อความวุ่นวายเพื่อป้องกันคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไล่โจมตี ทุกคนรู้แล้วว่า จ้าวิเจ๋อไม่ใช่จ้าวิเจ๋ออีกแล้ว แต่เป็ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างตระกูลประตู์ใต้...
สรุปได้ว่า ตอนนี้ชายสวมหน้ากากทั้งสองคนและเซียวฉี่ พวกเขายืนอยู่ข้างเดียวกัน!
หลินซือฉิงหาคำตอบอยู่พักหนึ่ง เมื่อเหลือบมองเซียวฉี่ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงลุกขึ้นมาขวางกองกำลังสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ “ช่างมันเถอะ พ่อคะ ไม่ต้องตามแล้ว”
หลินเต๋อเทียนเห็นอย่างนี้แล้วก็ขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจความคิดของลูกสาวตัวเอง “ทำไมวันนี้ลูกถึงทำงานโดยใช้อารมณ์เป็ที่ตั้งล่ะ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้