คนทั่วไปย่อมไม่สามารถเรียนรู้ทักษะของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาได้ แต่ทักษะยุทธศาสตร์ครอง์ของหนิงเทียนนั้นมีพลังในการยึดครองทุกสิ่งบน์ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าทักษะของเถาวัลย์หัวผีพันิญญา เพียงแต่ว่าขอบเขตของหนิงเทียนยังต่ำเกินไปและเขายังขาดความเข้าใจในหลายสิ่ง
การต่อสู้กับเถาวัลย์หัวผีพันิญญาช่วยเปิดโลกทัศน์ของหนิงเทียน เขาถูกพัดร่างกระเด็นไปมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดาแมากมายบนร่างกาย
ซิ่งอวี่เจวียนแสดงท่าทีกังวล นางอดที่จะกลัวไม่ได้เพราะเถาวัลย์หัวผีพันิญญาทรงพลังอย่างมาก แม้กระทั่งชิวซานอวิ๋นก็ยังกลัวมัน
จิติญญาการต่อสู้ของหนิงเทียนยังไม่ลดลง จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของเขายามนี้ คือ เขาไม่ได้อยู่ในขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นหกอย่างสมบูรณ์ แต่โชคดีที่แหล่งกำเนิดของชีวิตสามารถยับยั้งเถาวัลย์หัวผีพันิญญาได้ ดังนั้น แม้จะเสียเปรียบแต่เขาก็ไม่ตื่นตระหนก
ทว่าพลันสีหน้าของหนิงเทียนก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตรายครั้งใหญ่
ยันต์ในร่างของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวออกมา ทำให้เถาวัลย์บานสะพรั่งด้วยแสงราวกับร่างของมันกำลังลุกไหม้
หนิงเทียนเกิดอาการแสบร้อนและมองเห็นสัญญาณการตื่นขึ้นของแผนที่จิติญญายันต์กระดาษ ซึ่งก็คือการเคลื่อนไหวขั้นสูงสุดของเถาวัลย์หัวผีพันิญญา
เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วและน้ำเต้าเจ็ดสีก็ปรากฏขึ้นทันที แสงสีเงินเปี่ยมไปด้วยพลังอันลึกลับ เมื่อพลังนี้เข้าต้านทานแสงแห่งการทำลายล้างของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาก็ก่อเกิดเป็สนามพลังที่ปะทะกันอย่างดุเดือด
ซูอวิ๋น ชิวซานอวิ๋น และสตรีชุดม่วงที่กำลังเฝ้าดูการต่อสู้ในบริเวณใกล้เคียงต่างก็รู้สึกถึงภัยคุกคามครั้งใหญ่ และถอยไปข้างหลังสองสามจั้งตามสัญชาตญาณ
“เ้าหนู ข้าจะแสดงให้เ้าเห็นถึงความโเี้ของยันต์พันิญญาสาปแช่ง์!” เถาวัลย์หัวผีพันิญญาปล่อยรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง ทันใดนั้นยันต์กระดาษก็โผล่ออกมาจากร่างที่เปล่งประกาย ขนาดของมันยาวประมาณหกชุ่นและกว้างประมาณสี่ชุ่น ด้านในมีแผนที่จิติญญาที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง ซึ่งมีทั้งหมดเจ็ดชั้นราวกับหอคอย
อานุภาพของยันต์กระดาษนี้น่ากลัวมาก ทั้งคัมภีร์หลิงฮวงและภาพพันทิวเขาเหมันต์ต่างก็ล่าถอยอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นร่างกายของหนิงเทียนก็ตึงเครียด จิตสังหารได้ปลุกกล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตในร่างให้ตื่นขึ้น และทักษะจิตรกรรมิญญาไร้ลักษณ์ก็ปรากฏในใจของเขาทันที
เมื่อหนิงเทียนหยิบพู่กันออกมา แสงบนปลายนิ้วก็เปล่งประกาย ขณะที่เขาโบกพู่กันิญญา เถาวัลย์ั์ก็ปรากฏขึ้นในห้วงอากาศ ลำต้นหนึ่งมีเก้ากิ่งและมีอาวุธิญญาเก้าชิ้นอยู่บนนั้น และนี่คือสิ่งที่หนิงเทียนเคยเห็นในหลุมั์
ทันทีที่เถาวัลย์ั์ปรากฏขึ้น มันก็เปล่งประกายด้วยแสงเจิดจ้า อาวุธิญญาทั้งเก้าสั่นไหวในเวลาเดียวกัน แล้วปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวซึ่งล้วนพุ่งไปยังน้ำเต้าเจ็ดสีบนหัวของหนิงเทียน
ห้วงอากาศคำราม วงล้อสั่นะเื น้ำเต้าเจ็ดสีฟื้นพลังด้วยความเร็วที่น่าเกรงขาม หลังจากแสงสีเงินบนพื้นผิวทอประกายก็ปรากฏแสงสีทอง สีน้ำเงิน และสีฟ้าขึ้นตามลำดับ
ทุกครั้งที่ฉายแสง คลื่นผันผวนของน้ำเต้าเจ็ดสีจะเพิ่มขึ้นสองเท่า ซึ่งยามนี้มันเริ่มเผชิญหน้ากับแผนที่จิติญญายันต์กระดาษได้แล้ว
ดอกบัวบานสะพรั่งใต้ฝ่าเท้าของหนิงเทียน เขากำลังหลีกเลี่ยงมันอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้ โดยพู่กันในมือก็วาดภาพสัตว์อสูรและอสูริญญาจำนวนหนึ่งไปด้วย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในจุดสูงสุดของระดับสาม อีกทั้งยังขับเคลื่อนน้ำเต้าเจ็ดสีอย่างบ้าคลั่งไปพร้อมกัน
นี่คือความเก่งกาจของหนิงเทียน มันเป็เื่ยากที่จะเปิดใช้น้ำเต้าเจ็ดสีด้วยความแข็งแกร่งของขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นหก ดังนั้น เขาจึงใช้ทักษะจิตรกรรมิญญาไร้ลักษณ์เพื่อวาดร่างสัตว์อสูรและอสูริญญาระดับสามออกมา แล้วให้พวกมันร่วมมือกันเปิดใช้น้ำเต้าเจ็ดสี
“เปล่าประโยชน์! แม้แต่เหล่าเทพและปีศาจยังต้องถอยทัพให้กับการสังเวยพันิญญาสาปแช่ง์ แม้ความแข็งแกร่งของข้าในยามนี้จะน้อยลงหนึ่งระดับ แต่ก็เพียงพอที่จะทำลายทุกสิ่งที่นี่!” เถาวัลย์หัวผีพันิญญาปล่อยเสียงหัวเราะอันชั่วร้ายออกมา และใบเถาวัลย์เหี่ยวเฉาคล้ายใบหน้าผีที่กำลังร่ำไห้ต่างก็ขานชื่อหนิงเทียนและสาปแช่งเขาให้ตาย
หนิงเทียนหมุนยุทธศาสตร์ครอง์ ขณะนี้หยดน้ำสีสันสดใสซึ่งบรรจุแหล่งกำเนิดของชีวิตบนแผนที่ิญญาธาราในเส้นลมปราณที่ห้าก็เริ่มหมุนอย่างบ้าคลั่ง พร้อมทั้งปล่อยลำแสงหลากสีส่องสว่างอวัยวะภายในของหนิงเทียน ราวกับไม่มีความชั่วร้ายใดจะรุกรานเข้ามาได้
น้ำเต้าเจ็ดสีกำลังหมุนกลางอากาศ ยามนี้สีที่ห้าได้ปรากฏขึ้นแล้ว ซึ่งบ่งบอกว่าถึงขีดจำกัดที่อสูรระดับสามจะสามารถเปิดใช้ได้
“หยุดคุยโวแล้วดูข้ากำราบเ้าเถอะ!”
ทันใดนั้นน้ำเต้าเจ็ดสีก็พุ่งเข้าหายันต์กระดาษ แล้วระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้นในห้วงอากาศ
เถาวัลย์หัวผีพันิญญายิ้มอย่างชั่วร้าย พลันกลายร่างเป็เถาวัลย์สีดำคล้ายมนุษย์ มันตบฝ่ามือขวาหนึ่งครั้งและพลังจากฝ่ามือก็ก่อให้เกิดสายฟ้าสีดำทะมึน
ดวงตาของหนิงเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขานึกย้อนถึงการต่อสู้กับสือเสียวเป่าในเวลานั้น ทั้งคู่อยู่ในขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นห้าและพวกเขาก็ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง
ทว่าระดับของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาเทียบเท่ากับขอบเขตผนึกดาราขั้นเก้า การฝึกฝนของมันย่อมสูงกว่าหนิงเทียนมาก และเขาต้องประสบความสูญเสียอย่างแน่นอนหากเขาต่อสู้อย่างหนัก ดังนั้น เขาจึงผสานแหล่งที่มาของชีวิตเข้ากับศิลปะหมัดและทักษะกระบี่
“สังหาร!” หนิงเทียนปล่อยกำปั้นออกไปเผชิญหน้ากับสายฟ้าสีดำทะมึนของเถาวัลย์หัวผีพันิญญา แสงกระบี่ดุจเข็มแทงทะลุสายฟ้า ทำให้เกิดการพังทลายของห้วงอากาศและหนิงเทียนก็ปลิวไปทันที
มือขวาของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาถูกกัดกร่อนโดยแหล่งกำเนิดของชีวิต มันเร่งตัดข้อมือที่แข็งแกร่งของตนออก ก่อนจะงอกขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง
ลวดลายสีทองทั่วร่างของหนิงเทียนพังทลายลง หยดเืปรากฏบนิั ยามนี้เขาได้รับาเ็สาหัสแล้ว
“อีกครั้ง! ห้วงอากาศแตกสลาย ตั้งอาณานิคมบน์!”
จิตใจของหนิงเทียนกำลังปั่นป่วน เมื่อทักษะกระบี่ผสานกับการรุกรานของยุทธศาสตร์ครอง์ ก็พร้อมที่จะเจาะทะลวงนำแหล่งที่มาของชีวิตเข้าสู่ร่างเถาวัลย์หัวผีพันิญญา เพื่อะเิจากภายในและชำระล้างมันโดยตรง
ทว่าเถาวัลย์หัวผีพันิญญาหาได้เกรงกลัวไม่ ศีรษะมนุษย์ปรากฏขึ้นบนหมัดราวกับิญญาชั่วร้ายจากนรก จากนั้นพลังแห่งคำสาปสีดำสนิทราวน้ำหมึกก็สร้างเกราะสีดำทมิฬขึ้นในพริบตา
หมัดของหนิงเทียนมีความแข็งแกร่งถึงหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยจิน ซึ่งเกินขีดจำกัดของั์หนึ่งแสนตน และภายใต้การนำทัพของทักษะกระบี่ มันจึงกลายเป็เส้นตรงแทงทะลุเกราะสีดำ ก่อนจะเข้าสู่ร่างของเถาวัลย์หัวผีพันิญญา
ในเวลาเดียวกันก็เกิดการปะทะกันระหว่างน้ำเต้าเจ็ดสีกับยันต์กระดาษ แผนที่จิติญญาบนยันต์นั้นคือหอคอยเจ็ดชั้น ซึ่งห้าในเจ็ดก็อยู่ในสภาพตื่นตัว
น้ำเต้าเจ็ดสีซึ่งหนักราวกับูเากดทับลงบนหอคอยยันต์กระดาษ แสงสว่างสาดส่องระหว่างกัน การเสียดสีและการกระทบกระทั่งล้วนทำให้เกิดการะเิในห้วงอากาศ
ซิ่งอวี่เจวียนเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง นางพบว่าน้ำเต้าเจ็ดสีและยันต์กระดาษดูเหมือนจะแยกจากกันไม่ออกและไม่สามารถปราบกันเองได้ พวกมันทำได้เพียงสกัดพลังกันเท่านั้น
กุญแจสำคัญที่แท้จริงอยู่ที่หนิงเทียนและเถาวัลย์หัวผีพันิญญา ทั้งสองฝ่ายต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตน ทั้งยังพยายามห้ำหั่นกันอย่างหนักเพื่อสังหารอีกฝ่าย และทั้งคู่ต่างก็ได้รับาเ็สาหัส
แหล่งกำเนิดชีวิตของหนิงเทียนสามารถชำระล้างเถาวัลย์หัวผีพันิญญาได้ แต่ระดับพลังของเถาวัลย์นั้นเหนือกว่าเขา ทั้งสองฝ่ายจึงฟาดฟันกันอย่างเต็มที่ตามจุดแข็งของตนและ้าทำลายฝ่ายตรงข้ามอย่างสุดใจ ซึ่งผลที่ได้คือทั้งคู่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่
ซูอวิ๋นและชิวซานอวิ๋นหันมาสบตากัน หากหนิงเทียนสิ้นใจด้วยน้ำมือของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาก็ช่าง แต่ถ้าเขาไม่ตายก็แค่สังหารเขาในยามที่เขากำลังเพลี่ยงพล้ำ
ทันใดนั้นน้ำเต้าเจ็ดสีและยันต์กระดาษก็ถอยกลับเข้าไปในร่างของหนิงเทียนและเถาวัลย์หัวผีพันิญญาด้วยเสียงดังสนั่น
“หนิงเทียน เอาเช่นนี้เป็อย่างไร? ข้าจะบอกความลับของวงล้อนี้แก่เ้า แต่เ้าต้องไม่ยุ่งกับข้าอีก”
หนิงเทียนกลอกตาพร้อมบ่นพึมพำ “นั่นขึ้นอยู่กับว่าความลับของวงล้อมิติลี้ลับมีค่าหรือไม่”
เถาวัลย์หัวผีพันิญญาหัวเราะอย่างน่ากลัว มันมองไปรอบๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “วงล้อมิติลี้ลับและประตูทั้งเก้าเชื่อมถึง์มีโครงสร้างมิติเคลื่อนย้ายซ่อนอยู่ หากเ้าเข้าใจความลึกลับได้ เช่นนั้น... ฮะฮ่า!”
“เ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเื่ไร้สาระนี้หรือ? เยาเยา!”
พลันทหาริญญาเยาเยาปรากฏตัวขึ้นข้างกายหนิงเทียน พร้อมใช้รากแทงทะลุแผ่นหิน จากนั้นต้นท้อก็เริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว
“ข้าสัญญากับสุ่ยหลิงว่าจะสังหารเ้า เ้าจงรับมันไป!” หนิงเทียนยืนขึ้นแล้วลอยกลางอากาศ เขาใช้ทะยานหลงเงาตัดผกาและทะลวงพันชั้นพุ่งเข้าหาเถาวัลย์หัวผีพันิญญาอย่างรุนแรง
“เ้าโง่! นางย่อมรู้ว่าเ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้ การโจมตีดังกล่าวสมเหตุสมผลหรือไม่?” เถาวัลย์หัวผีพันิญญาพุ่งไปข้างหน้า และสามารถต้านทานความเสื่อมโทรมของแหล่งกำเนิดชีวิตและระงับการโจมตีของหนิงเทียนได้
หนิงเทียนยิ้มเ้าเล่ห์ก่อนจะเปลี่ยนยุทธวิธีอย่างกะทันหัน เขาอาศัยการเคลื่อนไหวของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาแล้วตอบโต้กลับไปด้วยรูปแบบเดียวกัน
“หึ! เ้าเด็กเหลือขอ กล้าดีอย่างไรมาเรียนรู้วิธีเถาวัลย์ของข้า? สมควรตาย!” เถาวัลย์หัวผีพันิญญาโกรธจัด สายฟ้าปรากฏบนใบเถาราวกับอักขระที่บรรจุพลังสายฟ้าสีดำ ซึ่งประกอบด้วยอำนาจอันน่าหวาดหวั่น
ทักษะม่านตาคู่ของหนิงเทียนมองเห็นกระแสน้ำวนน่าประหลาดในร่างของเถาวัลย์หัวผีพันิญญา อีกทั้งยังเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและจัดเรียงเป็แถวตามรูปแบบที่ค่อนข้างลึกลับ
ความแข็งแกร่งของเถาวัลย์หัวผีพันิญญายามนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก กิ่งก้านและใบเถาของมันเป็เหมือนอวัยวะที่คอยกลืนกินพลังฟ้าดิน
“ช่างเป็วิธีที่แปลกและลึกลับเสียจริง” หนิงเทียนยอมรับและพยายามจำลองมันด้วยยุทธศาสตร์ครอง์ ก่อนจะพบว่าสามารถใช้งานได้จริง
ทันใดนั้นข้างกายของเขาก็ปรากฏดวงตาเปลวเพลิงสีแดงทองคู่หนึ่ง ซึ่งทำให้นึกถึงตะเกียงสัมฤทธิ์โบราณบนฝาโลงศพไม้สีดำ
ดวงตาคู่นี้เป็สีแดงและสีทอง สามารถมองทะลุภาพลวงตาและจับภาพการสร้างกระแสน้ำวนในร่างของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาได้ และด้วยการอนุมานของเลขเก้าหลักก็ทำให้หนิงเทียนก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
วังวนพลังเริ่มปรากฏขึ้นทีละแห่งในเส้นลมปราณทั้งเก้าของหนิงเทียน ทุกวังวนล้วนมีอำนาจในการกลืนกินที่สูงส่ง ซึ่งแตกต่างจากพลังการของทักษะยุทธศาสตร์ครอง์ และยามนี้มันก็มีความเที่ยงตรงและรัดกุมมากขึ้น
“กระแสน้ำวนนี้สามารถรวมเข้ากับพลังหมัดและปราณกระบี่ได้หรือไม่?”
เมื่อความคิดนี้แวบขึ้นมาในใจของหนิงเทียน เขาก็เริ่มทดลองทันที
คราแรกมักไม่ราบรื่นมากนัก กระแสน้ำวนแตกกระจายทันทีที่เริ่มก่อตัว แต่เมื่อหนิงเทียนพยายามอย่างหนักครั้งแล้วครั้งเล่า ในไม่ช้าเขาก็พบหนทาง
เถาวัลย์หัวผีพันิญญายิ้มเ้าเล่ห์และพูดว่า “เ้าฉลาดมาก แต่เ้ากลับทำเื่โง่เขลาเสียแล้ว เ้าอาจเรียนรู้วิชาอเวจีทมิฬกลืนกินของข้าได้ แต่เ้าคงลืมไปว่านี่เป็เต๋าของข้า การใช้มันสู้กับข้าจะไม่เป็การรนหาที่ตายหรือ?”
หนิงเทียนใมาก ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เถาวัลย์หัวผีพันิญญาไม่ให้โอกาสเขาได้เปลี่ยนกระบวนท่า มันใช้วิชาอเวจีทมิฬกลืนกินซึ่งเป็ทักษะโดยกำเนิดเชื่อมต่อกับร่างกายของเขาแล้วควบคุมกระแสน้ำวนสีดำทันที ทั้งยังกลืนกินพลังชีวิตของเขาอย่างบ้าคลั่ง
หนิงเทียนคำรามด้วยความโกรธ ทว่าแววตากลับฉายแววเยาะเย้ย
“หากข้าไม่ให้โอกาสเ้า เช่นนั้นเ้าจะโดนหลอกได้หรือ?”
แผนที่ิญญาธาราในเส้นลมปราณที่ห้าของหนิงเทียนส่งพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง แหล่งกำเนิดชีวิตที่มีสีสันโปร่งใสพุ่งเข้าหาเถาวัลย์หัวผีพันิญญาอย่างแข็งขัน
พร้อมกันนั้นพลังบุกรุกของยุทธศาสตร์ครอง์ก็ะเิออกมาด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมด เมื่อเถาวัลย์หัวผีพันิญญารู้สึกถึงความผิดปกติและ้ายุติการเชื่อมต่อ มันก็ถูกยุทธศาสตร์ครอง์ที่ผสานกับวิชากระบี่เลื่อนลอยไร้แก่นบังคับให้ต้องรีบหนี
“เ้าบ้าหนิงเทียน! ข้าจะไม่ยกโทษให้เ้า ข้าขอตายไปพร้อมกับเ้า!” เถาวัลย์หัวผีพันิญญาขู่คำรามด้วยความโกรธแค้น เสียงของมันเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ
ยามนี้มันเสียสติไปแล้ว มันเริ่มะเิยันต์กระดาษในร่าง แผนที่จิติญญา้าเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัว หอคอยเจ็ดชั้นพังทลายลงอย่างรวดเร็ว และลำแสงแห่งการทำลายล้างก็ปกคลุมร่างของทั้งคู่
หนิงเทียนใมาก เขาใช้วิชาอเวจีทมิฬกลืนกินเพื่อล่อเถาวัลย์หัวผีพันิญญา แต่ไม่คาดคิดว่าเถาวัลย์นั่นจะโเี้ถึงเพียงนี้ ทั้งยังไม่ลังเลใจที่จะตายไปด้วยกัน
“คิดปราบข้าหรือ?” หนิงเทียนคำรามอย่างดุเดือด
พลันน้ำเต้าเจ็ดสีปรากฏขึ้น พร้อมด้วยแส้เถาวัลย์ัซึ่งอยู่ในแผนที่จิติญญาที่สี่ ตลอดจนกายาสุวรรณะนิรันดร์ก็ถูกเรียกใช้เพื่อปกป้องร่างกาย
หนิงเทียนเรียกใช้ทุกทักษะวิชาในทันที ทว่ามันสายเกินไปแล้ว
