ท่ามกลางความเงียบสงัดของราตรี แสงตะเกียงสลัวส่องผ่านบานหน้าต่างของเรือนใหญ่ เสียงทุบประตูดังลั่นทำให้บรรยากาศที่เคยสงบเงียบพังทลายลงทันที
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงทุบประตูดังราวกับพายุโหม
"ท่านพ่อ! แย่แล้ว ท่านพ่อ!!" เว่ยเจินหงะโสุดเสียง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนรนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายในห้องนอน แม่ทัพเว่ยซ่างเทียนที่กำลังเอนกายอยู่บนตั่งไม้ขมวดคิ้วแน่นด้วยความขัดใจร่างใหญ่โตของเขาลุกขึ้นช้าๆ ดวงตายังไม่ทันลืมเต็มที่ เสียงะโของบุตรชายก็ยังดังไม่หยุด
"เว่ยเจินหง! เ้าคิดจะทำอะไรยามวิกาลเช่นนี้ ตัวเ้าไม่ได้รู้เลยหรือว่ามีแขกคนสำคัญอยู่ในจวน!" น้ำเสียงของแม่ทัพเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่ก่อนที่เขาจะได้ว่าอะไรต่อ เสียงบุตรชายก็ะโสวนขึ้นมาทันที
"ท่านพ่อ! ท่านโปรดฟังข้าเถิด! นี่ไม่ใช่เื่ล้อเล่น! มันเกี่ยวพันกับชะตาของตระกูลเราว่าเป็หรือตาย!!"
ครืดด…ประตูบานใหญ่เปิดแง้มออกในที่สุด เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพเว่ยซ่างเทียนที่เพิ่งตื่นจากนิทรา ใบหน้าของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความหงุดหงิด คิ้วขมวดแน่น ดวงตาแดงเรื่อจากการพักผ่อนไม่เต็มที่แต่ก่อนที่เว่ยซ่างเทียนจะกล่าวอะไร เว่ยเจินหงก็โถมตัวเข้าไปภายในห้องอย่างร้อนรน ปิดประตูตามหลังเสียงดัง
ร่างกายของเขายังคงสั่นเทาเล็กน้อยจากพิษสุราและความตึงเครียด ในขณะที่เบื้องหน้าของเขา แม่ทัพเว่ยซ่างเทียนยืนตระหง่าน สีหน้าเ็า แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองกลิ่นสุราฉุนเฉียวแตะจมูกทันทีที่บุตรชายของเขาเข้าใกล้
“นี่เ้าไปดื่มมาอย่างนั้นรึ?” เสียงของแม่ทัพเข้มขรึม แฝงความผิดหวังเว่ยเจินหงก้มหน้าหลบสายตา พลางเอ่ยเสียงอ่อย แต่หนักแน่น“ท่านพ่อ…เอาไว้ดุด่าข้าที่หลังเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาข้ามีเื่สำคัญยิ่งกว่านั้นมาก!”
แม่ทัพเว่ยซ่างเทียนยังคงไม่พอใจ แต่แววตาเริ่มหรี่ลงอย่างระวัง เขากอดอกยืนนิ่ง สายตาจ้องเขม็ง รอฟังคำอธิบาย
เว่ยเจินหงจึงค่อยๆ เล่าทุกอย่าง ั้แ่ที่เขาดื่มหนักจนเผลอหลับอยู่ใต้เตียงในห้องรับรองของม่ออวิ๋นเฉิน ไปจนถึงบทสนทนาอันชั่วร้ายที่ได้ยินโดยบังเอิญ ทั้งถ้อยคำหยามเหยียดต่อน้องสาว และแผนการทรยศหักหลัง
“ท่านพ่อ... มันยังกล้าว่าท่าน... เป็หมาแก่ไร้น้ำยา พยายามเกาะเศษเสี้ยวบารมีของมันเพื่อยื้ออำนาจ”คำพูดนั้นแทงลึกยิ่งกว่าหอกแหลม แม่ทัพเว่ยซ่างเทียนที่เคยผ่านศึกนับร้อยครั้ง สีหน้าของเขาแข็งทื่อ แววตาเดือดดาล แต่ไม่ใช่ด้วยโทสะเพียงอย่างเดียว หากเป็ความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยความหยามิ่จากคนรุ่นหลังที่เขาเคยให้โอกาส
มือข้างหนึ่งของเขากำแน่นจนเส้นเืปูด “พวกมัน...” เขาพึมพำ ราวกับกลืนไฟเข้าไปทั้งก้อน
เว่ยเจินหงเห็นสีหน้าของบิดา เขารู้ทันทีว่าเพียงคำพูดหนึ่งประโยคของม่ออวิ๋นเฉิน ได้จุดไฟาที่ไม่มีวันดับลงในใจของแม่ทัพเว่ยซ่างเทียน
“ไม่เพียงเท่านั้น ท่านพ่อ... พวกมันคิดจะเหยียบย่ำเกียรติของน้องข้า และ... คิดจะล้างตระกูลของเราทั้งตระกูล...”
เสียงพูดของเว่ยเจินหงเริ่มสั่นเครือ แววตาฉายความหวาดกลัวที่ยังไม่จางหายแม่ทัพเว่ยซ่างเทียนหลับตาลงชั่วขณะ ก่อนจะลืมขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายอำมหิต
“มันคิดจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีข้า... มันคิดที่จะฆ่าล้างโคตรข้า...” เสียงของเขาต่ำลึกเย็นเฉียบ เขาหันกลับมามองเว่ยเจินหง แววตานั้นในวันนี้ไม่ใช่ความดูแคลนหรือผิดหวังเหมือนทุกครั้ง แต่เป็สายตาที่มองลูกชายอย่างบุรุษคนหนึ่ง
“เ้าทำได้ดี... เว่ยเจินหง ที่ผ่านมา พ่ออาจมองเ้าผิดไป...” เว่ยเจินหงถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ความอบอุ่นที่เขาเฝ้ารอจากบิดามาทั้งชีวิต... วันนี้เขาได้รับแล้ว
“ท่านพ่อ...” เสียงของเขาสั่นพร่าเหมือนคนฝันอยู่ในความเป็จริงแม่ทัพเว่ยซ่างเทียนเดินเข้ามาตบไหล่เขาเบา ๆ ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงเข้ม
“ฟังข้าให้ดีเ้าห้ามแสดงพิรุธใด ๆ ทั้งสิ้น ใช้ชีวิตของเ้าเช่นเดิม อย่าทำให้ศัตรูไหวตัวทัน” เสียงของแม่ทัพกลับมาแน่นหนักดังเดิม “ส่วนเื่ที่เหลือ...ข้าจะจัดการเอง”
หัวใจของแม่ทัพเว่ยซ่างเทียนหนักอึ้ง ความรู้สึกเจ็บแค้นฉายชัดอยู่ในดวงตาที่เคยสงบนิ่ง เยี่ยงขุนศึกผู้ผ่านศึกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้… มิใช่ศึกภายนอกหากเป็ศึกในที่จู่โจมถึงประตูบ้านของเขาเองการแต่งงานที่ควรจะเป็พันธะผูกมิตรกับตระกูลใหญ่ กลับกลายเป็ดาบที่หันคมกลับมาฟันเขาอย่างเืเย็น
ม่ออวิ๋นเฉิน และตระกูลม่อ คิดหาญกล้าถึงเพียงนั้นพวกมันไม่ได้เพียง้าแค่ถอนหมั้น แต่ยังวางแผนหมายล้างตระกูลเขาให้สิ้นซาก
หากเว่ยเจินหงลูกชายที่เขาเคยดูแคลน ว่าไร้ความสามารถ หากไม่บังเอิญไปรับรู้แผนการนั้นเข้า ตระกูลเว่ยในวันนั้นอาจไม่เหลือแม้แต่เศษเถ้าถ่าน แม่ทัพเว่ยซ่างเทียนกำหมัดแน่น หัวใจปวดร้าวยิ่งกว่าถูกคมดาบเฉือนตรงกลางอก ความภาคภูมิใจของเขาในฐานะหัวหน้าตระกูล ในฐานะพ่อ และในฐานะนักรบ ถูกเหยียบย่ำจนแทบแหลกละเอียด
“พวกมันทุกคนต่าง้าจะรุมกินโต๊ะข้า…” คำพูดของเขาถูกเปล่งออกมาอย่างหนักแน่น เ็า… และอัดแน่นไปด้วยความเคียดแค้นถึงแม้ม่ออวิ๋นเฉินจะเป็ชายหนุ่มรุ่นใหม่ผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ พร์ และชื่อเสียง แต่ในสายตาของแม่ทัพเว่ยซ่างเทียนมันก็เป็เพียงหมากตัวหนึ่งที่ถูกผลักมาบนกระดานเท่านั้นแผนการที่แยบยล แฝงเล่ห์เหลี่ยมลึกล้ำจนเกินวัยของม่ออวิ๋นเฉิน ทำให้เขาแน่ใจได้ในทันทีว่าเื้ัของเื่นี้นั้นย่อมไม่ธรรมดา
แม่ทัพเว่ยซ่างเทียนรู้ดีว่าศัตรูของเขาในครั้งนี้มิได้มาในคราบของโจรปล้นเมืองหรือข้าศึกจากแดนไกล แต่กลับมาในคราบของ แขกผู้มีเกียรติ ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและถ้อยคำหวานหูหากเขาแสดงพิรุธเพียงนิดเดียว พวกมันจะถอยไปซ่อนเขี้ยวเล็บอีกครั้ง และโอกาสที่จะหักกระดูกพวกมันกลางงานเลี้ยงจะสูญสิ้นไปในพริบตาเช้าวันใหม่คลี่คลุมแผ่นฟ้าอย่างเงียบเชียบ แสงแดดอ่อนจางลอดผ่านหมอกจางยามเช้าดูเหมือนจะเป็เช้าที่สงบอีกวัน…แต่หาใช่เช้าที่เต็มไปด้วยสันติไม่
พายุกำลังก่อตัว กลิ่นของความไม่ชอบมาพากลกำลังลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศผู้คนภายในจวนอาจยังไม่รู้สึกถึงอะไร แต่มันก็ใกล้เข้ามาทุกขณะแม่ทัพเว่ยซ่างเทียนนั่งนิ่งในจวนของตน ไม่ออกคำสั่ง ไม่แสดงพิรุธรอยยิ้มบนใบหน้าของเขายังคงอบอุ่นราวพ่อที่เตรียมจัดงานแต่งบุตรสาวแต่ดวงตากลับนิ่ง…เยือกเย็น…ราวเหยี่ยวที่จ้องเหยื่อจากฟากฟ้า เช้าวันใหม่ของตระกูลเว่ยอาจเป็รุ่งอรุณของศึกเงียบที่พร้อมจะกลืนทุกสิ่งลงสู่เหว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้