จุนห่าวสังหารผู้าุโจ้าวแล้ว ก็ยืนดูการต่อสู้ระหว่างหานรุ่ยกับผู้าุโโจว จุนห่าวเห็นหานรุ่ยต่อสู้อย่างสบาย เขาจึงไม่ได้เข้าไปช่วย เขาและหานรุ่ยเลื่อนขั้นได้เร็วเหลือเกิน เวลานี้พวกเขาจำเป็ต้องใช้พลังปราณกับการต่อสู้โดยด่วน ครั้งนี้เป็โอกาสที่หายากยิ่ง การต่อสู้กับผู้าุโจ้าว ทำให้เขารู้สึกว่าพลังปราณของเขาแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้น พลังิญญาก็ทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้น
แม้ว่าพลังปราณของหานรุ่ยจะไม่มากเท่าผู้าุโโจว ทว่าสมรรถภาพทางกายของเขานั้นดีกว่าผู้าุโโจวมาก ดังนั้นจึงต่อสู้กับผู้าุโโจวอย่างต่อเนื่องได้ ผู้าุโโจวเหลียวมองแวบหนึ่ง เห็นผู้าุโจ้าวลาจากโลกนี้แล้ว เขาเสียชีวิตด้วยเงื้อมมือจุนห่าว หัวใจของเขาสั่นไหว เขารับรู้ว่าวันนี้ เขามีโอกาสสูงมากที่จะเดินตามรอบผู้าุโจ้าว ตอนนี้เขาเสียใจที่รับภารกิจขององค์ชายสาม ผู้าุโโจวตระหนักแล้วว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือใคร เห็นได้ชัดว่า ชายคนนี้มาเพื่อแก้แค้น
ผู้าุโโจวคือคนขององค์ชายสาม และเป็คนที่ติดตามองค์ชายสามยาวนานที่สุดคนหนึ่ง เื่หลายสิ่งเกี่ยวกับองค์ชายสามเขาต่างล่วงรู้ และบางครั้งก็มีส่วนเกี่ยวข้อง
ผู้าุโโจวจดจำหานรุ่ยได้ เขาคิดไม่ถึงว่าหานรุ่ยที่ได้รับาเ็สาหัสขนาดนั้น จะฟื้นตัวกลับมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งได้มาถึงระดับที่น่ากลัวนัก หานรุ่ยในปีนั้น ด้วยเงื้อมรับมือเขาไม่ถึงสามกระบวนท่า ก็ถูกเขาทำร้ายจนได้รับาเ็สาหัส คิดไม่ถึงว่าสามปีที่ไม่ได้พบ เขาไม่เพียงฟื้นจากอาการาเ็ แต่ยังเติบโตมาถึงจุดนี้
หานรุ่ยก็จำผู้าุโโจวได้เช่นกัน เขาก็คือคนที่ทำร้ายเขาจนได้รับาเ็สาหัสและกลายเป็สวะในปีนั้น เวลานั้นผู้าุโโจวผู้นี้แต่งตัวเป็นักพรตทำทีปล้นสะดมเขา ทันทีที่มาถึงก็ตามติดทำร้ายหานรุ่ย หลังจากได้รับาเ็สาหัส องค์ชายสามถึงบอกความจริงว่า ผู้าุโโจวคือพรรคพวกของเขา ที่ส่งมาสังหารหานรุ่ยโดยเฉพาะ ยิ่งได้พบศัตรูก็ยิ่งดุร้าย หานรุ่ยจะปล่อยผู้าุโโจวไปได้ยังไง ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่หานรุ่ยจดจำผู้าุโโจวได้ ก็พุ่งเข้าใส่ผู้าุโโจว ใช้โอกาสนี้ฝึกปรือฝีมือกับผู้าุโโจว การดวลดาบดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ หานรุ่ยก็ใช้พลังทั้งหมดลงในดาบและตรงพุ่งไปทางผู้าุโโจวเพื่อมุ่งทำร้าย เห็นได้ว่า ผู้าุโโจวหลบไม่พ้น ผมศีรษะถูกตัดขาด
ผู้าุโโจวเห็นว่าผมศีรษะของเขาถูกตัดขาด นึกกลัวในใจยิ่งนัก เขาคิดว่าหากหัวของเขาถูกตัดขาด สมองของเขาคงหักเป็สองท่อนแน่
การต่อสู้ของจุนห่าวจบลง ทุกคนจึงหันมาสนใจหานรุ่ยและผู้าุโโจว
“คนที่กำลังต่อสู้กับผู้มีลมปราณขั้นสิบสองผู้นั้น คือซวงเอ๋อร์ใช่ไหม ข้าไม่เคยพบซวงเอ๋อร์ที่สูงใหญ่ขนาดนั้นมาก่อน?” ผู้สังเกตการณ์คนหนึ่งเอ่ยถามอย่างสงสัย
“หากเขาไม่มีสัญลักษณ์พระจันทร์เสี้ยวบนหว่างคิ้ว ข้าคงคิดว่าเขาคือบุรุษ เ้าเห็นเด็กที่หน้าตาพิมพ์เดียวกันอยู่ในอ้อมอกของเขาและชายชุดดำไหม ซวงเอ๋อร์ผู้นี้กับชายชุดดำผู้นั้นคงมิใช่คู่รักกันใช่ไหม หากเป็เช่นนี้จริง ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ชายชุดดำผู้นั้นทรงพลังขนาดนั้น หากรวมกันซวงเอ๋อร์ที่เก่งกาจผู้นี้ งัั้นอยากให้ใครอยู่หรือตายก็ย่อมได้ จากนี้ไป เวลาข้าเดินบนท้องถนนต้องหลบหลีกพวกเขาเสียแล้ว” ผู้สังเกตการณ์คนที่สองกล่าว
“ข้าเห็นหน้าตาของพวกเขาดูไม่เหมือนคนเลวร้าย ไม่จำเป็ต้องหลบหลีกพวกเขาหรอก” ผู้สังเกตการณ์คนที่หนึ่งกล่าว
“ไม่ว่ายังไงก็ระวังไว้หน่อย คนที่พลังปราณสูงส่ง อารมณ์ไม่ดีนัก” ผู้สังเกตการณ์คนที่สองกล่าว
ขณะที่ผู้สังเกตการณ์คนที่หนึ่งและสองกระซิบ บุคคลอื่นก็กำลังถกเถียงเช่นกัน
“ซวงเอ๋อร์ผู้นี้ดูคุ้นหน้านัก? ทำไมข้ารู้สึกว่าเคยพบที่ไหนมาก่อน?” ชายหนุ่มคนหนึ่งขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด
“ดูเหมือนว่าคุณชายหวังจะชื่นชอบซวงเอ๋อร์ผู้นี้ หากชอบก็พาตัวเขากลับไป หลังจากพาตัวกลับแล้ว คุณชายหวังชอบจะเล่นได้ตามใจชอบ” ชายอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ฟังคำของคุณชายหวัง เขาเข้าความหมายของคุณชายหวัง ในความเห็นของเขา ซวงเอ๋อร์ผู้นี้และชายชุดดำได้ยั่วยุองค์ชายสาม ต้องพบจุดจบไม่สวยแน่ ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด ท้ายที่สุด คงไม่อาจต้านทานอำนาจยิ่งใหญ่ล้นพ้นขององค์ชายสามได้ ถึงตอนนั้น พวกเขาคงตกอยู่ในเงื้อมมือขององค์ชายสาม ส่วนคุณชายหวังท่านนี้ก็คือลูกผู้พี่ขององค์ชายสาม ถึงตอนนั้น การ้าซวงเอ๋อร์ผู้นั้นคงไม่ง่ายดายแล้ว
คุณชายหวังไม่ได้เอ่ยอันใด ยังคงครุ่นคิด พึมพำกับตัวเองว่า “คนผู้นี้คือใครกัน? ข้าต้องเคยพบแน่” คิดอยู่พักหนึ่ง ก็เอ่ยขึ้ยอย่างนึกขึ้นได้ว่า “ข้านึกออกแล้ว เขาคือหานรุ่ย อดีตคู่หมั้นขององค์ชายสามลูกผู้น้องของข้า”
“ท่านพูดว่าเขาคือหานรุ่ย? ก็คือหานรุ่ยที่องค์ชายสามหลงรัก? เขาเป็สวะแล้วมิใช่หรือ?” ชายสับปลับผู้นั้นกล่าวเสียงสูง คิดในใจ ชื่อเสียงเลื่องลือของหานรุ่ย เขาย่อมเคยได้ยินแน่นอน อัจฉริยะในการบำเพ็ญเพียร คู่หมั้นขององค์ชายสาม แต่ทว่า นั่นเป็แค่อดีต
“คือหานรุ่ย ไม่ผิดแน่” คุณชายหวังพูดอย่างมั่นใจ ก่อนหน้านี้เขาเคยพบหานรุ่ยหลายครั้งแล้ว ไม่มีวันจำผิดคนแน่
“แต่องค์ชายสามมิใช่หลงใหลในตัวหานรุ่ยหรือ และหานรุ่ยยังรักและเลื่อมใสต่อองค์ชายสาม? งั้นเวลานี้ หานรุ่ยฟื้นฟูพลังปราณ ทั้งยังสังหารคนขององค์ชายสาม...ผู้เป็ที่รักของเขา” ชายสับปลับผู้นั้นเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
ในใจของคุณชายหวังเสมือนสะท้อนกระจกเงา เขารู้ดีว่าองค์ชายสาม ลูกผู้น้องของเขามิได้ชอบหานรุ่ยจริงๆ คำพูดเ่าั้เป็การหลอกลวงประชาชน เพื่อให้ได้รับชื่อเสียงที่ดี นอกจากนี้คุณชายหวังยังรู้เื่ราวภายในต่างๆ มากมาย คุณชายหวังขมวดคิ้ว พลางคิดในใจว่า เห็นทีการมาของหานรุ่ยในครั้งนี้คงไม่มีเจตนาดีแน่ ต้องเป็การหาหนทางแก้แค้นองค์ชายสาม ลูกผู้น้องของเขา เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ คุณชายหวังไม่มีอารมณ์ดูการต่อสู้ต่อไป เขารีบร้อนกลับไปยังค่ายตระกูลหวัง
เสียงของชายสับปลับดังขึ้น จากหนึ่งแพร่ไปสิบ จากสิบแพร่ไปร้อย ในไม่ช้าทุกคนต่างรู้ว่าคือหานรุ่ย ยังมีอีกหลายคนในเหตุการณ์ที่จำหานรุ่ยได้ ทว่าพวกเขาคิดว่าหานรุ่ยเป็สวะแล้ว ยามนี้การได้พบคนที่มีพลังปราณขั้นสิบผู้นี้ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง คนเหล่านี้รับรู้เื่ราวของหานรุ่ยและองค์ชายสาม ดังนั้น สิ่งที่แพร่สะพัดไปทั่วเทือกเขาอู๋หยินก็คือ เื่ราวความรักความแค้นหลากหลายรูปแบบขององค์ชายสามและหานรุ่ย
“เฮ้ เ้ารู้ไหม? ซวงเอ๋อร์ที่ต่อสู้อยู่นั้นคือหานรุ่ย อดีตคู่หมั้นขององค์ชายสาม”
“ข้าก็ได้ยินเช่นกัน ทว่าข้าแปลกใจนัก ว่ากันว่าองค์ชายสามและหานรุ่ยรักกันมากมิใช่หรือ? เช่นนั้นสถานการณ์ตอนนี้คืออะไร? กลายเป็ศัตรูกัน?”
“เป็ไปได้ ตอนนี้องค์ชายสามของเราตกหลุมรักหงอวี้หรูแล้ว หานรุ่ยคงริษยาจึงฆ่ากลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งทิ้ง และฆ่าพี่ชายของหงอวี้หรู”
แต่คนที่กำจัดกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งมิใช่หานรุ่ย คือชายชุดดำผู้นั้น ดูแล้วชายชุดดำผู้นั้นกับหานรุ่ยคงเป็คู่รักกัน หากหานรุ่ยริษยาหงอวี้หรูจริง งั้นเหตุใดชายชุดดำผู้นั้นต้องช่วยภรรยาซวงเอ๋อร์ของเขาฆ่าพี่ชายคนรักของอดีตคู่หมั้นล่ะ! มันไม่สมเหตุสมผลนัก? หรือว่าเขาจะกลัวว่าถ่านไฟเก่าของหานรุ่ยกับองค์ชายสามจะปะทุขึ้นอีก?
“ใครจะไปรู้ล่ะ? ต้องบอกว่าหานรุ่ยมีความสามารถจริงๆ ก่อนหน้านี้องค์ชายสามหลงใหลในตัวเขา เวลานี้ชายชุดดำนั้นก็หลงใหลในตัวเขา”
“ไม่เข้าใจเื่ทั้งรักทั้งแค้นเสียจริง ยังไงก็มิใช่เื่ของเรา มองให้เป็เื่สนุกก็พอ”
“คิดไม่ถึงว่าผลไม้ชิงลัวยังไม่สุกงอม องค์ชายสามก็สูญเสียนายทหารใหญ่แล้ว เห็นทีองค์ชายสามคงรวดร้าวใจแน่”
“หานรุ่ย? ใช่ที่เมื่อสามปีก่อนในจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ต่างกล่าวกันว่าเขาเป็สวะหรือ?” เหยียนหลิงมั่วเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว
“เป็สวะแล้ว เวลานั้นนายพลหานเชิญหมอชื่อดังหลายคนจากจักรวรรดิหั่วเหยียน ข้ายังไปสอบถามหมอที่มีชื่อเสียงเ่าั้ด้วยตัวเอง พวกเขาเห็นตรงกันว่าหานรุ่ยคือสวะแล้ว” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้น ชายคนนี้คือบุตรชายของอัครมหาเสนาบดีแห่งจักรวรรดิหั่วเหยียน...ซวี่ิเหล่ย ซวี่ิเหล่ยเป็เพื่อนรักของเหยียนหลิงมั่ว ทั้งเป็มือขวาของเหยียนหลิงมั่ว
“งั้นหานรุ่ยผู้นี้ ต้องพบกับสิ่งที่เหนือความคาดหมายแน่ ในครานั้นต่างบอกว่าเขาเป็สวะ ข้ายังนึกเสียดาย คิดไม่ถึงว่าสามปีก่อนที่เรามีชื่อเสียงเคียงคู่กัน ยามนี้กลายเป็ข้าที่ด้อยกว่าแล้ว” เหยียนหลิงมั่วพูดอย่างปลงๆ
“การที่องค์ชายสามแห่งจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์สูญเสียพระชายาเช่นนี้ ก็น่าเสียดายนัก” ซวี่ิเหล่ยพูดอย่างยินดีในความโชคร้ายนี้
เดิมทีพวกเขาก็ใช่ว่าจะเข้ากันได้นัก สุ่ยเย่ว์หรูหวาเป็คนละโมบในอำนาจ ส่วนหานรุ่ยซึ่งกระตือรือร้นกับการบำเพ็ญเพียร ไม่ช้าก็เร็วทั้งสองก็ต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศ
เหยียนหลิงมั่วมองหานรุ่ยที่กำลังต่อสู้ สำหรับทักษะอันดุเดือดของหานรุ่ย เหยียนหลิงมั่วก็ชื่นชม
การต่อสู้ระหว่างหานรุ่ยและผู้าุโโจวเข้าขั้นดุเดือด หานรุ่ยถึงจุดสูงสุด เมื่อหานรุ่ยเห็นจุนห่าวจบการต่อสู้ การโจมตีก็ยิ่งดุเดือดกว่าเดิม
ผู้าุโโจวใกล้จะรับมือไม่ไหวแล้ว กล่าวกับหานรุ่ยด้วยดวงตาที่ร้อนรนว่า “นายน้อยหาน ข้าแค่คำตามคำสั่ง ได้โปรดเข้าใจด้วย ไว้ชีวิตคนแก่หงำเหงือกอย่างข้าเถอะ ข้าแก่หงำเหงือกแล้ว มีอายุขัยไม่มากแล้ว หากท่านไว้ชีวิตข้า ข้าจะรีบไปจากองค์ชายสาม กลับไปที่หมู่บ้านบนูเา และชีวิตวัยชราอย่างสงบสุข หรือไม่ ก็จะขายชีวิตให้กับนายน้อยหาน ขอเพียงท่านไว้ชีวิตข้า ชีวิตนี้ของข้าก็เป็ของท่านแล้ว”
ฟังคำของผู้าุโโจว หานรุ่ยพูดด้วยดวงตาเยือกเย็นว่า “ข้าไม่เคยปล่อยให้เสือกลับูเา วันนี้เ้าต้องตาย”
“หานรุ่ย เ้าอย่ากลั่นแกล้งรังแกผู้อื่นเลย วันนี้ใครต้องตายยังไม่แน่?” ผู้าุโโจวกล่าวด้วยความโกรธ เขาอ่อนท่าทีเมื่อครู่นี้ และปรับเปลี่ยนท่าที เพราะเขาเกรงว่าชายชุดดำผู้นั้นจะรวมกำลังกับหานรุ่ย คิดไม่ถึงว่าหานรุ่ยจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเช่นนี้
“เลิกพูดไร้สาระ รับมือไว้ให้ดี!” หานรุ่ยพูดจบก็ปล่อยพลังิญญาของเขาลงที่ดาบ ดาบพุ่งเข้าใส่ผู้าุโโจวติดต่อกันสามเล่ม พลังของดาบแรกแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ผู้าุโโจวหลบหลีกดาบเล่มแรกและดาบเล่มที่สองได้ ก่อนที่ดาบเล่มที่สามของหานรุ่ยจะฟันเข้า ดาบเล่มนี้ ผู้าุโโจวหลบไม้พ้น ดาบเล่มนี้ ฟันั้แ่ศรีษะของผู้าุโโจวจรดเท้า ผู้าุโโจวถูกแบ่งสองท่อนด้วยดาบของหานรุ่ย
หานรุ่ยถือดาบด้วยมือขวา บนดาบยังมีเืของผู้าุโโจวที่ยังไม่แห้ง ทุกย่างก้าวเดินไปทางจุนห่าวด้วยสีหน้าเหี้ยมฆ่า เมื่อเดินถึงตรงหน้าจุนห่าว ทั้งสองคนยิ้มให้กัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และในดวงตาที่มีเงาของอีกฝ่าย
“เหนื่อยไหม?” จุนห่าวถามอย่างอ่อนโยน การฆ่าคนเป็งานหนัก ยิ่งกว่านั้น หานรุ่ยยังฆ่าคนที่มีพลังปราณมากกว่าเขาถึงสองขั้น
หานรุ่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เหนื่อย เ้าล่ะ?”
“ข้าก็ไม่เหนื่อย ก็แค่ตาเฒ่าคนหนึ่ง ข้าไม่ทันได้ใช้พลังเท่าไหร่ ก็ปลิดชีวิตเขาได้แล้ว ไม่เห็นเขาจะสู้ไหว สำหรับข้าแล้ว ลมปราณขั้นสิบสองก็อย่างงั้นๆ” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยอย่างตื่นเต้น การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้ความมั่นใจของจุนห่าวพุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“มิใช่ว่าเขาสู้ไม่ไหว แต่เ้าเก่งกาจเกินไป” หานรุ่ยกล่าวชื่นชม คิดในใจ จุนห่าวยังคงเก่งกาจกว่าเขาอยู่เช่นเดิม เขายังขยัน ไม่อาจตามหลังจุนห่าวได้
“เ้าก็เก่งกาจเช่นกัน การมีภรรยาอย่างเ้า ทำให้ข้าภาคภูมิใจนัก” จุนห่าวพูดพลางยกนิ้วโป้งให้หานรุ่ย
จุนหนานทนไม่ไหว เอ่ยกับจุนตงที่อยู่ในอ้อมอกของหานรุ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านเก็บอารมณ์หน่อย รอบข้างยังมีผู้คนสังเกตุการณ์อยู่มากนะ”
จุนตงจ้องมองจุนหนานและพูดว่า “เ้าจะรู้อะไร การที่ท่านพ่อและท่านแม่แสดงความรักในที่สาธารณะ ก็เพื่อให้คนที่มีแรงจูงใจซ่อนเร้นได้ชัดเจนว่า ระหว่างท่านพ่อและท่านแม่ไม่มีใครแทรกกลางได้”
จุนห่าวลูบหัวของจุนตง พูดอย่างยิ้มๆ ว่า “เ้ารู้มากทีเดียว”
จุนตงหัวเราะแล้วพูดว่า “ท่านพ่อสอนมาดี”
หานรุ่ยเบิกตากว้างใส่จุนห่าว พูดอย่างไม่พอใจว่า “จุนตงเป็เด็กซื่อตรง ถูกเ้าสั่งสอนจนเสียเด็กแล้ว”
จุนห่าวลูบจมูก พลางยิ้มแหยๆ ไม่ได้พูดอะไร คิดในใจ ภรรยาโกรธแล้ว พูดมากก็ผิด พูดน้อยก็ผิด สู้ไม่พูดเสียดีกว่า
เห็นรอยยิ้มแหยๆ บนใบหน้าของจุนห่าว หานรุ่ยก็ยิ้มและพูดว่า “ไปเถอะ ข้าไม่อยากถูกจ้องมองแล้ว” พูดจบก็หยิบดาบแล้วเดินหน้าไป
จุนห่าวเดินตามหานรุ่ยไม่กี่ก้าวก็ตามทัน ทั้งสองคนเดินจับมือกัน ช่างเป็ภาพด้านหลังที่ดูกลมกลืนนัก
ผู้ชมทั้งหมดมองความอบอุ่นที่จุนห่าวและหานรุ่ยแสดงต่อกันจนนิ่งงงงัน คิดในใจ ทั้งสองคนใช่เทพสังหารแน่หรือ? นี่ไม่ต่างอะไรจากคู่รักทั่วไป
