ทางด้านนี้อวี้ฉู่จาวจัดการเื่ของฉินฉือเรียบร้อยแล้ว
ส่วนหลินหร่านที่อยู่อีกด้านหนึ่งคงจะตื่นนอนแล้วกระมัง
ติงหร่วนกำลังช่วยหลินหร่านเปลี่ยนเสื้อผ้า อวี้ฉู่จาวเคยบอกเอาไว้ว่าหากเขาไม่อยู่ ติงหร่วนต้องช่วยเหลือหลินหร่านในเื่นี้ สาวใช้สี่คนนั้นห้ามถูกเนื้อต้องตัวหลินหร่านเป็อันขาด
“ท่านอ๋องล่ะ?” หลังจากหลินหร่านตื่นนอนขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาถามถึงคืออวี้ฉู่จาว
“ท่านอ๋องคุยเื่สำคัญอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าพ่ะย่ะค่ะ”
“อ่อ” หลินหร่านพยักหน้า ก่อนหยิบเสื้อตัวนอกขึ้นมาสวม
เมื่อเดินออกมาก็พบกับลุงตงที่กำลังเตรียมอาหารให้กับเขา
“พระชายา รีบมาเสวยพระกระยาหารเถิดพ่ะย่ะค่ะ อย่าปล่อยให้หิวจนแสบท้อง” พอลุงตงเห็นหลินหร่านจึงรีบตักเตือนทันที
หลินหร่านนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ติงหร่วนจัดวางอาหารให้หลินหร่านโดยมีลุงตงคอยมองดูอยู่ใกล้ๆ
หลินหร่านรับประทานอาหารไปสักพักก็รู้สึกราวกับมีสายตาของใครบางคนกำลังจับจ้องมาที่ตนเอง เมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าเป็ลุงตงที่ไม่รู้ว่าจ้องมานานเพียงใด
หลินหร่านเคี้ยวอาหารในปากแล้ววางตะเกียบลง ก่อนหันไปมองลุงตง “ลุงตงมีเื่อะไรจะพูดกับข้าหรือ?”
ลุงตงกำลังรอโอกาสนี้อยู่จึงได้กล่าวขึ้นมา “ถึงแม้ว่าพระชายากับท่านอ๋องจะเป็คู่ข้าวใหม่ปลามัน แต่…เื่ในห้องบรรทม เหมือนจะต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจเสียบ้างนะพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้เป็วัยของพระชายาก็คงมิอาจทนไหวเช่นกัน อาจทำให้ร่างกายาเ็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
หลินหร่านหน้าแดงอย่างรวดเร็ว
ต้องให้ผู้มีวัยวุฒิมาตักเตือนเช่นนี้ เขาได้แต่รู้สึกลำบากใจ ซึ่งก็ยังไม่จบเพียงนั้น
“ท่านอ๋องเป็คนอารมณ์พลุ่งพล่าน ท่านมีตำแหน่งเป็ถึงพระชายาก็ต้องคอยหักห้ามพระองค์บ้าง มิใช่ร่วมกันผสมโรง นอกจากนี้ การที่พระชายาของจ้านหวังนอนจนตะวันขึ้นถึงสามเสา1 ทุกวันเช่นนี้ หากเื่นี้ลือออกไป เกรงว่าผู้คนคงจะพากันหัวเราะเยาะ…”
หลินหร่านรู้สึกอับอายจนไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าก้มตาแต่กินข้าวไม่ลง
จะทำเช่นไรดี เพราะนี่คือเื่จริง เมื่อคืนตนเองไม่รู้จักพอเสียที
“ลุงตง…” น้ำเสียงเข้มดังมาจากนอกประตู ก่อนที่อวี้ฉู่จาวจะเดินเข้ามา
“ท่านอ๋อง” ลุงตงกับติงหร่วนรีบถวายคำนับ
หลินหร่านลุกขึ้นเช่นกัน “ท่านอ๋อง”
อวี้ฉู่จาวเดินไปอยู่ข้างกายหลินหร่านพลางโอบเอวบางไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “พักผ่อนเต็มอิ่มแล้วใช่ไหม”
“อื้อ” หลินหร่านพยักหน้ารับ
“เ้ารีบกินอาหารเถิด”
หลังจากอวี้ฉู่จาวให้หลินหร่านนั่งลงก็เอ่ยขึ้น “ลุงตง เปิ่นหวังผ่อนปรนกับท่านมากไปหรือ ให้ทำหน้าที่จัดการเื่ต่างๆ จนลามมาวุ่นวายเื่ของพระชายาแล้วหรือไร”
น้ำเสียงของอวี้ฉู่จาวบ่งบอกถึงการกล่าวเตือน แต่เขาไม่ได้แสดงออกด้วยท่าทีเ็า
ถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจที่ลุงตงพูดจาสั่งสอนหลินหร่านเช่นนั้น แต่อย่างไรคนผู้นี้ก็คือคนที่เลี้ยงดูตนเอง
ลุงตงสะดุ้ง รีบคุกเข่าลงคำนับกับพื้นโดยพลัน “กระหม่อมมิบังอาจ”
หลินหร่านตกตะลึง เพราะปกติแล้วเขามักจะเห็นท่านอ๋องแสดงออกกับลุงตงด้วยท่าทีเคารพ แต่เหตุใดวันนี้ถึง…
“อวิ๋นซีเป็ชายาของเปิ่นหวัง ถือเป็นายของตำหนักจ้านหวัง ในตำหนักเขาจะทำอะไรก็ย่อมได้ พวกเ้าเพียงคอยดูแลปรนนิบัติพอ ไม่ต้องกล่าวให้มากความ”
“กระหม่อมเพียงแค่ทำเพื่อท่านอ๋องกับพระชายา หากเื่เหล่านี้แพร่ออกไป…”
“หากมันจะแพร่ออกไปก็ปล่อยไป และบอกไปว่าเป็เพราะเปิ่นหวังเอาใจเป็พอ หากลุงตงไม่อยากให้เื่นี้เล่าลือออกไปก็แค่จัดการเื่นั้น ลุงตงจัดการได้มิใช่หรือ”
“กระหม่อม…”
“หากทำได้ก็ไม่ต้องมาบอกเื่นี้กับชายาของเปิ่นหวังอีก”
อวี้ฉู่จาวไม่ให้โอกาสลุงตงได้เอ่ยต่อ “เข้าใจหรือไม่”
“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่...ยังไงก็ขอให้ท่านอ๋องกับพระชายาระวังเื่สุขภาพ…”
“เื่นั้นคงไม่ต้องให้ลุงตงเป็กังวล ลุงตงห่วงสุขภาพของตนเองดีกว่า”
หลังจากตักเตือนเป็ที่เรียบร้อย อวี้ฉู่จาวได้ประคองลุงตงขึ้น “ตำหนักนี้กับเปิ่นหวังยังต้องให้ลุงตงคอยดูแลอีกนาน”
ลุงตงลุกขึ้นยืน เขารู้ดีว่าท่านอ๋องไม่ได้้าจะผลักไสเขา เพียง้าเตือนให้เคารพผู้เป็ชายาของตนเอง
เขายอมรับว่าตัวเองยังไม่ได้มองหลินหร่านในฐานะของผู้เป็นายในตำหนักนี้ คิดแค่ว่าเป็เด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่ท่านอ๋องชื่นชอบเท่านั้น อายุยังน้อย ไม่ประสีประสา ต้องได้รับการอบรมสั่งสอน
“เื่ที่เปิ่นหวังมอบหมายให้จัดการเสร็จแล้วหรือยัง” อวี้ฉู่จาวหันมาถาม เขาเชื่อว่าลุงตงต้องเข้าใจสัญญาณ
“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ลุงตงตอบกลับ
“ดีมาก” อวี้ฉู่จาวพยักหน้า แล้วเอ่ยกับติงหร่วนและลุงตง “ทั้งคู่ออกไปก่อนเถิด เดี๋ยวเปิ่นหวังดูแลพระชายาเอง” อวี้ฉู่จาวหันมาระบายยิ้มให้หลินหร่าน
หลังจากนั้นติงหร่วนกับลุงตงถึงออกไป
ท่าทีที่อวี้ฉู่จาวเอ่ยกับลุงตงเมื่อครู่ทำให้หลินหร่านยังตะลึงงันอยู่ “ท่านอ๋อง ลุงตงทำไปเพื่อพวกเรานะพ่ะย่ะค่ะ”
อวี้ฉู่จาวนั่งลงข้างกายหลินหร่านพลางโอบไหล่บาง แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารให้
“แต่เขาทำแบบนั้นมันมิได้อยู่ในหน้าที่”
หลินหร่านเริ่มมีท่าทีงุนงง
“ที่ตำหนักนี้เ้าเป็นาย เ้าจะทำอะไรก็ได้ แม้แต่ลุงตงก็สั่งสอนเ้าไม่ได้ ข้าเองก็จะไม่ทำเช่นนั้นกับเ้า ดังนั้น คงอื่นยิ่งไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ อวิ๋นซี เ้าเป็ชายาของข้า เป็พระชายาของจ้านหวังแห่งต้าอวี้ เ้ามีสิทธิ์ที่จะทำโทษหรือสั่งสอนผู้ที่ไม่เคารพ เ้าต้องทำความเคยชินกับตำแหน่งของตนเอง เอามันมาใช้ หรือเ้าจะใช้ตำแหน่งของข้าก็ย่อมได้ เ้าเข้าใจหรือไม่? ”
หลินหร่านพยักหน้า
ท่านอ๋องพูดออกมาชัดเจน แน่นอนว่าเขาเข้าใจ
เพียงแต่ว่า...เขาจะใช้ประโยชน์จากท่านอ๋องได้อย่างไรกันล่ะ
“เด็กดี” อวี้ฉู่จาวลูบผมหลินหร่าน แสดงความพึงพอใจ
หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย อวี้ฉู่จาวจึงได้พาหลินหร่านมายังสวนดอกไม้ท้ายตำหนัก “เมื่อวาน ข้าให้คนนำบางอย่างมาปลูกใหม่ที่สวนดอกไม้ ข้าเลยอยากพาเ้ามาดู ของสิ่งนั้นล้ำค่ายิ่งนัก ชอบความสดชื่นและความอบอุ่น ซึ่งในตำหนักของพวกเราก็มีตาน้ำพุร้อนพอดี”
อันเนื่องจากความบังเอิญที่มีตาน้ำพุร้อน ทำให้ดอกไม้ในตำหนักของท่านอ๋องผู้นี้เบ่งบานทั้งสี่ฤดู ชนิดของดอกไม้ก็ไม่ต่างจากในวังหลวงมากนัก
ก้าวผ่านเหล่ามวลผกาที่แข่งกันอวดโฉมความงาม กรุ่นกลิ่นบุหงาหอมฟุ้งไปทั่วทั้งสวน
ทั้งคู่ก้าวเข้ามาถึงสวนดอกไม้
ด้านหลังภูผาจำลองมีป่าไม้ขนาดย่อมอยู่ หลินหร่านจำได้ว่าไม่นานมานี้ บริเวณนี้ไม่มีการปลูกต้นไม้มาก่อน
อวี้ฉู่จาวมองหลินหร่านที่เงยหน้าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เขาส่งยิ้ม “ข้าให้สัญญากับเ้าไว้แล้ว”
หลังจากมองผ่านพุ่มดอกไม้เล็กๆ หลินหร่านก็ได้พบกับต้นไม้ต้นหนึ่ง
นั่นคือต้นไม้แห่งความรักที่เขาโหยหามาเสมอ
ต้นถั่วแดงของเขากินพื้นที่ไปมากกว่าครึ่งสวน บนต้นมีเม็ดคล้ายถั่วสีแดงประดับอยู่เต็ม ยิ่งดูสวยงาม
“ข้านำมันมาจากทางใต้ ต้นไม้ต้นนี้มีชื่อว่าต้นถั่วแดง ทางใต้เรียกมันว่า ‘ต้นไม้แห่งความรัก’ เม็ดสีแดงที่อยู่บนต้นของมันคือ ‘ถั่วแห่งความรัก’ ”
นี่เป็ครั้งแรกที่หลินหร่านได้พบต้นไม้แห่งความรักและได้เห็นถั่วแห่งความรักของจริง
เมื่อก่อนเขารู้เพียงแค่ว่าพืชชนิดนี้ เป็พืชที่โรแมนติกและตราตรึงในใจเขามากที่สุด
หลินหร่านยืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้
เ้าถั่วแดงกำลังเติบโตอย่างงดงาม ค่อยๆ ร่วงหล่นจากกิ่งก้าน
หลินหร่านยื่นมือออกไปก็ััได้ถึงเม็ดสีแดงที่ร่วงหล่นใส่ฝ่ามือ
เขาจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งถึงหยิบเ้าถั่วขึ้นมาหนึ่งเม็ด มองอย่างพิจารณาอยู่นาน ก่อนที่แววตาทั้งคู่จะปรากฏความรู้สึกหดหู่
อวี้ฉู่จาวกำลังจะก้าวเข้าไปใกล้ แต่หลินหร่านหันมามองก่อนยิ้มกว้าง
“ขอบพระทัยท่านอ๋อง ข้าชอบมากเลยพ่ะย่ะค่ะ”
อวี้ฉู่จาวเริ่มรู้สึกวางใจ เขาก้าวเข้าไปใกล้แล้วโอบเอวบาง “นี่คือคำมั่นสัญญาที่ข้ามีให้กับเ้า ข้าเคยบอกแล้วว่าจะทำให้เ้าได้พบกับต้นถั่วแห่งความรักจริงๆ ถั่วแดงของเ้าข้าเก็บเอาไว้ทั้งหมด แล้วถั่วแดงของข้าล่ะ เ้าจะเก็บไว้ทั้งหมดหรือไม่?”
“ข้าต้องเก็บเอาไว้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านอ๋องเสียความตั้งใจ ข้าจะดูแลพวกมันเป็อย่างดี” หลินหร่านยิ้มกว้าง หางตาประดับด้วยหยดน้ำตาเล็กน้อย แต่ก็มองออกว่าเขากำลังดีใจ
เมื่อครู่ที่เขารู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาคงเป็เพราะเขานึกถึงอดีตอันเลวร้าย
ทว่า พอััได้ถึงหัวใจของอวี้ฉู่จาว เขาพลันเปลี่ยนมารู้สึกประทับใจ ช่างตราตรึงเหลือเกิน
---------------------------------------------
1 ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่นอนตื่นสาย นอนกินบ้านกินเมือง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้