เมื่อเวลาผ่านไปประมาณครึ่งนาทีหลินเยว่ยังคงขมวดคิ้วลึกอยู่ และไม่ได้มีทีท่าว่าจะยกมือเสนอราคาเลยสักนิด
ผู้ดำเนินการประมูลไม่สามารถรอต่อไปอีกแล้วถึงแม้ว่าเขาอยากจะรอให้หลินเยว่มีสติกลับคืนมาแล้วเสนอราคาต่อแต่ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็ไปค่อนข้างยาก อีกทั้งหากรออีกต่อไป เขาก็จะเริ่มตกเป็ผู้ต้องสงสัยในการฝ่าฝืนกฎกติกาของที่นี่ดังนั้น เขาจึงประกาศขึ้น “สุภาพสตรีหมายเลข 10 เสนอราคา 4 ล้านหยวน ยังมีใครเสนอราคาสูงกว่านี้...... 4ล้านหยวนครั้งที่ 1!”
ครั้งนี้กลายเป็จวงเมิ่งเตี๋ยที่เริ่มนั่งไม่ติดที่เสียแล้วเอาเงิน 4 ล้านหยวนซื้อมามีดบิ่นๆกลับบ้าน เธอคงบ้าไปแล้วถึงได้ทำแบบนี้
เธอเสนอราคาเพิ่ม 2 แสนหยวน หลินเยว่ก็เสนอราคาสู้อีก 2 แสนหยวน
เธอเสนอราคาเพิ่ม 5 แสนหยวน หลินเยว่ก็เสนอราคาสู้อีก 5 แสนหยวน
ถ้าเธอเสนอราคาเพิ่มอีก 1 ล้านหยวนล่ะ?
จวงเมิ่งเตี๋ยคิดว่าจะใช้เงิน 1 ล้านหยวนก้อนสุดท้ายสร้างกับดักขนาดใหญ่หลอกล่อหลินเยว่ให้หลินเยว่เสนอราคาสู้ตามอีก 1 ล้านหยวนหรือมากกว่าเพื่อซื้อมีดแกะสลักเล่มนี้แต่ทว่าตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกลับไม่เสนอราคาต่ออีกแล้ว ทำให้แผนการของเธอไปต่อไม่ได้
นอกจากแผนของเธอจะไม่สำเร็จแล้วตัวเธอเองยังตกลงไปในกับดักนั้นเองอีกด้วย!
หรือว่าเขาเลียนแบบอาจารย์ของเขาที่วางแผนหลอกล่อเธอ?เจตนาให้เธอตกหลุมนั้น?
แต่สีหน้าของเขาเมื่อสักครู่มันไม่ใช่เลยนะ!
ไอ้ผู้ชายเฮงซวย หากนายทำให้ฉันต้องจ่ายเงิน 4ล้านหยวนเพื่อซื้อมีดแกะสลักบ้าๆเล่มนั้น นายคอยดูเลยนะ สักวันฉันจะต้องเอาคืนจากนายให้ได้!
จวงเมิ่งเตี๋ยโกรธจนกัดฟันกรอดเธอมองเื้ัของหลินเยว่อย่างแค้นใจ
ครั้งนี้ก็คงจะได้รู้ว่าผลของการเอาแต่ใจจะเป็อย่างไรแล้วล่ะ!
จวงตงเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธที่หลานสาวของตนถูกหลอกแต่เขากลับรู้สึกดีใจแทน
ในเมื่อต้องมีสักวันที่เธอจะต้องเสียเปรียบจากการกระทำที่แสนจะเอาแต่ใจของเธอถ้าอย่างนั้นก็ให้เธอเสียเปรียบเล็กๆ น้อยๆ ในตอนนี้ ต่อไปจะได้ไม่ต้องเกิดผลร้ายที่ไม่มีทางแก้ไขได้เลย
ลูกศิษย์ของตาแก่เฮ่อไม่เลวเลยนะมีการวางแผนเช่นนี้ด้วย
จวงตงเฟิงมองเื้ัของหลินเยว่สายตาของเขามีแต่ความชื่นชม
“4 ล้านหยวนครั้งที่2!”
เมื่อเห็นว่าหลินเยว่ยังไม่ได้เตรียมทำท่าจะเสนอราคาจวงเมิ่งเตี๋ยก็ลุกลี้ลุกลนยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าของเธอมีแต่ความร้อนใจและหันไปมองหลินเยว่ไม่หยุด ในใจก็แอบก่นด่าหลินเยว่ไปไม่รู้กี่ร้อยรอบแล้ว
ไม่ใช่สิ!
ตัวเธอมีเงินเพียง 3 ล้านหยวน!
หลินเยว่พลันเข้าใจเื่ราวทั้งหมดขึ้นมาทันทีเขาจำได้ว่าสายตาของจวงเมิ่งเตี๋ยที่ต้องยอมปล่อยมือจากการประมูลหยกหงส์ัคู่นั้นได้ดีมันมีความเสียดายอยู่ในนั้น ซึ่งสายตานี้ไม่มีทางเกิดจากการเสแสร้งเธอจะต้องชอบหยกคู่นั้นมากที่สุดถึงได้แสดงออกทางสายตาเช่นนั้นออกมาหากเป็เขาที่ชอบของบางอย่างมากแบบนั้น ไม่ว่าของชิ้นนั้นจะมีราคาเท่าไรเขาก็ต้องพยายามเอามาเป็ของตัวเองให้ได้ผู้ชายยังคิดแบบนี้แล้วผู้หญิงที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกเป็หลักจะไม่คิดอย่างนี้ได้อย่างไร!
ถ้าเช่นนั้นเงินที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ล้านหยวนมาจากไหนล่ะ?
หรือว่าเป็การประมูลโดยไม่มีเงินจริง?
แบบนี้มันไม่น่าจะเป็ไปได้
หลังจากนั้นหลินเยว่จึงคิดถึงท่านจวงตงเฟิงชายชราที่บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มตลอดทั้งวัน หากเขาทายไม่ผิดจวงเมิ่งเตี๋ยจะต้องยืมเงินมาจากคุณปู่ของเธอแน่ๆ
แล้วอย่างนี้เธอยืมมาเท่าไรล่ะ?
ยืมมาแค่ 1 ล้านหยวน หรือว่ามากกว่านั้น?
หลินเยว่ไม่กล้าคาดเดาแต่เขาตัดสินที่จะลองทดสอบดู ลิมิตของเขาอยู่ที่ 5 ล้านหยวน หากมีดแกะสลักเล่มนี้ราคามากกว่า 5ล้านหยวนเขาก็จะยอมปล่อยมือลง
มีดแกะสลักเล่มหนึ่งมีราคาอย่างมากอยู่ที่ประมาณ 1.5ล้านหยวน หากใช้เงิน 5 ล้านหยวนหรือว่าจำนวนเงินที่มากกว่านี้เพื่อซื้อมีดแกะสลักเล่มนี้มันก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมแล้ว
หากอาจารย์ของเขารู้ว่าตัวเขาจ่ายเงิน 5 ล้านหยวนเพื่อซื้อมีดแกะสลักที่นำมาเก็บสะสมได้เพียงอย่างเดียวเกรงว่าอาจารย์คงจะขับไล่เขาออกมาจากสำนัก หรืออาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรอาจารย์ก็คงไม่มีทางรับมีดแกะสลักเล่มนี้ไว้
การซื้อมีดแกะสลักราคา 5 ล้านหยวนมันเป็พฤติกรรมที่ล้างผลาญเงินพ่อแม่อย่างแท้จริง!
เมื่อคิดอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วหลินเยว่จึงรีบยกมือขวาขึ้นทันที
“4 ล้านหยวนครั้งที่......”
ผู้ดำเนินการประมูลเห็นว่าหลินเยว่ยกมือขึ้นเขาจึงหยุดประกาศโดยอัตโนมัติ วินาทีถัดไปเขาก็ได้สติกลับคืนมาและพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “สุภาพบุรุษหมายเลข 15 จะเสนอราคาแล้วครับ!”
“ขวับ!”
สายตาของทุกคนหันหน้าไปทางหลินเยว่ที่กำลังยกมืออยู่ทันที
สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและตื่นเต้น
หรือว่าเขาจะเสนอราคาที่สูงยิ่งกว่านี้?
5 ล้านหยวนหรือว่ามากกว่านั้น?
ทุกคนต่างคิดอย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นหลินเยว่ยกมือสีหน้าของจวงเมิ่งเตี๋ยก็ปรากฏรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเ้าเล่ห์อวดดีทันที
ฉันก็ว่าแล้วว่าแผนของฉันจะต้องไม่มีช่องโหว่ฉันจะรอดูตอนสุดท้ายที่นายจ่ายเงิน 5 ล้านหยวนเพื่อซื้อมีดบ้าๆเล่มนั้น แล้วเพิ่งมารู้ว่าฉันไม่ได้คิดจะซื้อมีดเล่มนั้นเลยสักนิด ดูซิว่าเมื่อถึงตอนนั้นนายจะทำหน้ายังไง?
ฮ่าๆ ฉันล่ะอยากเห็นจริงๆ!
การยกมือขึ้นของหลินเยว่ก็ทำให้ท่านจวงตงเฟิงอึ้งไปเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มจางๆ
หรือว่าเขาประเมินอีกฝ่ายไว้สูงจนเกินไป?
ท่ามกลางสายตาของทุกๆ คน หลินเยว่จึงค่อยๆเสนอราคาของตนเอง
“4...ล้านกับอีก5 พัน”
เมื่อได้ยินตัวเลขตัวแรกจวงเมิ่งเตี๋ยก็อึ้งไปในทันที
ทำไมถึงไม่ใช่ 5 ล้านหยวนล่ะ? หรือว่าเขาสังเกตเห็นแผนการของเธอ?
ไม่... ไม่มีทาง!
เมื่อเธอได้ยินราคาทั้งหมดที่หลินเยว่เสนอออกมาร่างกายของเธอก็สั่นเทิ้มทันที
กล้ามเนื้อตรงมุมปากค่อยๆ ผ่อนคลายลงเกิดเป็รอยยิ้มที่ลึกลับซับซ้อน
ราคานี้คืออะไรกัน?
เยาะเย้ยเธอหรือ?
เท่าไรนะ???
เมื่อคนในงานประมูลทั้งหมดได้ยินราคาที่หลินเยว่เสนอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงพวกเขารู้สึกไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินและพวกเขาก็ไม่อยากเชื่อว่าจากราคาก่อนหน้า 4 ล้านหยวนหลินเยว่กลับกล้าเสนอราคาเพิ่มขึ้นอีกเพียง 5 พันหยวนเท่านั้น
5 พันหยวนเป็ราคามาตรฐานขั้นต่ำที่ต้องเสนอเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้ง
ความใจกล้าเมื่อสักครู่ที่เพิ่มครั้งละ 1 ล้านหยวนมันหายไปไหนหมดแล้วล่ะ?
ความนิ่งเฉยอย่างเป็ธรรมชาติเมื่อสักครู่ความเด็ดขาดที่เพียงขยับมือก็เป็มูลค่ามหาศาลมันหายไปไหนหมดแล้วล่ะ?
มันแค่ 5 พันหยวนแค่ 5 พันหยวนเท่านั้น!
ทุกคนต่างมองไปทางหลินเยว่สายตาของพวกเขาแสดงความรู้สึกอย่างเต็มที่และมันก็มีความหลากหลายซับซ้อนมากยิ่งนัก
จวงตงเฟิงได้ยินราคาที่หลินเยว่เสนอแล้วดวงตาของเขาก็เป็ประกายทันที
ช่างเป็คนที่ช่างคิดช่างสงสัยและมีการสังเกตที่ฉับไวจริงๆ!
จากสถานการณ์นี้ การที่คิดว่าเขาตั้งใจหลอกหลานสาวของตนก็เป็การประเมินเขาไว้ต่ำจนเกินไปเพราะนี่คือความสามารถของเขาอย่างแท้จริง เพียง 5 พันหยวนนี้ก็สามารถสะท้อนถึงความสามารถอันสุดยอดของเขาได้เป็อย่างดี
การที่ตาแก่เจี่ยชื่นชมเด็กหนุ่มคนนี้ดูแล้วก็ไม่ได้เป็การชื่นชมลอยๆ ไอ้หนุ่มคนนี้ช่างเก่งจริงๆ แล้วดูเหมือนว่าจะเก่งยิ่งกว่าคำชื่นชมจากปากของตาแก่เจี่ยเสียอีก
เขามีอนาคตไกลอย่างแน่นอน!
ท่านจวงตงเฟิงรำพึงอยู่เงียบๆ ในใจ
เมื่อเฮ่อฉางเหอได้ยินหลินเยว่เสนอราคาเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมอีกฝ่าย ลูกศิษย์ของเขาเติบโตขึ้นทุกวัน พัฒนาตนเองมาโดยตลอดและทุกครั้งก็สามารถสร้างความตกตะลึงให้กับเขาเป็อย่างดี และครั้งนี้ก็เช่นกัน
ดีเลย! อาจารย์ก็อยากจะรู้ว่าคุณจะสามารถประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดไหน
สายตาของท่านเฮ่อฉางเหอมองหลินเยว่อย่างคาดหวัง
ถึงแม้ว่าผู้าุโอีก 7 คนจะไม่รู้รายละเอียดอย่างลึกๆแต่ทว่าพวกเขาก็สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้พอสมควรในขณะเดียวกันก็เกิดความรู้สึกชื่นชมหลินเยว่อยู่ในใจ
ตาแก่เฮ่อหาลูกศิษย์ได้ดีจริงๆคงมีสักวันที่ไอ้หนุ่มคนนี้จะต้องเป็บุคคลอันยอดเยี่ยม
แต่ทว่าพวกเขาก็ยังรู้สึกมั่นใจในการแข่งขันการพิสูจน์เครื่องเคลือบในครั้งนี้อยู่ดี
คนที่เพิ่งศึกษาเครื่องเคลือบได้ไม่ถึง 3 เดือนจะมีความสามารถเก่งกาจได้ถึงขนาดไหนกันเชียวมันยังไม่มีค่าควรแก่การพูดถึงเลยสักนิด
ผู้ดำเนินการประมูลก็ไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเช่นกันเขาเคยเจอการเสนอราคามามากมายหลายรูปแบบจนนับไม่ถ้วนแต่นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเจอการเสนอราคาที่มันแตกต่างกันมากขนาดนี้
ตอนแรกมีการเพิ่มทีละ 1 ล้านหยวน แล้วทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็ 5 พันหยวนได้ล่ะ?
หากไม่ได้เป็เพราะว่าในการประมูลสินค้าชิ้นนี้จำเป็ต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยครั้งละ5 พันหยวนเขายังสงสัยว่าหลินเยว่อาจจะเสนอราคาที่ 4,000,000.01 หยวนหรือเปล่า?
“สุภาพบุรุษหมายเลข 15 เสนอราคาที่ 4 ล้าน...... 5 พันหยวน......”
ขณะที่ผู้ดำเนินการประมูลพูดประกาศราคานั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินเยว่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจแต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าท่าทางอันเป็ธรรมชาติของหลินเยว่เขาจึงต้องประกาศราคาที่ตอนนี้เขายังรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยสักนิด
“ยังมีใคร้าเสนอราคาที่สูงกว่านี้อีกไหมครับ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้