หานซินหันไปมองยังต้นไม้ที่หานโม่นอนอยู่อย่างเ็า นางลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ และเดินตรงเข้าไปในป่าไร้ิญญาที่มืดสนิทด้านหนึ่ง
"ข้ามาแล้ว"
ชายในชุดคลุมสีดำผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น แม้ว่าเขาจะเห็นว่าหานซินมาถึงแล้ว แต่น้ำเสียงของเขาก็นิ่งสงบราวสายน้ำไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ
หานซินพยักหน้าและพูดกับชายในชุดเสื้อคลุมด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว "นังผู้หญิงชั้นต่ำนั่นก็อยู่ที่นี่ด้วย คราวนี้ข้าจะต้องฝังนางไว้ที่นี่ให้ได้!"
ความรู้สึกเกลียดชังของหานซินช่างแรงกล้านัก ชายในชุดเสื้อคลุมหัวเราะ "ได้ตามที่เ้าปรารถนา ยื่นมือออกมา"
หานซินยื่นมือออกมาตามที่ชายผู้นั้นบอก ภายในดวงตาของนางเต็มไปด้วยประกายแห่งด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวัง
ชายในชุดเสื้อคลุมก็ยื่นมือของเขาออกมาเช่นกัน มือของเขาที่อยู่ในชายเสื้อคลุมยาวสีดำสามารถมองเห็นได้เพียงลางๆ เท่านั้น
ในขณะที่มือของทั้งคู่ัักัน พลังที่แข็งแกร่งสายหนึ่งไหลผ่านเข้ามาในตัวของหานซินไม่หยุด
ดวงตาของหานซินเป็ประกายอย่างเต็มเปี่ยม
“ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ก็ตาม!”
หานโม่จะต้องตาย!
…………
ในเช้าตรู่ของวันที่สอง หานโม่ตื่นก่อนทุกคน
นางนั่งอยู่บนกิ่งไม้ลอบสำรวจคนอื่นอย่างเงียบๆ
สีหน้าของหานเทียนและหานิยังดูดี แต่สีหน้าของหานเยว่กลับดูไม่ดีนัก คนตระกูลหานถูกเลี้ยงแบบตามใจมาั้แ่เกิด พอได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกอย่างกะทันหันเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าร่างกายของพวกเขาก็เริ่มจะรับไม่ไหว
เมื่อเทียบกับหานเยว่แล้ว สภาพของหานซินนั้นดูดีกว่า
หานโม่มองสำรวจนางอย่างละเอียด และพบว่าสีหน้าของหานซินไม่เพียงดูดีเหมือนปกติเท่านั้น แต่กลับดูสดใสมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เื่นี้มันออกจะแปลกประหลาดไปสักเล็กน้อย
แม้ว่าหานซินจะยังมีใบหน้างดงามสดใสเหมือนเดิม แต่สภาพโดยรวมของนางกลับดูไม่ค่อยดีนัก
ั้แ่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หานซินก็อารมณ์เสียไปแล้วถึงสองครั้ง
"พี่ใหญ่พี่รอง! ข้ายังต้องกินเ้าสิ่งนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันเ้าคะ ข้าอยากกินเนื้อ!" เสียงของหานซินแหลมสูงจนผู้ที่ได้ฟังต่างก็เจ็บแก้วหู
่เช้าหานซินไม่พอใจกับเื่อาหารการกิน หานเทียนและหานิพยายามเกลี้ยกล่อมนางอยู่สองสามประโยคในตอนแรก แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่สนใจนางอีกเลย
หลังจากที่หานซินอารมณ์เสียและเห็นว่าไม่มีใครสนใจ นางจึงค่อยๆ เงียบไปเอง
จากนั้นทุกคนก็รีบออกเดินทางอีกครั้ง
สิ่งที่แตกต่างจากเมื่อวานก็คือ วันนี้พวกเขาเข้าสู่ส่วนลึกของป่าไร้ิญญาแล้ว
ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกได้ชัดเจนตรงนี้เป็ส่วนลึกของป่าไร้ิญญาแล้ว เมื่อวานพวกเขายังได้ต่อสู้กับสัตว์ิญญาอยู่บ้าง แต่วินาทีแรกที่พวกเขาก้าวเข้ามาถึงป่าไร้ิญญาส่วนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบด้านก็เปลี่ยนไป
"หยุด!"
หานเทียนที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหันและทุกคนที่อยู่ด้านหลังก็หยุดเดินทันที
“พี่ใหญ่ มีอะไรงั้นหรือ?”
หานเยว่ซึ่งอยู่ใกล้หานเทียนมากที่สุดเอ่ยถามขึ้น
หานเทียนไม่ตอบ เขาเอียงหัวเพื่อตั้งใจฟังเสียงรอบข้างด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีอย่างยิ่ง
ในเวลาเดียวกัน หานเยว่และคนอื่นก็เริ่มสังเกตว่าบรรยากาศรอบๆ ไม่ค่อยดีนัก
มันเงียบมากเกินไป
จุดเด่นของป่าไร้ิญญาที่มีการเล่าปากต่อปากกันมาก็คือ ความเงียบงันที่แม้กระทั่งเสียงเข็มตกก็ยังได้ยิน
หลังจากที่ทุกคนหยุดเดิน เสียงกรอบแกรบที่ดังมาจากทิศทางไหนก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็ชัดเจนขึ้นมาทันที
หานเทียนได้ยินเสียงนี้จึงสั่งให้ทุกคนหยุดเดินทันที
พวกเขาเงี่ยหูฟังเสียงนั้นชั่วขณะหนึ่งจากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็แปลกประหลาด
ตลอดทางที่เดินมาพวกเขาไม่พบสัตว์ิญญาสักตัวเดียว เพราะนอกจากหานโม่ก็ยังไม่มีใครเคยมาที่ป่าไร้ิญญาเลย
พวกเขาไม่แน่ใจว่าเสียงที่ได้ยินนั้นคือสิ่งใดและมาจากทิศทางไหนกันแน่
“สัตว์ิญญาหรือ?” หานเยว่เอ่ยถามขึ้นมาเสียงเบา
หานเทียนกำลังจะเอ่ยตอบ แต่ทันใดนั้นหูของเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความใดังขึ้น
เขาหันหน้าไปมอง และพบว่าเสียงกรีดร้องนั้นเป็ของหลินเฟยคู่ของหานซิน
“เ้าร้องทำไม!” หานเทียนพยายามข่มความโกรธพลางเอ่ยถาม
ทว่าหลินเฟยคล้ายกับว่าไม่ได้ยิน นางจ้องมองไปยังทิศทางหนึ่งโดยไม่กะพริบตา
ทุกคนสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงหันไปมองในทางเดียวกับหลินเฟย
เมื่อได้เห็นสิ่งนั้นทุกคนก็ตกตะลึง
"นั่น...นั่นคือสิ่งใดกัน?"
ในพงหญ้าไม่ไกลจากพวกเขา ดวงตาสีแดงขนาดใหญ่คู่หนึ่งจ้องเขม็งมาทางพวกเขานิ่ง
หลังจากที่มีคนเห็นมันแล้ว เ้าสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าก็เลิกซ่อนตัวอีกต่อไป มันกระโจนออกมาอย่างรวดเร็ว
ทุกคนพบว่ามันคือสัตว์อสูรที่มีรูปร่างแข็งแกร่งราวกับวัว!
“โอ้แม่เ้า สัตว์อสูร!”
หลินเฟยแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
สัตว์อสูร เป็สิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเสวียนเทียน เมื่อเทียบกับสัตว์ิญญาแล้วสัตว์อสูรก็เป็เหมือนกับาาปีศาจที่เหี้ยมโหด
พวกมันไม่ทำพันธสัญญากับมนุษย์ กล่าวคือ พวกมันกับมนุษย์มีความสัมพันธ์ที่เป็ปรปักษ์ต่อกันและสัตว์อสูรยังดุร้ายมาก หากมันพบเห็นมนุษย์ก็จะพุ่งเข้ามาทำร้ายทันที ถือว่าเป็สิ่งมีชีวิตที่อันตรายอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้พบกับสัตว์ิญญาระดับต่ำมาตลอดทาง ทำให้หานเทียนและคนอื่นๆ คลายความระมัดระวังลงไปมาก แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อเข้ามาถึงพื้นที่ป่าด้านในแล้ว พวกเขาจะเจอสัตว์อสูร
"พระเ้า มันไม่ได้มีตัวเดียว!"
ทุกคนต่างตื่นตัวเตรียมพร้อมรับมือ
หานโม่กำลังยืนอยู่ด้านหลังของกลุ่ม
ตอนที่หลินเฟยกรีดร้องออกมาด้วยความใ หานโม่ก็ทำตัวสงบนิ่งและพาเซวียอีเฉินเดินหลบไปอยู่ด้านท้ายของกลุ่ม เมื่อเทียบกับการที่ต้องคอยระแวดระวังหานซินจากด้านหลังแล้ว นางสบายใจที่จะมองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของหานซินอยู่ในสายตามากกว่า
ั้แ่เช้าหานซินทำตัวผิดแปลกไปจากเดิมเป็อย่างมาก ราวกับว่านางควบคุมอารมณ์ไม่อยู่และเอาแต่บ่นไม่หยุดมาตลอดทาง
สัตว์อสูรเบื้องหน้าเริ่มมารวมตัวกันจนเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
อาจเป็เพราะพวกมันไม่เคยเห็นมนุษย์มากมายขนาดนี้ ในดวงตาของสัตว์อสูรจึงฉายแววความตื่นเต้นออกมาอย่างปิดไม่มิดพวกมันเป็สิ่งมีชีวิตที่มีประสาทััเฉียบคมเป็อย่างมาก แต่เป็เพราะเวลานี้พวกมันยังไม่สามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งจากกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้าได้ ดังนั้นจึงทำเพียงล้อมทุกคนเอาไว้เงียบๆ และยังไม่เข้าโจมตี
"ข้ารู้สึกถึงกลิ่นอายของพัดเฉียนคุน จะต้องเป็เพราะกลิ่นอายของสมบัติชั้นสูงแน่ จึงเป็เหตุผลว่าทำไมถึงมีสัตว์อสูรมากมายขนาดนี้!"
หานเทียนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
ทุกสรรพสิ่งต่างมีจิติญญา แม้ว่าจะกล่าวว่าสัตว์อสูรไม่จำเป็ต้องใช้สมบัติล้ำค่า แต่กลิ่นอายของพัดเฉียนคุนเป็สิ่งที่น่าดึงดูดใจอย่างหนึ่งเหมือนกับอาหารอันแสนโอชะสำหรับพวกสัตว์อสูร
"พวกเราควรทำอย่างไรดี?" ดวงตาของหานซินมีร่องรอยของความวิตกกังวลที่ไม่อาจควบคุมได้
ตอนที่เห็นพวกสัตว์อสูรนางก็เริ่มกระวนกระวายขึ้นมา ดวงตาของนางค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีแดง
ในเวลานี้ยกเว้นหานโม่แล้ว ความสนใจของทุกคนต่างจับจ้องไปยังสัตว์อสูรที่เริ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีผู้ใดสนใจหานซินเลย
เมื่อหานโม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของหานซินคิ้วเรียวก็ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย
“ช้าก่อน ถ้าศัตรูไม่ขยับพวกเราก็ห้ามขยับ!” หานเทียนที่วางตัวเป็หัวหน้ากลุ่มมาตลอดเริ่มออกคำสั่งกับทุกคน
เขาอาจจะยังสงบนิ่งได้ แต่คนอื่นไม่อาจทำได้
หานเยว่เป็คนแรกที่ไม่อาจทนได้
เป็เพราะเมื่อคืนนี้นางพักผ่อนได้ไม่เต็มที่นักจึงทำให้มีสีหน้าที่ดูไม่ดี เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรจำนวนมากทำให้อารมณ์ที่อัดอั้นปะทุออกมา
"อะไรคือขยับหรือไม่ขยับ? หากพวกเรานิ่งเฉยแล้วสัตว์อสูรพวกนี้จะจากไปแต่โดยดีหรือยังไง?" คำพูดของหานเยว่คล้ายจะเป็การส่งสาส์นท้ารบขึ้นมาท่ามกลางผืนป่าที่เงียบสงบ
