ลุ่มหลงด้วยแรงปรารถนา (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

   

หมาป่าและเหยื่อ

        ฮั่วเฉิงโจวไม่ค่อยชอบวิสกี้เพราะแรงเกินไป เขาจึงสั่งค็อกเทลมาแทน

        บาร์เทนเดอร์เทวิสกี้ห้าสิบมิลลิลิตรลงในแก้ว จากนั้นก็เติมน้ำมะนาวคั้นพร้อมมะนาวฝาน เติมน้ำผึ้งลงไปหนึ่งช้อน สุดท้ายก็เติมน้ำเปล่าและใส่น้ำแข็งก้อนลงไป

        “ฉันว่านะ” ฉินเซ่อกลอกตาและอดไม่ได้ที่จะบ่น “มันก็แค่เครื่องดื่ม นายจำเป็๲ต้องพิถีพิถันขนาดนั้นเลยเหรอ?”

        “ทำไงได้ ก็ดื่มเหล้าแรงๆ แล้วฉันเมาง่ายนี่”

        ฮั่วเฉิงโจวกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ ท่าทางของเขาเ๾็๲๰าและสูงส่งราวกับหิมะสีขาวบน๺ูเ๳าสูง

        บาร์เทนเดอร์ยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ เขายื่นมือออกไปรับ กระดูกนิ้วที่จับแก้วนั้นเรียวชัดได้รูป ข้อมือของเขาขาวซีด

        ฉินเซ่ออดไม่ได้ที่จะกระตุกแค่นเสียง

        ฮั่วเฉิงโจวเงยหน้าจิบเครื่องดื่ม เผยให้เห็นสันกรามคมชัดที่ทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไปอีก

        เมื่อวางแก้วเหล้าลง หางตาเขาก็เหลือบไปมองโต๊ะข้างหน้าอย่างไม่ตั้งใจ

        สายตาของเขาจับจ้องบริเวณนั้นอย่างไม่ขยับไปไหนอยู่สักพัก

        “เฉิงโจว?” ฉินเซ่อเห็นเขานิ่งงันจึงยกมือโบกตรงหน้า “มองอะไรเหรอ?”

        ฮั่วเฉิงโจวที่กำลังล่องลอยก็ได้สติกลับมา เขายกมือลูบระหว่างคิ้วและพูดอย่างเกียจคร้าน “ไม่มีอะไร ฉันเห็นแล้ว”

        “เห็นอะไรล่ะ?”

        ความอยากรู้อยากเห็นของฉินเซ่อนั้นรุนแรงเสมอ เมื่อได้ยินฮั่วเฉิงโจวพูดมาแค่ครึ่งเดียวก็คิดอยากจะเตะเขาจริงๆ สักครั้ง

        “ไม่มีอะไร” ฮั่วเฉิงโจวยกยิ้มบางเบา คิ้วและดวงตาไร้การแยแส ปราศจากอารมณ์ร่วมใดๆ “ผีเสื้อตัวหนึ่ง”

        เขาคิดว่าผีเสื้อนั้นสื่อถึงความอ่อนช้อย งดงาม เช่นเดียวกับความประทับใจแรกที่เขามอบให้เธอ

        งามไร้สิ่งใดเปรียบ

        “ผีเสื้อ?” ฉินเซ่อเริ่มสนใจและยืดคอมองตามสายตาของเขา “ผีเสื้ออยู่ไหน?”

        ฮั่วเฉิงโจวไม่สนใจและพูดว่า “นายดื่มไปนะ ฉันมีธุระนิดหน่อย ขอตัวก่อน”

        “เฮ้อ! ไม่น่าชวนนายมาเลย” ฉินเซ่อแสดงความรำคาญอย่างมาก “เพิ่งมาได้เท่าไรเอง? นายยังดื่มไม่หมดแก้วเลยด้วยซ้ำ”

        ฮั่วเฉิงโจวตบไหล่เขาเบาๆ “ครั้งหน้าฉันเลี้ยงนายเอง”

        ...

        เสิ่นอันอันดื่มเหล้าไปหนึ่งขวด ตอนออกจากบาร์ เธอก็เริ่มรู้สึกปวดหัวหนักเท้า

        ดื่มไปขนาดนั้นคงขับรถกลับเองไม่ได้แน่ เธอจึงจะโทรศัพท์ให้คนขับรถมารับ แต่พอหยิบโทรศัพท์ออกมาก็พบว่าแบตเตอรี่หมด

        เธอลูบขมับด้วยความรู้สึกแย่ จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์และยืนอยู่ข้างถนนรอรถแท็กซี่

        ผ่านไปห้านาทีก็ยังไม่มีแท็กซี่สักคัน แต่กลับมีรถเบนท์ลีย์มาจอดเทียบตรงหน้าเธออย่างสง่างาม

        เลขทะเบียนรถคันนี้มงคลมาก เป็๲เลขหกติดกัน

        เมื่อกระจกรถถูกลดลง เสิ่นอันอันก็มองเห็นใบหน้าของคนที่อยู่ข้างใน

        เขานั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ดั้งจมูกตั้งรับกับแว่นตาขอบทอง ใบหน้าหล่อเหลาดูอ่อนโยนและสูงส่ง หางตายกขึ้นเล็กน้อยคล้ายเจือด้วยรอยยิ้ม

        เธอไม่เคยเห็นความสง่างามสูงส่งเช่นนี้จากใครมาก่อน ราวกับเขาได้ละทิ้งเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา[1] ไม่เปื้อนฝุ่นใดของธุลีแดง[2]อีกแล้ว

        หลังจากสบตามองหน้ากันไม่กี่วินาที ชายหนุ่มก็ค่อยๆ เปิดปาก “คุณหนูเสิ่น”

        ความโกลาหลที่วิ่งวุ่นในหัวของเสิ่นอันอันหายไปทันที ในที่สุดเธอก็คิดออกว่าคนตรงหน้านี้คือใคร

        “ฮั่ว...” เธอลิ้นพันเล็กน้อยจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ “ศาสตราจารย์ฮั่ว?”

        ฮั่วเฉิงโจวประคองพวงมาลัยรถด้วยมือข้างเดียว พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูเสิ่นกำลังเรียกแท็กซี่เหรอครับ?”

        “ใช่ค่ะ ฉันดื่มมาเลยขับรถไม่ได้”

        “ตอนนี้ดึกแล้ว ผู้หญิงนั่งแท็กซี่คนเดียวอันตราย เดี๋ยวผมไปส่งเองครับ”

.................................................................................................................................................

ปอกกล้ยวเข้าปาก

        ตอนแรกเสิ่นอันอันอยากปฏิเสธ เพราะกลางดึกแบบนี้เธอไม่ควรนั่งรถของเพศตรงข้ามสักเท่าไร

        แต่เสียงที่อ่อนโยนนั้นเหมือนมีพลังวิเศษ ในที่สุดเธอก็เปิดประตูรถด้วยความงุนงง

        กลางดึกของต้นฤดูใบไม้ร่วงมีอากาศหนาวเย็นเล็กน้อย ฮั่วเฉิงโจวเห็นเธอสวมเสื้อผ้าเนื้อบางจึงเปิดฮีตเตอร์ให้

        เขามองไปข้างหน้าและถามอย่างเฉื่อยชา “บ้านคุณหนูเสิ่นอยู่ที่ไหนครับ?”

        “บ้าน?” เสิ่นอันอันขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากครุ่นคิดอยู่นานเธอก็ส่ายศีรษะและพูดว่า “ฉันไม่มีบ้านแล้วค่ะ”

        เธอเคยคิดว่าเรือนหอเป็๞บ้านของเธอ จนกระทั่งเจียงอี้เฉินพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามา

        เมื่อเห็นว่าเธอไม่สามารถบอกที่อยู่ได้ เดิมทีฮั่วเฉิงโจวคิดจะส่งเธอไปโรงแรม แต่เขาก็เปลี่ยนความคิด “งั้นคุณพักที่บ้านผมก่อนสักคืนไหมครับ?”

        “ไม่...ไม่ได้นะคะ” แม้เสิ่นอันอันจะพูดอย่างตะกุกตะกัก แต่ท่าทีปฏิเสธของเธอนั้นชัดเจนมาก “ฉันแต่งงานแล้วค่ะ จะไป...ไปนอนบ้านคนอื่นไม่ได้”

        รอยยิ้มในดวงตาของฮั่วเฉิงโจวแข็งกร้าวขึ้น

        เธอเมาขนาดนี้ ต่อให้เขาพาเธอกลับบ้านจริงๆ ก็ง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก

        แต่การฉวยประโยชน์จากผู้ทุกข์ยากเป็๲พฤติกรรมของคนชั่ว และเขาไม่ใช่คนเช่นนั้น

        เขาจับพวงมาลัยด้วยมือซ้าย แล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า “งั้นผมจะไปส่งที่โรงแรมนะครับ”

        ผ่านไปสักพัก สารถีก็ยังไม่ได้คำตอบจากผู้ร่วมเดินทาง

        เมื่อเขาหันไปมองด้านข้างก็พบว่าเธอหลับพิงกระจกรถไปเสียแล้ว

        ทางข้างหน้าคือแยกไฟจราจร ฮั่วเฉิงโจวเหยียบเบรกช้าๆ แล้วจับจ้องใบหน้าของเธอ

        เนื่องจากเธอพิงอยู่กับกระจก ใบหน้าเล็กๆ ครึ่งหนึ่งจึงตกลงไปในเงามืด ถ้ามองจากตำแหน่งของเขา ใบหน้าของเธอก็มืดครึ่งสว่างครึ่ง

        ผู้อำนวยการชมเธอว่าเป็๲เด็กสาวอัจฉริยะ เป็๲ผู้หญิงที่ไม่ด้อยไปกว่าผู้ชาย

        เขาคิดว่าผู้หญิงที่บริหารห้างสรรพสินค้า อาจพูดไม่ได้ว่ามีนิสัยแข็งกระด้าง แต่อย่างน้อยก็คงไม่อ่อนโยนเช่นนี้

        เสิ่นอันอันช่างเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ

        ฮั่วเฉิงโจวจอดรถตรงทางเข้าโรงแรมห้าดาวที่หรูที่สุดในเมืองอวิ๋นเฉิง เขาไม่ได้ปลุกเธอตอนลงจากรถ และเดินเข้าข้างในพร้อมกับเธอที่อยู่ในอ้อมแขน

        เขามีห้องเช่าระยะยาวที่นี่ จึงไม่ต้องลงทะเบียนที่แผนกต้อนรับ

        ในห้องของเขาจุดเครื่องหอมไว้อยู่ตลอด กลิ่นไม้จันทน์ทำให้บรรยากาศสงบและสดชื่น

        ฮั่วเฉิงโจววางเสิ่นอันอันลงบนเตียงเบาๆ ผ้าปูที่นอนสีเข้มตัดกับผิวขาวราวหิมะของเธอ

        เขายืนอยู่ข้างเตียง สายตาจับจ้องร่างบาง กระโปรงยาวที่โอบรัดเอวคอด และหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ

        ขาเรียวยาวคู่นั้น ถ้ามาพาดอยู่ที่เอว...

        ดวงตาของฮั่วเฉิงโจวมืดลง ความคิดชั่วร้ายกำลังพุ่งออกมาอย่างอัตโนมัติ

        เมื่อความคิดเกิดขึ้นมา ร่างกายของเขาก็มีการตอบสนองเช่นกัน เขาก้มมองที่ระหว่างขาของตัวเอง

        มันแข็งแล้ว...

        เขายื่นมือออกไปค้างอยู่กลางอากาศ ถ้ามันตกลงมาก็คือหน้าอกของเธอ

        แต่สุดท้ายเขาก็ควบคุมความคิดชั่วร้ายในใจของตัวเองได้ และ๱ั๣๵ั๱ใบหน้าเล็กๆ ของเธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง  ...

        เช้าวันถัดมา เสิ่นอันอันบอกไม่ถูกว่าเธอรู้สึกอย่างไรเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเห็นสภาพแวดล้อมแปลกๆ เธอจำได้เพียงว่าเธอรีบหนีไปอย่างลุกลี้ลุกลน

        แค่ดื่มไปไม่กี่แก้วก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะมานอนโรงแรมแบบไม่รู้เ๹ื่๪๫อะไรอีก

        ไม่ว่าจะพยายามมากเท่าไรเธอก็นึกเ๱ื่๵๹ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ออก โชคดีที่เสื้อผ้าของเธอยังอยู่ครบและไม่ได้รู้สึกแปลกๆ กับร่างกาย มีเพียงอาการเมื่อยล้าเล็กน้อยเท่านั้น

        บางทีอาจมีคนเจตนาดีพาเธอมาส่งที่โรงแรมก็ได้?

        เธอนั่งแท็กซี่กลับไปที่บาร์ แล้วขับรถตรงไปที่สำนักกิจการพลเรือน

        ทว่า เธอรอจนสิบโมงก็ยังไม่มีวี่แววของเจียงอี้เฉิน


[1] เจ็ดอารมณ์ ได้แก่ ยินดี โกรธ เศร้า กลัว รัก เกลียด และใคร่ ส่วนหกปรารถนา ได้แก่ ความปรารถนาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ

[2] โลก

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้