ภายใต้คำสั่งของเฉินฮุย ทุกคนจากตำหนักไท่จี๋ล้อมสังหารเย่เฟิง และหลี่เสวียนเพิ่งฟื้นสติจากอาการใ เขาไม่ได้เพิกเฉยต่อเื่นี้เหมือนอย่างที่คนอื่นๆ ทำ แต่ตระหนักได้อย่างรวดเร็วกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่และรู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเกินไป ร่างที่เพิ่งถูกจัดการไปแต่กลับมาช่วยรับกระบี่แทนเขา ไม่กลัวว่าตัวเองจะต้องกลายเป็เถ้าถ่านหรือ?
เขาย่อมไม่รู้ว่าตอนนี้หลิงเฉินเป็ผู้ฝึกิญญา ต่อให้ิญญาสลายแต่ก็ไม่ตาย กลับยิ่งทำให้เขารู้สึกถึงบางอย่าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีเพียงหลิงเฉินเท่านั้นที่ทำเื่แบบนี้ได้!
ร่างนั้นเป็หลิงเฉินศิษย์ของเขาจริงๆ... แต่ทำไมตอนนี้หลิงเฉินถึงกลายเป็แบบนั้น? แท้จริงเป็คนหรือิญญากันแน่? เย่เฟิงที่เพิ่งอายุยี่สิบปีก็เก่งกาจขนาดนั้น แท้จริงมันเป็เื่บังเอิญหรือ?
เขาทำอะไรกับหลิงเฉิน?
หลี่เสวียนในเวลานี้ค่อนข้างเสียใจ ในฐานะผู้าุโตำหนักไท่จี๋ เขาขบคิดสิ่งต่างๆ ได้เหนือกว่าเฉินฮุย คนอย่างเย่เฟิงไม่ใช่คนที่จะล่วงเกินผู้อื่นง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเื่บาดหมางกันมาก่อน อย่างไรก็ตามนั่นคือหลิงเฉินจริงๆ และท่าทางหลิงเฉินเหมือน้าพูดอะไรบางอย่างซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับเย่เฟิง...
เป็ครั้งแรกที่หลี่เสวียนรู้สึกเสียใจ ไม่น่าฟังคำพูดของเฉินฮุยแล้ววู่วามลงมือเลย มิฉะนั้นเื่คงไม่กลายเป็แบบนี้
หลี่เสวียนเงยหน้าขึ้นและเห็นเหล่าศิษย์ตำหนักไท่จี๋ถลาพุ่งเข้าใส่เย่เฟิง โดยใช้พลังหมัดไท่จี๋และรูปแบบกระบี่ของไท่จี๋ ราวกับจะทำให้เขาตายในคลื่นฝูงชน เขาดูสถานการณ์พลางสีหน้าเปลี่ยนไปและกัดฟันแน่น เ้าพวกโง่ ไม่รู้หรือไงว่าเย่เฟิงน่ากลัวขนาดไหน แล้วดันบุกโจมตีพร้อมกันแบบนั้นอีก!
โดยไม่รอให้ผู้าุโหลี่เสวียนตอบสนองได้ทัน เย่เฟิงที่อยู่อีกด้านก็ออกกระบวนท่าอีกครั้ง เขากลืนเม็ดยาอายุวัฒนะเพื่อฟื้นฟูพลังชี่ ดวงตาของเย่เฟิงทอประกายเย็นเยียบ ตรงหน้าคือเหล่าศิษย์ตำหนักไท่จี๋ที่กรูมาล้อมเขาไว้ ด้วยทักษะจิตหยั่งรู้ เขาพบว่าคนเหล่านี้มีระดับพลังสามสิบกว่าปี แต่เย่เฟิงมีระดับพลังยี่สิบปีเทียบเท่าระดับพลังภายในสี่สิบปี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็ผู้ฝึกวิถีเซียน ถึงเขาจะออมแรงก็ยังสามารถจัดการฝ่ายตรงข้ามได้
รำกระบี่ไร้ตัวตน!
เย่เฟิงกระชับกระบี่ในมือแน่นขึ้น อีกครั้งที่เขาต้องออกกระบวนท่าสังหาร
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
ฝ่ายตรงข้ามแทบต้านทานไม่ได้เลย คนสามคนถูกเย่เฟิงสังหารด้วยกระบี่เดียว แต่ร่างของเย่เฟิงหายไปจากกลางวงล้อมเข้าไปอยู่ภายในมิติ
รวดเร็วเกินไปแล้ว
ไม่มีใครสามารถติดตามลำแสงกระบี่ของเย่เฟิงได้ทัน มีเพียงแสงกระบี่สว่างวาบปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาเท่านั้น จากนั้นกระบี่ก็สะบั้นเข้าที่คอทันที
หลังจากหลี่เสวียนเห็นทั้งสามคนถูกสะบั้นคอขาด ในที่สุดก็รีบเร่งวาดมือทั้งสองข้างทันที พลังไท่จี๋!
คลื่นพลังภายในสีขาวแผ่ออกมาจากร่างกายของเขาก่อตัวเป็โล่พลังปราณสีขาวซึ่งเป็เกราะป้องกันเหล่าคนที่มีความสำคัญอยู่ใจกลางนั่นเอง
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
ส่วนศิษย์ตำหนักไท่จี๋ที่ไม่ค่อยสำคัญจึงพบกับหายนะทันที แต่ละคนถูกกระบี่สีเขียวเข้มสังหาร
ตึง ตึง ตึง...
เหล่าศิษย์ตำหนักไท่จี๋แต่ละคนล้มกันไปคนละทิศละทางภายในป่า ลำคอของพวกเขาต่างถูกฟันขาดด้วยกระบี่
“เย่เฟิง! หยุดเดี๋ยวนี้ หากสังหารใครต่อไปอีก พวกเราตำหนักไท่จี๋คงอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันกับแกไม่ได้!”
หลี่เสวียนทนดูเหล่าศิษย์ต้องตายภายใต้กระบี่ของเย่เฟิงไม่ได้ ะโออกมาด้วยความเ็ปทันที
“ต้องขอโทษด้วย ฉันแค่กำลังป้องกันตัว”
เย่เฟิงสังหารคนด้วยกระบี่เดียว เมื่อรำกระบี่ไร้ตัวตนสิ้นสุดลง ร่างคนทั้งสิบสามต่างล้มลงพื้น จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวจากอากาศธาตุอีกครั้ง ราวกับว่าร่างที่สวมเชิ้ตดำนี้เป็ภูตผี
เขายืนนิ่งอยู่ภายในป่า ลมทะเลทำให้ผมสั้นๆ ของเขาปลิวไสว กระบี่สีเขียวเข้มเล่มยาวในมือของเขาคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย แม้กระทั่งเืหยดเดียวก็ไม่เปื้อนพื้น
“ผู้าุโ ท่านจัดการมันเลย ผมจะ...”
เฉินฮุยเป็บุคคลสำคัญที่สุดที่หลี่เสวียนต้องปกป้อง แต่ในเวลานี้เขาเอ่ยแนะออกไปด้วยเสียงแ่เบา
หลี่เสวียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่จ้องเย่เฟิง ร่างเพรียวนั้นดูมั่นคงท่ามกลางแรงลมแบบนั้น ชุดคลุมสีขาวปลิวตามแรงลม บนหัวไหล่มีหยินหยางที่เป็ตราสัญลักษณ์ตำหนักไท่จี๋เพื่อบอกถึงฐานะผู้าุโแห่งตำหนักไท่จี๋ของเขา
“วิชาเช่นนี้ นายยังปล่อยมันได้อีกสักกี่ครั้ง?”
ในที่สุดหลี่เสวียนก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมอย่างไม่มีใครเทียบได้ เห็นได้ชัดว่าเย่เฟิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคือศัตรูสำคัญคนแรกในรอบหลายปีมานี้ แน่นอนว่าไม่อาจเปรียบให้เย่เฟิงเป็เพียงรุ่นเยาว์ได้เลย!
หลี่เสวียนรู้ดีว่าการประเมินศัตรูต่ำเกินไป จุดจบคือความตาย แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำผิดพลาดแบบนี้ ยิ่งกว่านั้นเย่เฟิงสังหารคนจากตำหนักไท่จี๋เป็จำนวนมาก เขาไม่สามารถปล่อยเย่เฟิงไปแบบนี้ได้ มิเช่นนั้นเมื่อเื่กระจายออกไป ตำหนักไท่จี๋จะไม่เสียหน้าหรอกหรือ อีกทั้งชีวิตของเหล่าศิษย์มากมายซึ่งถือเป็การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของตำหนักไท่จี๋ หากหลี่เสวียนไม่มีคำอธิบายในเื่นี้ เมื่อกลับไปแล้วเขาก็ไม่อาจรักษาตำแหน่งผู้าุโได้
เขารู้ว่าครั้งนี้ตนเจอของแข็งเข้าแล้ว หากรู้แต่แรกว่าเจรจาดีๆ กับเย่เฟิงแล้วสถานการณ์จะไม่เปลี่ยนเป็เช่นนี้แน่... อย่างไรก็ตามมันคงจบลงตรงนี้แล้ว หลี่เสวียนคิดว่าความแข็งแกร่งของเขาสามารถจัดการเย่เฟิงได้แน่นอน อย่างมากก็ไม่อาจจับเป็ได้
“ยังใช้ได้อีกหลายครั้ง ว่ายังไงล่ะ อยากลองดูไหม?”
เย่เฟิงเอ่ยตอบเสียงเบา กระบี่สีเขียวในมือชี้ไปยังหลี่เสวียน
ในโลกนี้มีไม่กี่คนที่กล้าชี้กระบี่หาหลี่เสวียนเช่นนี้ เย่เฟิงเป็บุคคลโอหังที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาพวกเขา เมื่อเห็นท่าทางสบายๆ แบบนั้นของเย่เฟิง เฉินฮุยก็มีความรู้สึกอยากตาย ทำไมถึงไม่ใช่เขากันนะ? เห็นได้ชัดว่าเขาเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นเยาว์อันดับหนึ่งในเจียงหู! ไม่ว่าจะเป็ผู้ชายคนอื่นที่มีชื่อเสียงพอๆ กับเขาหรือจะเย่เฟิงที่อยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่้ามอบตำแหน่งนี้ให้!
เฉินฮุยรู้สึกอิจฉามากและหวังเพียงหลี่เสวียนจะสังหารเย่เฟิงในทันที ไม่ว่าเย่เฟิงจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถสู้ผู้าุโแห่งตำหนักไท่จี๋ได้ มิใช่หรือ? ในเมื่อเขาโอหังนัก ก็ให้ลิ้มรสผลของความโอหังนั้นเสียหน่อย!
ทว่าเฉินฮุยไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตัวเองที่ยกตนอยู่ในตำแหน่งผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นเยาว์อันดับหนึ่งนั้นโอหังยิ่งกว่าเย่เฟิงเสียอีก เย่เฟิงตอนนี้เพียงป้องกันตัวอย่างชอบธรรม ทั้งหมดที่ทำคือใช้กำลังในการพูดคุย มิเช่นนั้นแล้วคนที่โชคร้ายก็คงเป็ตัวเขาเอง น่าเสียดายที่เขาไม่อาจสังหารหลี่เสวียนได้ในทันที มิเช่นนั้นตอนนี้คงไม่เป็ปัญหาขนาดนี้และสังหารพวกนั้นทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว
เย่เฟิงจ้องหลี่เสวียนในชุดคลุมสีขาวที่อยู่เบื้องหน้า พลางครุ่นคิดในใจ อันที่จริงเย่เฟิงไม่้าใช้กระบี่ไร้ตัวตนเลย ยาอายุวัฒนะที่ฟื้นฟูพลังชี่ที่เขากิน แม้จะฟื้นฟูได้รวดเร็ว แต่ผลข้างเคียงก็มากเช่นกัน หลังจากกินแล้วเม็ดหนึ่งและต้องกินเม็ดที่สองอีกครั้งใน่ระยะเวลาเพียงไม่นาน มันจะส่งผลฟื้นฟูได้เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นไม่สามารถกินต่อเนื่องและตอนนี้เย่เฟิงมีพลังชี่แค่ครึ่งเดียว พลังชี่น้อยนิดขนาดนั้นเพียงพอสำหรับร่ายรำกระบี่ไร้ตัวตนอีกครั้ง หากไม่สามารถสังหารหลี่เสวียนได้ เขาก็คงต้องยอมรับแล้ว
อย่างไรก็ตามการมองหาความยั่งยืนในความเสี่ยงเช่นนี้ นอกจากร่ายรำกระบี่ไร้ตัวตนแล้ว เย่เฟิงไม่สามารถหาวิธีอื่นในการจัดการกับหลี่เสวียนได้อีก แค่โล่พลังปราณสีขาวอันนั้น เขาก็ไม่มีทางอื่นที่จะทะลุผ่านไปได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลี่เสวียนที่เตรียมตัวพร้อมตั้งรับการโจมตี ขอเพียงร่างเขาอยู่ในอากาศธาตุ มิเช่นนั้นเขาต้องถูกหลี่เสวียนสังหารแน่นอน
ต้องลงมือแล้ว!
เย่เฟิงคิดในใจ ภายในดวงตาปรากฏกระแสแห่งความแน่วแน่
ข่าวดีก็คือ การร่ายรำกระบี่ไร้ตัวตนสองครั้งติดต่อกันเมื่อครู่ ทำให้เขาเข้าถึงรูปแบบของวิชานี้อีกเล็กน้อย ด้วยพร์เช่นนี้ เขาจึงเข้าใจระดับความเร็วของวิชานี้ได้มากกว่าใคร!