องค์ชายใหญ่หวาซงอ๋องก้าวข้าเข้ามาในตำหนักท่าทีองอาจ แต่แทนที่เขาจะเข้าไปหาหวาเซียงอ๋องเขากลับเดินลัดเลาะไปเมียงมองยังที่พำนักของอู่หงถิง
“ท่านอ๋องลมอะไรหอบมาถึงนี่”
ซ่างเซี่ยนเอ่ยปากทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ชายาเอกหวาเซียงอ๋องวันนี้หน้าตาสดชื่น อาการป่วยคาดว่าจะเป็ปกติแล้วใช่หรือไม่”
ยิ้มด้วยสีหน้าเป็มิตร
“ท่านอ๋องอยู่ที่ห้องทำงาน เชิญท่านที่นั่นจะดีกว่าที่นี่เป็ที่พำนักของข้ากับท่านอ๋อง”
“แล้วชายารองของหวาซียงอ๋องเล่าพำนักที่ใด”
“อ๋อนางอยู่ห้องทางซ้ายมือ ไม่ทราบว่าหวาซงอยากพบนางใช่หรือไม่”
“ข้าหา้าพบนาง แค่เพียงสงสัยเพราะชายาท่านบอกว่าเป็ที่พำนักของหวาเซียงอ๋องกับเ้า เกรงว่านางเป็ชายารองอาจมีที่พำนักอยู่ที่อื่นเป็แน่”
อู่หงถิงก้าวขาออกมาข้างนอกพร้อมด้วยฟางหลุน หวาซงอ๋องชายาตามองอู่หงถิงเพียงแว็บเดียว ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็ปกติ ก้มหัวลงช้าๆ อู่หงถิงเองก็ย่อตัวให้ด้วยความเกรงใจ
“สบายดีไหม”
อู่หงถิงเลิกคิ้วก่อนจะส่งภาษามือหวาซงขมวดคิ้ว
“นายหญิง พูดไม่ได้เ้าค่ะ”ฟางฟลุนตอบแทน
“ตามหมอหลวงหรือยังมีสิ่งใดผิดปกติกันน้องหญิงถึงไม่พูด”
ซ่างเซี่ยนทำสีหน้าใไม่น้อย
“ั้แ่ ข้าน้อยอยู่กับนายหญิงนายหญิงก็ไม่เคยปริปาก ใช้แต่ภาษามือ”
“เ้าไปตามหมอหลวงมาดูอาการของนาง”
หวาซงออกคำสั่ง อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่ต้อง ทำให้ฟางหลุนลังเล
“รีบไปเดี๋ยวนี้เลย หากชายารองเป็อะไรมากไปกว่านี้เกรงว่าเ้านั่นล่ะที่จะมีความผิด”คราวนี้เป็ ฟางหลุนที่รีบวิ่งออกไปทันที
“ซ่างเซี่ยนรีบดึงแขน อู่หงถิงให้เข้าไปในห้องนั่งลงบนแท่นนอนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ หวาซงได้แต่อยู่ด้านนอกมองเข้าไป
“เป็อะไรไปท่านอ๋องทำอะไรเ้า เ้าจึงพูดไม่ได้เช่นนี้บอกข้ามาเถิด”
ช่างเซี่ยนสงสัยว่าจะเป็หวาเซียงอ๋องที่ทำให้อู่หงถิงพูดไม่ได้ แต่อู่หงถิงไม่เข้าใจคำถามด้วยความห่วงใยของซ่างเซียน จึงส่ายหน้าไปมาเสีย
“บอกข้ามาข้ายินดีปกป้องเ้า แต่อย่าได้บอกกับคนอื่นว่าท่านอ๋องกักขังและทำร้ายเ้าเช่นนั้นเื่นี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าจะไม่เป็การดีต่อท่านอ๋อง”
อู่หงถิงยังคงส่ายหน้าซ่างเซี่ยนถอนหายใจ ท่านหมอเข้ามาพอดี
“ท่านหมอตรวจดูให้ถ้วนถี่ทำไมชายารองจึงไม่ยอมปริปาก มีสิ่งใดผิดปกติกัน”หมอหลวงประสานมือ ทำการตรวจดูทั้งหูคอและปากก่อนจะถอยออกมาตรงหน้าเหอซ่างเซี่ยนและหวาซงที่ยืนรอข้างนอก
“พระชายา ชายารองไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ แต่กระหม่อมเกรงว่าจะมีเื่ใดที่กระทบจิตใจนางอย่างมากจึงไม่ยอมปริปาก”
“กระทบจิตใจ”หวาซงอ๋องทวนคำช้าๆ แววตาครุ่นคิด
“หลังจากที่ตรวจดูแล้วการได้ยินก็ยังใช้ได้ อีกทั้งลิ้นไก่ของนางก็ปกติ แต่...ชายารองนางไม่ยอมเปล่งเสียง กระหม่อมเองก็จนปัญญา มีเพียงตัวชายารองเท้านั้นจึงจะรู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ยอมพูด และอีกวิธีคือหากข้าน้อยรู้สาเหตุอาจแก้ไขได้ในไม่ช้า”
ซ่างเซี่ยนได้แต่เพียงโบกมือให้หมอหลวงไปเสีย
“ชายาเอก ท่านคิดว่านางเป็อะไร”
“ข้าคิดว่านางเพียงแค่ไม่อยากพูด อาจมีบางอย่างที่ทำให้นาง หวาดกลัวหรือใ”
คิดไปถึงสิ่งที่หวาเซียงอ๋องทำกับ อู่หงถิง
เย็นมากแล้วหวาเซียงอ๋องเดินกลับเข้ามาที่พำนักพร้อมด้วยเสี่ยวกุน เหอซ่างเซี่ยนยืนรออยู่ที่หน้าห้อง พยุงซ่างเซี่ยนเข้าไปข้างใน
“หวางเฟยอากาศเริ่มเย็นออกมายืนรอข้า จะไม่สบายเอาได้”
“ท่านอ๋องเ้าหรู นางๆๆ ”
หวาเซียงอ๋องขมวดคิ้ว
“นางแผลงฤทธิ์กับเ้าหรือไร ข้าเห็นจะต้องลงทัณฑ์นางอีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างที่ท่านอ๋องคิด แต่นางตอนนี้ไม่ยอมปริปากวันๆส่งภาษามือเหมือนคนเป็ใบ้ เกรงว่าใต้เท้ากวงรู้เข้าอาจไม่พอใจที่ท่านอ๋องแต่งนางเข้ามาไม่ทันไรนางกลับป่วยไข้”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรนาง มีแต่นางที่คิดสังหารข้า”
“ท่านพี่ ท่านดีกับนางมากหน่อย ข้าคิดว่าไม่นานนางจะพูดได้วันนี้ข้าให้หมอหลวงมาตรวจดูอาการของนางหวาซงอ๋องก็อยู่ที่นี่”
มือใหญ่กำมัดแน่น
“หวาซงอ๋อง นึกแล้วไม่ผิดข่าวลือนั่น”
“ข่าวลือใดกัน เซี่ยนเซี่ยนไม่เคยได้ยิน”
“ข่าวรือเื่ความสัมพันธ์ของ หวาซงกับกวงเ้าหรูก่อนหน้านั้น นี่คงอดอยากได้ไม่นานจึงคิดมาเริงรักกันให้หายคิดถึงไม่น่าเชื่อว่าจะกล้ามาถึงจวนของข้า”
“ท่านพี่ข้ามองนางไม่ผิด นางยังพิสุทธิ์เช่นไรท่านถึงคิดว่านาง…”
“เซี่ยนเซี่ยนเ้าเป็คนจิตใจดีเพียงนี้ คงยังไม่รู้ว่าในวังหลวงล้วนมีเื่คาวโลกีย์มากมาย”
“ท่านอ๋อง หากจะปรักปรำนางคงไม่เหมาะ”
ยิ้มหยันที่ใบหน้า
“เ้ารอดูว่าสิ่งที่ข้าพูดจะจริงเท็จแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อช้าก็ได้”
เหอซ่างเซี่ยนถอนหายใจหากเป็เช่นที่หวาเซียงอ๋องพูดแสดงว่าซ่างเซี่ยนมองคนผิดไป หวาเซียงอ๋องก้าวขายาวๆ ตรงไปยังห้องของอู่หงถิงผลักประตูเข้าไป โบกมือไล่ฟางหลุน อู่หงถิงกับนอนขดตัวนิ่งบนแท่นนอน เมื่อเห้นว่าคนที่มาเป็ใครก็ใช้มือสองข้างกอดรอบเข่าไว้แน่นไม่แม้แต่จะหันมอง ในเมื่อตอนนี้กำลังวางแผนและกำลังหาทางที่จะหลุดพ้นความคิดของตัวเองที่ห่วงใยมารดาและน้องไหนจะเื่ที่ต้องลงมือฆ่าหวาเซียงอ๋องจึงรู้สึกว่าตัวเองเศร้าสร้อยอย่างประหลาด
“ลุกขึ้น”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยโทสะ อู่หงถิงยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นงอตัวให้คุ้ดคู้กว่าเดิม
"ข้าบอกให้ลุกขึ้น"
กระชากแขนที่กอดหัวเข่าไว้แน่น ร่างบางบัดนี้เป็เพียงก้อนเนื้อกลมๆ ที่มองเพียงแว๊บแรกเหมือนไร้ซึ่งชีวิตหากไม่ติดที่ใบหน้างดงามนั้น
“เสี่ยวกุนปิดประตู”
หันไปสั่งเสี่ยวกุน อู๋หงถิงยังนอนนิ่งไม่ไหวติงคิดว่าจะขู่ได้แต่ไม่เป็ผล
“แสร้งป่วยไข้เรียกร้องความสนใจ ข้าจะดูว่าเ้าจะไม่ยอมปริปากได้นานแค่ไหน”ลากร่างบางลงไปกองกับพื้นอ้อมแขนเล็กหลุดออกจากหัวเข่า เจ็บจนจุกแต่ก็ยังไม่เปล่งเสียง ยิ่งยั่วโทสะของอีกคน
“ซ่างเซี่ยนบอกให้ดีกับเ้าหน่อย แต่ข้าว่าคงไม่เป็ผล”
ขึ้นคร่อมร่างบาง มือแข็งแรงจับมือบางทั้งสองข้างให้กางออกขาแกร่งกดทับหน้าขาของอู๋หงถิงจนเจ็บ อู๋หงถิงดิ้นรนกระเสือกกระสนแต่ถูกรวบลงไปนอนใต้ร่างของหวาเซียง
“จะทนได้กี่น้ำ”
มือใหญ่อีกข้างดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจนออกเกือบจะเปล่าเปลือย อู่หงถิงแม้จะมีแววตาตื่นตระหนกแต่กับไม่มีเสียงร้อง ขยับตัวหนีความกักขฬะของอีกคน หวาเซียงกดเอวแนบกับเอวของอู๋หงถิงยิ้มหยันเมื่ออู่หงถิงไม่อาจขยับตัวได้ แต่หันหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าเขา เขาจ้องมองเนินเนื้ออวบอิ่มตรงหน้าที่เขาเพิ่งจะดึงอาภรณ์ออกไป กลืนน้ำลายลงคอ
“ช่างเก่งเสียจริง ข้าน่ารังเกียจมากถึงกลับอยากให้ตายเลยหรือไร”
ดวงตาของอู่หงถิงเป็ประกายวาววับ หากฆ่าเขาตอนนี้ก็จะมีคนเป็พยานทั้งเสี่ยวคุนและฟางหลุนที่อยู่ด้านอกคงได้ยินว่าหวาเซียงอ๋องข่มเหงอู่หงถิง
ตาเหลือบมองแจกันบนโต๊ะข้างแท่นนอนอันไม่เล็กนักหยุดดิ้นพักเอาแรงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับอีกคนที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้วตากลมเปล่งประกายวาวโรจน์ กับตาคมของหวาเซียงอ๋องที่มองอู่หงถิง
“หมดฤทธิ์แล้วหรือไร”
ตาจ้องมองริมฝีปากสีชมพูระเรื่อตาไม่กะพริบ บางอย่างในกายที่ห่างหายมานานเริ่มตื่นตัว พยายามหักห้ามใจแต่ไม่เป็อย่างที่ใจ้าร่างกายหาบังคับได้ไม่ หวาเซียงอ๋องขยับเอวกดกระแทกทั้งๆ ที่ยังมีอาภรณ์เหมือนตั้งใจแกล้งอู่หงถิง ยิ้มหยันที่อู่หงถิงไม่อยากเห็น ลอยอยู่ตรงหน้า
“จะดูว่าจะไม่พูดได้นานแค่ไหน ร้องสิหากไม่ชอบก็ร้องหากเ้าไม่ร้องข้าจะถือว่าเ้าเต็มใจและชอบที่ข้าทำแบบนี้”
อู่หงถิงใช้เท้าถีบพื้น เอาศีรษะชนกับโต๊ะที่ข้างแท่นนอน แจกันใบใหญ่ร่วงลงบนพื้น หวาเซียงอ๋องซบหน้าลงกับอกอุ่นนุ่ม มือเล็กถูกปล่อยให้เป็อิสระอู่หงถิงคว้าแจกัน ด้วยมือเดียวทุบเข้าไปที่ศีรษะของหวาเซียงอ๋องอย่างจัง
“เพล้ง”
หวาเซียงอ๋องผุดลุกขึ้นคลำที่กลางศีรษะของเหลวอุ่นๆไหลออกจากาแที่เจ็บจี้ดถึงหัวใจ อู่หงถิงยืนตัวสั่นงันงก
เสี่ยวกุนกับฟางหลุนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน ฟางหลุนถลาเข้าไปกอดรวบร่างเล็กของอู่หงถิงไว้แน่นตั้งใจปกป้องเพราะรู้ว่าหวาเซียงอ๋องโมโหเพียงใดในตอนนี้ เหอซ่างเซี่ยนเดินแกมวิ่งจากห้องของนาง มองคนนู้นทีคนนี้ที
หวาเซียงอ๋องจ้องมองมาที่อู่หงถิงสายตาแค้นเคือง แต่เพียงครู่ก็ยิ้มหยัน ยิ้มหยันที่ริมฝีปาก
“ขังนางห้ามส่งข้าวส่งน้ำ จนกว่าข้าจะสั่ง”
เหอซ่างเซี่ยนถลาเข้าหาหวาเซียงอ๋องที่ล้มทั้งยืนด้วยเสียเืมาก เืสดๆไหลนองพื้นสีแดงฉาน ฟางหลุนกอดอู่หงถิงแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อปลอบใจ เมื่อเห็นว่าใบหน้าบางซีดเผือด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้