‘หากอยู่ ๆ ข้าเปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก จะทำให้หลินหลินสงสัย และหากนางสงสัยในตัวข้า ความไว้วางใจที่นางมีต่อข้าก็อาจลดลงไปด้วย ตามน้ำก่อนละกัน’ เมื่อคิดได้ดังนั้น หวางฟางเฟยจึงปั้นหน้ายิ้ม แล้วรับเอาถาดอาหารมา ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องของคุณชายจิวอี้ซิง
“ข้ารออยู่ด้านนอกนะเ้าคะ” ว่าแล้วหลินหลินก็ปล่อยให้หวางฟางเฟยเข้าไปรอคุณชายจิวอี้ซิงตามลำพัง
ภายในห้องของชายหนุ่ม ถูกจัดตบแต่งอย่างเป็ระเบียบ แม้แต่ตำราที่อ่าน ก็วางทับกันเป็ชั้น ๆ ไม่กระจัดกระจาย โต๊ะและเก้าอี้ทำจากไม้เนื้อดี ทว่ารูปทรงแตกต่างจากที่เคยเห็น สายตาของหญิงสาวเลื่อนมองไปเรื่อย ๆ พลันสะดุดกับภาพวาดของหญิงสาวผู้หนึ่ง นางเอียงศีรษะเล็กน้อย แล้วเดินไปยังภาพนั้น พลันขมวดคิ้ว
‘ความจำของหวางฟางเฟย บอกว่าหญิงผู้นี้ เป็คนที่จิวอี้ซิงรักหนักหนา ข้าไม่แปลกใจก็นางงดงามมากมายเพียงนี้ หวางฟางเฟยนะหวางฟางเฟย คนอ่อนแอเฉกเช่นเ้า ต่อให้มีรูปลักษณ์งดงามเพียงใด ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อความอ่อนแอของตัวเอง ขนาดมีวาสนาได้มาอยู่เป็คุณหนูสามของสกุลจิว เ้ากลับทำตัวไม่ต่างจากสาวใช้ เพราะเหตุนี้จึงต้องมีจุดจบที่น่าสังเวช’
ความคิดยังไม่ทันจางหาย ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ก่อนร่างของจิวอี้ซิงจะเดินเข้ามา ทั้งสองสบสายตากันครู่หนึ่ง ก่อนหวางฟางเฟยจะปั้นหน้ายิ้ม แล้วเดินไปยังถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ พยายามทำตัวให้อ่อนแอ คล้ายกับหวางฟางเฟยมากที่สุด ทว่าอะไรก็หลบซ่อนได้ แต่สายตาลึกลับที่แปรเปลี่ยนไปของนาง ไม่อาจรอดพ้นสายตาของเขา
ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขาย่อตัวลง พร้อมกับหญิงสาวยื่นตะเกียบให้
“วันนี้เ้าไปที่จวนสกุลหลิวทำไม” เขารับตะเกียบมาคีบอาหาร แล้วเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยท่าทางราบเรียบ ก่อนนางจะชักงักนิ่ง แล้วอึกอักเล็กน้อย
“คุณชายรู้ได้ยังไงเ้าคะ”
“เ้าไม่เคยเรียกข้าว่าคุณชาย” เขาวางตะเกียบลงด้านข้าง แล้วจับจ้องมองอีกฝ่ายแน่นิ่ง ก่อนนางจะกลืนน้ำลายแล้วค่อย ๆ ตั้งสติ
“ท่านพี่ ข้าก็แค่พูดผิดไปเท่านั้น ท่านอย่าได้ใส่ใจ” นางตอบบางเบา
“จวนสกุลหลิว อดีตเคยเป็ขุนนางเก่าแก่ สร้างคุณงามความดีไว้มาก แต่เพราะทำผิดบางอย่าง เขาจึงถูกให้ออกจากราชการ และนั่นอาจเป็สาเหตุให้เขาต้องจบชีวิตตัวเองด้วยเช่นกัน” เขาพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ ค่อย ๆ เอื้อมไปหยิบตะเกียบคีบอาหารใส่ปากช้า ๆ
“วันนี้ข้าบังเอิญเห็นเ้า วนเวียนอยู่ที่นั่น หากเป็ไปได้ อย่าได้ไปที่นั่นบ่อยนัก” นางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เหตุใดข้าจึงไปไม่ได้”
“แล้วเหตุใดเ้าต้องไป แต่ก่อนเ้าไม่เคยคิดออกจากจวน วัน ๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้อง” สายตาคมจับจ้องมายังหญิงสาว ก่อนนางจะเม้มปาก
“หากเ้าไม่เชื่อฟัง เกิดอะไรขึ้นก็อย่าโทษข้า” คำพูดกำกวมของเขาทำให้หญิงสาวแน่นิ่ง
‘ดูท่าแล้ว จิวอี้ซิงผู้นี้เป็คนมีความคิดซับซ้อนยิ่งนัก การที่เขาไม่ให้ข้าไปที่จวนสกุลหลิว ต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ข้าควรรู้ไว้ เพราะเกี่ยวข้องกับท่านแม่โดยตรง’ เมื่อคิดได้ดังนั้น นางจึงทำทีเอ่ยขึ้น
“ข้าไม่ไปที่นั่นไม่ได้หรอก หลิวฮูหยินอายุมากขึ้นทุกปี อีกทั้งนางยังเหลือตัวคนเดียว สามีและบุตรสาวของนางตายไปแล้ว อย่างน้อยข้าก็ควรไปให้กำลังใจนางบ่อย ๆ” ชายหนุ่มไม่พูดสิ่งใด เขายังคงคีบอาหารเข้าปากช้า ๆ นั่นทำให้หวางฟางเฟยตัดสินใจเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ความจริงแล้ว ข้ากับหลิวเซียนยู่ เราเป็เพื่อนกัน ท่านไม่เคยเห็นข้าออกนอกจวนก็จริง แต่ใช่ว่าข้าไม่เคยออกไป เื่ราวของนาง ข้าล้วนรับรู้ทั้งสิ้น” คำพูดของหวางฟางเฟยทำให้เขาหยุดกินในทันที พลางสังเกตหญิงสาว ที่กำลังจับจ้องเขาไม่หลบสายตาเหมือนที่ผ่านมา
“เ้ากำลังบอกข้าว่า เ้ารู้จักกับหลิวเซียนยู่งั้นเหรอ” เขาถามพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย
“หากท่านพี่ไม่อนุญาตให้ข้าไปที่นั่น ท่านก็ต้องหาเหตุผลที่สมควร ข้าจึงจะยอมเชื่อฟัง” เขาวางตะเกียบลง แล้วยกชาขึ้นดื่ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“การตายของเสนาบดีหลิว กับบุตรสาวของเขานั้น ข้าคิดว่าผิดธรรมชาติ หากเป็อย่างที่ข้าคิดจริง จวนสกุลหลิวก็ไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัย” คำพูดของจิวอี้ซิงทำให้นางนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนเขาจะพูดขึ้น
“ข้าจะไม่อธิบายมาก เพราะการแย่งชิงอำนาจระหว่างขุนนางมีอยู่ตลอดเวลา หากเ้าไม่อยากตายเช่นสหายของเ้า ก็ควรอยู่ห่างจวนสกุลหลิวให้มากที่สุด เหตุผลเท่านี้พอหรือไม่?”
“เช่นนั้นหลิวฮูหยินจะเป็ยังไง?” นางถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นไหว ก่อนเขาจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงแน่นิ่ง
“เ้าไม่ต้องห่วง คนของข้าคอยดูแลความปลอดภัยให้ตลอดเวลา” คำพูดของเขา แม้จะดูเ็าไร้ความรู้สึก แต่ทำให้นางรู้สึกซาบซึ้งเป็อย่างมาก ก่อนจะตั้งสติ แล้วพูดขึ้น
“เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว ข้าขอตัว” นางลุกขึ้นแล้วเดินจากไป โดยไม่หันกลับมามอง
คำพูดและกิริยาของหวางฟางเฟย เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่เคยนั่งมองเขากินอาหารอย่างเงียบ ๆ จนเสร็จ ไม่พูดจารบกวน ไม่มีการโต้ตอบใด ๆ นางนิ่งเงียบดังสายน้ำค่อย ๆ ไหลผ่านไปอย่างช้า ๆ ไม่ดื้อรั้น ทั้งยังเชื่อฟัง เจียมเนื้อเจียมตัวตลอดเวลา กลับกันในยามนี้ สายตามุ่งมั่นของนางทำให้เขารู้สึกแปลกใจเป็อย่างมาก