หลี่ชิงหยุนออกจากลานบ้านเพื่อไปพบกับหลี่หยุนเฟิง
เขากำลังหลับตานั่งสมาธิ จู่ๆเขาััได้ว่ามีใครบางคนกำลังเดินมาก็พลันลืมตาขึ้น "หยุนเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้น?"
"ท่านพ่อ ข้ามีคำถามบางอย่างจะถามท่าน?" หลี่ชิงหยุนอยากรู้ว่าเหตุผลเื้ัของอาการาเ็เกิดจากเหตุใดกันแน่
"เ้าคงสงสัยเื่อาการาเ็ของข้าใช่หรือไม่?" หลี่หยุนเฟิงรู้ทันทีว่าบุตรชายของเขาจะถามอะไร
"ถูกต้อง ท่านพ่อ เหตุใดาแของท่านเหมือนกับของผู้ใช้ทักษะต้องห้ามของนิกายัโลหิต เป็ไปหรือไม่ว่าเกิดจากพวกมันจริงๆ?" หลี่ชิงหยุนถามเกี่ยวกับาแของหลี่หยุนเฟิงในทันที
ทักษะของนิกายัโลหิตนับเป็ทักษะระดับสูงซึ่งมีเพียงแค่ระดับผู้าุโเท่านั้นที่เืัซากศพ ซึ่งเป็ส่วนประกอบสำคัญในการเปิดใช้งานทักษะต้องห้าม 'ปิดผนึกโลหิตั'
"หยุนเอ๋อร์ เ้าจดจำนิกายัโลหิตด้วยงั้นหรือ?" หลี่หยุนเฟิงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาดูหน้าซีดและมองไปที่หลี่ชิงหยุนด้วยสายตาสงสัย
[หยุนเอ๋อร์ไปรู้จักชื่อนิกายัโลหิตมาจากแห่งหนใดกัน?]
"ท่านพ่อ ข้าได้ยินสิ่งนี้มาจากอาจารย์ของข้า เขาบอกว่าอาการของท่านคล้ายกับทักษะต้องห้ามของนิกายัโลหิตจริงๆ" หลี่ชิงหยุนอ้างว่าเขาได้ยินเื่นี้จากอาจารย์ของเขาเมื่อเห็นสายตาของหลี่หยุนเฟิง
[จะให้บอกว่าข้าเคยเป็จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คงจะกระไรอยู่]
"ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเ้าจะเคยเป็ผู้ฝึกตนระดับสูงของอาณาจักรนภาใช่หรือไม่?" หลี่หยุนเฟิงแสร้งพยักหน้าอย่างเข้าใจ
หลี่ชิงหยุนไม่เข้าใจคำพูดของบิดา เขาจึงถามอย่างสงสัย "เคยเป็? ท่านหมายความว่าอย่างไร?"
"เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรเซวียนและอาณาจักรนภาได้ถูกปิดลงเป็เวลานานถึง 10 ปีแล้ว ไม่มีใครสามารถเข้าหรือออกจากอาณาจักรเซวียนได้ในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา นั่นหมายความว่า อาจารย์ของเ้าต้องอยู่ในอาณาจักรเซวียนและไม่สามารถกลับไปยังอาณาจักรนภาได้ตลอด 10 ปี และหากอาจารย์ของเ้ารู้จักนิกายัโลหิต นั่นหมายความว่าอาจารย์ของเ้านั้นอาจจะมีชื่อเสียงพอสมควร" หลี่หยุนเฟิงอธิบายสาเหตุในคำพูดของเขา
"เ้าคงรู้เื่ราวของอาณาจักรนภาจากอาจารย์ของเ้ามาบ้างแล้ว มีคำทำนายทิ้งไว้เมื่อหลายปีก่อนกล่าวไว้ว่า 'เมื่อสมบัติปฐมกาลปรากฏ ทางผ่านสู่อาณาจักรนภาจะเปิดออก' จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่เข้าใจเช่นกัน เราคงทำได้แค่รอจนกว่าเส้นทางแห่งเมฆจะถูกเปิดออกเท่านั้น" หลี่หยุนเฟิงเคยได้ยินคำทำนายบางอย่าง เพียงแต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็เื่จริงหรือแค่เื่หลอกลวง
นั่นเป็แต่คำทำนายเมื่อนานมาแล้วเท่านั้น จนกว่าสมบัติปฐมกาลจะถูกค้นพบทางเชื่อมระหว่างสองอาณาจักรจะยังคงอยู่
"สมบัติปฐมกาล?" หลี่ชิงหยุนพึมพำเบาๆ สิ่งแรกที่เขาคิดออกนั่นคือเจดีย์ปฐมกาลที่อยู่ในตันเถียนของเขา!
ในความเป็จริงอาณาจักรเซวียนนั้นมีเื่ราวแค่ไม่กี่ถึงพันปีเท่านั้น ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และใครเป็คนกำหนดกฏของระดับขึ้นมา เพราะเื่ราวก่อนหน้าได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง
'ดูเหมือนว่าอาณาจักรเซวียน คงไม่ได้เป็แค่อาณาจักรเล็กๆ' หลี่ชิงหยุนเริ่มคาดเดา ไม่มีทางที่จะลบประวัติศาสตร์ไปได้โดยง่ายเื่นี้ต้องมีบางอย่างอยู่เื้ั
จู่ๆหลี่หยุนเฟิงกล่าว "หยุนเอ๋อร์ ข้าเคยเป็ผู้ติดตามของใครบางคนที่อยู่ในอาณาจักรที่สูงกว่า เพียงแต่ว่าเขาไม่ต้องให้ข้าไปกับเขา เขาจึงสอนวิธีเอาตัวรอดให้ข้า... สิ่งที่เ้าอยากรู้ ข้าตอบได้เพียงแค่ว่าในระหว่างที่ข้ากำลังเดินทางท่องยุทธ์ภพ ข้าถูกพวกนิกายัโลหิตลอบโจมตีด้วยเหตุผลบางอย่าง ส่วนเหตุผลข้าไม่สามารถบอกเ้าได้ในขณะนี้"
"ข้าบอกเ้าได้เพียงเท่านี้ รอให้เ้าแข็งแกร่งมากกว่านี้ สักวันจะมีใครสักคนบอกในสิ่งที่เ้าอยากรู้เอง" หลี่หยุนเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพื่อไม่ให้หลี่ชิงหยุนถามต่อไป
"เข้าใจแล้ว" หลี่ชิงหยุนพยักหน้าและไม่ได้ถามต่อ เขารู้สึกว่าพ่อของเขาเริ่มลำบากใจมากขึ้น
"เมื่อใดที่วัสดุสำหรับค่ายกลพร้อมแล้ว ท่านส่งคนมาเรียกข้าด้วย" เมื่อหลี่ชิงหยุนพูดจบ เขาออกจากลานบ้านของหลี่หยุนเฟิงในทันที
เมื่อร่างกายของหลี่ชิงหยุนหายไปจนลับสายตา หลี่หยุนเฟิงถอนหายใจกับตัวเอง "นายท่านใหญ่ ดูเหมือนว่านายน้อย จะถูกกำหนดให้เข้าสู่เส้นทางแห่งโชคชะตาจริงๆ"
ดวงตาของหลี่หยุนเฟิงเป็สีแดงราวกับเขากำลังจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ "สักวันหนึ่งข้าและนายน้อยจะกลับไปช่วยท่าน..."
หลี่ชิงหยุนกลับไปที่ห้องของเสิ่นชิง แต่ตอนนี้เสิ่นชิงได้ผล็อยหลับไปแล้ว
เขาจึงออกจากห้องเสิ่นชิง เข้าห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน
หลี่ชิงหยุนอยู่บนเตียงพร้อมทบทวนเื่ราวที่ได้ฟังจากบิดาของเขา
'ชีวิตนี้แตกต่างไปจากเดิมจริงๆ อะไรหลายๆอย่างไม่เหมือนกับที่คิดไว้' หลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน หลี่ชิงหยุนก็ผล็อยหลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
.
.
.
~ เมืองหลวงราชวงศ์โม่ ที่พำนักตระกูลขุนนางเล่ย ~
ลึกเข้าไปในที่พำนักของขุนนางเล่ย ห้องโถงสีทองขนาดใหญ่ดูหรูหราอร่ามตา เครื่องตกแต่งเป็ของมีค่าเกือบทั้งหมด
ขณะนี้มีชายวัยกลางคนนั่งคุกเข่าอยู่ในห้องโถงใหญ่ ด้านหน้าชายวัยกลางคน มีชายหนุ่มร่างบางผิวสีซีดกำลังขมวดคิ้วกับรายงานจากชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือหัวหน้าตระกูลหยาน 'หยานป๋อ' ซึ่งเป็บิดาของหยานลี่
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงผู้นี้คือรัชทายาทคนแรกของขุนนางเล่ย 'เล่ยตงเทียน'
"หยานป๋อ เ้าควรจะเริ่มดำเนินการแผนต่อไปได้แล้ว ไม่จำเป็ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป หากเ้า้ายืมกำลัง ข้าสามารถให้เ้าได้ ขอแค่ทำลายตระกูลหลี่เล็กๆให้เร็วที่สุดและเก็บเกี่ยวสิ่งที่ข้า้ามาให้ได้ก็เพียงพอ" เล่ยตงเทียนกล่าวกับหยานป๋อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"นายน้อยเล่ย เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงต้องมีการเร่งแผนการเช่นนี้?" หยานป๋อถามด้วยความสงสัย ปกติแล้วเล่ยตงเทียนดูไม่ได้รีบร้อนเช่นนี้
"อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า จะมีโบราณสถานที่หลบซ่อนอยู่ในช่องว่างระหว่างมิติจะเปิดออก เราต้องเตรียมเครื่องบูชาให้พร้อม เมื่อสถานที่นั้นเปิดออกเราจะเริ่มปลุกท่านผู้นั้นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นอาณาจักรนี้จะเป็ของสกุลเล่ยแต่เพียงผู้เดียว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" เล่ยตงเทียนหัวเราะอย่างชั่วร้าย
"เข้าใจแล้ว นายน้อย เช่นนั้นข้าสามารถยืมคนจากตระกูลเล่ยได้หรือไม่?" หยานป๋อถามด้วยความเคารพ เพราะตอนนี้เขา้าทำลายตระกูลหลี่ให้เร็วที่สุด
"นี่ไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่เ้าต้องฆ่าพวกมันให้หมดไม่ให้เหลือแม้แต่ชีวิตเดียว และอย่าลืมนำิญญาพวกเขาใส่ไว้ในผลึกนี้" เล่ยตงเทียนหยิบผลึกสีดำออกมาพร้อมกับโยนมันไปที่หยานป๋ออย่างไม่ใส่ใจ
"ผู้น้อบทราบแล้ว... นายน้อย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน" หยานป๋อทำความเคารพและเก็บผลึกพร้อมกับเดินจากไป
เมื่อหยานป๋อจากไปหายลับไปจากระยะสายตา เล่ยตงเทียนเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง
"พ่อบ้านเฉียน" เล่ยตงเทียนเรียกพ่อบ้านของมันโดยการกวักมือไปด้านหลัง
"นายน้อย มีอะไรให้รับใช้หรือไม่?" เงาสีดำปรากฏขึ้นด้านหลังของเล่ยตงเทียนอย่างฉับพลัน
"เ้าไปตามหาหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ จากหมู่บ้านเล็กๆมาให้ข้า บอกพวกเขาว่าข้ามีรางวัลให้อย่างงาม" เล่ยตงเทียนส่งคำสั่งที่ชั่วร้าย
"เอ่อ..." เงาสีดำอ้ำอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะจดจำบางอย่างขึ้นได้ มันจึงตอบกลับืันควัน "นายน้อย ข้าจำได้ว่าไม่ไกลจากตระกูลหลี่มีหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ และรูปร่างหน้าตาของนางก็ดีไม่ใช่น้อย ถ้าจำไม่ผิดนางมีนามว่านาหลันเสี่ยวฉีและยังเป็คู่หมั้นของเด็กหนุ่มตระกูลหลี่ตัวน้อยผู้นั้นอีกด้วย"
"โอ้? น่าสนใจ" เล่ยตงเทียนหัวเราะอย่างชั่วร้าย "ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ แค่พาตัวมา เื่อื่นข้าไม่สน!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้