ฟ้ามืดแล้ว
พริบตาเดียวหุบเขาเถาเยาก็เหมือนกับย่างก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวที่มีมวลอากาศที่ค่อนข้างจะเย็น กูเฟยเยี่ยนที่อยู่ภายในพุ่มบุปผาถึงกับต้องกระชับเสื้อผ้าไว้แน่นพลางเร่งฝีเท้าตรงไปยังจุดที่มีแสงไฟ หญิงสาวก้าวเดินไปพร้อมกับนำสมุนไพรบางชนิดและยาพิษออกมาจากหวางเป่าติงเพื่อซ่อนไว้บนร่างกาย วันนี้นางใช้ยาพิษไปจึงมิอาจทราบได้ว่าหวางเป่าติงจะหยุดทำงานเมื่อใดและจะหยุดทำงานนานเพียงใด? ดังนั้นจึงต้องระวังเอาไว้
การที่เดินเตร็ดเตร่มาทั้งวันทำให้ท้องของนางเกิดความหิวแล้วเล็กน้อย
กูเฟยเยี่ยนที่ยังมาไม่ถึงบ้านไม้ก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นเป็พิเศษจากการย่างเนื้อ หญิงสาวลอบคิดว่าจิ้งจอกใหญ่หลายใจตัวนี้รู้จักดื่มด่ำความสนุกสนานจริงๆ !
ทัศนียภาพอันงดงาม อาหารอันโอชะ สุราอันยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีหญิงงาม เขาไม่ขาดไปเลยแม้แต่ข้อเดียว!
ไม่ช้ากูเฟยเยี่ยนก็มาถึงประตูลานบ้าน นางเห็นว่าภายในลานมีการก่อกองไฟไว้มากมาย ไป๋หลี่ิชวนสวมใส่เสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีม่วงที่พบเจอได้ยากและกำลังรับความอบอุ่นไปพร้อมกับย่างเนื้อป่า ทางด้านของหญิงรับใช้งามหยาดเยิ้มนั้นกำลังเฝ้าปรนนิบัติรับใช้ป้อนสุราเขาอยู่ด้านข้าง
กูเฟยเยี่ยนเจตนาเหลือบมองเสื้อคลุมขนสัตว์สีม่วงตัวนั้นของเขาแวบหนึ่ง ภายในใจอดที่จะทอดถอนใจออกมาไม่ได้เพราะจิ้งจอกสีม่วงนั้นเป็สัตว์ที่ผ่านไปร้อยปีก็ยากที่จะพบหนึ่งตัว หมอนี่เป็คนที่สุรุ่ยสุร่ายจริงๆ !
กูเฟยเยี่ยนกลับมาแล้ว แต่ยืนอยู่หน้าประตูโดยที่ไม่เข้าไป นางนำมือทั้งสองข้างไพล่หลังพลางโยกกาย แสร้งทำท่าทางที่ไม่เต็มใจนัก ไป๋หลี่ิชวนเลิกคิ้วมอง ยกไก่ป่าหอมกรุ่นที่ย่างกรอบมันเยิ้มมาตรงหน้าของหญิงสาว “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ มานี่มา”
กูเฟยเยี่ยนยังคงความระมัดระวัง เพราะจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ไม่ได้หลอกได้ง่ายๆ
นางพิงไปที่ประตูแล้วคิดจะแสดงละคร แต่ปากเล็กยังไม่ทันได้ทำปากมุ่ย นางก็อดไม่ได้ที่จะจามออกมาติดต่อกันสองครั้ง ในคราวนี้ไม่จำเป็ต้องแสดงไป๋หลี่ิชวนก็เชื่อแล้วว่านางจำใจต้องกลับมาเพราะความหิวโหยและความหนาว
ไป๋หลี่ิชวนตบลงไปตรงที่นั่งด้านข้างของตนเองและดูเหมือนว่าจะเร่งรีบเพราะเขาได้เอ่ยเร่งรัด “มานี่ ข้าไม่ขอยาถอนพิษจากเ้าก็ได้”
เขาคิดไม่ออกว่าพิษในตอนเช้าเป็พิษเช่นไร อีกทั้งไม่ได้ใส่ใจมากนัก บนโลกใบนี้มีพิษอะไรที่เขายังไม่เคยลองบ้าง? รอให้พิษออกฤทธิ์แล้วทำความเข้าใจมันจากนั้นเขาจะทราบวิธีแก้อย่างแน่นอน
กูเฟยเยี่ยนเหลือบมองชายหนุ่มครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเท้าก้าวใหญ่เดินเข้าไปนั่งโดยไม่ตอบใดๆ หญิงสาวแย่งอาหารอันโอชะมาจากมือของเขาพลางกัดเข้าไปคำใหญ่ ไป๋หลี่ิชวนตะลึงงันเล็กน้อยแต่ไม่ช้าก็หัวเราะออกมาพลันถอดเสื้อคลุมขนสัตว์ของตัวเองมาคลุมให้กูเฟยเยี่ยน
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้ปฏิเสธ แต่ทำการเช็ดน้ำมูกแล้วนำมือไปป้ายบนเสื้อคลุมจิ้งจอกสีม่วง จากนั้นจึงรวบคอเสื้อมาห่อตัวเองเอาไว้แน่นก่อนจะรับประทานอาหารอันโอชะที่หอมกรุ่นและกรุบกรอบต่อไป
หญิงสาวคิดว่าเนื้อย่างที่หอมกรุ่นขนาดนี้หากไม่ทานก็เสียเปล่า เสื้อคลุมขนสัตว์ที่อบอุ่นเช่นนี้หากไม่สวมใส่ก็น่าเสียดาย
นางยังต้องสะสมเรี่ยวแรงเพื่อเตรียมพร้อมหลบหนีออกไป นางไม่สามารถหิวและเป็หวัดไปได้ แน่นอนว่าถ้าหากจิ้งจอกข้างกายตัวนี้ไม่สบายไป นางจะดีใจยิ่งกว่า
ไป๋หลี่ิชวนชำเลืองตามองมือที่เช็ดน้ำมูกของกูเฟยเยี่ยนแวบหนึ่ง ไม่ช้ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา เขาเพียงแค่ไม่มีทางเลือกเล็กน้อยแต่ไม่ปวดใจ
ชายหนุ่มถามออกมา “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ ที่นี่มีไก่ป่า เป็ดป่า กระต่ายป่า หมูป่า แพะูเา และยังมีปลากับกุ้ง เ้าชอบทานสิ่งไหน? ”
กูเฟยเยี่ยนหันกลับมามองจึงพบว่าด้านหลังเต็มไปด้วยวัตถุดิบอาหารสดใหม่อันโอชะมากมายที่ผ่านการทำความสะอาดแล้ว อีกทั้งยังมีกองเครื่องเทศที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดมาอย่างตั้งอกตั้งใจอีกด้วย
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกมหัศจรรย์ใจมาก นางถึงกับคิดโดยไม่รู้ตัวว่าหากตนเองติดตามหมอนี่ไปจริงๆ นางจะต้องมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
ในเมื่อทานแล้วกูเฟยเยี่ยนจึงไม่เกรงใจอีกต่อไป “ข้าชอบสิ่งไหนเ้าก็จะย่างสิ่งนั้นหรือ? ”
ไป๋หลี่ิชวนหรี่ตาลง ยิ้มแย้มด้วยความใสซื่อ “แน่นอน”
กูเฟยเยี่ยนหรี่ตาลงเช่นกัน หญิงสาวส่งรอยยิ้มใสซื่อไม่เป็อันตรายกลับไป “เช่นนั้นก็ทุกอย่างอย่างละหนึ่งอันแล้วกัน”
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเอ่ยเช่นนี้ หญิงรับใช้ที่อยู่ด้านข้างก็เกือบจะทำสุราหกลงมา
นางคาดไม่ถึงเป็อย่างมาก! หากว่าองค์ชายสามเสนอที่จะย่างอาหารให้นางทาน นางจะต้องแย่งไปเป็คนย่าง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถให้องค์ชายสามมาปรนนิบัติรับใช้ได้จริงๆ นี่นา! นึกไม่ถึงเลยว่านังหนูคนนี้จะกล้าได้คืบจะเอาศอกเช่นนี้?
ไป๋หลี่ิชวนคาดไม่ถึงเช่นกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตอบตกลงด้วยความเบิกบานใจ “ได้! ”
ทว่าภายในใจของกูเฟยเยี่ยนนั้นมีความเหยียดหยามที่มิอาจเทียบได้ นางคิดว่าเพื่อที่จะเอาใจหญิงสาวแล้ว เกรงว่าชายหนุ่มที่มักมากในกามเช่นนี้จะทำได้ทุกอย่าง!
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้สนใจไป๋หลี่ิชวนต่อ นางทานอาหารไปพร้อมกับชำเลืองตามองหญิงรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งบังเอิญมากเพราะหญิงรับใช้ก็กำลังมองมาที่นางด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจเช่นกัน
ทั้งสองคนสบตากัน กูเฟยเยี่ยนเป็ฝ่ายหลบหลีกก่อน แต่หญิงรับใช้กลับมองว่านางกำลังยั่วยุจึงโมโหจนต้องลุกขึ้นมา “นายท่าน นู๋ปี้เต้นระบำเพื่อให้นายท่านสนุกสนานไปกับการดื่มสุรานะเ้าค่ะ”
ไป๋หลี่ิชวนยังไม่ทันได้ตอบตกลง นางก็ทนรอไม่ไหวจึงได้ก้าวเดินออกมายืนเผชิญหน้าตรงข้ามกับกองไฟ หญิงสาวทำการถอดชุดคลุม สะบัดแขนเสื้อแล้วเริ่มเริงระบำ
ระบำชุดนี้เยี่ยมยอดมาก
เรียกได้ว่าร่ายรำด้วยท่วงท่าสง่างามอ่อนช้อยดั่งัเยื้องกราย เครื่องประดับอัญมณีและอาภรณ์ไคลคลาปลิดปลิวทวนกระแสขึ้นไปบนฟากฟ้าด้วยความมหัศจรรย์
งดงามมาก!
กูเฟยเยี่ยนมองด้วยความตกตะลึง นางคิดว่าถึงแม้จิ้งจอกตัวนี้จะหลายใจแต่ก็ไม่ได้เ้าชู้ไปทั่ว อย่างน้อยสายตาของเขาก็ดีเยี่ยม
ไป๋หลี่ิชวนดื่มสุราพลางชื่นชม มุมปากของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้มเหนื่อยหน่ายและจิตใจที่โล่งสบาย
กูเฟยเยี่ยนเกือบจะหลงใหลในเสน่ห์นี้แล้ว โชคดีที่นางดึงสติกลับมาได้ทันพอดี นางยังไม่ลืมเื่สำคัญของตนเอง ก่อนหน้านี้กังวลว่าจะไม่มีโอกาสในการลงมือ แต่ทันทีที่หญิงรับใช้เต้นระบำนางก็ได้โอกาสมาอย่างไม่ต้องสงสัย
นางจงใจพูดด้วยความตื่นเต้น “สวยเหลือเกิน! พี่สาว ช่วยสอนข้าเต้นระบำได้หรือไม่! ”
นางไม่สนใจว่าหญิงรับใช้จะตอบตกลงหรือไม่ ทันทีที่พุ่งตัวเข้าไปนางก็คว้ามือของหญิงรับใช้มาแล้วถือโอกาสวางยาพิษไป
หญิงรับใช้ไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย นางสะบัดมือของกูเฟยเยี่ยนออกอย่างแรงพลางเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจนัก “ระบำชุดนี้เป็วิชาความรู้อันล้ำค่าที่ได้รับการสืบทอดกันในตระกูล ข้าจะไม่สอนมันให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น! เ้าอย่ามาทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของนายท่าน ถอยไปซะ! ”
หลังจากที่นางเอ่ยแล้วก็เคลื่อนไหวแขนเสื้อต่อไปด้วยความสง่างาม
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายความเ้าเล่ห์แวบหนึ่ง จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตากลับมานั่งด้วยความแค้นใจ
ไป๋หลี่ิชวนไม่ได้เกิดความสงสัยเพราะการเต้นรำเป็ที่ชื่นชอบของหญิงสาวหลายคน ก่อนหน้านี้ก็มีสาวใช้ใต้บังคับบัญชาของเขาหลายคนที่เห็นระบำชุดนี้แล้วก็มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่ต่างจากกูเฟยเยี่ยนมากนัก
แม้ว่าไป๋หลี่ิชวนจะกำลังดูการเต้นระบำ ทว่าก็ไม่ได้ละเลยกูเฟยเยี่ยน เขาย่างกุ้งไม้หนึ่งยื่นไปให้นาง จากนั้นจึงย่างปลาอีกหนึ่งตัวแล้วหยิบยื่นไปให้ ต่อมาเขาก็ย่างไก่ป่าตัวเล็กหนึ่งตัว กูเฟยเยี่ยนทานไปพร้อมกับชมการเต้นระบำด้วยความเพลิดเพลิน ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย แม้แต่ตัวนางเองก็เกือบจะลืมเลือนไปแล้วว่าตนเองคือตัวประกัน
ความเงียบสงัดในยามค่ำคืนที่มีเปลวไฟลุกโชติ่และการเต้นระบำทำให้ดูเหมือนว่า่เวลานี้สงบสุขมาก
ทว่าทันใดนั้นหญิงรับใช้ก็หยุดลงกะทันหันราวกับถูกมนต์สะกดอะไรบางอย่างเข้า นางหันไปมองไป๋หลี่ิชวนด้วยความเลื่อนลอย ไป๋หลี่ิชวนเกิดความสงสัย แต่ในขณะเดียวกัน่ล่างก็มีความร้อนแผดเผาออกมา
เขาใอย่างฉับพลันพลางหันศีรษะไปมองกูเฟยเยี่ยน “นี่เ้ามีพิษหยินหยาง! ”
กูเฟยเยี่ยนลุกขึ้นหลบไปไกลมาสักพักแล้ว “ในเมื่อเ้ารู้ว่านี่คือพิษหยินหยาง เช่นนั้นก็…สนุกไปกับมันก็แล้วกัน!” หลังจากที่นางเอ่ยจบก็หันหลังวิ่งหนีไปแล้วหายวับไปกับตา
พิษหยินหยางคืออะไร มันคือการมีเพศสัมพันธ์กันระหว่างชายกับหญิง หนึ่งพิษสองรูปแบบ ในตอนเช้าวางพิษหนึ่งชุด ตอนกลางคืนวางพิษอีกหนึ่งชุด บนร่างของชายหนุ่มหนึ่งชุด ร่างของหญิงสาวอีกหนึ่งชุด ต่อจากนั้น…ไม่สามารถพรรณนาได้ และในท้ายที่สุดแล้วมีความน่าจะเป็อย่างน้อยแปดส่วนที่จะเสียชีวิตลง!
กูเฟยเยี่ยนวิ่งไปที่ทะเลสาบดอกท้อด้วยความเร็วสูง หญิงสาวถึงกับอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ในที่สุดนางก็ได้ชำระความเกลียดชังในอดีตและความแค้นในปัจจุบันแล้ว!
จิ้งจอกใหญ่หลายใจ! ใครให้เ้าโยนความผิดให้ข้า! ใส่ร้ายข้า หลอกใช้ข้า แถมยังทำตัวเ้าชู้ใส่ข้าอีก!
เขาเ้าชู้ใช่หรือไม่? นางก็จะทำให้เขาเ้าชู้จนพอใจ เสียชีวิตในความละมุนละไม ไปเป็ผีก็เ้าชู้เช่นกัน!