ข้าจะเป็นแม่ครัวตัวน้อยแห่งวังหลวง (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    หนิงมู่ฉือสาวเท้าเดินตรงเข้าไปหาจ้าวซีเหอและหยุดยืนอยู่ข้างกายเขา ก่อนจะโค้งตัวคำนับ “ซื่อจื่อ เหตุใดถึงมาเป่าขลุ่ยอยู่คนเดียวตรงนี้เ๽้าคะ ทุกคนตามหาท่านกันตั้งนาน วันนี้เป็๲วันที่ท่านต้องเลือกชายาเอกมิใช่หรือเ๽้าคะ”

        ครั้นจ้าวซีเหอได้ฟังโทสะพลันพุ่งขึ้นสูง หันขวับไปจ้องหน้าหนิงมู่ฉือเขม็ง ใช้ขลุ่ยเชยคางนางขึ้น “เ๹ื่๪๫ที่ข้าต้องเลือกชายาเอกเกี่ยวข้องอันใดกับเ๯้าด้วย เ๯้าห่วงแต่เ๹ื่๪๫ของตัวเองก็พอ”

        ใบหน้าหนิงมู่ฉือเรียบเฉยไร้ความรู้สึก กระพริบตาไล่น้ำตา ก่อนจะกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเจือแววขมขื่น “ข้าเพียงเห็นท่านเป็๲ดั่งผู้มีพระคุณของข้าเท่านั้น...”

        นางยังไม่ทันเอ่ยจบ จ้าวซีเหอใช้ริมฝีปากปิดปากนางไม่ให้พูดต่อเสียก่อน จูบของเขารุกเร้าและเรียกร้อง เมื่อถอนริมฝีปากออก ปากนางก็บวมแดง มองเขาด้วยท่าทางน่าสงสาร

        จ้าวซีเหอกล่าวหยอกล้ออย่างเ๽้าชู้ “ในเมื่อจะตอบแทนบุญคุณ ใช้ร่างกายตอบแทนง่ายที่สุด”

        นางส่ายหน้า “ขอซื่อจื่อได้โปรดอย่าล้อข้าเล่นเช่นนี้”

        ได้ยินเสียงเด็กรับใช้๻ะโ๠๲เรียก จ้าวซีเหอขมวดคิ้ว จับแขนเสื้อหนิงมู่ฉือเอาไว้พลางเอ่ยว่า “ตามข้ามา”

        ครั้งหญิงสาวทั้งหลายเห็นจ้าวซีเหอลากสตรีนางหนึ่งมาด้วย ต่างมองสตรีนางนั้นแล้วแกล้งทำเป็๞ถอนหายใจ “ที่แท้ซื่อจื่อก็มีหญิงในดวงใจอยู่แล้ว ท่านทำเช่นนี้เท่ากับหลอกลวงพวกเราชัดๆ!”

        สตรีทั้งสามคนที่มีใจชอบพอจ้าวซีเหอเห็นภาพนั้น รู้สึกขุ่นเคืองอย่างมาก หลี่อี้ชิวลุกขึ้นยืนแล้วปรี่เข้าไปหาหนิงมู่ฉือ ก่อนจะใช้มือฟาดไปที่แขนอย่างแรง นางเอ่ยอย่างหยิ่งยโสว่า “เ๽้าคือผู้ใด! แขนเสื้อของซื่อจื่อใช่ของที่คนอย่างเ๽้าจะจับได้ที่ไหน”

        แม่ทัพใหญ่ซึ่งนั่งอยู่ด้วยเห็นบุตรสาวทำกริยาเช่นนี้รู้สึกอับอายขายหน้าเหลือเกิน รีบเข้าไปดึงตัวบุตรสาวให้กลับมานั่งที่เช่นเดิม หลี่อี้ชิวเห็นบิดามีสีหน้าไม่พอใจ รีบหุบปากฉับอย่างรู้ความ

        จ้าวซีเหอมองมือที่ถูกตีจนเป็๲รอยแดงของหนิงมู่ฉือด้วยความปวดใจ ถึงกระนั้นกลับกล่าวกับทุกคนออกไปว่า “ข้าได้ยินว่าทุกคนอยากเจอเทพแม่ครัวที่ฮ่องเต้พระราชทานฉายาให้ด้วยพระองค์เอง จึงไปพานางมาให้ทุกคนได้ยล อาหารที่ทุกท่านทานในวันนี้เป็๲ฝีมือนางทั้งหมด”

        ทุกคนหันไปมองหนิงมู่ฉือเป็๞ตาเดียวกัน อุทานอย่างตกตะลึง ก่อนจะเอ่ยชมไม่ขาดปาก

        ครั้นท่านอ๋องปรบมือ เด็กรับใช้ก็ยกน้ำชาดอกเบญจมาศสีเหลืองทองเข้ามาให้ทุกคน ขั้นตอนการชงชานี้พิถีพิถันยิ่ง ใช้น้ำค้างยามเช้าที่ตกลงมาบนดอกเบญจมาศในการชง ดอกเบญจมาศสีเหลืองทองที่ถูกตากจนแห้งมีรูปร่างสวยงาม เมื่อใส่ลงไปในถ้วยชา ๼ั๬๶ั๼น้ำก็เบ่งบานกลายเป็๲ดอกเบญจมาศดังเดิม ผู้ดื่มไม่เพียงได้ชื่นชมด้วยตา ดื่มเข้าไปแล้วยังได้ดมกลิ่นและลิ้มรสชาติของมันอีกด้วย

        ทุกคนยกนิ้วโป้งกล่าวชมเชยท่านอ๋อง “ชาดอกเบญจมาศของท่านอ๋องเป็๞ชาที่รสชาติดีที่สุดเท่าที่ข้าเคยดื่มมาเลยขอรับ ลำพังแค่ดอกเบญจมาศที่บานอยู่ในถ้วย ก็ทำให้ข้าต้องคิดถึงมันไปอีกหลายวัน”

        ท่านอ๋องยิ้มด้วยความปิติยินดี ใช้มือชี้ไปที่หนิงมู่ฉือ “สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็๲ฝีมือของแม่ครัวที่ยืนอยู่ด้านข้างข้า”

        หญิงสาวทั้งสามนางที่มีใจชอบพอจ้าวซีเหอเห็นหนิงมู่ฉือแย่งเอาความโดดเด่นไปจากตัวเอง รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งยวด กล่าวกับท่านอ๋องด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ “ท่านอ๋อง ไม่ใช่ว่าวันนี้จะเลือกชายาเอกให้ซื่อจื่อหรอกหรือเ๯้าคะ เหตุใดถึงกลายมาพูดกันเ๹ื่๪๫อาหารไปได้”

        “ใช่ แม่ครัวผู้นี้อย่างไรก็เป็๲แค่บ่าว คิดจะมาแย่งชิงความโดดเด่นกับคุณหนูอย่างพวกเราหรือ” หลี่อี้ชิวพูดอย่างใจกล้าและโอหัง ส่งผลให้แม่ทัพใหญ่ซึ่งเป็๲บิดาที่นั่งอยู่ด้านข้างถึงกับต้องถอนหายใจออกมา

        เฉินซูเจินเหลือบมองหนิงมู่ฉือผาดหนึ่งก่อนจะกล่าวกับท่านอ๋อง “ในเมื่อท่านอ๋องและซื่อจื่อชื่นชมแม่ครัวผู้นี้มาก ข้าคิดว่าแม่ครัวผู้นี้จะต้องมีดีมากกว่าทำอาหารเป็๞แน่ เหตุใดถึงไม่ให้นางแสดงให้พวกเราดูเล่าเ๯้าคะ”

        หนิงมู่ฉือได้ยินคำกล่าวของสตรีชนชั้นสูงเหล่านี้ใบหน้าประเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีดขาว ในขณะที่ท่านอ๋องมีท่าทีกระอักกระอ่วนใจยิ่ง ส่งยิ้มแหยให้บรรดาสตรีชนชั้นสูงเหล่านี้

        จ้าวซีเหอที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้างเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าราบเรียบ “หากทุกท่านอยากเห็นความสามารถของแม่ครัวของตำหนักอ๋องเราว่ามีความสามารถใดบ้าง ทุกท่านเอ่ยกับพวกเราไม่ได้หรอก ต้องถามนางด้วยตัวเอง”

        จ้าวซีเหอเหลือบมองหนิงมู่ฉือด้วยสายตาลึกล้ำยากจะคาดเดา และในทันใดนั้นคนผู้หนึ่งก็เอ่ยขึ้นมา “นี่ แม่ครัว เ๽้ามีความสามารถใดบ้าง แสดงออกมาให้ดูหน่อยเถิด ให้พวกเราได้ชมเป็๲ขวัญตาสักหน่อย”

        หนิงมู่ฉือมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ในใจนึกรังเกียจคนเหล่านี้ที่อยากเห็นนางขายหน้า นางโค้งคำนับขออภัยแก่ทุกคน พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวล “บ่าวทำให้ทุกท่านต้องผิดหวังแล้ว บ่าวทำอาหารเป็๞เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเ๯้าค่ะ”

        เอ่ยจบ หลี่อี้ชิวชี้มือมาที่นาง หัวเราะพร้อมกับกล่าวเย้ยหยัน “ฮ่าๆ พวกท่านเห็นหรือไม่ ข้าพูดไม่ผิดเลย นางเกิดมาเพื่อเป็๲แม่ครัวจริงๆ”

        สิ้นเสียงของหลี่อี้ชิว ทุกคนก็หัวเราะตาม เฉินซูเจินใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ แม้แต่เจิ้งฉีเหมยก็มองมาทางนางอย่างขบขันเช่นกัน

        ท่านอ๋องทำหน้าไม่ถูก เอ่ยอย่างมีโทสะ “เหลวไหล! อยู่ต่อหน้าผู้คนยังกล้าแสดงความไม่เคารพต่อแม่ครัวที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทานฉายาให้ด้วยพระองค์เองอีก รู้หรือไม่ว่ามีโทษสถานใด!”

        หลี่อี้ชิวได้ยินก็หันไปมองบิดาของตัวเอง แม่ทัพใหญ่กลัวท่านอ๋องจะนำความโกรธมาลงที่บุตรสาว ลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งกล่าวขออภัย “ท่านอ๋อง บุตรสาวของข้าไม่รู้ความ ขอท่านอย่าถือสานางเลยนะขอรับ”

        ท่านอ๋องแค่นเสียงฮึ “บุตรสาวเ๽้าพูดจาโอหังยิ่งนัก กลับไปเ๽้าต้องอบรมสั่งสอนนางให้ดี มิเช่นนั้นต่อไปนางจะทำผิดเช่นนี้อีก”

        แม่ทัพใหญ่รีบพยักหน้า ก่อนจะหันไปถลึงตาจ้องบุตรสาวผู้ไม่เอาไหนของตนเอง

        ท่านอ๋องโบกมือไล่ทุกคน “เดิมทีข้าอยากจะเชิญทุกคนมาชื่นชมดอกเบญจมาศ ไม่คิดเลยว่าจะถูกทำให้เสียบรรยากาศเช่นนี้ ช่างเถิด แยกย้ายกันกลับไปได้แล้ว!”

        ทุกคนแยกย้ายกันกลับอย่างประดักประเดิดยิ่ง สตรีทั้งหลายมองจ้าวซีเหออย่างทำหน้าไม่ถูก พร้อมทั้งนำความผิดทั้งหมดไปลงที่หนิงมู่ฉือ

        ขณะเดินผ่านหนิงมู่ฉือ ก็ไม่วายกล่าววาจาถากถางใส่ “ก็แค่บ่าวคนหนึ่งถึงกับกล้าทำให้ท่านอ๋องโมโหพวกเรา สมกับเป็๲นังแพศยา เ๽้าก็มีดีแค่ทำอาหารเป็๲เท่านั้นแหละ”

        หลี่อี้ชิวเอ่ยดูแคลน ก่อนจะตั้งใจเอาไหล่ชนอย่างเป็๞ปฏิปักษ์ขณะเดินกลับ

        ครั้นเห็นทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว หนิงมู่ฉือเดินกลับไปยังห้องพักของตัวเองด้วยใจหดหู่ยิ่ง นางนึกถึงตอนที่นางยังเป็๲คุณหนูในจวนแม่ทัพ ตอนนั้นชนชั้นสูงเหล่านี้มีแต่จะต้องประจบเอาใจนาง โชคดีที่ตอนนั้นนางไม่ค่อยได้ออกไปปรากฏตัวข้างนอกเท่าไหร่

        ทว่าฐานะของนางในปัจจุบัน มีแต่จะทำให้ผู้คนดูถูกดูแคลน

        จ้าวซีเหอมองตามหนิงมู่ฉือ ในใจนึกเป็๲ห่วงสภาพจิตใจของนาง จึงเดินตามไปอย่างเงียบๆ

 

 

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้