หนิงมู่ฉือควงมีดอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะ “ฉึก” ปักลงบนเขียง ทุกคนเห็นดังนั้นก็ตื่นตะลึงพลางถอยร่น
นางมองนาฬิกาทราย เมื่อทรายเม็ดสุดท้ายไหลลงสู่ด้านล่าง นางใช้ผ้าจับฝาหม้อร้อนๆ ลงมา ยามที่ยังมิได้เปิดฝาหม้อออก ในห้องครัวก็อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำแกงปลากุ่ยอวี๋แล้ว กลิ่นหอมนี้กระทบปุ่มรับรสของทุกคนเข้า ทำให้อดไม่ได้ที่จะลอบกลืนน้ำลาย
กลิ่นหอมลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ เมื่อลมพัดโชยได้นำพากลิ่นหอมนี้ลอยไปทั่วตำหนักอ๋อง ทุกคนได้กลิ่นพลันหยุดงานในมือแล้วเดินตามกลิ่นหอมมาถึงห้องครัวตามสัญชาตญาณ
กลิ่นหอมนี้ลอยมาถึงในห้องนอน หมอที่กำลังยุ่งกับการตรวจจึงไม่ทันได้สังเกตนิ้วมือของคนบนเตียงที่มีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
ท่านอ๋องยังไม่ได้นอนหลับั้แ่เมื่อวาน เพราะเอาแต่เฝ้าบุตรชายที่นอนไม่ได้สติ แม้ดวงตาจะแดงก่ำเพราะอดนอน ทว่าก็ยังคงเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ยอมไปไหน
“รบกวนทุกท่านแล้ว ชีวิตของบุตรชายข้าคงต้องรบกวนท่านหมอทั้งหลายให้ช่วยรักษา หาก้ายาใดกล่าวมาได้เลย ต่อให้ในตำหนักนี้ไม่มี ข้าก็จะส่งคนเข้าไปในวังเพื่อไปนำมาให้ ขอเพียงช่วยชีวิตบุตรชายของข้าให้ได้ หากพวกท่านช่วยได้ ข้าจะขอบคุณมาก” ท่านอ๋องเอ่ยกับบรรดาหมอ
หมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงล้วนมารวมตัวกันอยู่ในตำหนักอ๋องแห่งนี้ แต่ไม่ว่าหมอหลวงหรือหมอชาวบ้านจะเค้นสมองคิดหาวิธีรักษาอย่างไร หรือใช้ยาชนิดใด ก็ไม่อาจทำให้คนบนเตียงมีปฏิกิริยาตอบสนองแม้เพียงเล็กน้อยได้
ทันใดนั้นหมอชราผู้หนึ่งชี้มือไปที่เตียงพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะลึงระคนยินดี “ท่านอ๋องขอรับ ดูสิ นิ้วของซื่อจื่อ[1] นิ้วของซื่อจื่อขยับแล้ว…”
ทุกคนเลื่อนสายตาไปที่คนบนเตียง ท่านอ๋องยินดียิ่งนัก รีบสาวเท้าตรงไปที่เตียง เขาจับมือบุตรชายพร้อมกับน้ำตาไหลพราก “ลูกรัก เ้าฟื้นแล้วจริงหรือ ลูกรัก อย่าทำให้พ่อใ รีบฟื้นขึ้นมา ต่อไปพ่อจะไม่ด่าจะไม่ตีเ้าอีกแล้ว เ้าอยากจะทำอันใดพ่อก็จะตามใจ ขอแค่เ้าฟื้นขึ้นมา…”
กลิ่นหอมของน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋โชยเข้ามาในห้องอีกครา ทุกคนที่อยู่ในห้องเมื่อได้กลิ่นก็อดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ั้แ่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ทุกคนยุ่งกับการรักษาซื่อจื่อและยังไม่ได้กินอะไรเลย ยามนี้รู้สึกหิวจนท้องไส้ปั่นป่วน เมื่อกลิ่นหอมอันน่าประหลาดนี้โชยเข้ามา จึงกระตุ้นความหิวได้เป็อย่างดี
ในที่สุดคนบนเตียงทนกลิ่นหอมที่โชยเข้ามาในห้องอีกคราไม่ไหว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองบิดาที่นั่งน้ำตาไหลอยู่ข้างเตียง เอ่ยเรียกท่านพ่อด้วยเสียงโรยแรง
ท่านอ๋องเห็นบุตรชายฟื้นแล้วก็ยินดียิ่ง รีบสั่งให้คนรับใช้ไปต้มยา ขณะที่จับมือของบุตรชายเอาไว้มิยอมปล่อยและยังคงร้องไห้ “ลูกรัก ในที่สุดเ้าก็ฟื้นเสียที เ้าทำให้พ่อใจะตายอยู่แล้ว”
ใบหน้าจ้าวซีเหอยังคงซีดขาว เขาเอ่ยอย่างอ่อนแรง “ท่านพ่อ ท่านพูดคำไหนต้องเป็คำนั้นนะ ท่านกล่าวว่าต่อไปจะไม่ตีจะไม่ด่าลูกอีก ท่านต้องรักษาคำพูดนะ”
ท่านอ๋องไหนเลยจะสนใจว่าก่อนหน้านี้กล่าวอันใดไปบ้าง ในสายตาตอนนี้มีเพียงบุตรชายจึงพยักหน้ารับคำ “ได้ พ่อรับปากเ้า รับปากเ้า”
ดวงตาเรียวเล็กยาว แววตาดอกท้อของจ้าวซีเหอพลันเป็ประกายเอ่ยพลางยิ้มยั่ว “ท่านพ่อ อีกประเดี๋ยวท่านให้คนนำเงินสองพันสองตำลึงไปมอบให้บ่อนซื่อไห่ เดือนที่แล้วลูกเสียพนันที่นั่น ่นี้ลูกไม่ค่อยมีเงิน จากนั้นส่งคนไปหอจุ้ยหงทางทิศตะวันตกของเมือง นางโลมอันดับหนึ่งของที่นั่นหน้าตาไม่เลว ลูกอยากไถตัวนางมาเป็บ่าวรับใช้ในตำหนัก ลูกคงดีใจยิ่ง ยังมีสนามแข่งม้าทางตอนใต้ของเมือง ลูกซื้อที่นั่นเอาไว้แล้ว เพียงยังมิได้จ่ายเงิน อีกประเดี๋ยวท่านก็ส่งคนไปพร้อมกันด้วยเลย…”
สีหน้าท่านอ๋องทะมึนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นบุตรชายยังคงพูดไม่หยุด จากความรัก ความสงสาร และความเศร้าถูกแทนที่ด้วยความโกรธ จ้าวซีเหอเห็นสีหน้าบิดาเปลี่ยนไป มือที่จับมือเขาอยู่สามารถเปลี่ยนเป็ฝ่ามือประทับมาที่ใบหน้าเขาได้ทุกเมื่อ จึงรีบหุบปากอย่างรู้ความแล้วยิ้มประจบ “ท่านพ่อ ลูกอยากกินน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋ เมื่อสักครู่เหมือนจะได้กลิ่นมันลอยเข้ามาในห้อง ท่านรีบให้คนไปเอามาให้ลูกเถิด”
ท่านอ๋องได้ยินดังนั้นก็เริ่มได้กลิ่นหอมที่อบอวลไปทั่วทั้งห้องเช่นกัน ช่างเป็กลิ่นที่กระตุ้นต่อมรับรสได้ดีเหลือเกิน พลางนึกในใจว่า ในตำหนักของตนมีแม่ครัวฝีมือดีเช่นนี้ั้แ่เมื่อใด
“ใครก็ได้ เข้ามานี่หน่อย ไปดูที่ห้องครัวว่าน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋ทำเสร็จแล้วหรือยัง หากเสร็จแล้วรีบนำมาให้ซื่อจื่อประเดี๋ยวนี้” ท่านอ๋องสั่ง
หนิงมู่ฉือใส่เครื่องปรุงลงไปในน้ำแกงอีกครั้ง พอเห็นว่าส่งกลิ่นหอมยิ่งกว่าเดิมจึงหยุดมือ นางเห็นเด็กรับใช้คนหนึ่งที่วิ่งมาทางห้องครัวใช้มือแหวกผู้คนเดินตรงเข้ามา
“แม่ครัวคนใดทำน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋ ท่านอ๋องมีคำสั่งให้มายกไป” เด็กรับใช้กล่าวเสียงดัง
หนิงมู่ฉือรีบยกมือทันใด “ข้าเอง น้ำแกงอยู่นี่”
ทุกคนได้ยินเช่นนั้นถึงกับตกตะลึง กลิ่นหอมของน้ำแกงโชยไปไกลถึงที่ใดกัน แม้แต่ท่านอ๋องและซื่อจื่อที่อยู่ในเรือนทางทิศตะวันออกยังได้กลิ่น
หนิงมู่ฉือรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นางลากเด็กรับใช้ไปอีกด้านหนึ่งเพื่อถามให้ชัดแจ้ง “พี่ชาย ท่านบอกว่าท่านอ๋องให้ท่านมานำน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋ไป ท่านอ๋องทราบได้อย่างไรว่าในห้องครัวต้มน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋”
เด็กรับใช้มองหนิงมู่ฉืออย่างพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “ที่แท้น้ำแกงปลากุ้ยอวี๋เป็ฝีมือเ้าหรอกหรือ ท่านอ๋องกับซื่อจื่อได้กลิ่นแต่ไกล บรรดาท่านหมอที่อยู่ในห้องก็ได้กลิ่นจนลอบกลืนน้ำลายไปตามๆ กัน ข้าว่านะ วันที่เ้ากำลังจะได้ดีคงมาถึงแล้ว”
วันที่ได้ดี? ดูท่านางยังพอมีหวังที่จะได้อยู่ตำหนักนี้ต่อสินะ
เรือนทางทิศตะวันออก
จ้าวซีเหอสูดหายใจเข้าลึกๆ รับรู้ได้ถึงทุกอณูในร่างกายที่มีการขยายตัว ช่างเป็กลิ่นที่หอมหวนเหลือเกิน เขาเป็คนที่พิถีพิถันเื่การกินคนหนึ่ง ั้แ่เด็กจนโตไม่มีอาหารเลิศรสใดที่ไม่เคยลิ้มลอง ทว่าน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋ที่มีกลิ่นหอมยั่วน้ำลายเช่นนี้ เขาเพิ่งเคยพบเป็ครั้งแรก
มีคำสั่งให้คนรับใช้นำน้ำแกงมาให้ถ้วยหนึ่ง เมื่อมาถึง จ้าวซีเหอก็ยกน้ำแกงถ้วยเล็กนั่นขึ้นจิบ ทันใดนั้นเอง เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมที่อบอวลไปทั่วทั้งปาก โดยเฉพาะกลิ่นหอมจากกลีบดอกกุ้ยฮวาที่ลอยอยู่บนน้ำแกง ประหนึ่งมีดอกกุ้ยฮวาในฤดูใบไม้ผลิอยู่ในปากอย่างไรอย่างนั้น ลิ้นของเขาเหมือนได้รับการเติมเต็ม เขารีบตักเข้าปากอีกคำ เนื้อปลาสดใหม่และน้ำแกงนุ่มละมุน รสชาติยอดเยี่ยมที่สุด
ครั้นท่านอ๋องและหมอทุกท่านเห็นซื่อจื่อมีท่าทีเอร็ดอร่อยกับน้ำแกงนักหนา ต่างลอบกลืนน้ำลาย นึกในใจ น้ำแกงนี่อร่อยถึงเพียงนั้นเชียว?
จ้าวซีเหอกลืนน้ำแกงลงไปอีกคำ แววตาเปล่งเป็ประกายยิ่งขึ้น เขาตักน้ำแกงขึ้นมาหนึ่งช้อนก่อนจะยื่นไปตรงหน้าท่านอ๋อง “ท่านพ่อ ท่านรีบชิมเถิด น้ำแกงนี้รสชาติชั้นหนึ่งเลยทีเดียว ลูกโตมาจนถึงป่านนี้ยังมิเคยลิ้มรสน้ำแกงปลากุ้ยอวี๋ที่ใดอร่อยเท่านี้มาก่อนเลย รสชาติยอดเยี่ยมราวกับมาจากสรวง์!”
ท่านอ๋องมีหรือจะไม่รู้ว่าบุตรชายของตนพิถีพิถันเื่การกินเพียงใด ครั้นกล่าวชมน้ำแกงถ้วยนี้ แสดงว่ารสชาติต้องไม่เลวจริงๆ
เขาเอาเข้าปากด้วยความสงสัย ยังไม่ทันได้กลืนลงไป ดวงตาพลันเบิกกว้าง สีหน้าตกตะลึง ไม่ต้องกล่าววจีใดก็รู้ความหมาย
จ้าวซีเหอเอ่ยถาม “ยอดเยี่ยมเลยใช่หรือไม่”
ท่านอ๋องทานเข้าไปหลายคำ ยิ้มพร้อมกับกล่าวชมไม่หยุด “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก รสชาติดียิ่งกว่าที่พ่อครัวในวังหลวงทำเสียอีก ใครก็ได้ เข้ามาในนี้หน่อย รีบไปพาตัวแม่ครัวมาหาข้า ข้าจะตบรางวัลให้นาง”
[1] ซื่อจื่อ คำเรียกบุตรชายผู้ที่จะสืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อจากบิดา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้