นางจ้าวได้ยินหลิ่วจิ้งเอาแต่อ้างท่านแม่ทัพมากลบเกลื่อนนางจึงยิ้มเย็นเยาะหยัน “ดูท่าว่าฮูหยินคงจะผิดหวังแล้วไฉ่เอ๋อร์ไม่ได้มาหาท่านแม่ทัพ แต่มาหาฮูหยินเ้าค่ะ”
“มาหาข้า มิบังอาจ ฮูหยินใหญ่ไปไหนมาไหนไม่สะดวก มีเื่ใดก็ส่งคนมาบอกข้าจะไปให้เ้าสอนสั่งถึงที่เรือนเอง”
หลิ่วจิ้งเงยหน้ามองไปไกล คล้ายกำลังรำพึงรำพันกันตนเอง
“ฮูหยินใหญ่ ท่านนั่งก่อนเถิดเ้าค่ะยืนนานจะไม่ดีต่อร่างกายนะเ้าคะ” เหมยเซียงมีใจภักดีเห็นว่าฮูหยินไม่ได้บอกให้ฮูหยินใหญ่นั่งลง ทั้งสองคนเอาแต่ยืนคุยกันนางจึงคิดปกป้องนายด้วยการประคองนางจ้าวเข้าไปนั่งเก้าอี้ภายในห้อง
“อุ๊ย ต้องขอโทษจริงๆ ดีที่เหมยเซียงรอบคอบดูสิข้าไม่ละเอียดอ่อนจนลืมคิดถึงเื่นี้ไปเสียได้ ไม่รู้ว่าตอนข้าท้องฮูหยินใหญ่จะยอมตัดใจให้เหมยเซียงมาดูแลข้าสักระยะได้หรือไม่”หลิ่วจิ้งพูดอย่างสงบนิ่งดั่งลมฝนปรอยๆ ราวกับพูดเื่ธรรมดาสามัญเป็ที่สุด
หลิ่วจิ้งยั่วให้นางจ้าวโกรธเพราะไม่ว่าจะเป็ฮูหยินหรือสตรีคนใดตั้งท้องลูกของท่านแม่ทัพก็ล้วนเป็เื่แทงใจดำดั่งหนามยอกอกของนางจ้าวทั้งนั้นนางจะไม่มีวันยอมให้ใครคลอดบุตรของท่านแม่ทัพอีกเด็ดขาด ไม่มีวัน
ในสายตาของนางจ้าว ต่อให้เป็องค์หญิงสูงส่งเช่นหลิ่วจิ้งก็ไม่ได้ต่างอันใดกับเหล่าสตรีที่หมายตาในฐานะและเงินทองของท่านแม่ทัพซึ่งล้วนเป็ศัตรูของนางทั้งสิ้น
“ฮูหยิน พวกเรากลับมาพูดธุระกันเถิด ที่ไฉ่เอ๋อร์มาครานี้ก็ด้วยมีงานจัดสรรให้ท่านทำ”
นางจ้าวไม่อยากทำาฝีปากกับหลิ่วจิ้งอีกให้นางได้เป็ฮูหยินเอกของท่านแม่ทัพเสียก่อนเมื่อนั้นย่อมมีโอกาสจัดการองค์หญิงที่มาจากต่างแคว้นผู้นี้ให้ดีๆ อยู่แล้ว
หลิ่วจิ้งพินิจพิเคราะห์ขณะจับจ้องนางจ้าวที่อยู่ห่างออกไปเพียงกำแพงกั้นคิดในใจว่าเป็ผู้ใดทำให้นางสามหาวเพียงนี้ ถึงขั้นกล้ามาจัดแจงงานให้ตนทำ
“เ้าว่าอะไรนะ? จัดสรรงานให้ข้าไม่ทราบว่าฮูหยินใหญ่รับคำสั่งของท่านแม่ทัพมาหรือเป็คำชี้แนะจากฮูหยินผู้เฒ่ากัน?” หลิ่วจิ้งเลิกคิ้วขึ้นมองนางจ้าว คิดในใจว่าข้าจะให้โอกาสเ้าเป็ครั้งสุดท้ายคราหน้าหากเ้ายังเอาตัวมาเสี่ยงกับดักอีกข้าหลิ่วจิ้งจะไม่มีวันยื่นมือเข้าช่วยอีกเด็ดขาด
“ฮูหยินฟังไม่ผิดหรอกเ้าค่ะ ไฉ่เอ๋อร์มิได้บังอาจเพียงแต่ท่านแม่ทัพมีคำสั่งให้ไฉ่เอ๋อร์มอบหมายงานจัดเลี้ยงสักเล็กน้อยให้ฮูหยินรับผิดชอบซ้ำยังบอกว่าร่างกายของไฉ่เอ๋อร์ไม่ใคร่เอื้ออำนวยจึงขอให้ฮูหยินให้ความร่วมมือทำงานด้วยเ้าค่ะ”
หลิ่วจิ้งโค้งมุมปากขึ้นยิ้ม พูดอย่างไม่ยี่หระใดๆ ว่า “โอ้ไม่ทราบว่าฮูหยินใหญ่จัดสรรงานใดให้ข้ากัน?”
“เนื่องจากปีนี้เป็งานแซยิด [1] ของฮูหยินผู้เฒ่าท่านแม่ทัพตัดสินใจว่าจะจัดงานเลี้ยงอย่างเอิกเกริก จัดเลี้ยงในบ้านสิบโต๊ะที่สวนอวี้หยวนห้าสิบโต๊ะ จำนวนโต๊ะเท่ากับอายุของฮูหยินผู้เฒ่า พอดีเป็เลขหกหก [2]ทุกสิ่งราบรื่น”
พูดถึงตรงนี้ นางจ้าวก็มีท่าทีพึงพอใจเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูคล้ายตื่นใของหลิ่วจิ้งที่แท้ก็ไม่เคยพบเจองานหนักสินะ แค่หกสิบโต๊ะเท่านั้นก็ใเสียแล้ว
นางจ้าวจะไปรู้ได้อย่างไรว่าที่หลิ่วจิ้งตะลึงมิใช่เพราะใแต่เป็เพราะนางคิดว่างานวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าของแม่ทัพผู้หนึ่งก็ถึงกับจัดเลี้ยงมากมายถึงหกสิบโต๊ะ สิ้นเปลือง สิ้นเปลืองเสียจริงๆหากนำเงินก้อนนี้มอบให้นาง นางจะสามารถนำไปทำเื่ใดได้บ้างนะ
เลอะเลือน เลอะเลือนแท้ๆ หลิ่วจิ้งรู้สึกเ็ปอยู่ในใจเมื่อคิดว่าต้องนำเงินทองเ่าั้ไปใช้อย่างเปล่าประโยชน์
“จากนั้นเล่า?” หลิ่วจิ้งเลิกคิ้วถามยามมองท่าทีอวดดีทำตัวเป็จิ้งจอกแอบอ้างบารมีพยัคฆ์ของนางจ้าวสัญชาตญาณของหลิ่วจิ้งบอกว่างานที่นางจ้าวจะมอบหมายให้นางต้องไม่ใช่เื่ดีเป็แน่มีลูกไม้ใดก็งัดออกมาให้หมดเสีย นางก็อยากรู้นักว่านางจ้าวจะจัดสรรงานเช่นใดให้ทำ
จวนเอ่ยถึงประเด็นสำคัญแล้ว ซึ่งยามนี้นางจ้าวก็คิดว่านางได้เห็นท่าทีไม่พอใจและร้อนรนจนแทบะโกำแพงหนีของฮูหยินแล้วจริงๆ
นางจ้าวแอบได้ใจอยู่ในอก นางเพ่งตาไปที่หลิ่วจิ้งเอ่ยออกมาทีละคำอย่างช้าๆ คล้ายเกรงว่าหลิ่วจิ้งจะฟังไม่ถนัด“งานจัดซื้อของที่ใช้ในงานเลี้ยงทั้งหมด ล้วนมอบหมายให้ฮูหยินเป็ผู้รับผิดชอบ นับั้แ่วันพรุ่งข้าจะเขียนรายการของที่ต้องซื้อนำมาให้ฮูหยินทุกวันฮูหยินก็รับผิดชอบไปซื้อกลับมาเป็พอ”
ไม่กระมัง หลิ่วจิ้งอ้าปากค้าง อยากจะพูดบางสิ่งแต่ก็มิได้เอ่ยออกมา
“อย่างไรหรือเ้าคะ หากฮูหยินมีความเห็นใดก็ให้เอ่ยออกมาข้าจะไปรายงานให้ท่านแม่ทัพตัดสินอีกครั้ง”นางจ้าวเห็นสีหน้าของหลิ่วจิ้งแล้วอยากหัวเราะออกมาดังๆดูท่าว่าเื่นี้จะสร้างความลำบากให้อีกฝ่ายเข้าแล้ว
“อภัยที่ข้าโง่งมนัก ขอให้ฮูหยินใหญ่พูดให้ละเอียดสักหน่อยของเหล่านี้หมายรวมถึงของประเภทใดบ้าง” หลิ่วจิ้งเอ่ยถามมองผ่านรอยยิ้มได้ใจบนใบหน้าของนางจ้าว
“ของเหล่านี้น่ะหรือ ก็คือสิ่งของทุกๆ อย่างเื่ใหญ่ก็ใหญ่ไปจนถึงจ้างคณะงิ้ว เล็กก็เล็กไปจนถึงซื้อวัตถุดิบทำอาหาร ของประดับประตูยังมีงานไปส่งเทียบเชิญให้ถึงมือแขกที่ได้รับเชิญด้วยตนเอง และงานต้อนรับแเื่ยามเปิดงานเป็ต้น”
นี่เป็งานดีงามใหญ่หลวงจริงๆหลิ่วจิ้งยินดีเป็บ้าเป็หลังอยู่ในใจ เงินทองสำหรับใช้จ่ายล้วนต้องไหลผ่านมือนางส่วนจะไหลออกไปเท่าไร และจะถูกนางกักเก็บไว้โดยไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้อีกกี่มากน้อยก็มิใช่ขึ้นอยู่กับนางผู้เดียวหรอกหรือ?
ซ้ำแล้วนางยังมีโอกาสไปพบปะทำความรู้จักกับเหล่าขุนนางและคนชั้นสูงในแคว้นชางอี้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คืออุปสรรคสำคัญที่หลิ่วจิ้งขบคิดหาทางลงมือมาโดยตลอดนึกไม่ถึงเลยว่านางจ้าวกลับเอาสองมือประเคนมาให้นางเสียอย่างนั้น
หลิ่วจิ้งเต็มใจรับงานที่นางจ้าวมอบหมายให้เสียเหลือเกินช่างเป็สตรีที่โง่เง่าเต็มทน หลิ่วจิ้งขมวดคิ้วแน่น จงใจแสร้งทำเป็ไม่อยากรับงานนี้“ฮูหยินใหญ่ ข้าเพิ่งจะมาถึงที่นี่ จัดสรรงานเช่นนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมังเพราะไม่ว่าเื่ใดข้าก็ล้วนไม่คุ้นเคยไปทุกสิ่ง”
สิ่งที่ข้า้าก็คือความไม่คุ้นเคยกับทุกสิ่งที่เ้าว่าก็เพื่อให้เ้าได้ทำเื่เล็กน้อยที่เดิมทีแล้วควรจะทำได้แต่ยามมาอยู่ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มือเท้าเ้าก็จะไม่คล่องแคล่วจัดการได้อย่างลำบากแสนเข็ญอย่างไรเล่า
พอนางจ้าวนึกถึงภาพหลิ่วจิ้งต้องทำงานในสภาพน่าอนาถความคับอกคับใจที่ได้รับมาจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่าในวันนี้ก็ถูกชะล้างไปจนหมด
“ฮูหยินเ้าคะ ท่านแม่ทัพเป็ห่วงลูกในท้องของข้าไม่ยอมให้ข้าต้องมากังวลใจในเื่เหล่านี้ไฉ่เอ๋อร์จึงคิดจะให้ฮูหยินผู้มีความสามารถได้รับผิดชอบงานมากสักหน่อยไฉ่เอ๋อร์เชื่อว่างานเหล่านี้จะไม่ทำให้ฮูหยินรับมือไม่ได้หรอกเ้าค่ะ”นางจ้าวพูดพลางเอาสองมือประคองท้องที่โตขึ้นมาของตน ทำหน้าเคลิบเคลิ้มดั่งคนที่กำลังจะเป็แม่
“เอาล่ะฮูหยิน สิ่งที่ควรพูดไฉ่เอ๋อร์ก็พูดหมดแล้วส่วนเื่ที่ต้องคอยระวังและรายละเอียดวิธีการจัดซื้อต่างๆรอให้ไฉ่เอ๋อร์กลับไปทำรายการเสร็จแล้ว จะรีบนำมาส่งให้ฮูหยินเหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบวัน เวลากระชั้นชิด ภาระหนักหนาหวังว่าฮูหยินจะไม่ทำให้ท่านแม่ทัพผิดหวัง และทำให้สำเร็จในเร็ววันได้เป็ดี”
นางจ้าวมอบหมายงานเสร็จ ไม่สนใจว่าหลิ่วจิ้งจะตอบรับหรือไม่นางก็หันหลังเดินออกไปข้างนอกทันที
“โธ่ ฮูหยินใหญ่ท่านลองคิดดูอีกที เื่ใหญ่โตเช่นนี้อย่างไรก็ขอให้ฮูหยินใหญ่เปลี่ยนคนที่มีไหวพริบสักหน่อยมาทำจะดีกว่า”หลิ่วจิ้งชะเง้อคอ ตะเบ็งเสียง รีบะโไล่หลังนางจ้าวไป
ไม่ว่าผู้ใดได้ยินก็ต้องฟังความจนใจและร้อนรนในน้ำเสียงของหลิ่วจิ้งออก
“ฮ่าๆๆ” นางจ้าวเดินไปไม่เร็วนักย่อมได้ยินเสียงวิงวอนของหลิ่วจิ้ง นางเดินไปหัวเราะไป ที่สุดครานี้ก็ระบายโทสะที่อัดอั้นในใจเรื่อยมาออกไปได้เสียที
“เหมยเซียง ได้ยินชัดแล้วใช่หรือไม่เมื่อครู่มิใช่ว่าเ้าอยากรู้ว่าข้าจะมอบหมายงานใดให้ฮูหยินทำหรอกหรือ?” นางจ้าวเอ่ยกับเหมยเซียงอย่างได้ใจ
“ฮูหยินใหญ่ปราดเปรื่อง งานที่วุ่นวายเช่นนี้ ปีก่อนๆ ล้วนให้คนสองคนรับผิดชอบหนึ่งหน้าที่มีคนรับหน้าที่ไปหาคณะงิ้ว และมีคนรับหน้าที่ไปส่งเทียบเชิญซ้ำยังมีคนรับหน้าที่ไปซื้อหาวัตถุดิบอาหารและเื่อื่นๆ โดยเฉพาะแต่ปีนี้ฮูหยินใหญ่กลับเอางานที่ต้องมีคนยี่สิบกว่าคนรับผิดชอบในปีก่อนๆมอบหมายให้ฮูหยินผู้เดียวเป็คนทำ ลูกไม้นี้ของฮูหยินใหญ่ล้ำเลิศนักเหมยเซียงนับถือ นับถือจริงๆ เ้าค่ะ”
_____________________________
เชิงอรรถ
[1] แซยิด คือวันเกิดครบห้ารอบ หรือหกสิบปี
[2] หกหก ออกเสียงตามภาษาจีนกลางว่า ลิ่วลิ่ว พ้องเสียงกับคำว่าไหล่รื่น ราบรื่น คล่องสะดวก
