ทีแรกเฉินเจ๋อคิดว่าจะได้เห็นภาพน่าเกลียด ๆ ของจ้าวเถี่ยจู้เวลาเมา แต่นี่อีกฝ่ายดื่มไปถึงสิบขวด ตัวเขาก็ใกล้จะยี่สิบขวดแล้ว อีกฝ่ายยังเพียงแค่หน้าแดงเล็กน้อยและตัวเอนไปมาอีกนิดหน่อย ไม่ล้มสักที ราวกับว่าต้องดื่มอีกขวดเท่านั่นแหละถึงจะล้ม เทียบกับตัวเขาที่ดื่มอย่างเอาเป็เอาตาย ผ่านไปไม่นานจึงหมดไปแล้วหนึ่งลัง เขาก็เรียกเพิ่มอีกหนึ่งลัง ส่วนหลีหลิงเอ๋อก็เอาแต่ทานอาหารตรงหน้า ไม่มองจ้าวเถี่ยจู้เลยสักนิด จ้าวเถี่ยจู้ก็เอาแต่ดื่มไปเรื่อย ๆ พลางคิดในใจว่าจะต้องทำให้เฉินเจ๋อเมาให้ได้ คิดไปพลางยิ้มไปพลาง
เบียร์ลังที่สองถูกดื่มหมดในที่สุด เฉินเจ๋อรู้ว่าตัวเองเจอของแข็งเข้าให้แล้ว ภายในร่างกายตอนนี้เริ่มปั่นป่วน ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาก็วิ่งออกจากทานอาหารส่วนตัวตรงไปที่ห้องน้ำทันที พร้อมกันนั้นยังได้ยินเสียงจ้าวเถี่ยจู้พูดไล่หลังมา “รุ่นพี่ ผมจะเมาแล้ว ดื่มต่อไม่ไหวแล้ว”
เฉินเจ๋ออาเจียนออกมาจนหมดกระเพาะ เขาดื่มเบียร์หมดไปเกือบสองลังภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ไม่อาเจียนออกมาก็แปลกแล้ว หลังจากอาเจียนเสร็จจึงเดินไปล้างหน้าที่อ่างล้างมือ ขณะนั้นเองเขาเห็นชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่ย้อมผมเป็สีเหลืองทั้งหัวเดินเข้ามาในห้องน้ำ
“พี่หวง!” เขาเรียกอย่างประหลาดใจ
“เฉินเจ๋อ นายก็มาดื่มที่นี้หรือ” ชายที่ชื่อหวงหนิงเมื่อเห็นว่าเป็คนรู้จักจึงหยุดทักทาย นี่ถ้าจ้าวเถี่ยจู้อยู่ตรงนี้ด้วยล่ะก็ จะต้องรู้จักอีกฝ่ายอย่างแน่นอน เพราะชายหนุ่มคือ หวงหนิง คนที่โดนเขาทำร้ายเมื่อคราวก่อนนั้นเอง หรือที่เป็หนึ่งในสามหนุ่มของแก๊งไป๋อิงเมืองฝูเจี้ยน หรือก็คือลูกชายของรองนายกเทศมนตรีนั้นเอง
“ใช่ครับ มากับรุ่นน้องที่มหาลัยน่ะครับ” เฉินเจ๋อตอบพลางมองไปที่อีกฝ่ายที่ดูท่าไม่ค่อยสนใจตนสักเท่าไหร่จึงพูดขึ้นมาว่า “มีสาวสวยมาด้วยครับ พี่หวงสนใจไหม เดี๋ยวผมจะแนะนำให้รู้จัก”
หวงหนิงได้ฟังรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมาทันที เขาเพิ่งรักษาตัวหายมาไม่กี่วันเอง ่ที่อยู่โรงพยาบาลถูกห้ามไม่ให้แตะเหล้าแล้วก็ผู้หญิง เมื่อคิดถึงเื่ในร้านคาราโอเกะคราวก่อน ตัวเขาก็สั่นด้วยความกลัวขึ้นมาทันที ภาพรูปร่างสูงใหญ่ของเหลยจื่อยังติดตาเขาอยู่เลย ทำไมเขาจะไม่คิดแก้แค้นล่ะ เพียงแต่ถูกพ่อห้ามเอาไว้ทั้งยังบอกอีกว่าอย่าไปยุ่งกับคนพวกนั้น แล้วถ้าเกิดเจออีกล่ะก็ ให้ทำตัวดี ๆ เข้าไว้ ยิ่งสนิทกับพวกนั่นได้ก็จะยิ่งดี เพราะมันจะส่งผลดีและมีประโยชน์ต่อเขาและพ่อของเขา เขาไม่รู้หรอกว่าคนพวกนั่นเป็ใคร คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จนตัดสินใจเลิกคิดในที่สุด จนมาได้ยินคำว่าสาวสวยนี้แหละ ไปดูเสียหน่อยก็ไม่เสียหาย เผื่อคืนนี้เขาจะได้ไม่เหงา
“ได้ เดี๋ยวไปเรียกพี่ชายอีกคนก่อน จะได้ไปด้วยกัน” พูดจบหวงหนิงก็พาเฉินเจ๋อเดินไปที่ห้องทานอาหารส่วนตัวของตัวเอง ภายในห้องมีคนนั่งอยู่เจ็ดแปดคน หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบเห็นจะได้นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ หวงหนิงเมื่อเข้ามาในห้องเดิน เขาเดินเข้าไปหาชายคนนั้นพร้อมกับรอยยิ้ม “พี่ซีเหมิน นี้คือรุ่นน้องผมที่มหาลัย เฉินเจ๋อ”
“สวัสดีครับพี่ซีเหมิน” เฉินเจ๋อรีบทักทายอีกฝ่าย
ชายที่ชื่อซีเหมินเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมามองแล้วพยักหน้ารับการทักทายเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร หวงหนิงจึงพูดต่อ “เฉินเจ๋ออยากจะเชิญพี่ไปดื่มที่ห้องทานอาหารส่วนตัวหน่อยน่ะครับ ในห้องมีสาวสวยอยู่ด้วย”
“หืม?” ซีเหมินทำเสียงในลำคออย่างสงสัย เฉินเจ๋อเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีสนใจจึงพูดต่อ “สวยแน่นอน พี่ซีเหมินไปดูด้วยตาตัวเองได้เลย”
“งั้นต้องไปดูสักหน่อยแล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งลุกขึ้นยืน “เสี่ยวเฉิน นำทางเลย”
หวงหนิงทำท่าทางชวนคนอื่นที่นั่งอยู่ในห้องด้วย แต่คนที่เหลือเอาแต่ดื่มของตัวเอง ไม่มีใครสนใจ
เฉินเจ๋อพาหวงหนิงและซีเหมินมาถึงห้องทานอาหารส่วนตัวของตัวเองโดยเดินเข้าไปก่อนเป็คนแรก จากนั้นตามมาด้วยเฉินเจ่อและซีเหมิน หวงหนิงหลังจากที่เดินเข้ามาในห้อง เห็นพวกของหลีหลิงเอ๋อเข้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที และโดยไม่รู้ตัวก็ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างหวาดกลัว แต่เมื่อเห็นว่าใครตามมาด้านหลัง ความกลัวที่มีจึงหายไป
จ้าวเถี่ยจู้เห็นหวงหนิงเช่นกัน ชายหนุ่มใช้แววตาเ็ามองเตือนอีกฝ่าย ทำเอาความกล้าที่มีเมื่อสักครู่ของหวงหนิงหายวับไปกับตา
“ทุกคน นี่คือรองประธานสมาคมนักศึกษาของมหาลัยฝูเจี้ยน...” เมื่อเฉินเจ๋อแนะนำจบ หวงหนิงเดินไปยืนข้างตัวจ้าวเถี่ยจู้พร้อมทั้งทักทายอย่างนอบน้อม “พี่จ้าว”
ทันทีที่ทุกคนได้ยิน บรรยากาศภายในห้องก็เงียบเป็เป่าสากทันที แน่นอนว่ายกเว้นสาว ๆ ที่กำลังทานอาหารกันอยู่ แต่ผู้ชายที่เหลือราวกับถูกแช่แข็งก็ไม่ปาน
เฉินเจ๋อแสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างสุดขีด หวงหนิงเป็ใคร เขารู้ดี ชายหนุ่มเป็ถึงลูกชายของรองนายกเทศมนตรี อีกทั้งยังเป็หนึ่งในสามหนุ่มแก๊งไป๋อิง เป็คนที่ปกติเขาจะต้องมองอย่างเคารพนับถือ แต่ตอนนี้กลับยืนอยู่ข้าง ๆ จ้าวเถี่ยจู้ราวกับเด็กน้อยพลางเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ แบบนี้จะไม่ให้เขาใได้อย่างไร ซีเหมินก็เช่นกัน ถึงเขาไม่ค่อยอยากจะสนใจหวงหนิงเท่าไหร่นัก แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็ถึงลูกชายของรองนายกเทศมนตรี ตนจึงต้องผูกสัมพันธ์กับอีกฝ่ายในฐานะพี่มาตลอด ไม่คิดเลยว่าชายวัยรุ่นที่ดูแล้วไม่มีอะไรจะทำให้อีกฝ่ายเรียกอย่างนอบน้อมว่าพี่ได้ เป็เื่ที่แปลกจริง ๆ
ด้านจ้าวเถี่ยจู้ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรนักที่หวงหนิงรู้จักชื่อตัวเอง ชื่อเขาไม่ได้เป็ความลับของประเทศเสียหน่อย อีกอย่างคนตรงหน้าเป็ถึงลูกชายของรองนายกเทศมนตรีจะรู้ตัวตนของเขา มันก็ไม่แปลก เพียงแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็คนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษสำนักความมั่นคงแห่งชาติ น่าจะรู้ ไม่อย่างนั้นหวงหนิงคงไม่นอบน้อมกับเขาขนาดนี้
เขาพยักหน้ารับเป็การทักทาย หวงหนิงที่เห็นรีบแนะนำซีเหมินให้รู้จักทันที “พี่ซีเหมิน นี่พี่จ้าว”
ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาพร้อมทั้งยืนมืออกมาหาเขา “สวัสดี ๆ ผมซีเหมินชิ่ง”
“จ้าวเถี่ยจู้” ซีเหมินชิ่ง เป็ชื่อที่บ่งบอกนิสัยดี เขายืนมือไปจับกับอีกฝ่ายพลางแนะนำตัว
ซีเหมินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางแข็ง ๆ ของชายตรงหน้า ด้านหวงหนิงไม่ได้รู้เลยว่าชายวัยกลางคนที่ตนพามาหมดสนุกแล้ว กลับพูดขึ้นมาว่า “พี่ซีเหมิน พี่จ้าวเป็คนที่เก่งมาก ๆ ขนาดพ่อผมยังพูดชมไม่ขาดปากเลย”
ซีเหมินยิ่งขมวดคิ้วเข้าไปใหญ่ ชายคนนี้เนี่ยนะ คนเก่ง แล้วเขาไม่ใช่คนเก่งงั้นสิ แค่เ้านายผมสั่งคำเดียว พ่อนายก็ไม่อยู่แล้ว นายชมคนตรงหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไงกันแน่ เขามีอะไรสู้ไอ้หนุ่มตรงหน้าไม่ได้
จ้าวเถี่ยจู้นิ่งคิดอยู่สักพักก็คิดออกทันทีว่าหวงหนิง้าจะทำอะไร แกล้งพูดชมเขาให้ชายที่ชื่อซีเหมินฟัง อีกฝ่ายจะได้เขม่นเขา ฉลาดน้อยแบบนี้ คิดว่าเขารู้ไม่ทันหรือ เขาคิดในใจก่อนจะพูดออกไป “คนเก่งที่ไหนกัน คุณชายหวงต่างหากที่เป็คนเก่ง” หวงหนิงที่ได้ฟัง รีบพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ในเมื่อพี่จ้าวกำลังดื่มอยู่ งั้นผมอยากจะขอยืมเบียร์เฉินเจ๋อดื่มให้พี่สักขวด” พูดจบก็หยิบเบียร์จากลังขึ้นมาเปิดหนึ่งขวด แล้วดื่มจนหมดภายในครั้งเดียว ซีเหมินได้ฟังก็เข้าใจในแผนของหวงหนิงทันที เขากับหวงหนิงมาที่ห้องของอีกฝ่าย หวงหนิงดื่มแสดงความเคารพแล้ว ถ้าตนไม่ดื่มจะเป็การเสียมารยาท แต่ถ้าดื่มยิ่งเป็การบอกว่าตัวเองต่ำกว่าอีกฝ่าย หวงหนิงคนนี้นี่ไม่ธรรมดา
จ้าวเถี่ยจู้ไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมดูออก ดังนั้นจึงหัวเราะออกมาพลางหยิงเบียร์ขึ้นมาหนึ่งขวด “ผมดื่มให้พี่ซีเหมินหนึ่งขวด” พูดจบก็ดื่มเข้าไปรวดเดียวจนหมด จากนั้นจึงเปิดอีกขวด “ขวดนี้ให้หวงหนิง” พูดจบก็ยกขึ้นดื่มอีกรอบ แต่คราวนี้ดื่มไปเพียงแค่อึกเดียวเท่านั้น
ซีเหมินที่เห็นรู้สึกสะใจขึ้นมาทันที หวงหนิงดื่มให้จ้าวเถี่ยจู้ แต่จ้าวเถี่ยจู้กลับมาดื่มให้เขาจนหมดขวดแล้วถึงดื่มให้หวงหนิงไปแค่หนึ่งอึก ทำแบบนี้เพื่อเป็การไว้หน้าเขา อีกทั้งยังเป็การทำให้หวงหนิงเสียหน้าอีกด้วย
หวงหนิงหลังจากดื่มหมดหันไปพูดกับเฉินเจ่อ “พวกนายดื่มเถอะ พวกเราจะกลับห้องแล้ว”
ซีเหมินก่อนจะออกจากห้องล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบนามบัตรของตนออกมาก่อนจะยืนให้จ้าวเถี่ยจู้ “วันหลังถ้าอยากได้คนร่วมงานล่ะก็ มาหาผมได้เลยนะ” พูดจบก็เดินออกไปพร้อมกับหวงหนิง
“ซีเหมินชิ่ง ผู้จัดการบริษัทเพื่อความบันเทิงเทียนซั๋งเหรินเจียน” จ้าวเถี่ยจู้ดูนามบัตรในมือก่อนจะแอบยิ้มในใจพลางคิด น่าสนใจ ๆ
หลังจากที่เฉินเจ๋อหายจากอาการใก็เดินออกไปส่งหวงหนิงและซีเหมินชิ่งจากนั้นจึงถามจ้าวเถี่ยจู้ด้วยสายตาหวาดกลัว “นายสนิทกับพี่หวงเหรอ”
“เคยเจอครั้งหนึ่ง” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับกลับมาทำตาเยิ้มราวกับคนเมาแล้วเอนตัวพิงเฉาจื่ออี๋ แหม นุ่มดีจังเลย เฉาจื่ออี๋ได้แต่ยิ้มอย่างจำใจ ไม่พูดอะไร
“เคยเจอครั้งหนึ่งก็เรียกนายว่าพี่แล้ว? นายเป็ใครกันแน่?” เฉินเจ๋อหลังจากดื่มเบียร์ไปเยอะจึงกล้าถาม
“ผม? ก็เป็นักศึกษาใหม่ไง จะเป็ใคร สงสัยคงเห็นว่าผมหล่อกว่ามั้ง” เขาพูดจบก็ไม่สนใจอีกฝ่ายอีก แกล้งทำเป็ซบเฉาจื่ออี๋อยู่อย่างนั้น
“กลับเถอะ ๆ กินอิ่มแล้ว” ซูเยี่ยนนีพูดขึ้นพลางหันไปมองจ้าวเถี่ยจู้ที่กำลังหลอกเอาเปรียบเฉา
จื่ออี๋อยู่ ตาคนนี้นี่เป็คนลามกจริง ๆ แล้วก็เป็โจรขโมยชุดชั้นในด้วย เพราะ่นี่ที่ชายหนุ่มกำลังรักษาตัวอยู่ เบาะแสของเ้าโจรนั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน
“หา? กลับแล้วเหรอ ดีเลย ๆ ว่าแต่ ทำไมมึนหัวแบบนี้” จ้าวเถี่ยจู้ไม่ลืมที่ใช้โอกาสแกล้าเมานี่ให้เป็ประโยชน์เพื่อหาเศษหาเลยกับสาว ๆ ยังไม่ทันไรตัวชายหนุ่มก็เอนไปซบซูเยี่ยนนีแล้ว
“ไปนู้นเลยไป” ซูเยี่ยนนีพูดไล่แล้วเดินออกไปพร้อมกับหลีหลิงเอ๋อและเฉาจื่ออี๋ เฉินเจ๋อเมื่อเห็นว่าทุกคนออกไปกันหมดแล้วจึงเดินไปจ่ายเงินกับกัวจิ้ง
เพียงแค่เห็นตัวเลขค่าอาหารมื้อนี้ที่มีถึงห้าหลักด้วยกัน ในใจก็พลันเ็ปขึ้นมาทันที