ลูกบ้านสุดน่ารักของเจ้าบ้านมือสังหาร

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        “ร้านนี้แหละ” ซูเยี่ยนนีหันศีรษะกลับมาบอกเฉินเจ๋อด้วยรอยยิ้มก่อนเดินตรงเข้าไปด้านในก่อนจะเปิดห้องทานอาหารส่วนตัวหนึ่งห้อง

        “คุณดูคุ้นเคยกับที่นี่มากเลยนะ” จ้าวเถี่ยจู้เดินมาด้านข้างแล้วกระซิบถามซูเยี่ยนนี

        “เคยมาครั้งหนึ่งน่ะ ครั้งที่แล้วที่สถานีนัดทานข้าวกันก็มาทานที่นี่จะบอกอะไรให้นะ อาหารที่นี่น่ะแพงมาก”

        “พวกตำรวจนี่เอาภาษีประชาชนมาใช้จ่ายแบบนี้เลยเหรอ!” เขาพูดเสียงเบา

        “ใช่ที่ไหนกัน ครั้งนั้นหัวหน้าเป็๲คนเลี้ยงถึงสุดท้ายจะให้จดไว้ก่อนก็เถอะ นี่ฉันจะบอกอะไรให้นะ เดี๋ยวเวลาสั่งอาหารสั่งให้เยอะๆ หน่อย จะได้ไม่รู้สึกผิดกับหน้าขาวๆ นั่น”

        “คุณนี่เลวใช้ได้” เขาพูดพร้อมทั้งหัวเราะราวกับพวกตัวร้ายก็ไม่ปานก่อนจะพูดต่อ “แต่ผมชอบ”

         “พวกคุณคุยอะไรกัน” เฉินเจ๋อถามอย่างสงสัย

        “เปล่าๆ ซูเยี่ยนนีพูดกับผมว่ากัวจิ้งเนี่ยโชคดีจริงๆ ที่มีแฟนแบบนี้”

        “ไม่หรอก” เฉินเจ๋อพูดอย่างถ่อมตัวด้านกัวจิ้งที่ได้ฟังใบหน้าเปลี่ยนเป็๲ภาคภูมิใจขึ้นมาทันทีพร้อมทั้งเอนตัวซบชายหนุ่มข้างตัวอีกด้วย

        “พวกคุณสั่งอะไรดีคะ” พนักงานคนหนึ่งถามขึ้น

        “เอาเมนูมาดูก่อน” ถึงแม้ว่าภายในใจตอนนี้เฉินเจ๋อจะกระอักเ๣ื๵๪แค่ไหนแต่เพื่อเอาหน้าตาของตนกลับคืนมา ชายหนุ่มจึงต้องทำตัวให้ดูปกติที่สุดซึ่งมันต้องใช้ความอดทนมากๆ เลย หลีหลิงเอ๋อร์ที่เห็นจึงให้กำลังใจชายหนุ่มโดยแกล้งทำเป็๲ส่งสายตาให้นิดหน่อยแต่คนที่ลำบากคือกัวจิ้ง ที่ถึงแม้จะเห็นว่าแฟนตัวเองเล่นหูเล่นตากับแฟนคนอื่นแต่ตัวเองกลับพูดอะไรออกมาไม่ได้

        เฉินเจ๋อรู้สึกราวกับร่างกายอ่อนระทวยไปหมดพร้อมทั้งตัดสินใจยื่นเมนูให้หลีหลิงเอ๋อร์ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเขาจะมารู้ทีหลังว่าตัดสินใจผิดก็ตาม “เชิญสุภาพสตรีก่อน อยากทานอะไรสั่งได้เลยพวกเราออกมาเที่ยวกันก็ต้องทำให้ตัวเองมีความสุข” ชายหนุ่มพูดพร้อมทำตาเยิ้มใส่อีกฝ่าย

        “ที่จริงฉันก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” หลีหลิงเอ๋อร์แกล้งพูดขณะดูเมนู “งั้นก็สั่งแค่ไม่กี่อย่างละกัน ขอหลงเฟิ่งเฉิงเสียง(เนื้อไก่และเนื้องูตุ๋น) ที่หนึ่ง เซียนหนี่ว์ซย่าฝาน(แกงไก่ใส่มะเขือเทศและแตงกวา) คืออะไร ชื่อดูดีอยู่งั้นเอามาหนึ่งที่ละกันฟู้กุ้ยเหลี่ยน (ผัดผักชนิดหนึ่ง) หนึ่งที่ ซวงเป้าเจียกุ้น (หอยเป๋าฮื้อเสียบไม้)หนึ่งที่ อันนี้ชื่อแปลกจัง งั้นเอามาด้วยล่ะกัน แล้วก็ของอวีฉือเจิ้นเทียน (คล้ายหูฉลามน้ำแดง)ให้พวกเราคนละจานเนอะ เอาแค่นี้ก่อนล่ะกัน ซูเยี่ยนนีพี่อยากกินอะไรสั่งเลยวันนี้รุ่นพี่เลี้ยง ไม่ต้องเกรงใจนะ”

        “มัน...จะเยอะเกินไปหรือเปล่า” ซูเยี่ยนนีทำสีหน้าลำบากใจพลางมองไปที่เฉินเจ๋อราวกับกลัวว่าชายหนุ่มจะจ่ายไม่ไหวด้านเฉินเจ๋อถึงแม้ว่าตอนนี้ภายในของเขาจะบอบช้ำมากจนบรรยายออกมาไม่ได้แล้วแต่เขาจะไม่ยอมให้ภาพลักษณ์ที่เขาสร้างขึ้นมาต้องพังลงมาตอนนี้แน่

        “ไม่เป็๲ไร สั่งมาเถอะ อยากกินอะไรก็สั่งเลย” เฉินเจ๋อบอกด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืนใจเต็มทีซูเยี่ยนนีถึงแม้จะดูออกแต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจหญิงสาวหันไปสั่งอาหารกับพนักงานทันที “ขออวี้เมี่ยนฟูหรง(ต้มซุปข้นๆ อย่างหนึ่ง) หนึ่งที่ อู๋จื่อเติงเคอ (อาหารทะเลหลายๆ อย่างรวมกัน)หนึ่งที่ แล้วก็เครื่องดื่มอันนี้ด้วย ใช่ เอามาหกแก้ว คนละแก้วพอดีเลย”

        เฉินเจ๋อถึงกับมีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาราคาของอาหารที่สั่งก่อนหน้านี้เรียกว่าไม่แพงมากนักแต่ถ้าเป็๞เครื่องดื่มที่ซูเยี่ยนนีเพิ่งสั่งมาล่ะก็ เรียกได้ว่าแพงหูดับตับไหม้เลยทีเดียวแก้วหนึ่งราคา 500 หยวน แม่เ๯้าหญิงสาวเป็๞ผ้าห่อทองหรือผ้าห่อเพชรกันแน่

        “ผมไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มที่สั่งไป งั้นของผมก็ยกเลิกไปเถอะผมขอแค่เบียร์ก็พอ” เฉินเจ๋อพูดพร้อมทั้งยิ้มให้เล็กน้อยพลางยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากแต่เมื่อชายหนุ่มหันไปเห็นจ้าวเถี่ยจู้กำลังหยิบเมนูขึ้นมาจึงรีบหันไปพูดกับพนักงานทันที "สั่งแค่นี้ก่อน ถ้าไม่พอค่อยสั่งใหม่ น้องเสิร์ฟอาหารได้เลย"

        “เดี๋ยวก่อน เครื่องดื่มเมื่อสักครู่เขาไม่รับ แต่ผมรับ เอามาให้ผมก็ได้ในชีวิตนี้ผมยังไม่เคยดื่มของแพงแบบนี้เลย” จ้าวเถี่ยจู้พูดกับพนักงานขณะที่กำลังจะเดินออกไป

        หมดไปอีก 500 หยวน เฉินเจ๋อคิดอย่างเจ็บในใจ

        เฉินเจ๋อรู้สึกเจ็บใจเหลือเกิน แค่ซื้อรถยังไม่เท่าไหร่หรอกแต่ไอ้ค่าซ่อมรถนั่น น่าจะสามหมื่นเห็นจะได้ แล้วไหนจะยังค่าอาหารมื้อนี้อีก คงจะเป็๞หมื่นอีกเช่นกันรวมทั้งหมดก็สี่หมื่น สำหรับเขาแล้วถึงมันจะดูไม่เยอะเท่าไหร่ถ้าเทียบกับเงินสามล้านกว่าที่ใช้ซื้อรถให้แฟนล่ะก็แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีอะไรตอบแทนกลับมาบ้างสิ เช่นหลีหลิงเอ๋อร์ให้เบอร์เขาไว้สักหน่อยก็ยังดีแต่นี่ไม่เลย พอสั่งอาหารเสร็จ สามสาวก็ไม่สนใจเขาอีกเลยกลับหันไปคุยหยอกล้อกับจ้าวเถี่ยจู้แทน

        เฉินเจ๋อไม่ใช่คนโง่ดังนั้นเขารู้ดีว่าครั้งนี้เขาโดนคนพวกนี้เล่นงานเข้าให้แล้ว แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าเดินออกไป คนที่เสียหน้าก็คือเขาพวกนี้จะได้พูดว่าเขาไม่มีปัญญาจ่ายค่าข้าวน่ะสิ เขาเสียเงินไปตั้งสี่หมื่นแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลย แล้วยิ่งจ้าวเถี่ยจู้นั่น ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบหน้าเครื่องดื่มที่ตัวเองไม่เต็มใจดื่ม ยังจะสั่งเพิ่มอีก นึกว่าเป็๲น้ำเปล่าหรือไงหรือคิดว่าปากตัวเองสูงส่งมาจากไหนถึงดื่มเครื่องดื่มพวกนี้ได้

        ระหว่างที่รออาหารจ้าวเถี่ยจู้ก็พูดชื่นชมเฉินเจ๋อไม่ขาดปากเป็๞ต้นว่ารุ่นพี่มีเงินเยอะจัง รุ่นพี่ร่ำรวยมหาศาลรุ่นพี่นี่ลักษณะเหมือนพวกคนใหญ่คนโตเลย อะไรทำนองนี้เพราะถึงอย่างไรประโยคพวกนี้ก็ไม่ต้องใช้เงินอยู่แล้ว พูดเท่าไหรก็พูดได้

        ผ่านไปไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ อาหารพวกนี้ถึงแม้ราคาจะแพงไปสักหน่อยแต่รสชาติก็ถือว่าอร่อยใช้ได้จ้าวเถี่ยจู้ทานอย่างรวดเร็วด้วยหน้าตาที่มีความสุขสุดๆด้านสามสาวมีแต่เฉาจื่ออี๋เท่านั้นที่ค่อยๆ ทานส่วนอีกสองสาวที่เหลือทานอย่างรวดเร็วทั้งยังยิ้มอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

        พวกเธออย่ากินเร็วขนาดนั้นได้ไหม มื้อนี้ผมเป็๞เ๯้ามือนะชิ้นนั้นผมคีบก่อน เฉินเจ๋อได้แต่คิดอยู่ในใจเขากินไม่เร็วเท่าพวกคนตรงหน้าและไม่ได้หน้าหนาเท่าจ้าวเถี่ยจู้ด้วย เห็นชัดๆว่าอาหารชิ้นนั้นเขาคีบได้ก่อน แต่กลับถูกอีกฝ่ายแย่งไปต่อหน้าต่อตา

        บ้านนอก กัวจิ้งทำปากพูดโดยไม่มีเสียงอย่างดูถูก

        เครื่องดื่มแก้วล่ะ 500 นั้นอร่อยสมราคาจริงๆได้ยินว่าทำมาจากผลไม้แพงๆ อะไรสักอย่างผสมกับอะไรอีกสักอย่างที่แพงๆส่วนผสมล้วนแล้วแต่เป็๞ของที่พวกชนชั้นสูงในยุโรปดื่มกันถึงแม้ว่าจ้าวเถี่ยจู้ดื่มแล้วจะรู้สึกว่ารสชาติไม่แตกต่างจาก เฉินเหล่าจี๋ มากนักแต่ขึ้นชื่อว่าของแพง ดื่มเข้าไปความรู้สึกก็แตกต่างกันอยู่ดีเฉินเหล่าจี๋ราคาสี่หยวนนั่นเทียบไม่ติดเลยสักนิด

        “น้องคะ เอามาอีกสี่แก้วค่ะ” หลีหลิงเอ๋อร์หันไปสั่งหันพนักงานก่อนจะหันไปถามเฉินเจ๋อ “รุ่นพี่ ลองสักแก้วไหมคะ”

        “ไม่ล่ะๆ เธอดื่มเถอะ เถี่ยจู้พวกเราเป็๞ผู้ชายไม่ต้องดื่มเครื่องดื่มพวกนั้นหรอก พวกเรามาดื่มเบียร์ดีกว่า”

        “เอ่อคือ...รุ่นพี่ ผมดื่มไม่เก่งเท่าไหร่ กลัวจะเมาน่ะครับ” จ้าวเถี่ยจู้พูดด้วยสีหน้าลำบากใจ

        “ไม่เป็๞ไร ดื่มนิดหน่อยก็ได้ ผมจะบอกอะไรให้นะ อีกหน่อยเวลาเข้าสังคมเ๹ื่๪๫แรกที่สำคัญก็คือดื่มเบียร์นี่แหละ ถ้าไม่ดื่มเบียร์ก็ไม่มีเพื่อนนายต้องดื่มให้ชินก่อน รอจนนายดื่มได้เยอะ ทีนี้ก็เข้าสังคมได้แล้ว” เฉินเจ๋ออธิบายและโดยไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธก็รีบเปิดเบียร์ส่งให้ทันที

        “รุ่นพี่ ผมดื่มไม่ได้จริงๆ” จ้าวเถี่ยจู้ยังคงแกล้งทำสีหน้าลำบากใจ

        “อะไรกัน ถ้าไม่ดื่มถือว่าไม่ให้เกียรตินะ ดื่ม ผมดื่มหมดก่อนเลยละกัน” พูดจบประโยคเฉินเจ๋อก็ยกเบียร์ในมือขึ้นมาดื่มจนหมดจากนั้นหันไปมองชายหนุ่มอีกคน จ้าวเถี่ยจู้เมื่อเห็นเฉินเจ๋อมองมาก็แอบคิดอยู่ในใจสมญานามของเขา คือคุณชายนักดื่ม ดื่มทีอย่างน้อยเป็๞ลังคืนนี้ถ้าไม่เป็๞ผมก็ต้องเป็๞คุณที่ต้องตายไปข้าง

        “ก็ได้ครับ แต่ผมบอกไว้ก่อนนะ ผมดื่มได้แค่ขวดเดียวเท่านั้น ไม่งั้นผมจะเมา” เขาถอนหายใจออกมา ราวกับเป็๲เ๱ื่๵๹ที่ตัดสินใจลำบากมากจากนั้นยกเบียร์ขึ้นมาดื่มจนหมดพร้อมทั้งเลิกคิ้วไปด้วย

        “มาๆ หมดแล้วหนึ่งขวด งั้นดื่มอีกหนึ่งขวด” เฉินเจ๋อเปิดเบียร์อีกขวดแล้วส่งให้อีกฝ่ายทั้งสองดื่มหมดไปอีกหนึ่งขวด

        “รุ่นพี่ ผมดื่มไม่ไหวแล้ว” เขาแกล้งเรอออกมาก่อนจะพูด

        “ไม่เป็๞ไรๆ ผมดื่มสองขวด นายดื่มหนึ่งขวด พวกเราดื่มให้สนุกไปเลย มาๆ” จบประโยคก็หมดไปอีกหนึ่งขวด

        ซูเยี่ยนนีและหลีหลิงเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เห็นเฉินเจ๋อชวนจ้าวเถี่ยจู้ดื่มเบียร์ไม่หยุดก็อดมองอย่างดูถูกไม่ได้

        เฮ้อ ห้ามยังไงก็คงห้ามไม่อยู่แล้ว

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้