“เนี่ยเทียน ขอบใจเ้ามาก”
เด็กหญิงใบหน้าราวกับตุ๊กตาที่ยังไม่หายใกำกระบี่สั้นในมือเอาไว้แน่น เอ่ยขอบคุณอย่างหวาดกลัว
“ข้าเป็คนของเมืองอันซิง ชื่อเจียงเหมียว เมืองอันซิงและเมืองเฮยอวิ๋นอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่นัก ต่อไปหากเ้ามาเมืองอันซิง ข้าจะรับรองเ้าเป็อย่างดีแน่นอน”
เนี่ยเทียนมองนางหนึ่งครั้ง ส่งยิ้มเห็นฟันไปให้ “เ้าอยู่ขั้นหลอมลมปราณแปด กระบี่เล่มนั้นของเ้า... ก็ไม่ใช่ของธรรมดา ขอแค่เ้ามีสมาธิจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ ระวังความเคลื่อนไหวใต้ฝ่าเท้าของเ้าให้ดี เ้าก็น่าจะััถึงกิ้งก่าดินได้เหมือนกัน ต่อไป เ้าต้องระวังตัวให้มาก ไม่ต้องคิดเหลวไหลอีกแล้ว”
“อืม ข้าจะทำตามที่เ้าบอก” เจียงเหมียวพยักหน้าอย่างแรง
“ฟ่อ ฟ่อ!”
และเวลานี้เอง เื้ังูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นก็มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ยังมีสัตว์วิเศษอีกตัว!” พันเทาหน้าเปลี่ยนสี
พูดจบก็มองเห็นสัตว์วิเศษระดับหนึ่งอีกประมาณสิบกว่าตัวทยอยกันปรากฏตัวตรงจุดที่งูเหลือมน้ำแข็งั์เลื้อยผ่านไป
สัตว์วิเศษที่โผล่ออกมาใหม่ส่วนใหญ่ล้วนเป็สัตว์เลื้อยคลานประเภทงูเหลือม พวกมันน่าจะรีบเดินทางมาจากเขตอื่นๆ หลังจากที่ถูกงูเหลือมน้ำแข็งั์เรียกหา
แค่สัตว์วิเศษพวกนั้นโผล่หัวออกมา เนี่ยเทียนก็เข้าใจทันทีว่าเหตุใดงูเหลือมน้ำแข็งั์ถึงไม่ได้รีบร้อนลงมือ
มันรอให้ผู้ติดตามมาถึงนี่เอง!
เดิมทีผู้ประลองเ่าั้ของหอหลิงเป่ามีจำนวนมากกว่าสัตว์วิเศษระดับหนึ่งของที่แห่งนี้ อีกอย่างในมือของพวกเด็กรุ่นเล็กแต่ละตระกูลล้วนมีอาวุธวิเศษที่ไม่ธรรมดา นี่จึงทำให้พวกเขาเป็ฝ่ายได้เปรียบเวลาที่ต่อสู้กับสัตว์วิเศษระดับหนึ่ง
และด้วยเหตุนี้ ตอนที่เนี่ยเทียนและเจิ้งรุ่ยเกิดการปะทะกันก่อนหน้านั้น พวกเขาถึงได้มีเวลาว่างหันไปมองได้
ทว่าเมื่อสัตว์วิเศษอีกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ทำให้พวกเขาทุกคนต้องเผชิญหน้ากับสัตว์วิเศษระดับหนึ่งสองถึงสามตัว
เมื่อเป็เช่นนี้ ต่อให้พวกเขาจะอาศัยความแหลมคมของอาวุธวิเศษเพียงใด ก็ยังยากที่จะสิ้นสุดการต่อสู้ในเวลาอันสั้น!
เมื่อกิ้งก่าดินปรากฏตัว และงูเหลือมน้ำแข็งั์ก็ใกล้จะเข้ามาถึง ผู้ประลองของหอหลิงเป่าต่างตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่
ความหวังเดียวของพวกเขาก็คืออันอิ่งสามารถรั้งงูเหลือมน้ำแข็งั์ไว้ได้สำเร็จ ส่วนคนอื่นก็จัดการกับคู่ต่อสู้ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไปช่วยอันอิ่งสังหารงูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้น
ทว่าสัตว์วิเศษที่เพิ่งมาใหม่กลุ่มนั้นคล้ายจะทำลายความหวังทั้งหมดของพวกเขาไป
“ฟ่อ ฟ่อ!”
งูเหลือมน้ำแข็งั์แลบลิ้นสองแฉกออกมา ดวงตาเผยความเย็นเยียบ สายตานั้น... ดูเหมือนจะแฝงไว้ด้วยแววหยอกล้อ
ก่อนหน้านี้มันไม่ได้รีบร้อนแม้แต่นิดเดียว หลังจากสัตว์วิเศษจำพวกเลื้อยคลานเ่าั้ต่างพุ่งเข้ามาจากทิศทางต่างๆ ในที่สุดมันก็ไม่รอเฉยอีกต่อไป
“บัดซบ! ควรจะลงมือให้เร็วกว่านี้!”
อันอิ่งเองก็ตั้งตัวได้แล้วเช่นกัน รู้ว่าความขี้ขลาดและความลังเลของพวกเขาทำให้พวกเขาพลาดโอกาสที่ดีที่สุดไป
“จะรอต่อไปอีกไม่ได้แล้ว! ไม่มีใครรู้ว่าจะมีสัตว์วิเศษมากมายเช่นนี้มาจากพื้นที่อื่นด้วย!” นางมองไปยังพื้นแผ่นดินที่เป็น้ำแข็งด้วยความหนักใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดมน
จากที่นางรู้มา กิ้งก่าดินซึ่งเป็สัตว์วิเศษระดับสองก็น่าจะมีความสามารถในการเรียกหาสัตว์วิเศษระดับต่ำได้เช่นกัน
นางไม่แน่ใจว่ากิ้งก่าดินที่ปรากฏกายที่นี่ จะพาสัตว์วิเศษระดับหนึ่งในทะเลทรายมาที่นี่ด้วยหรือไม่
บางทีเวลานี้ สัตว์วิเศษของทะเลทราย... อาจกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้แล้วก็ได้
นางไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป
“ฟู่ว!”
ในมีดจันทร์เสี้ยวสีชาดเล่มนั้นของนางพลันมีประกายไฟลูกแล้วลูกเล่าพวยพุ่งออกมา หลังจากที่เปลวไฟบินออกมาก็เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องกลางอากาศ กลายเป็ธารเปลวไฟเส้นแล้วเส้นเล่าราวกับลาวาที่ไหลริน
เพียงแค่พริบตาเดียว เบื้องหน้าอันอิ่งก็มีธารเปลวไฟหกสายก่อตัวขึ้น
ธารเปลวไฟหกสายปลดปล่อยคลื่นความร้อนแผดเผาตัดสลับกันไปมา มองเห็นได้รำไรว่ามันเริ่มเกาะตัวกันกลายมาเป็ภาพเปลวเพลิงอันซับซ้อนหนึ่งภาพ
“ค่ายธาราเพลิงแผดเผา!”
อันอิ่งยกดาบยาวเล่มนั้นขึ้นเหนือหัว หันความคมกริบของดาบยาวไปทางงูเหลือมน้ำแข็งั์ทันใด
“ฟู่ว!”
ภาพเปลวเพลิงที่ลอยอยู่กลางอากาศตัดสลับกับเปลวเพลิงที่โหมซัดสาด ราวกับเมฆาไฟขนาดั์แปลกประหลาดก้อนหนึ่งที่พุ่งพรวดเข้าใส่งูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้น
เมื่อภาพเปลวเพลิงั์เคลื่อนไหว อันอิ่งจึงยกดาบยาวแล้วพุ่งถลาออกไป
งูเหลือมน้ำแข็งั์ที่ลำตัวยาวเกินสิบเมตรนั้นเปล่งประกายเย็นเยียบผ่านดวงตา พลันเงยหน้าขึ้นฟ้าอ้าปากออกอย่างกว้าง
ลำแสงเย็นเฉียบหนาพอๆ กับลำตัวของงูั์ลำแสงหนึ่งพุ่งทะยานออกมาจากปากของมัน ลำแสงน้ำแข็งนั้นตรงดิ่งเข้าสู่นภากาศ กระแทกเข้าใส่ภาพเปลวเพลิงขนาดมหึมาทันควัน
พลังเปลวไฟและพลังน้ำแข็งประสานเข้าหากันทันที นภากาศพลันมีสะเก็ดแสงนับหมื่นนับพันสาดกระเซ็น
“รีบลงมือเร็วเข้า!” และเวลานี้เอง เนี่ยเทียนคำรามเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง “นางกำลัง่ชิงเวลาให้กับพวกเรา!”
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ผู้ประลองเ่าั้ที่จ้องเขม็งไปยังอันอิ่งจึงฟื้นคืนสติขึ้นมาฉับพลัน
ส่วนเนี่ยเทียนก็ไม่ได้มองการต่อสู้ระหว่างอันอิ่งและงูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นอีก แต่ทำหน้าเคร่งขรึม พุ่งเข้าใส่สัตว์วิเศษที่เข้ามาใกล้เป็คนแรก
นั่นคือวานรกรงเล็บน้ำแข็งตัวหนึ่งที่มีกรงเล็บแหลมคม ตลอดทั้งร่างเต็มไปด้วยขนสีเงิน
วานรกรงเล็บน้ำแข็งเป็เพียงสัตว์วิเศษระดับหนึ่ง มีชื่อเสียงในการหลบหลีกอย่างชาญฉลาด อาวุธการโจมตีเพียงหนึ่งเดียวของมันก็คือกรงเล็บแหลมคมซึ่งแผ่ไอความเย็นออกมารอบด้านนั้น
จุดที่มันชอบโจมตีมากที่สุดก็คือลำคอของคน อวัยวะทั้งห้า โดยเฉพาะดวงตา!
“กี๊ด กี๊ด!”
พอมองเห็นว่าเนี่ยเทียนห้อตะบึงเข้ามา วานรกรงเล็บน้ำแข็งก็กรีดร้องเสียงแหลม ร่างกายเล็กเตี้ยวิ่งวนไปวนมารับหน้าเนี่ยเทียนราวกับไฟสีเขียวกองเล็ก
วิธีการพุ่งเข้าหาของมันไม่ได้เป็เส้นตรง แต่โค้งงอสลับไปมา
ขณะที่เนี่ยเทียนใกล้จะเข้าไปถึงตัวมัน กรงเล็บของมันทิ่มเข้าไปใต้พื้นดิน แล้วกระชากออกอย่างรุนแรง
น้ำแข็งมากมายหลายก้อนถูกกรงเล็บของมันตวัดขึ้นมาจากพื้นดิน เศษน้ำแข็งแตกกระจายเต็มท้องฟ้า ทำให้เส้นสายตาของเนี่ยเทียนถูกปิดบัง
ขณะที่เกล็ดหิมะสาดกระจาย เงาร่างสีเงินร่างหนึ่งพลันโผล่มาทางด้านหลังของเนี่ยเทียน
วินาทีถัดมา เงาร่างนั้นก็กลายร่างเป็วานรกรงเล็บน้ำแข็ง
กรงเล็บที่แหลมคมราวกับมีดน้ำแข็งของมันเอื้อมแทงเข้ามาที่ต้นคอด้านหลังของเนี่ยเทียน
ลำคอก็คือจุดที่เปราะบางที่สุดของร่างกายมนุษย์ หากถูกกรงเล็บนั่นทิ่มแทงเข้า คนส่วนใหญ่ล้วนสิ้นใจตายทันที
เห็นได้ชัดว่ามันรู้จุดอ่อนของร่างกายมนุษย์
“กี๊ด กี๊ด!”
ขณะที่กรงเล็บนั่นกำลังจะทิ่มเข้ามายังลำคอของเนี่ยเทียน ในที่สุดมันก็อดรนทนไม่ไหวที่จะเปล่งเสียงกรีดร้องเสียงแหลมอย่างลำพองใจ
“รนหาที่ตายแท้ๆ!”
เนี่ยเทียนแค่นเสียงเย็นราวกับว่ามีดวงตาอยู่ข้างหลัง มือทั้งคู่ของเขาพลันยื่นไปที่หลังศีรษะ จับเข้าที่ข้อมือซึ่งเต็มไปด้วยขนของวานรกรงเล็บน้ำแข็งอย่างแม่นยำราวตาเห็น
ขณะที่วานรกรงเล็บน้ำแข็งกรีดร้องเสียงแหลม เขาก็ออกแรงกระชากหนึ่งครั้ง เหวี่ยงตัวมันลอยข้ามหัวมาด้านหน้า
กำข้อมือของวานรกรงเล็บน้ำแข็งไว้แน่น ทำให้เนี่ยเทียนใช้เท้าถีบลงไปที่หน้าอกของวานรกรงเล็บน้ำแข็งได้อย่างถนัด
การถีบครั้งนี้เขาออกแรงเต็มที่ ทั้งยังใช้พลังิญญาในร่างกายด้วย
“โฮก! กร๊อบ!”
ร่างกายเล็กเตี้ยของวานรกรงเล็บน้ำแข็งถูกถีบจนลอยตัวขึ้น แขนทั้งสองข้างของมันหลุดออกจากร่างกายทันที!
เนี่ยเทียนที่ถือแขนทั้งสองข้างซึ่งเต็มไปด้วยขนเอาไว้ ไม่สนใจวานรกรงเล็บน้ำแข็งที่กรีดร้องโหยหวนอีกต่อไป เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับแขนผอมแห้งสองข้างนั้น
เขาหันกรงเล็บออกไปข้างนอก เอากรงเล็บคู่นั้นมาเป็อาวุธของตัวเอง
จากนั้นเขาก็หันไปยังสัตว์วิเศษอีกตัวที่อยู่ใกล้เขามากที่สุด
เพราะเขารู้ว่าวานรกรงเล็บน้ำแข็งที่แขนทั้งสองข้างหักออกและสูญเสียกรงเล็บไปแล้วไม่เหลือภัยคุกคามใดๆ อีกต่อไป
ต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ วานรกรงเล็บน้ำแข็งตัวนั้นก็ไม่สามารถส่งผลกระทบใดๆ ต่อการสู้รบได้อีกแล้ว
“ฟู่ว!”
และเวลานี้เอง กิ้งก่าดินที่ซ่อนอยู่ในจุดลึกใต้ดินก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันอีกครั้ง
เด็กหนุ่มผู้หนึ่งนามว่าจู่ฟางกำลังต่อสู้กับแมงมุมั์ตัวหนึ่งอย่างดุเดือด กิ้งก่าดินตัวนั้นพอปรากฏกายก็โจมตีอีกครั้งทันที เขาจึงไม่ทันได้ตั้งตัว
“กร๊อบ!”
กิ้งก่าดินตัวนั้นกัดกระดูกขาของเขาในคำเดียว ด้วยความเ็ปมหาศาล เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ต่อกรกับแมงมุมั์ตัวนั้นอีก จึงถูกแมงมุมใช้ขาแหลมคมแทงทะลุเข้าไปยังหัวใจของเขา
“จู่ฟาง!”
พันเทาและเจิ้งรุ่ยที่ตามหากิ้งก่าดินตัวนั้นอยู่ตลอดเวลาพุ่งเข้าใส่พร้อมแผดเสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง น่าเสียดายที่สายไปเสียแล้ว
ตอนที่พวกเขามาถึง จู่ฟางก็ได้สิ้นใจตายไปแล้ว ส่วนแมงมุมตัวนั้นแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา มันจึงหลบไปซ่อนตัวนานแล้ว
“บัดซบจริงๆ! กิ้งก่าดินซ่อนตัวอยู่ใต้ดินแต่กลับััได้ถึงการต่อสู้บนพื้น มันจะฉวยโอกาสลงมือกะหันทันตอนที่เพื่อนของพวกเรากำลังต่อสู้!” พันเทาตาแดงก่ำ “ขอแค่มันซ่อนอยู่ใต้ดินไม่ยอมออกมา พวกเราก็หามันไม่เจอ และไม่มีทางฆ่ามันได้!”
“ต้องรีบคิดหาวิธีแล้ว! อันอิ่งนาง... ทนได้ไม่นานนักหรอก!” เจิ้งรุ่ยกล่าวอย่างฉุนเฉียว
เนี่ยเทียนที่สังเกตเห็นว่าทางฝั่งนี้มีการตายเกิดขึ้นอีกครั้งก็ไม่ได้ลนลานแต่อย่างไรเพราะการตายของจู่ฟาง แต่เมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกพันเทาจึงหันไปมองทางอันอิ่งโดยไม่รู้ตัว
สีหน้าของเขาเปลี่ยนมาเป็เคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด
“ท่าไม่ค่อยดีแล้ว”
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้