เฉินชุ่ยอวิ๋นยังคงพะวักพะวง ไม่อาจปล่อยวางได้เสียที ขณะที่เธอกำลังใคร่ครวญเื่ต่างๆ เจิ้งหยวนกับเจิ้งเจวียนก็ใช้โอกาสนี้แอบคุยกัน
เจิ้งหยวนถาม “แกทำกับข้าวอะไร?”
เจิ้งเจวียนบอก “ก็ผัดถั่วแขกกับมะเขือม่วงหม้อหนึ่ง เดี๋ยวตักแยกกันไปคนละชาม กับวอวอแป้งหมี่ [1] ที่แม่นึ่งใหม่ เพิ่งออกมาจากเตา อร่อยมากเลยละ”
เจิ้งหยวนเอ่ยต่อ “ฉันให้ใส่น้ำมันหมูลงไปเยอะๆ หน่อยตอนผัดกับข้าว แกใส่หรือเปล่า?”
เจิ้งเจวียนพยักหน้า “ใส่แล้วๆ ”เธอแอบมองเฉินชุ่ยอวิ๋นแวบหนึ่ง แล้วค่อยโน้มตัวเข้ามากระซิบบอกเจิ้งหยวน “ฉันฉวยโอกาสตอนแม่ไม่เห็นตักไปช้อนใหญ่ กับข้าววันนี้หอมฉุยเลย”
เจิ้งหยวนส่งสีหน้าชมเชยให้ “ทำได้ดี!” น้ำมันหมูที่เธอเคี่ยวออกมาเป็พิเศษเมื่อวันก่อนไว้สำหรับให้ครอบครัวได้กินใน่ฤดูกาลเพาะปลูกอยู่แล้ว
่นี้หากไม่กินดีๆ หน่อย คงได้ประสบปัญหาร้ายแรงแน่ เพราะหลายคนที่สุขภาพไม่ดี มักจะป่วยหนักหลังผ่านพ้นฤดูกาลเพาะปลูกไป
“หยวนหยวน” เฉินชุ่ยอวิ๋นเรียกชื่อเธอกะทันหัน
เจิ้งหยวนหันไปมองก่อนขานรับ “หือ?”
“แกรู้ไหม คนข้างนอกเขาพูดถึงบ้านลุงใหญ่แกยังไง?” เฉินชุ่ยอวิ๋นเอ่ยถาม
เจิ้งหยวนตอบปฏิเสธ “ไม่รู้เลย พวกเธอไม่ได้นินทาต่อหน้าฉัน เข้ามาถามฉันก็แค่ยิ้มๆ ไม่เล่าอะไรให้พวกเธอสักอย่าง ฉันจะรู้ได้ยังไง” เธอวางชามลงและถามต่อ “พวกเธอว่าลุงใหญ่ยังไงบ้างเหรอคะ?”
เจิ้งเจวียนพูดแทรกทันที “จะอะไรซะอีกล่ะ ก็บอกว่าลุงใหญ่เอารัดเอาเปรียบครอบครัวพวกเรา บอกว่าบ้านเขามีกินอยู่ทุกวันนี้ล้วนพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากบ้านเราน่ะสิ แถมยังด่าว่าไร้ยางอายกันทั้งบ้าน อยากแย่งสิ่งดีๆ ของบ้านเราไปเสียหมด อย่างการแต่งงานกับสกุลเฝิง ต้องคิดว่าสามารถตักตวงจากสกุลเฝิงในอนาคตได้แน่ถึงสนใจ…” เธอพูดอย่างดีใจ เื่นี้เธอได้ยินมาจากข้างนอกแล้วถ่ายทอดให้เฉินชุ่ยอวิ๋นฟัง ยังตบท้ายด้วยว่า “สรุปคือแสลงหูสุดๆ ฉันเดาว่าลุงใหญ่ของเราต้องโกรธไม่เบาเลยละ แต่ฉันว่าสมน้ำหน้าแล้ว ใครใช้ให้มาคิดร้ายกับเราละ”
“สมน้ำหน้าบ้าบออะไร!” เฉินชุ่ยอวิ๋นด่าเจิ้งเจวียนไปหนึ่งคำรบ
“เด็กแสบอย่างแกจะเข้าใจอะไร? ถึงลุงใหญ่ของแกจะแย่แค่ไหน
สุดท้ายก็แซ่เจิ้ง เป็ครอบครัวเดียวกับเรา ” เธอเอ่ยกับเจิ้งหยวนต่อ
“แกไม่ใช่ไม่รู้ว่าพ่อแกเป็คนรักหน้าตาครอบครัว นั่นพี่น้องแท้ๆ ของเขา
เขาจะทนฟังคนอื่นเยาะเย้ยพี่ชายเขาลงเหรอ? อีกอย่างเื่นี้แกเป็คนก่อขึ้นมาั้แ่แรก
หยวนหยวน พ่อกลับมาต้องตีแกแน่นอน”
เจิ้งเฉวียนกังเป็หัวหน้ากอง ตอนนี้เจิ้งหยวนเลิกงานกลับมาแล้ว เขายังคงยุ่งอยู่ ทุกงานขาดเขาไม่ได้สักอย่าง ตอนเขาวุ่นกับงาน คงไม่มีใครนินทาเข้าหูเขาหรอก แต่พอว่างจากงาน ต้องมีคนวิพากษ์วิจารณ์ใส่หูเขาแน่นอน เจิ้งเฉวียนกังให้ความสำคัญกับครอบครัวอย่างยิ่ง แม้แยกบ้านกันแล้วคุณลุงใหญ่ก็ยังเป็พี่ชายของเขา และเจิ้งสยาก็เป็หลานสาวของเขาเช่นกัน
เฉินชุ่ยอวิ๋นบอกเจิ้งหยวนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล “เดี๋ยวพ่อแกกลับมา แกอย่าเถียงเขาเด็ดขาด ยอมรับผิดดีๆ ยังไงเื่มันก็ผ่านไปแล้ว”
เจิ้งหยวนไม่ใช่เด็กสาวอายุสิบแปดจริงๆ สักหน่อย เื่นี้หากยอมรับผิดแล้วทุกอย่างจบลง เธอคงยอมรับผิดโดยดี แต่เกรงว่าปัญหามันจะแก้ไขไม่ได้ง่ายๆ น่ะสิ ต้องรู้กันก่อนว่าพ่อเธอเป็คนหัวแข็ง ไม่มีใครเปลี่ยนสิ่งที่เขาเชื่อมั่นได้
[1] แป้งหมี่ หมายถึง แป้งชนิดหนึ่งที่มีถั่วเขียวเป็ส่วนประกอบหลัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้