ณ สนามฝึกยุทธ์โรงเรียนเซิ่งหลัน ธงทิวปลิวไสวทุกหนทุกแห่ง เสียงกลองสนั่นหวั่นไหวไปทั่วสนาม
การสอบปลายปีที่เฝ้ารอคอยกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่เป็่เวลาสำคัญสำหรับนักเรียนทุกคน
นักเรียนจากชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นและชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้นต่างมารวมตัวกันอยู่บริเวณกลางสนามฝึกยุทธ์ แม้แต่เนี่ยหลี ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวก ที่ไม่ได้เข้าชั้นเรียนมาเป็เวลาเกือบสองเดือนก็โผล่มายืนรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ในชั้น
เห็นเนี่ยหลีมาถึง ทั้งเยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อต่างเดินเข้าไปหา
ไม่ว่าจะเป็เด็กนักเรียนชายในชั้นเดียวกันหรือชั้นอื่นๆ เมื่อเห็นสองงามสะคราญโฉมกำลังยืนอยู่ข้างกายเนี่ยหลี แต่ละคนต่างเต็มไปด้วยความอิจฉาไม่จบไม่สิ้น
เ้าบ้าเนี่ยหลีเกินไปแล้ว คนเดียวกลับเอาทรัพยากรอันมีค่าเอาไว้คนเดียว
เนี่ยหลีมองเยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์ เด็กสาวสองคนนี้ยิ่งงดงามกว่าเดิมอีก ราวกับเทพธิดาน้อยก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะเป็เพราะผลจากการฝึกเคล็ดวิชาปีกัสายฟ้าวายุหรือเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรหรือไม่ก็ตาม เคล็ดวิชาทั้งสองนี้ทรงอานุภาพยิ่ง พวกมันสามารถกลั่นร่างกาย ขับสิ่งไม่บริสุทธิ์ออกมา ทำให้เด็กสาวทั้งสองมีรัศมีกายที่เจิดจ้าราวกับผู้เป็ะแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้ ทั้งเยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อต่างมีความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์อย่างรวดเร็วยิ่ง เหนือชั้นกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันไปเป็อันมาก
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็เยี่ยจื่ออวิ๋นหรือเซียวหนิงเอ๋อร์ ทั้งคู่ต่างรู้สึกสำนึกถึงบุญคุณของเนี่ยหลี หากไม่ได้ความช่วยเหลือของเขา พวกนางก็คงไม่มีความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์รวดเร็วถึงเพียงนี้
เยี่ยจื่ออวิ๋นดูเหมือนจะเห็นใครบางคน หลังจากทักทายเนี่ยหลีสองสามคำก็ขอตัวจากไป!
“เนี่ยหลี เมื่อเร็วๆ นี้ข้าได้ยินคนที่บ้านพูดกันว่าการค้าของตระกูลเทียนเหินถูกพวกตระกูลเสินเซิ่งกดดันอย่างมาก” เซียวหนิงเอ๋อเดินเข้ามาถึงข้างกายของเนี่ยหลีและกระซิบ
“แค่เื่การค้าหรือที่ถูกกดดัน?” แววตาของเนี่ยหลีล้ำลึกขณะถาม
“อืม!” เซียวหนิงเอ๋อพยักหน้า ต่อให้มีอิทธิพลเพียงใด ตระกูลเสินเซิ่งก็ทำได้แค่เพียงกดดันครอบครัวอื่นๆ ในด้านการค้าเท่านั้น เพราะเมืองกวงฮุยมีข้อห้ามเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในอย่างเข้มงวดนัก หากตระกูลเสินเซิ่งกล้าลงมือเข่นฆ่าผู้คนในตระกูลเทียนเหิน เดาว่าผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนาน อย่างท่านเยี่ยโม่ และท่านเ้าเมืองคงไม่ยอมปล่อยตระกูลเสินเซิ่งเป็แน่!
“เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรน่าห่วงแล้ว!” เนี่ยหลีพูดเบาๆ ั้แ่สมาคมนักปรุงยาวิเศษเริ่มขายยาเ่าั้ เนี่ยหลีมีรายได้ต่อวันกว่าล้านเหรียญ รายได้วันเดียวก็มีค่ามากกว่าการค้าขายของตระกูลเทียนเหินหลายปีแล้ว การค้าของตระกูลเทียนเหินถูกกดดันจึงไม่นับว่าเป็อะไรมาก รอการทดสอบปลายปีเสร็จสิ้นลงเขาก็จะกลับบ้าน ถึงเวลานั้นย่อมสามารถพลิกแพลงสถานการณ์ของตระกูลเทียนเหินได้
แม้มิได้ห่วงนักว่าตระกูลเสินเซิ่งจะทำอะไร แต่จำต้องระมัดระวังสมาคมมืดที่ร่วมมือกับตระกูลเสินเซิ่งให้ดี! สมาคมมืดไม่สนใจกฎหมายของเมืองกวงฮุย แต่โชคดีที่เมืองกวงฮุยมีความสงบสุขอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังป้องกันเมือง ดังนั้นสมาคมมืดจึงไม่อาจทำอะไรในเมืองกวงฮุยได้ตามอำเภอใจ
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหา ที่แท้เป็เสิ่นเฟย เสิ่นเยวี่ยและพวกนั่นเอง เห็นเนี่ยหลีกำลังคุยอยู่กับเซียวหนิงเอ๋อร์ ดวงตาของเสิ่นเฟยทอประกายความชั่วร้ายออกมา ทว่าเพียงวูบเดียวสายตานั้นก็หายไป
เมื่อเห็นเสิ่นเฟยเดินตรงเข้ามาหา ใบหน้าของเซียวหนิงเอ๋อพลันซีดขาวขึ้นเล็กน้อย นางขบริมฝีปากและตั้งใจจะขยับเดินไปด้านข้างสองสามก้าว นางไม่กลัวเสิ่นเฟยแม้แต่น้อย เพราะนางได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะต่อสู่กับตระกูลเสินเซิ่งจนถึงที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม นางยังคงเป็กังวลว่าจะสร้างปัญหาให้แก่เนี่ยหลี
เห็นท่าทางว้าวุ่นใจเล็กน้อยของเซียวหนิงเอ๋อร์ เนี่ยหลีจึงยื่นมือออกไปคว้าแขนของเซียวหนิงเอ๋อเอาไว้และยิ้มพร้อมกับพูดว่า “หนิงเอ๋อร์ เ้าจะไปไหน?”
“เนี่ยหลี รีบปล่อยข้าเร็วเข้า ข้าเกรงว่าจะสร้างปัญหาให้แก่เ้า!” เซียวหนิงเอ๋อเอ่ยเบาๆ
เนี่ยหลียักไหล่และพูดเรียบๆ ว่า“ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าขัดแย้งกับตระกูลเสินเซิ่ง มีอะไรน่ากลัวกัน?” แม้จะมีผ้าไหมผืนบางกั้นอยู่ เนี่ยหลียังคงััได้ถึงผิวนุ่มลื่นของเซียวหนิงเอ๋อ
สองแก้มของเซียวหนิงเอ๋อแดงระเรื่อและเอียงอายเล็กน้อย ท่วงท่าชวนให้จิตใจของผู้คนต้องหวั่นไหวเช่นนั้นทำให้บรรดาเด็กหนุ่มรอบด้านอดที่จะมองจนทำตัวไม่ถูกแล้ว ในใจของเซียวหนิงเอ๋ออดที่จะบังเกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมามิได้ เพื่อนางแล้ว เนี่ยหลีไม่ลังเลที่จะหันไปเผชิญหน้ากับตระกูลเสินเซิ่งหรือ?
“ปล่อยมือของเ้าเดี๋ยวนี้!” เสิ่นเฟยเห็นท่าทีเอียงอายและซาบซึ้งของเซียวหนิงเอ๋อร์ อดที่จะอิจฉาริษยาเนี่ยหลีจนแทบบ้ามิได้ มือข้างหนึ่งผลักเนี่ยหลีออกไป
ท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมของเนี่ยหลีกับเซียวหนิงเอ๋อในที่สาธารณะไม่ต่างกับการตบหน้าเสิ่นเฟย เพราะแทบทุกคนต่างรู้ดีว่าเซียวหนิงเอ๋อคือคู่หมายของเขา! ท่าทางที่เซียวหนิงเอ๋อปฏิบัติต่อเนี่ยหลีไม่ต่างกับการสวมหมวกเขียว (สวมเขา) ไว้บนหัวของเขาแล้ว!
รับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่ใกล้เข้ามาของเสิ่นเฟย เนี่ยหลีขยับท่าทาง มือขวาดึงครั้งหนึ่ง พาเซียวหนิงเอ๋อเบี่ยงตัวให้พ้นทาง หลบหลีกจากฝ่ามือของเสิ่นเฟย เวลาเดียวกันยังผลักเสิ่นเฟยออกไปได้อีก
เสิ่นเฟยมองไม่ออกว่าเนี่ยหลีใช้วิธีการอะไรกันแน่ จึงสามารถหลบพ้นฝ่ามือของเขาไปได้ เสี้ยวขณะต่อมาก็พลันมีฝ่ามือหนึ่งพุ่งออกมา ทำให้เขาซวนเซถดถอยไปหลายก้าว ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นจ้องมองเนี่ยหลี เขาพลันพบว่าตนประเมินเนี่ยหลีต่ำไป ต้องทราบว่าเสิ่นเฟยนั้นเป็นักสู้ระดับเงินสามดาวผู้หนึ่งแล้ว แต่เนี่ยหลียังสามารถหลบการโจมตีของเขาได้ ทั้งยังตอบโต้มาหนึ่งฝ่ามืออีกด้วย
ผู้เห็นเหตุการณ์รอบด้านต่างพากันตะลึงงัน เสิ่นเฟยมาจากชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ของโรงเรียนเซิ่งหลัน และเขากลับเป็ฝ่ายแบกรับความพ่ายแพ้แก่เนี่ยหลี เื่นี้น่าใเกินไปแล้ว ทุกคนกำลังแปลกใจว่าเนี่ยหลีขณะนี้อยู่ในระดับใดแล้วกันแน่
“เ้าก็คือเนี่ยหลีรึ?” ดวงตาของเสิ่นเฟยหรี่ตำลง จ้องมองเนี่ยหลีอย่างเ็า
“ไม่ผิดหรอก เ้าเป็ใครรึ?” เนี่ยหลีรู้อยู่แล้วยังแกล้งถาม มือขวาวางอยู่บนเอวคอดกิ่วของเซียวหนิงเอ๋อร์ ท่าทางเช่นนี้ค่อนข้างกำกวมเล็กน้อย เนี่ยหลีจงใจ เขาจงใจตอกย้ำความเกลียดชังของเสิ่นเฟยและเบนความสนใจมาที่ตน ทำให้เสิ่นเฟยเข้าใจว่าเขาเองเป็คนที่คอยไล่ตามเซียวหนิงเอ๋อร์ ด้วยวิธีนี้เสิ่นเฟยย่อมไม่หันไปทำร้ายเซียวหนิงเอ๋อ
แม้ก่อนหน้านี้นางมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับเนี่ยหลี ทว่าเมื่อถูกเขากอดเอวเอาไว้เช่นนี้ต่อหน้าผู้คน ใบหน้าของเซียวหนิงเอ๋อก็อดร้อนผะผ่าวขึ้นมามิได้
นักเรียนรอบด้านพากันทำสีหน้ายอมรับ เนี่ยหลีเ้าช่างเก่งจริงๆ กล้ากอดเอวของคู่หมายผู้อื่นต่อหน้าธารกำนัล ยังกล้าถามอีกฝ่ายว่าเป็ใคร พวกเขาพลันสังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่าง เทพธิดาหนิงเอ๋อไม่มีท่าทีขัดขืนเนี่ยหลีแม้แต่น้อย ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองจะไม่ธรรมดาจริงๆ!
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ปอดของเสิ่นเฟยก็แทบจะะเิออกมาด้วยความโมโหแล้ว สองตาเบิกกว้าง เส้นเืดำตรงลำคอปูดโปน เขาจ้องเนี่ยหลีตาเขม็งและพูดว่า “เ้าจำไว้ให้ดี ข้าชื่อเสิ่นเฟย เป็คู่หมั้นของหนิงเอ๋อ!”
“คู่หมั้นของหนิงเอ๋อรึ? ใครยอมรับกัน? หนิงเอ๋อร์ เขาเป็คู่หมั้นของเ้าหรือ?” เนี่ยหลีหันไปมองเซียวหนิงเอ๋อร์ ยังไม่ทันฟังคำตอบจากนางเขาก็หันไปมองและยิ้มให้เสิ่นเฟย “เ้าดู คงไม่ใช่กระมัง? เ้าเป็ตัวอะไรกัน? คางคกคิดอยากกินเนื้อห่านฟ้ารึ รีบตื่นได้แล้ว! เ้ามีคุณสมบัติพอที่จะรับหนิงเอ๋อของบ้านข้าเป็ภรรยาเ้าหรือ?”
เซียวหนิงเอ๋อมองจนทำตัวไม่ถูกแล้ว นางยังไม่ทันได้ตอบอะไร
บรรดานักเรียนรอบด้านก็ทำตัวไม่ถูกแล้วเช่นกัน เ้าบ้าเนี่ยหลีไร้ยางอายเกินไปแล้ว เทพธิดาหนิงเอ๋อยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย!
“เขาไม่ใช่คู่หมั้นของข้า ข้าไม่เคยยอมรับ!” เซียวหนิงเอ๋อหันมองเสิ่นเฟยตรงหน้า แสดงท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์ยิ่ง นางรู้ดีว่าเสิ่นเฟยเป็คนเช่นไร ไม่นานมานี้เสิ่นเฟยเพิ่งรอดพ้นจากคุกตารางมาได้ เพราะเขาไปล่วงเกินเด็กนักเรียนหญิงสองคนและหาผู้รับผิดแทน แต่ก่อนนี้นางถูกบังคับจากแรงกดดันของตระกูลเสินเซิ่ง จึงไม่กล้าพูดอะไร ทว่าบัดนี้นางไม่ยินดีที่จะทนอีกต่อไปแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวหนิงเอ๋อร์ สองตาของเสิ่นเฟยทั้งเ็าทั้งตะลึงงัน เขาพูดอย่างเ็าว่า “เซียวหนิงเอ๋อร์ นี่เป็สิ่งที่เ้าพูดเอง อย่าได้เสียใจภายหลังก็แล้วกัน! ตระกูลเล็กๆ เช่นตระกูลอี้หลง ยังกล้าคิดขัดต่อ์รึ?”
ได้ยินคำพูดของเสิ่นเฟย ใบหน้าของเซียวหนิงเอ๋อซีดขาวลงเล็กน้อย นางรู้ดีว่ากำลังของตระกูลอี้หลงย่อมไม่อาจต่อกรกับตระกูลเสินเซิ่งได้ ต่อไปตระกูลอี้หลงคงต้องทนทุกข์กับแรงโจมตีปานฟ้าผ่าจากตระกูลเสินเซิ่งเป็แน่ อย่างไรก็ตาม หากจะให้เซียวหนิงเอ๋อยอมจำนนก็คงเป็ไปไม่ได้ หากนางต้องอยู่กับเสิ่นเฟย ทุกขณะจิตของนางคงต้องเต็มไปด้วยความรู้สึกขยะแขยงเป็แน่!
เมื่อได้ยินคำโต้ตอบระหว่างเซียวหนิงเอ๋อกับเสิ่นเฟย นักเรียนรอบด้านพลันเข้าใจแล้ว เสิ่นเฟยอาศัยอำนาจจากตระกูลเสิ่นเซิงเข้ากดดันตระกูลอี้หลง บีบบังคับเซียวหนิงเอ๋อ! เซียวหนิงเอ๋อมิได้ชอบพอเสิ่นเฟยแม้แต่น้อย!
“ต่ำช้าไร้ยางอายนัก!”
“ที่แท้พวกตระกูลเสินเซิ่งก็เป็คนเช่นนี้นี่เอง!”
“มิน่าเล่า เทพธิดาหนิงเอ๋อแม้เป็คู่หมายของเสิ่นเฟย นางกลับไม่เคย้าพบปะพูดคุยกับเขาเลยแม้แต่น้อย ที่แท้ก็เป็เช่นนี้นี่เอง!”
นักเรียนรอบด้านคุยกันใหญ่ เวลานี้สายตาที่พวกเขาใช้จ้องมองเนี่ยหลีไม่หลงเหลือความเป็ศัตรูเช่นเมื่อครู่นี้อีกแล้ว ตรงกันข้าม ทุกคนได้แต่ยอมรับเนี่ยหลี นอกจากเนี่ยหลีแล้ว ยังจะมีผู้ใดกล้าขัดแย้งกับตระกูลเสินเซิ่งอีก ผู้ใดจะมีความกล้าพอที่จะปกป้องเทพธิดาหนิงเอ๋อจากไฟนรกนี้เล่า?
ได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกนักเรียน ใบหน้าของเสิ่นเฟยยิ่งเคร่งเครียดน่าเกลียดยิ่งนัก ดวงตาเ็ากวาดมองนักเรียนรอบด้าน พวกนักเรียนรอบตัวที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์หวาดก็กลัวขึ้นมาทันที ไม่กล้าพูดอะไรต่อไปอีก
“หากมีปัญหาอะไรก็มาหาข้าได้โดยตรง ข่มขู่สตรีเพศอ่อนแอผู้หนึ่งถือเป็ความสามารถอันใดได้เล่า? ไม่ว่าเ้าอยากเล่นอะไร ข้าเนี่ยหลีก็ยินดีที่จะเล่นกับเ้าได้ทุกเมื่อ!” เนี่ยหลีจ้องมองเสิ่นเฟยอย่างภาคภูมิ กับคนเช่นเสิ่นเยวี่ยและเสิ่นเฟย พวกมันถือเป็เพียงบันไดขั้นหนึ่งของเขาเท่านั้น
“เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเนี่ยหลี เป็ความคิดของข้าทั้งหมด!” ดวงตาของเซียวหนิงเอ๋อจดจ้องเสิ่นเฟยและพูดเสียงเข้มว่า “เสิ่นเฟย ข้ายอมตายเสียยังดีกว่าที่จะต้องอยู่กับเ้า!”
เซียวหนิงเอ๋อเป็พวกที่ยอมตายดีกว่าอยู่อย่างอัปยศ แม้นางดูอ่อนแอ นิสัยของนางกลับเด็ดเดี่ยวยิ่ง ไม่เช่นนั้นนางคงไม่หนีเข้าไปในป่าปีศาจดำก่อนการแต่งงานจะเริ่มขึ้นเมื่อชาติที่แล้ว
โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับนางในชาติที่แล้วของเนี่ยหลี เขาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก ั้แ่แรกที่รักษาอาการป่วยของเซียวหนิงเอ๋อมาจนกระทั่งบัดนี้ พวกเขาต่างสนิทสนมกันแล้ว เนี่ยหลียังมีความประทับใจที่ดีกับสตรีงดงามผู้นี้มากมาย ทั้งน้ำใจและความเข้มแข็ง เขาคิดเสมือนเซียวหนิงเอ๋อเป็น้องสาวคนหนึ่งของตน
“หึๆ เื่นี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเ้า!” เสิ่นเฟยหัวเราะอย่างเ็า
“เสิ่นเฟย ข้าจะสมัครเข้าด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วน หากข้าผ่านการทดสอบ ต่อให้เป็ตระกูลเสินเซิ่งของเ้าก็มิอาจทำอะไรข้าได้!” เซียวหนิงเอ๋อประกาศอย่างทระนง
“ฮ่าๆๆ เซียวหนิงเอ๋อร์ เ้าฝันสูงเกินไปแล้ว คิดหรือว่าเ้าจะสามารถผ่านการทดสอบของด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนได้? ตลอดเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมานี้ มีเพียงสามคนที่สามารถผ่านการทดสอบของด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนได้!” เสิ่นเฟยพูดเย้ยหยัน
ด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนเป็มิติลับภายในโรงเรียนเซิ่งหลัน มีแต่ยอดอัจฉริยะที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะมีคุณสมบัติเข้าสู่ด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วน และหากผ่านการทดสอบออกจากด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนได้สำเร็จ เขาเ่าั้จะกลายเป็ผู้มีพร์สูงสุดของเมืองกวงฮุย แม้กระทั่งมีคุณสมบัติที่จะได้เป็ศิษย์คนหนึ่งของผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานเยี่ยโม่!
ผู้ที่จะเข้าด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนได้ต้องมีอายุต่ำกว่าสิบห้าปี บังเอิญเซียวหนิงเอ๋อยังอยู่ในเงื่อนไขนี้ ทว่าเซียวหนิงเอ๋อคิดจริงหรือว่าพร์ของตนเพียงพอถึงระดับนี้?
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของเมืองกวงฮุย มีเพียงสามคนที่สามารถผ่านการทดสอบออกจากด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนได้ หนึ่งในนั้นก็คือผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานเยี่ยโม่ อีกสองท่านล้วนจากไปแล้ว ทว่าทั้งสองล้วนทะลวงขึ้นถึงระดับทองดำขั้นสูงสุด ห่างจากระดับตำนานอีกเพียงก้าวเดียว
ด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนคือสถานที่ลึกลับอย่างยิ่งในหัวใจของทุกคน!
หากเซียวหนิงเอ๋อสามารถผ่านด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วนได้จริง เช่นนั้นตระกูลเสินเซิ่งก็จะไม่สามารถกดดันตระกูลอี้หลงได้แล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้