ตอนนี้หลงหว่านเอ๋อร์ใส่เสื้อเชิ้ตตัวหลวมสีขาว ติดกระดุมแ่า และกระโปรงลูกไม้สีดำสั้นคลุมเข่าเผยให้เห็นขาเนียนขาวสองข้าง ป้ายราคายังติดอยู่ที่ปกเสื้อ แสดงให้เห็นว่าเธอซื้อชุดนี้มาอย่างเร่งรีบ และสวมชุดใหม่ทับกระโปรงตัวเก่าที่ขาดวิ่น เวลานี้เศษผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมายโผล่ออกมาและถูกพัดไหวไปตามลม หางม้าน่ารักของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย เวลานี้ดวงตาสวยงามของเธอมองเย่เฟิงราวกับจะลุกเป็ไฟ หญิงสาวยืดอกขึ้นจนเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน
สาวสวยแต่งตัวแบบนี้ยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงพยาบาล แน่นอนว่าดึงดูดความสนใจของผู้สัญจรไปมามากมาย
“เย่เฟิง เธอเป็ใคร?” ซูเมิ่งหานที่รู้สึกประหม่าอยู่เเล้ว เมื่อเห็นหลงหว่านเอ๋อร์คนนี้ ทำให้เธอกุมมือเย่เฟิงแน่นขึ้น
เธออดคิดไม่ได้ว่าเย่เฟิงไปทำอะไรมา? ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งถึงมาหาเขาด้วยเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ทั้งยังดูโกรธมากอีกด้วย? เมื่อครู่เธอดีใจมากที่ถูกเย่เฟิงกุมมือ แต่เวลานี้ดูเหมือนว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นหรือ?
“คุณอีกแล้ว?” เมื่อเย่เฟิงเห็นหลงหว่านเอ๋อร์ก็ไม่แสดงท่าทีใ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็ธรรมชาติ “มีเื่อะไรล่ะ หรือว่าถูกใครไล่ล่าอีกแล้วเหรอ?”
แน่นอนว่าเขาแสร้งทำเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย เขาถอดหน้ากากเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้าโรงพยาบาลและมีไม้เด็ดอยู่อีกอัน เขามั่นใจมากว่าตอนนี้หลงหว่านเอ๋อร์จะไม่สงสัยตน
หลงหว่านเอ๋อร์ตะคอกและจ้องเขาอย่างมั่นใจ “หยุดเสแสร้งแล้วมากับฉัน อย่าบังคับให้ฉันต้องใช้ความรุนแรงนะ!”
“ยัยผู้หญิงบ้า เมิ่งหานไปกันเถอะ อย่าสนใจเธอเลย” เย่เฟิงทำเป็ไม่รู้เื่แล้วจูงมือเล็กนุ่มของซูเมิ่งหานเดินจากไป
คิดไม่ถึงว่าซูเมิ่งหานกลับรู้สึกหึง เธอสะบัดมือของเย่เฟิง จ้องเขาพร้อมพูดว่า “นายพูดสิว่านี่มันเื่อะไร”
เย่เฟิงไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงอธิบายให้เธอฟัง “ครั้งที่เเล้วฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นหมดสติอยู่ใกล้กับโรงเรียนจึงช่วยพาเธอไปส่งที่โรงแรม แต่ก็ถูกเถียนโหย่วเลี่ยงโทรแจ้งตำรวจ...”
ซูเมิ่งหานนึกเื่ในตอนนั้นได้ทันที เถียนโหย่วเลี่ยงกระจายข่าวเื่เย่เฟิงข้องเกี่ยวกับการค้าประเวณี พลางคิดในใจ ที่เเท้เื่เป็อย่างนี้นี่เอง แต่ทำไมหญิงสาวแสนสวยคนนี้ถึงปรากฏตัวในสภาพดูไม่จืดแล้วจ้องเขาด้วยสายตาโมโหแบบนั้น? เธอรู้สึกว่าเย่เฟิงกำลังโกหก แต่เมื่อมองเข้าไปในตาของเขา ทันใดนั้นหัวใจของเธอกลับเต้นรัว อย่างไรเย่เฟิงก็อยากพ้นจากหลงหว่านเอ๋อร์ก่อน เื่วันหลังค่อยว่ากัน
“เข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ” ซูเมิ่งหานยิ้ม เธอจับแขนของเย่เฟิงไว้และเดินออกไป
หลงหว่านเอ๋อร์เห็นดังนั้นก็ขวางไว้ “ได้! ไม่ยอมรับใช่ไหม?”
ในฐานะผู้นำรุ่นเยาว์ของตระกูลหลง เธอมีนิสัยเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งมาตลอด เมื่อเห็นเย่เฟิงไม่ยอมรับ ก็กวาดขาข้างขวาเตะใส่เขาอย่างแรง!
เมื่อเห็นเช่นนี้เย่เฟิงจึงดึงซูเมิ่งหานไว้ข้างหลังอย่างไม่ลังเล แล้วยืนรอรับลูกเตะของหลงหว่านเอ๋อร์
ปัง! เธอเหวี่ยงเท้าไปที่เอวของเย่เฟิง ทำให้เขากระเด็นออกไปหลายเมตรและกระแทกพื้นอย่างแรง
“เย่เฟิง!” ซูเมิ่งหานใ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเย่เฟิงแล้วประคองเขาไว้ เืสดๆ ไหลจากมุมปากของอีกฝ่าย ดูเหมือนจะาเ็สาหัส
“อะไรกัน?” หลงหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ทำไมเขาถึงไม่ป้องกันตัว? หากเขาเป็ชายสวมหน้ากากที่สามารถสังหารทานหลางเจี้ยนได้ในชั่วพริบตา ก็ควรจะหลบลูกเตะของเธอได้ไม่ยากสิ ไม่อย่างนั้นอาจถึงตายได้เลยนะ หญิงสาวรีบเข้าไปจับข้อมือของเย่เฟิงเพื่อตรวจสอบพลังภายใน ในไม่ช้าสีหน้าของเธอพลันเปลี่ยนไป
“คนธรรมดา?” หลงหว่านเอ๋อร์ถอนมือ เธอหันกลับไปด้วยความโมโห ลังเลเล็กน้อยก่อนลอยจากไป
ซูเมิ่งหานที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมือก็โมโหในใจ คิดจะโทรแจ้งตำรวจเมื่อเห็นเธอหนีไป แต่หลังจากคิดอีกที สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องดูแลเย่เฟิงก่อน
“เย่เฟิง นายเป็อะไรไหม?” ซูเมิ่งหานถามด้วยความเป็ห่วงและพยุ่งเขาขึ้นมา
“ไม่เป็ไร... ช่วยพาฉันไปหาที่พักที...” เย่เฟิงรู้สึกได้ว่าลูกเตะเมื่อกี้ของหลงหว่านเอ๋อร์ทำให้เส้นลมปราณของเขาได้รับความเสียหาย เืที่กระอักออกมาเล็กน้อยนี้เพราะเขาเจ็บจริงไม่ได้เสแสร้งเลยสักนิด โชคดีที่เขาใช้วิชาเซียน ‘ทักษะลอบสังหาร’ ซึ่งสามารถอำพรางพลังชี่ได้ จึงทำให้หลงหว่านเอ๋อร์เลิกสงสัย
ทักษะลอบสังหารนี้คือไพ่ตายของเขา เนื่องจากการใช้ทักษะนี้ด้วยระดับพลังของตนในปัจจุบันสร้างความเสียหายต่อเส้นลมปราณไม่น้อย การใช้ทักษะนี้ทำให้เขาไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดา จึงไม่มีใครสงสัยว่าคนธรรมดาอย่างเขาจะฆ่าทานหลางเจี้ยนได้ วิชาเซียนนี้ถูกนำมาใช้ในการลอบสังหารอย่างกว้างขวางในโลกเทวะ และในสถานการณ์นี้เย่เฟิงถือว่าใช้มันได้อย่างเหมาะสมทีเดียว
“ไม่ไปโรงพยาบาลเหรอ?” ซูเมิ่งหานถามอย่างเป็ห่วงเมื่อเห็นเขากระอักเื ไม่กลับไปโรงพยาบาล ถ้าเป็อะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร
“กลับโรงพยาบาลเหรอ? เธอยังมีเงินอีกหรือไง?” เย่เฟิงกระอักเือีกครั้งและจับตัวเธอเพื่อลุกขึ้นมา
“หมดแล้ว…” ซูเมิ่งหานตกตะลึง จริงด้วย ไม่มีเงินจะรักษาตัวอย่างไร จากนั้นก็นึกออก“ฉันโทรยืมจากพ่อแล้วกัน นาย...”
“ไม่เป็ไรหรอก อย่าทำให้มันยุ่งยากเลย แค่เช่าโรงแรมแล้วพักสักคืนก็พอแล้ว” เย่เฟิงส่ายหัว เห็นผู้คนรอบตัวหยิบมือถือขึ้นถ่ายรูป จึงรีบเช็ดเืที่มุมปากและพาเธอไปจากที่นี่
เย่เฟิงจินตนาการได้เลยว่าอีกไม่กี่อึดใจจะมีรูปถ่ายปรากฏขึ้นพร้อมพาดหัวข่าว ‘ชายคนหนึ่งเหยียบเรือสองแคมและถูกเตะจนอาเจียนเป็เืที่หน้าประตูโรงพยาบาล’ ยังดีที่เป็ตอนกลางคืน รูปที่ถ่ายมาจึงไม่ค่อยชัด ไม่งั้นคงยุ่งยากแน่
ซูเมิ่งหานพยุงเย่เฟิงและหาโรงแรมข้างถนน เขาหยิบบัตรประชาชนออกมาเปิดห้องนี่เป็เงินก้อนสุดท้ายที่เธอเหลืออยู่
หลังจากเข้ามาในห้อง เย่เฟิงก็นั่งบนโซฟาทันที เขากินยาหลายเม็ดเพื่อรักษาอาการาเ็ ขณะเดียวกันความคิดของเขาก็เปลี่ยนผันอย่างรวดเร็ว
วันนี้ เขาฆ่าทานหลางเจี้ยนและล่วงเกินหลงหว่านเอ๋อร์ ดูเหมือนการกระทำของเขาหุนหันพลันแล่นเกินไป มีช่องโหว่มากเกินไป แต่ความเป็จริงขณะลงมือเขาก็คิดถึงผลที่จะตามมาแล้วว่าจะเป็แบบนี้ เเละเตรียมวิธีที่ดีเพื่อจัดการกับมัน
ซูเมิ่งหานมองเย่เฟิงอย่างกังวล เธอเตรียมผ้าขนหนูและต้มน้ำ แม้มันจะดูยุ่งยากแต่เธอก็ยินดีทำ เด็กสาวที่น่ารัก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไรกับเย่เฟิง เดิมเธอรังเกียจเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อเผชิญกับอันตรายหลายครั้ง ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าเธอโดยไม่ลังเล ทำให้เธอใจเต้นทุกครั้ง แต่เมื่อนึกถึงสาวสวยหน้าโรงพยาบาล ทำให้เธอไม่สบายใจเล็กน้อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอกำลังหึงมาก
สรุปเย่เฟิงทำอะไรกับสาวสวยคนนั้นกันแน่ถึงทำให้เธอโมโหขนาดนั้น หรือทำเื่น่าอายกันเหรอ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้