ตึง!
บุรุษหนุ่มสะบัดมือออกจากใบหน้าของเ้าสาว และเดินหันหลังออกจากห้องส่งตัวไปทันที เมิ่งหลินอิงไม่รู้มาก่อนเลยว่า การแต่งงานในครั้งนี้ของนางจะมีเงื่อนไขเช่นนี้ด้วย
“นี่มันอะไรกัน ฮูหยินตราตั้ง ข้อตกลงกองทัพ…เหตุใดจึงไม่มีผู้ใดบอกข้าเลย”
“คุณหนูเ้าคะ! ท่านเป็อะไรหรือไม่”
“ผิงเพ่ย ข้า…ฮึก!”
“คุณหนู ท่านแม่ทัพทำร้ายท่านหรือเ้าคะ เหตุใดหน้าท่านถึงได้มีรอยนิ้วมือแดงขนาดนี้”
“เปล่า…เปล่า”
นางมิอาจพูดอะไรได้ เพราะรู้สึกเจ็บที่หัวใจมากกว่าที่ใบหน้า ซึ่งถูกเขาบีบจนเกิดรอยช้ำขึ้น สาวใช้เมื่อเห็นสภาพของคุณหนูตรงหน้า ก็อดร้องไห้ออกมาไม่ได้
“คุณหนูข้าจะรีบเอาผ้ามาประคบให้นะเ้าคะ”
ผิงเพ่ยอดไม่ได้ที่ร้องไห้ตามคุณหนูผู้อาภัพของนาง เดิมทีอยู่ที่จวนขอบิดา นางก็ไม่ต่างกับสาวใช้ที่ต้องทำงานทุกอย่างและดูแลอนุหง “หงเซียวลี่” มารดาที่ป่วยด้วยโรคประจำตัว
บิดาแม้ว่าจะให้หมอมาตรวจและจ่ายค่ายาให้ แต่หลินอิงก็ต้องแลกด้วยการที่ต้องทำงานทุกอย่างทั้งคิดบัญชี ดูแลร้านขายผ้าไหมและโรงเตี๊ยมในเมือง แทนคุณหนูใหญ่ที่เอาแต่แต่งตัวสวยและมีสาวใช้ข้างกายถึงสี่คน
“ต้านเสือที่ประตูหน้า หมาป่ากลับเข้าประตูหลัง คิดว่าออกจากจวนมาที่นี่แล้วจะดีกว่านี้เสียอีก ข้าทำกรรมอะไรเอาไว้ในชาติก่อนกันแน่นะ”
หลินอิงเอ่ยพลางดึงเครื่องประดับชุดเ้าสาวชิ้นสุดท้ายออกมา ก่อนขบวนเ้าสาวจะมาถึงจวนแม่ทัพ ใคร ๆ ที่มองดูต่างก็กล่าวว่านางช่างน่าอิจฉาที่ได้แต่งงานกับยอดแม่ทัพแห่งต้าเฟิง แต่ใครจะคิดว่าความจริงแล้วมันมิใช่เช่นนั้นเลยสักนิด
“ท่านบอกว่านายท่าน ทำข้อตกลงกับท่านแม่ทัพเอาไว้หรือเ้าคะ”
“เมื่อครู่นี้เขาพูดออกมาเองว่า ท่านพ่อมีข้อตกลงกับกองทัพ เขาพูดถึงเื่การแต่งงาน และตำแหน่งฮูหยินตราตั้ง”
“ฮูหยินตราตั้งที่มอบให้กับภรรยาขุนนาง ที่ทำความดีความชอบให้กับบ้านเมือง มิน่าเล่านายท่านถึงไม่ส่งคุณหนูใหญ่มาแต่งงาน แม้ว่าท่านแม่ทัพจะหล่อเหลาถึงขนาดนี้ ที่แท้มีจุดประสงค์อื่นอยู่นี่เอง เช่นนั้นเื่ที่ท่านจะเป็หม้าย…”
“เพราะข้าพูดเื่นี้อย่างไรเล่า เขาถึงได้โกรธจน….”
หลินอิงพลางลูบไปที่ที่ใบหน้าซึ่งยังเจ็บอยู่ แต่มันก็ไม่มากไปว่าที่ถูกฮูหยินใหญ่ตีทุกครั้งที่นางทำผิด
“ช่างเถอะ ถึงอย่างไรก็ทนเห็นหน้ากันไม่กี่วัน เขาก็จะออกศึกแล้วมิใช่หรือ”
“ข้าไปสืบมาแล้วตอนที่ท่านเข้ามาในห้องส่งตัว เห็นว่าท่านแม่ทัพจะออกศึกอีกสิบห้าวันข้างหน้าเ้าค่ะ”
“อะไรนะ สิบห้าวันงั้นหรือ ไหนบอกว่าเขาจะต้องออกศึกเลยอย่างไรเล่า นี่ท่านแม่หลอกข้างั้นหรือ”
“คุณหนูท่านก็ทราบดีว่า ฮูหยินใหญ่ไม่เคยพูดความจริงกับท่าน นางคงอยากให้ท่านทรมานยิ่งกว่าผู้ใดนะเ้าคะ”
“แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่พูดเื่นี้เลยสักนิด เขาบอกเพียงว่าแม้จะเป็ยอดขุนศึก แต่ก็มิอาจรับรองได้ว่าจะรอดกลับมาหรือไม่ ศึกชายแดนครั้งนี้เป็ศึกใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้ข้ารอดพ้นจากความอยุติธรรมของฮูหยินใหญ่ เขาจึงส่งข้ามาแต่งงาน นี่ข้าหวังเชื่อคำลวงว่าเขาจะห่วงใยข้าได้เช่นไร”
“คุณหนู…ฮึก! อย่าร้องไห้เลยเ้าค่ะ รอยที่หน้าของท่านจะเจ็บเอานะเ้าคะ”
ฝ่ามือสากที่บีบใบหน้าของนางจนช้ำ ทำให้หลินอิงได้จดจำเอาไว้แล้วว่าในจวนนี้ ไม่มีผู้ใดจะเป็มิตรกับนาง และไม่ควรจะไปยุ่งกับสิ่งที่ไม่ควรยุ่ง
“ข้าไม่มีวันที่จะอยู่ที่นี่นาน หลังจากจบเื่นี้แล้ว ต้องรีบพาท่านแม่ออกจากจวนสกุลเมิ่งและหนีไปไกล ๆ”
“เ้าค่ะคุณหนู ข้าจะช่วยท่านอีกแรง เราต้องพาฮูหยินออกมาให้ได้”
ห้องหนังสือ
“ท่านแม่ทัพ… เหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่ขอรับ”
“แล้วเ้าอยากให้ข้าอยู่ที่ไหน รายงานชายแดนว่าอย่างไรบ้าง”
“เอ่อ…”
“จื่อรั่ว! เ้าไม่ได้ยินที่ข้าถามหรือ”
“นี่ขอรับ ตอนนี้คนของเราส่งรายงานมาว่าครั้งนี้แคว้นอู๋ยกขุนศึกมาเกือบสองพันนาย มีแม่ทัพใหญ่เจี้ยนหลัวเป็ผู้นำทัพมาด้วยตัวเองขอรับ”
“หึ ถึงกับส่งแม่ทัพใหญ่มาด้วยตัวเอง ครั้งนี้คงจะเป็ศึกใหญ่จริง ๆ ท่านอ๋องว่าอย่างไรบ้าง นอกจากคำสั่งให้ข้าไปตายแทนเขาแล้ว เ้าคนชั่วนั่นมีคำสั่งใดเพิ่มอีกหรือไม่”
“ทางชิงอ๋องไม่มีการเคลื่อนไหวขอรับ ยังเก็บตัวเงียบอยู่ เหมือนกับว่ากลัวผู้คนจะถาม ท่านอ๋องผู้นี้เป็ถึงโอรสของฝ่าา แต่กลับทำเมินเฉยต่อศึกาตรงหน้า ช่างขี้ขลาดยิ่งนัก”
หลิวเว่ยหยางอ่านรายงานแล้ววางลงในทันที พร้อมกับแสยะยิ้มออกมา
“ญาติผู้พี่ของข้าคนนี้ไม่เอาไหน ฝ่าาถึงให้เขามาดัดนิสัยที่เมืองต้าเฟิง คิดว่าจะรอดจากภัยา แต่ที่ไหนได้พระองค์คาดการณ์ผิดไปแล้ว ศึกครั้งนี้ใหญ่เกินกว่าที่ต้าเฟิงจะต้านไหว”
“ท่านแม่ทัพ สกุลเมิ่งส่งเสบียงครึ่งหนึ่งของที่ตกลงกันเอาไว้มาให้แล้วขอรับ”
“นับว่ายังมีสัจจะของความเป็คนอยู่ เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อครู่เ้าบอกว่า แค่ครึ่งเดียวงั้นหรือ”
“ขอรับ พวกเขาบอกว่า…เอ่อ…”
“ว่ามา”
“ระ รอให้ฮูหยินได้ตำแหน่งฮูหยินตราตั้ง ถึงจะยอมส่งเสบียงที่เหลือไปให้กองทัพขอรับ”
“หึ นึกเอาไว้ไม่มีผิด สันดานพ่อค้าเชื่อถือไม่ได้ อยากแต่งข้าก็แต่งให้แล้ว ตอนนี้ยังมีหน้าเอาตำแหน่งนั่นมากดดันข้า ให้ไปเร่งชิงอ๋องอีกงั้นหรือ พวกสกุลเมิ่งจอมเ้าเล่ห์ มากแผนการทุกคนจริง ๆ”
“ท่านแม่ทัพ แล้ว…”
“นางเองก็เช่นกัน แค่เห็นหน้าก็รู้สึกโกรธแล้ว มารยาร้อยเล่มเกวียน สตรีน่าเกลียด อย่าได้พูดถึงนางต่อหน้าข้าอีก”
“ขอรับ เช่นนั้น…”
“ข้าจะไปอยู่ที่ค่ายนอกเมือง จนกว่าจะออกศึก”
“มิได้ขอรับ”
“มีอะไรอีก!”
“ท่านอ๋องให้คนส่งหนังสือคำสั่งมาเมื่อคู่ รับสั่งว่าจนกว่าจะออกศึก ห้ามท่านแม่ทัพทำผิดธรรมเนียมการแต่งงาน และต้องอยู่ในจวน จนกว่าจะถึงกำหนดออกศึกขอรับ”
“ชิงอ๋องคิดจะให้ข้าทำตามคำสั่งของสกุลเมิ่ง เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องเสียเงินในคลังซื้อเสบียงให้กองทัพ เ้าอ๋องชั่วช้า!”
แม้จะรู้เช่นนั้น แต่คำสั่งของท่านอ๋องถือเป็อำนาจเด็ดขาด ถึงจะรู้ว่าเขาเป็ผู้ปกครองที่ไร้ความสามารถ แต่บัดนี้ศึกนอกประชิดเมือง แม่ทัพหลิวเว่ยหยางจึงยังไม่จัดการเขา
ชิงอ๋องเองก็รู้เื่นี้ดีว่า แม่ทัพหลิวผู้นี้โเี้และเด็ดขาดเพียงใด หากว่าพระองค์มิใช่โอรสของฝ่าา เขาคงล้มบัลลังก์ในต้าเฟิงไปนานแล้ว
“ยังมีอีกคำสั่งหนึ่งขอรับ”
“อะไรอีก”
“อีกสามวันหลังจากงานแต่งเสร็จสิ้น ให้ท่านแม่ทัพพาฮูหยินเข้าเฝ้าท่านอ๋อง เพื่อรับตำแหน่งฮูหยินตราตั้งที่วังหลวงต้าเฟิงขอรับ”
แม่ทัพหลิวกำหมัดแน่น พร้อมกับสายตาที่เกรี้ยวกราด เขาอยากฆ่าคนในเวลานี้ แม้ว่าจะยังสวมชุดเ้าบ่าวอยู่ก็ตาม
“เมิ่งฉีพ่อค้ามากเล่ห์… “เจิ้งหร่วนอวี้” เ้าอ๋องทรราช เสร็จศึกนี้แล้ว ข้าคงต้องจัดการพวกคนชั่วพวกนี้ ให้พ้นแผ่นดินต้าเฟิงให้หมดเสียแล้ว”
“ท่านแม่ทัพขอรับ แล้วฮูหยินของท่าน จะให้พักที่ใดขอรับ ที่เดียวกับ…”
“ใครจะพักที่เดียวกันกับนางกัน! แค่ยอมเข้าพิธีแต่งงานด้วยข้าก็ขยะแขยงนางเต็มทีแล้ว บุตรสาวของพ่อค้าหน้าเืจอมโลภและเห็นแก่ตัว ข้าไม่มีทางพักร่วมชายคาเดียวกับนางเป็แน่”
“เอ่อ… เช่นนั้นจะให้นางพักที่ใดเล่าขอรับ”
แม่ทัพหนุ่มหันไปมององครักษ์คนสนิท ที่ติดตามเขามาั้แ่เด็ก “จื่อรั่ว” ซึ่งเขาไม่ต่างกับน้องชายต่างสายเืที่รู้ใจกันมานาน และร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาทุกสมรภูมิ
“ให้นางไปพักเรือนเล็กด้านหลังจวน ไม่ต้องให้ใครไปยุ่งเกี่ยวกับนางทั้งสิ้น อยู่ได้ก็อยู่ หากอยู่ไม่ได้ ก็ให้นางกลับไปที่สกุลเมิ่งของนางเสีย!”