“ถ้าเป็อย่างที่แม่พูดเขาอยากจะทำร้ายผม ทำไมเขาไม่เปิดโปงรูปวิ่งชนรถของผมโดยตรงเลย? ทำไมจะต้องเปิดโปงบนอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ร้ายเจาเยี่ย? นี่มันไม่สมเหตุสมผลซักนิด? ” กู้หลานอันขมวดคิ้วเป็ปม คิดไม่ออกว่าทำไมถึงเป็เช่นนั้น
“เป็ไปได้ว่าเขาเกลียดเจาเยี่ยมากกว่าพอรู้ว่าลูกกับเจาเยี่ยอยู่ที่เดียวกันก็เลือกที่จะให้ร้ายเขา ; และเป็ไปได้ที่เขาจะรู้ว่าลูกชอบเจาเยี่ยเขาคงคาดได้ว่าเพื่อเจาเยี่ยลูกคงจะทำเื่โง่ ๆ แบบนี้แน่เลยคิดได้ว่าจะทำลายเจาเยี่ยด้วยวิธีนี้ ให้เจาเยี่ยรู้สึกผิดหวังต่อลูกที่ไม่ยอมยื่นมือช่วยเหลือเขาทำให้ลูกและเจาเยี่ยไม่สามารถชอบพอกันได้อีก เลยเลือกที่จะแก้แค้นลูกแบบนี้หรือหากเป็เพราะว่าเขาชอบเจาเยี่ย เขาก็อยากทำให้เจาเยี่ยไม่ชอบลูก” อันนาคาดเดา
“พอแม่พูดแบบนี้ ผมก็คิดออกแล้ว แต่ว่าเป็ใครกันนะ? ” กู้หลานอันใช้นิ้วชี้เคาะขมับพลางครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ผมเพิ่งเข้าวงการ น่าจะยังไม่เคยไปทำเื่อะไรที่ทำให้คนไม่ชอบ ยิ่งเจาเยี่ยแล้วยิ่งเป็ไปไม่ได้เลย”
“ไม่จำเป็ต้องไปทำอะไรไว้คนถึงจะเกลียด ที่อย่างในวงการบันเทิงน่ะนะ แค่การมีอยู่ของลูกก็เป็เหตุผลที่สามารถทำให้คนเกลียดลูกได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นการมีอยู่ของลูกยังเจิดจ้าขนาดนั้นอีก” อันนากล่าวอย่างมีความหมายลึกล้ำ
“ข้อนี้ผมรู้ครับ” หลักการข้อนี้เขาจำได้อย่างขึ้นใจมาตั้งนานแล้วั้แ่ชาติก่อน “แต่ว่าแม่ครับ เพราะว่าการมีอยู่ของผมเจิดจ้าขนาดนี้ความเกรงกลัวต่อตระกูลกู้อีก ดังนั้นไม่น่าจะมีคนกล้าลอบทำร้ายผมแบบนี้สิถึงจะถูก”
“บางทีคนคนนั้นอาจจะไม่มีสมองก็ได้? ” อันนาตอบแบบไม่ได้ใส่ใจมาก แต่กลับทำให้กู้หลานอันได้คำตอบ ไม่มีสมองเกลียดเขา ชอบเจาเยี่ย ยังมีใครอีก ถ้าไม่ใช่ฟู่ซี แต่ว่าในชาตินี้ฟู่ซีน่าจะยังไม่รู้ว่าเขาชอบเจาเยี่ยสิถึงจะถูกถ้าอย่างนั้นที่เขาทำลงไปทั้งหมดนี้เป็ไปได้ว่าเขาชอบเจาเยี่ย พอเห็นเขาได้อยู่ข้างกายเจาเยี่ยกังวลว่าเจาเยี่ยอาจจะชอบเขาขึ้นมา จึงอยากจะใช้เื่นี้ให้เป็ประโยชน์ในการทำลายโอกาสที่เจาเยี่ยจะชอบเขาขึ้นมาซะพอคิดเื่ราวทั้งหมดออก กู้หลานอันหรี่ตาลงอย่างเ็าเพียงเพราะชอบเจาเยี่ยก็เลยทำให้เจาเยี่ยต้องเสียใจ ฟู่ซีใครใช้ให้นายกล้าดีขนาดนี้? ฉันยังไม่ได้ไปหานายนายก็มาหาเื่ยัวะฉันแล้วหาเื่อยากตายแท้ ๆ
“แม่ ผมรู้แล้วว่าเป็ใคร ฟู่ซี” พอรู้ว่าเป็ฟู่ซีกู้หลานอันรีบพูดเตือนแม่ของเขา เผื่อจะได้ไม่ถูกหลอกใช้มาทำร้ายเขาในภายหลัง
“ฟู่ซี? ” อันนารู้สึกตื่นเต้นทันทีตื่นเต้นจนจ้องกู้หลานอันอย่างฮึกเหิม “ใช่นักแสดงสมทบชายอันดับหนึ่งคนนั้นรึเปล่า? แม่บอกแล้วพวกลูกเป็ศัตรูหัวใจกัน”
“ฟู่ซีเป็นักแสดงสมทบเื่นี้เหรอครับ? ” เมื่อได้ยินแม่เธอพูดให้สติแบบนี้กู้หลานอันก็คิดได้อย่างฉับพลันทันทีว่าเมื่อชาติที่แล้ว หลังฟู่ซีเข้าวงการบันเทิงละครตอนแรกที่ถ่ายก็คือตอนเดียวกับเจาเยี่ยแต่ว่าตอนอะไรนั้น เขาไม่แน่ใจเพราะตอนนั้นเขาไปถ่ายละครที่อื่น “ผมยังคิดว่าจะไปหาเขาแล้วแก้เผ็ดเขาสักหน่อยแต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาหาผมถึงหน้าประตูด้วยตัวเอง มีเื่ให้สนุกแน่คราวนี้” กู้หลานอันยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ลูกแม่ สู้ ๆ ” อันนาดวงตาเป็ประกายจะมีละครสนุก ๆ ให้ดูแล้ว
“เฮอะ แน่นอน” กู้หลานอันทำเสียงฮึดฮัดอย่างเสียไม่ได้หันกลับไปหาอันนาแล้วพูดว่า “จริงสิแม่ เื่ที่ผมวิ่งชนรถพ่อยังไม่รู้เื่นะครับคิดว่าคนอื่นคงไม่หาเื่ใส่ตัวพูดขึ้นมาต่อหน้าเขาแน่นอนดังนั้นตอนที่เขาถามผมเื่อุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนนั้นผมเลยโกหกเขาด้วยเจตนาที่ดีไป แม่อย่าเปิดโปงผมภายหลังนะครับ”
“รู้แล้วน่า แม่ไม่ทำหรอก” อันนาทำมือโอเค
<< ความฝันที่ล่องลอย >> พิธีเปิดกล้องจัดขึ้นสามวันหลังจากการคัดเลือกนักแสดงจบลงบทอันนาที่ไม่นับว่าเป็บทสมทบด้วยซ้ำไม่จำเป็ต้องเข้าร่วมพิธีเปิดกล้องซู่หยางทำตามตารางแผนงานของเธอ เขาเลือกรับงานพรีเซ็นเตอร์ให้เธอเป็แบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับสากลงานหนึ่งเพื่อเปิดตัวการเข้าสู่วงการก้าวแรกของเธอ ส่วนกู้หลานอันซู่หยางวางแผนให้เขาหลบเหตุการณ์ที่ไม่ดีไปก่อนหลังจากนั้นค่อยวางแผนการทำงานให้กับเขา
“วางแผนงานอะไรครับ? พรุ่งนี้ผมต้องไปเข้าร่วมงานพิธีเปิดกล้องไม่ใช่เหรอ?” กู้หลานอันแสดงความคัดค้าน
“พิธีเปิดกล้องมีแค่นักแสดงหลักก็พอแล้ว เธอไม่ต้องไปก็ได้” ซู่หยางพูดอธิบายเพราะนึกว่าเขาไม่เข้าใจ
“ไม่ใช่ ทำไมไม่ไปล่ะ? นี่เป็การแสดงละครครั้งแรกของผมจะให้ผมี้เีและเหลวไหลในการหาเงินั้แ่เริ่มแรกเลยได้ยังไงกัน อีกอย่างผมก็อยากไปดูพิธีเปิดกล้องด้วย” กู้หลานอันพูดด้วยความจริงใจท่าทางเต็มไปด้วยความอ่อนน้อม
“งั้นก็ได้ หลังจากพิธีเปิดกล้องจะมีงานเลี้ยง ถ้านายไปก็เข้าร่วมงานได้เลยเวลาในวันนั้นก็ถือว่าฆ่าเวลาไปละกัน หลังพิธีเปิดกล้องนายจะไม่มีบทบาทในละครชั่วคราว่เวลาที่ว่าง ฉันเตรียมตอบรับคำเชิญเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ให้นายไม่ต้องทดสอบทักษะการแสดง ค่าตัวสูงและมีผู้ชมจำนวนมากตราบใดที่นายแสดงได้ดีแถมยังช่วยล้างภาพลบ ๆ ให้นายได้ด้วย นายคิดว่าไง? ”
“ผมรู้สึกว่าคุณวางแผนได้ดีมาก” กู้หลานอันกล่าวชื่นชมก่อนหลังจากนั้นใบหน้ายุ่งเหยิงพูดว่า “แต่ว่านะซู่หยางงานของผมสามารถเลื่อนไปวางแผนทีหลังได้ไหม? ่นี้ผมอยากจะติดตามทีมงาน << ความฝันที่ล่องลอย >>ไปดูว่าพวกเขาถ่ายทำกันยังไงบ้างยังไงผมก็เป็มือใหม่ อยากไปเรียนรู้ดูก่อน เผื่อถึงเวลาจะได้ไม่ปล่อยไก่”
“ลูกแม่ยังต้องเรียนรู้อีกเหรอในสายตาแม่ทักษะการแสดงของลูกยอดเยี่ยมมากแล้วนะอีกอย่างลูกไม่ได้เป็คนพูดเองเหรอว่าลูกมีพร์ทางด้านการแสดงมาก? ” รู้ว่าลูกชายกำลังคิดอะไรอยู่อันนารู้สึกละอายใจที่จะฟังลูกชายพูดโกหกพกลม เลยพูดประชดประชันออกไป
“มีพร์ก็แค่เื่การแสดง การต้องเผชิญหน้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ พวกนั้นตำแหน่งการยืนต่าง ๆ อะไรพวกนี้ผมไม่มีความรู้เลยแม้แต่น้อย” กู้หลานอันพูดโต้แย้งไปด้วยอารมณ์ราบเรียบแม้ว่าชาติที่แล้วเจาเยี่ยไม่ได้หลงรักฟู่ซีแต่ว่าเื่ในชาตินี้ใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้ยากมากกว่าที่เขาจะได้กลับชาติมาเกิดอย่างตามใจตัวเองสักครั้ง เพื่อเจาเยี่ย หนึ่งปีที่เสียไปเขาไม่รู้สึกเสียดายเลย
“แบบนี้นี่เอง ก็ได้งั้นรอจนกว่าเธอรู้สึกว่าทุกอย่างลงตัวแล้วฉันค่อยวางแผนให้เธอก็ยังไม่สาย” ซู่หยางตอบรับ เตรียมพูดอีกว่า “ในเมื่อเธอแค่จะไปเรียนรู้งั้นฉันจะเตรียมแค่ผู้ช่วยหนึ่งคนกับบอดี้การ์ดอีกสองคน ให้เธอก็แล้วกันฉันจะอยู่กับแม่เธอทางนี้เป็หลัก ดีไหม? ”
“ได้” กู้หลานอันพยักหน้าพอเห็นกู้หลานอันเห็นด้วย ซู่หยางก็ปรบมือ มีผู้ชายสองคนและผู้หญิงหนึ่งคนเดินเข้ามาจากข้างนอกชี้ไปที่ผู้ชายที่สวมแว่นตา รูปร่างหน้าตาธรรมดาอายุประมาณยี่สิบหกถึงยี่สิบเจ็ดปีแล้วพูดว่า “นี่คือหวังเว่ย เป็ผู้ช่วยฯที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้เธอ”
“อืม” กู้หลานอันตอบ ลุกขึ้นยืนยื่นมือออกไปทางหวังเว่ยพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “สวัสดีครับผมคือกู้หลานอัน หลังจากนี้ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
หลังจากอ่านเวยป๋อ [1] ของกู้หลานอันและเวยป๋อบนโลกออนไลน์แล้วหวังเว่ยที่มีอคติและจำกัดความให้กับภาพลักษณ์ของเขารู้สึกคาดไม่ถึงเลยว่ากู้หลานอันจะเป็คนสุภาพมากขนาดนี้ ตื่นตะลึงกับพฤติกรรมของกู้หลานอันอย่างหนักไปสักพักแต่เขาที่เคยติดตามดาราตัวท็อปมาก่อนสามารถกลับมาเป็ปกติได้อย่างรวดเร็วยื่นมือออกไปจับอย่างสุภาพ “พี่อันสวัสดีครับขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
“ไม่ต้องเรียกพี่ ผมอายุน้อยกว่าพี่อีก” กู้หลานอันพูดจบดึงมือกลับแล้วผงกหัวให้คนที่เหลืออีกสองคน “สวัสดีครับคุณทั้งสองคน”
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ” สองคนตอบเวลาไล่เลี่ยกันกู้หลานอันยิ้มกลับ แล้วหันศีรษะไปทางซู่หยางกับอันนาพูดว่า “ในเมื่อทุกอย่างเตรียมการเรียบร้อยแล้ว งั้นพวกคุณก็ไปทำธุระต่อเถอะผมก็จะรีบไปทำธุระของผมเหมือนกัน” พูดจบก็หยิบแว่นกันแดดจากเสื้อเชิ้รตขึ้นมาสวม
“จะไปไหน? ลูกมีธุระอะไรให้รีบเหรอ? ” อันนาขมวดคิ้ว “หลานอันข่าวยังไม่ซา ลูกก็อย่าไปก่อเื่อะไรโง่ ๆ อีกนะ”
เชิงอรรถ
[1] เวยป๋อเป็เว็บไซต์ทำนองลูกผสมระหว่างทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊กมีอิทธิพลทางการตลาดคล้ายคลึงกับทวิตเตอร์ เป็หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน