แม้จะรู้ว่าตนเองกำลังเริงระบำอยู่บนปลายมีดทว่ามีเพียงนางคนเดียวที่รู้ดีที่สุดว่าอันตรายในทุกย่างก้าวนั้นเป็เช่นไร
ทว่านางกลับไร้ซึ่งทางเลือก!
น้ำอุ่นไล่ความเหนื่อยล้าทางกายของนางออกไป หลินเมิ้งหยาสะลึมสะลือเล็กน้อยเพราะความง่วงขณะเกาะขอบอ่างนางอยากหลับพักผ่อนเหลือเกิน
ขณะที่กำลังสะลึมสะลือ นางกลับได้เห็นร่างสูงยาวยืนอยู่ตรงหน้า
ดวงตาของหลินเมิ้งหยาเบิกกว้างอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณก่อนจะพบหลงเทียนอวี้ยืนอยู่ตรงหน้า
“ท่าน...จะทำอะไร?”
แม้จำตกอยู่ใน่เวลาคับขันแต่หลินเมิ้งหยาไม่ลืมที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาคลุมปิดบังเรือนร่างของตนเองเอาไว้อย่างมิดชิด
หลงเทียนอวี้หันหน้าไปอีกทางเขาเพียงแค่อยากมาดูสถานการณ์ที่นี่เท่านั้น
ใครจะรู้เล่าว่าเพียงเดินเข้ามาจะได้เห็นหลินเมิ้งหยานอนพิงกายแนบขอบอ่างอาบน้ำท่าทางสะลึมสะลือตอนแรกเขาคิดว่านางได้รับาเ็หรือเกิดเื่อันใดขึ้นเสียอีก
“เ้า...เ้าใส่เสื้อผ้าก่อนเถิด ข้าจะออกไปรอด้านนอก”
พูดจบ หลงเทียนอวี้ไม่สนใจว่าหลินเมิ้งหยาจะแสดงท่าทีเช่นไรแต่เขาสาวเท้ายาวๆ ไปทางหน้าต่าง
มือพลันหยิบฉากกั้นขึ้นมาปิดระหว่างพวกเขาทั้งคู่เอาไว้
หลินเมิ้งหยาหยักยิ้มขมขื่นขณะจ้องมองแผ่นหลังของหลงเทียนอวี้ แม้ตอนนี้จะร้องไห้คร่ำครวญว่าถูกเขาทำให้หมดราคาแล้วก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
สู้ลุกขึ้นประหนึ่งคนใจกว้างจะดีกว่า
ด้านหลัง เสียงกระเซ็นของน้ำดึงดูดความสนใจของผู้ฟังเหลือเกิน
หลงเทียนอวี้ยอมรับว่าเขาหาใช่พระอิฐพระปูนแต่ถึงกระนั้นเขาก็มิใช่คนที่จะรังแกผู้น้อย
ทว่า...ผิวสีขาวอมชมพูระเรื่อใต้น้ำสีใสเกรงว่าจะทำให้ผู้ชายอดคิดไปไกลไม่ได้
“ท่านอ๋อง หันหน้ากลับมาได้แล้วเพคะ”
เสียงร่าเริงอ่อนหวานของหญิงสาว ไร้ซึ่งความโกรธเกรี้ยว หลงเทียนอวี้ไม่รู้เลยว่าอยู่ๆความขุ่นเคืองในใจเขาก่อตัวขึ้นมากะทันหันเพราะอะไร
เหตุใดพระชายาของเขาจึงใจกว้างและไม่รู้สึกรู้สาอะไรเช่นนี้!
หมุนตัวกลับมาอีกครั้ง ทว่าเขากลับได้เห็นหลินเมิ้งหยาสวมใส่ชุดกระโปรงตัวยาวผ้าโปร่งสีแดงทับทิมผมที่ยังเปียกปอนถูกปล่อยลงมาพาดไว้ที่กลางหลัง ท่าทางใสซื่อระคนเย้ายวน
นาง...ดูงดงามและเหมาะสมกับสีนี้ ทว่าปกตินางมักจะสวมใส่ชุดสีม่วง
“ที่ท่านอ๋องมาที่นี่ เกรงว่าเพื่อจะถามไถ่เื่ผีที่โรงน้ำชาใช่หรือไม่เพคะ?”
ภายในห้องมีเพียงแสงเทียนสีแดงทว่าแสงจันทร์ภายนอกกลับสว่างไสวเหลือเกิน
เกรงว่าใกล้จะถึงเวลาเข้านอนแล้ว ไม่เช่นนั้นหลงเทียนอวี้คงไม่สวมใส่เพียงชุดสีอ่อนตัวยาวตัวเดียวเช่นนี้
ทว่าภายใต้แสงจันทร์ ั์ตาของหลงเทียนอวี้กลับเปล่งประกายจนทำให้นางใ
เป็ครั้งแรกที่หลินเมิ้งหยาไม่กล้าสบตาเขาดังนั้นนางจึงหลุบตาต่ำและแสดงท่าทีเคารพนับถือคนตรงหน้าเท่านั้น
“อืม ข้าได้ยินว่าเ้าจับพวกผีเ่าั้กลับมาแล้วตกลงเื่ราวเป็เช่นไร?”
ทำใจให้สงบนิ่ง หลงเทียนอวี้เลื่อนสายตาออกจากเรือนร่างของหลินเมิ้งหยา
แปลกจริง ปกติเขาไม่เคยเหม่อลอยเพราะความสวยงามมาก่อนเหตุใดวันนี้จึง...
“หม่อมฉันไม่แน่ใจว่าคราวนี้จะสามารถขุดรากถอนโคนได้หรือไม่แต่คนร้ายที่จับตัวกลับมาได้ล้วนเป็พยานปากเอก หากพวกเขายังมีพรรคมีพวกหลงเหลืออยู่หม่อมฉันจะคิดหาวิธีล้วงข้อมูลออกมาให้จงได้เพคะ”
หลงเทียนอวี้พยักหน้าลง แต่เขานึกไม่ออกเลยว่าควรเอ่ยอะไร
ผิดธรรมาชาติ หันหน้าไปอีกทาง หลังจากทำสมาธิอีกครั้งเขาจึงเอ่ยออกมา
“ข้า...ต่อจากนี้ไปทุกวันที่หนึ่งและสิบห้าอาจจะมานอนกับเ้าที่นี่”
“เอ๋? ท่านอ๋อง?เพราะเหตุใดหรือเพคะ?”
หลินเมิ้งหยาเบิกตาโต เื่ระหว่างนางกับหลงเทียนอวี้ก็ถูกดักฟังไปเรียบร้อยแล้วนี่
“เป็ความเห็นของหมู่เฟย”
อันที่จริงเมื่อ่บ่าย หมู่เฟยตามหลงเทียนอวี้ไปแนะนำสั่งสอนที่ตำหนักหยาเสวียน
ใจความส่วนใหญ่คืออายุของเขาไม่น้อยแล้ว เขาควรจะมีทายาทสืบสกุล
เมื่อก่อนไม่เร่งรีบเพราะหลงเทียนอวี้ไม่แม้แต่จะเก็บผู้หญิงคนใดไว้ใกล้ตัวดังนั้นจึงปล่อยผ่านเื่นี้ไป
ทว่าตอนนี้เขามีพระชายาที่ถูกต้องตามประเพณีแล้วแม้จะเพิ่งร่วมเรียงเคียงหมอนได้สองเดือนแต่พระสนมเต๋อเฟยใจร้อนอยากเร่งมีหลานให้อุ้มไวๆ
ดังนั้นเพื่อรับปากกับหมู่เฟย หลงเทียนอวี้จึงคิดหาวิธีนี้ขึ้นมา
“เพคะ?แต่ท่านอ๋อง หากพวกเราต้องส่งเสียงร้องอึกทึกครึกโครมกันทั้งคืน เกรงว่าจะกระทบกับการพักผ่อนของท่านนะเพคะ”
หลินเมิ้งหยาจ้องมองนิ้วเรียวยาวของตนเองเขม็งแต่กลับเอ่ยปฏิเสธด้วยท่าทางสลดใจ
“ไม่มีทางเลือก เื่นี้ได้พูดออกไปแล้ว เ้าพักผ่อนเถอะส่วนเื่คนสอดแนมยกให้เป็หน้าที่ของหลินขุยก็แล้วกัน”
หลงเทียนหยู๋หมุนตัว ส่งเสียงเด็ดขาดหลินเมิ้งหยาได้ชื่อว่าเป็พระชายาของเขาแล้วต่อจากนี้ไปหาเกิดเื่อะไรขึ้นก็ปล่อยให้เป็ไปตามลิขิต์ก็แล้วกัน
“แต่ว่า...ท่านอ๋อง หม่อมฉันขอเป็คนไต่สวนชิงหูเองได้หรือไม่เพคะ?”
ในเมื่อคำร้องขอไม่เป็ผลหลินเมิ้งหยาจึงทำได้เพียงยอมรับและขอเื่อื่นแทน
หลงเทียนอวี้หันหน้ากลับมามองผู้หญิงตรงหน้ามือลอบสังหารชิงหูคนนั้นมีหน้าตาหล่อเหลา
หรือว่า...คนผู้นั้นจะทำให้หัวใจของพระชายาของเขาสั่นไหวเข้าเสียแล้ว?
“เ้าเด็กนั่นกล้าหลอกลวงหม่อมฉันหม่อมฉันจะถลกหนังแล้วเลาะเส้นเอ็นของเขาออก เพื่อให้เขานึกเสียใจที่กล้าโป้ปดตลบตะแลงต่อหน้าหม่อมฉัน!”
ไม่ใช่แน่นอน! หลงเทียนอวี้พยักหน้าลง ั์ตาประหลาดใจ ดูท่าเขาจะคิดมากจนเกินไป
เพียงได้เห็นแสงประกายในดวงตาของหลินเมิ้งหยาอีกทั้งใบหน้าโเี้ดุดันเขารู้ได้ทันทีเลยว่าชิงหูผู้นั้นจะต้องพบกับภัยพิบัติอย่างแน่นอน
เมื่อส่งหลงเทียนอวี้กลับไปหลินเมิ้งหยาหมุนตัวเข้านอนด้วยความสบายใจจนกระทั่งฟ้าสาง
แม้องครักษ์ในจวนจะรู้สึกอ่อนล้าเป็อย่างมากที่ต้องทำงานดึกดื่นทั้งคืนแต่คนอื่นๆ ในเรือนกลับกระปรี้กระเปร่าเป็ปกติ
อย่างเช่น คุณหนูทั้งสองที่ไม่ยอมออกจากจวนแห่งนี้ไป
“นายหญิง ท่านคงไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณหนูรองและคุณหนูหรูฉินเข้ามาอยู่ที่นี่พวกนางต่างพากันเปลี่ยนกฎระเบียบทุกวันเพื่อเอาอกเอาใจพระสนมเต๋อเฟยหนู่ปี้รู้สึกรำคาญใจแทนนายหญิงเหลือเกินเ้าค่ะ!”
เช้าของวันถัดมา ป๋ายจื่อเข้ามาพยุงร่างของหลินเมิ้งหยาให้ตื่นนอนก่อนจะบ่นกรอกหูหลินเมิ้งหยาไม่หยุด
จะทำอย่างไรได้ หลินเมิ้งหวู่และเจียงหรูฉินทำเื่น่าอับอายขายหน้าในจวนอีกครั้งแล้ว
ต้าจิ้นยังคงอนุรักษ์ธรรมเนียมประเพณีแต่เก่าก่อนหญิงสาวที่ยังมิได้ออกเรือน อย่าว่าแต่มาอาศัยชายคาเดียวกับชายหนุ่มเลยเพียงแค่ออกจากบ้านก็ถือว่าเป็การทำผิดประเพณี
เื่นี้พระสนมเต๋อเฟยน่าจะรู้ดีเสียยิ่งกว่าตนเองอีก
แต่ยิ่งนางแสดงความใจกว้างมากเท่าไร พระสนมเต๋อเฟยจะยิ่งคิดว่าหญิงสาวทั้งสองไม่รู้จักกฎระเบียบเ่าั้
สิ่งที่สำคัญที่สุดในราชวงศ์คือการเคารพกฎและธรรมเนียมประเพณีห้ามมิให้เกิดเื่บัดสีอันส่งผลร้ายต่อราชสกุลโดยเด็ดขาด
แม้ตัวนางจะได้ทำเื่น่าน่าเกลียดน่ากลัวไปแล้วมากมายทว่าฉากหน้านางยังคงเป็พระชายาที่ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบมิเคยออกนอกลู่นอกทาง
“นางจิ้งจอกไร้ยางอาย! คิดว่าตัวเองเป็นายหญิงของจวนอวี้หรืออย่างไร? แม้แต่ของใช้พระชายายังกล้าเอาไป!”
เสียงก่นด่าแสบทรวงของป๋ายซ่าวดังมาแต่ไกล
เมื่อป๋ายซ่าวก้าวเท้าผ่านธรณีประตูเข้ามาหลินเมิ้งหยาได้ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่บวมแดง
เห็นได้ชัดว่านางเพิ่งถูกตบมา
บังอาจนัก! หัวใจของหลินเมิ้งหยาเย็นเฉียบ่นี้นางยุ่งอยู่กับการช่วยเหลืองานของท่านอ๋องจนลืมเก็บกวาดพวกขยะในบ้าน
หลินเมิ้งหยาที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วนั่งอยู่บนเก้าอี้ จ้องมองป๋ายซ่าวหยิบกล่องอาหารเช้าออกมาจากกล่องไม้สีแดง
ยำไก่ฉีกกับแตงกวา ยำเห็ดเข็มทองซาลาเปาไส้ถั่วดำสามลูกและโจ๊กลูกเดือยร้อนๆ ทั้งหมดนี้คืออาหารเช้าของนาง
หลินเมิ้งหยาไม่ส่งเสียง หยิบตะเกียบแล้วคีบแตงกวาที่ดูไม่สดเท่าไรขึ้นมา
“ข้าว่าพ่อครัวของจวนดูท่าจะทำอาหารไม่ได้เื่แล้ว ป๋ายจีเ้าจงไปหาพ่อบ้านเติ้งแล้วถ่ายทอดคำสั่งของข้าโบยพ่อครัวที่ทำอาหารเช้าให้ข้าสิบทีแล้วไล่ออกจากจวนไป”
“แกร๊ง” เสียงดังขึ้น ถ้วยโจ๊กของหลินเมิ้งหยากระเด็นออกจากโต๊ะ
ขณะเดียวกัน ทาสรับใช้ในสวนต่างพากันหยุดมือแล้วด้อมๆ มองๆ ทางห้องของนายหญิง
่นี้หญิงสาวทั้งสองอาละวาดจนได้เื่วันนี้พระชายาที่เคยมีความอดทนไม่อาจทนไหวอีกต่อไปแล้ว
ขณะเดียวกันพวกที่มักจะมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นรอดูเหตุการณ์สนุกๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นพวกเขาต่างอยากรู้ว่าพระชายาที่เป็นายหญิงของจวนแห่งนี้จะจัดการเช่นไร
“ป๋ายซ่าว อีกครึ่งชั่วโมงจงเรียกสาวใช้ ผอจื่อ ผู้ดูแลทาสเด็กทุกคนมาพบข้าที่สวนหลิวซินเห็นทีคราวนี้ข้าต้องสั่งสอนเื่กฎระเบียบแก่พวกเขาจะได้ไม่ทำให้จวนอวี้แห่งนี้ต้องขายหน้า”
แม้จะโกรธเกรี้ยว แต่น้ำเสียงของพระชายากลับไร้ซึ่งความขุ่นเคือง
กลับกัน พระชายามีท่าทีสงบนิ่งนอกจากชามอาหารเช้าที่ถูกเหวี่ยงจนแตกกระจายแล้วไม่มีใครดูออกเลยว่าพระชายากำลังโกรธ
นี่ต่างหากที่เป็คุณลักษณะที่ดีของนายหญิงหากสูญเสียอากัปกิริยาไปอย่างง่ายดาย เช่นนั้นคงถูกหัวเราะเยาะไปทั่ว
ผอจื่อที่เคยทำงานอยู่ในสกุลใหญ่ยิ่งคิดเห็นตรงกันว่า พระชายาแห่งสวนหลิวซินผู้นี้เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นายหญิงของที่นี่
ยังไม่ถึงสิบห้านาที ผู้ดูแล ทาสรับใช้รวมถึงพ่อบ้านเติ้งและหลินขุยล้วนมาถึงสวนหลิวซิน
หลินเมิ้งหยาเหลือบมอง ขาดเพียงแค่ผอจื่อที่ทำการทำงานอย่างมีไหวพริบและคล่องแคล่วสามสี่คนเท่านั้น
ดูท่า พวกนางคงไม่เห็นหัวนางที่เป็นายหญิงของจวนนี้แล้วกระมังแต่กลับไปปรนนิบัติรับใช้ว่าที่นายหญิงคนใหม่?
หลินเมิ้งหยาสวมใส่ชุดชาววังสีแดงปักดิ้นทองลายผีเสื้อบนศีรษะสวมใส่เครื่องประดับลายดอกโบตั๋นสีทอง ใบหน้าท่าทางสง่างามเกินกว่าใครจะเทียบเทียม
ต่อให้เจียงหรูฉินและหลินเมิ้งหวู่จะมัดความสวยรวมกันแต่ก็มิอาจงดงามเกินนางไปได้
แม้แต่สาวงามทั่วทั้งเมืองหลวงเองก็เกรงว่าจะมิมีใครสู้ความงามของนางได้เลย
ข้าทาสที่อยู่ในสวนหลิวซินตอนนี้ไม่มีใครกล้าสบประมาทพระชายาเลยแม้แต่น้อย
“ที่ข้าเรียกพวกเ้ามาในวันนี้ก็เพราะอยากให้พวกเ้าจำกฎระเบียบให้ขึ้นใจแม้ข้าจะยังเด็ก แต่ก็มิอาจยินยอมให้จวนอวี้ต้องอับอายขายหน้าได้หากมีสิ่งไหนที่ทำผิดพลาดไป ขอพวกเ้าอย่าได้ถือสา”
ใบหน้าแย้มยิ้ม แต่กลับเจือไว้ซึ่งความเ็า
นี่...นี่เป็ลักษณะท่าทางของเด็กอายุสิบแปดที่ไหนกันแม้จะเป็ฮูหยินที่ดูแลงานภายในบ้านมานานนับหลายปีก็มิอาจมีความน่าเกรงขามเช่นนางได้
“นับั้แ่วันที่ข้าเข้ามาอยู่ในจวนท่านอ๋องมอบหมายงานในเรือนให้ข้าดูแลเพราะความรักที่ผ่านมาข้ามิเคยบีบบังคับพวกเ้า ทว่าเมื่อเช้านี้กลับคนกล้าแหกกฎทำร้ายสาวใช้ระดับหนึ่งของข้าแม้มันจะดูไม่ใช่สลักสำคัญอะไร เมื่อสาวใช้ทำผิด จะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอนแต่ข้าไม่รู้ว่าคนที่ตบตีสาวใช้ของข้า ตกลงคือใครกัน?”