น้ำเสียงของเซียวเฉินเผด็จการดุจเ้านาย ดังกังวานกลางอากาศเหนือเวที ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านเหลยถิงมีสีหน้าแปรเปลี่ยน
จากนั้น เซียวเฉินก็มองเหลยเยี่ย
“หากเ้าเป็ลูกผู้ชาย ก็ไม่จำเป็ต้องพูดอะไรมาก และควรทำตามที่ตนเองสัญญาไว้ แต่เ้าในตอนนี้ไม่คู่ควรที่จะเป็บุรุษเลยสักนิด เพราะเ้าทำให้ผู้คนดูแคลน”
คำพูดของเซียวเฉินทำให้เหลยเยี่ยหน้าแดงเถือก อับอายสุดขีด
เหลยอ้าวที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าน่าเกลียด “ลั่วเฉินอวี่ เ้าอย่ามาใช้คำพูดยั่วยุกันแบบนี้”
“ข้าพูดความจริง”
ในเวลานี้เอง เหลยเผิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยช้าๆ “พี่ลั่ว เื่นี้น้องชายของตระกูลข้าทำไม่ถูกต้อง ท่านจะเห็นแก่หน้าข้าแล้วยกเลิกเพียงเท่านี้ได้หรือไม่?”
เหลยเผิงมีฐานะเป็ผู้มีพร์ของหมู่บ้านเหลยถิง เป็ผู้นำชนชั้นผู้เยาว์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ชนรุ่นหลังของหมู่บ้านเหลยถิงต่างยกให้เขาเป็ผู้นำ ทว่าตอนนี้เหลยเผิงถึงกับเอ่ยปากขอให้เซียวเฉินละเว้นเหลยเยี่ย
สายตาของเซียวเฉินหันไปมองเหลยเผิง ใบหน้าเผยรอยยิ้มนิดๆ ขณะที่เหลยเผิงคิดว่าเซียวเฉินจะตอบตกลงนั้น เซียวเฉินพลันเปลี่ยนสีหน้า เอ่ยด้วยเสียงเ็า “ทำไมข้าต้องไว้หน้าเ้าด้วย? เหลยเผิง เื่ในวันนี้ เ้าและข้าต่างรู้อยู่แก่ใจ งานเลี้ยงได้ชื่อว่างานเลี้ยง ความจริงเ้าคิดจะใช้เหลยเยี่ยมาหยามเกียรติข้า เ้านึกว่าเขาจะเอาชนะข้าได้ จะได้แก้แค้นแทนน้องชายทางอ้อม แต่เขากลับแพ้ข้า เ้าจึงออกหน้าแล้วแสร้งว่าเป็คนดี”
เอ่ยถึงตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเฉินยิ่งลึกล้ำ
เป็รอยยิ้มหยัน
“เ้ากล้าบอกหรือไม่ว่า หากเมื่อครู่คนที่แพ้คือข้า เ้าจะออกปากห้าม? เกรงว่าเ้าคงเป็คนที่ปีติยินดีที่สุด เพราะการที่ข้าแพ้ไม่ได้หมายถึงคนเพียงคนเดียว แต่หมายถึงราชวงศ์ของแคว้นชางหวง หากข้าแพ้ หมู่บ้านเหลยถิงของพวกเ้าก็จะกดหัวราชวงศ์ทางอ้อม พวกเ้าหยามเกียรติข้าก็เท่ากับหยามเกียรติราชวงศ์ หยามเกียรติแคว้นชางหวงทั้งแคว้น!”
คำพูดของเซียวเฉินทำให้เหลยเผิงมีสีหน้าแปรเปลี่ยน
“ก่อนหน้านี้ ตอนที่เหลยเยี่ยล่วงเกินข้า เ้าอยู่ที่ใด? เ้าจัดงานเลี้ยงเพื่อเบิกตามองดูแขกที่เชิญมาสู้กับคนของหมู่บ้านเหลยถิงหรือ? เ้าห้ามหรือ? เปล่าเลย! แต่ตอนนี้ข้าเอาชนะเหลยเยี่ยได้ เ้าจึงออกมา ไม่รู้สึกว่าช้าไปหน่อยหรือ?”
เอ่ยถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเซียวเฉินเริ่มแข็งกร้าว
“วันนี้ แขนของเหลยเยี่ยจะตัดก็ต้องตัด ไม่ตัดก็ต้องตัด”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็สืบเท้า ก้าวลงจากเวทีเดินไปหาเหลยเยี่ย
เหลยเยี่ยมีสีหน้าตื่นตระหนก เวลานี้เขาาเ็สาหัส ไม่มีทางหยุดยั้งเซียวเฉินได้ เมื่อเห็นร่างของเซียวเฉินใกล้เข้ามาทุกขณะ ดวงตาของเขาก็ฉายแววพรั่นพรึง
เซียวเฉินมองทุกคนที่อยู่ด้านข้างเหลยเยี่ยแล้วเอ่ยว่า “ใครห้ามปราม อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ไว้ไมตรี!”
พวกเหลยอ้าวมีสีหน้าใสุดขีด ถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว เซียวเฉินยิ้มหยันในใจให้กับสถานการณ์เช่นนี้ นี่เรียกว่าพี่น้องร่วมตระกูลหรือ แต่ละคนเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวเป็หลักทั้งนั้น แต่เมื่อตนเองถูกคุกคามก็ทรยศผู้อื่น
เหลยเผิงก็ไม่ขยับ มองเซียวเฉินด้วยสีหน้าอัปลักษณ์เช่นกัน
“ลั่วเฉินอวี่ เ้าแตะต้องข้าไม่ได้นะ ไม่ได้!”
เหลยเยี่ยใกลัวสุดขีด เสียงสั่นสะท้าน
เซียวเฉินยังคงเฉยเมย
“ลั่วเฉินอวี่ ขอร้องล่ะ อย่าตัดแขนของข้าเลย เ้า้าสิ่งใดข้าจะรับปากทั้งหมด...”
เซียวเฉินดูแคลน ตอนท้าสู้เขาก่อนหน้านี้ ใบหน้านั้นน่าสะอิดสะเอียน บัดนี้พ่ายแพ้ ก็ใช้ท่าทางโศกเศร้าร้องขอความเมตตา เื่นี้ทำให้เขายิ่งไม่พอใจ
“เ้าทำตามสัญญาจะดีกว่า เพราะข้าไม่้าสิ่งของใดของหมู่บ้านเหลยถิงเลยสักนิด”
ตูม!
เบิกฟ้าปรากฏขึ้นในมือของเซียวเฉิน อานุภาพท่วมท้น
สะบัดรังสีกระบี่ใส่เหลยเยี่ยดุจเทพมรณะ กลิ่นอายอันน่าสะพรึงทำให้เหลยเยี่ยแทบหยุดหายใจ สีหน้าหวาดกลัวยิ่งขึ้น
ฉับ!
“อ๊า...แขนของข้า...แขนของข้า...”
โลหิตฉีดพุ่งเป็สาย แขนของเหลยเยี่ยถูกตัดถึงโคน โลหิตย้อมเสื้อผ้าเป็สีแดงสด เหลยเยี่ยใช้มืออีกข้างกุมบริเวณที่ถูกตัดพลางร้องโหยหวน
ฉากนี้สยองขวัญมาก ทำให้คนของหมู่บ้านเหลยถิงมีสีหน้าหวาดกลัว
องค์ชายแห่งแคว้นหนึ่ง ลงโทษอย่างเด็ดขาดถึงเพียงนี้
เป็บุคคลอันโดดเด่น!
เดิมทีเหลยเยี่ยก็าเ็สาหัสอยู่แล้ว และตอนนี้แขนก็ขาด เขาเสียเืมากเกินไปจึงหมดสติ
เซียวเฉินมองพวกเขาอย่างเฉยชา “ถ้าพวกเ้าไม่ช่วยเขา เกรงว่าเขาคงตายไปแล้ว ถึงเวลาจะมาโทษข้าไม่ได้นะ”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็มองเหลยเผิงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“วันนี้ขอบคุณพี่เหลยเผิงที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ข้าแซ่ลั่วมีธุระ ขอตัวก่อน”
“องค์ชายลั่วไปดีๆ ข้าไม่ส่งนะ”
เหลยเผิงกัดฟันพูดอย่างถึงที่สุด แต่เซียวเฉินก็ยังคงเฉยเมย เขาถือแขนของเหลยเยี่ยแล้วเดินจากไปอย่างสง่างาม
คนของหมู่บ้านเหลยถิงช่วยเหลยเยี่ยไว้ได้ พวกเขามองเซียวเฉินด้วยสายตาอึมครึม
แววตาของเหลยเผิงมีเจตนาสังหารรุนแรงกำลังพวยพุ่ง
“ลั่วเฉินอวี่ คอยดูเถอะ!”
…
เมื่อเซียวเฉินกลับถึงเรือน ก็เห็นเหลยอวิ๋นถิงกำลังฝึกวิชาอยู่ เขาอยู่ที่ธรณีประตูของเคล็ดวิชาอัสนีคลั่งเป็ครั้งแรก หากร่ำเรียนทุกอย่างสำเร็จต้องย่างสู่ขั้นเสวียนฟ้าได้แน่นอน
วิ้งวิ้ง!
สายฟ้าโอบล้อมรอบกายของเหลยอวิ๋นถิง พลังอันรุนแรงของเขาทำให้อากาศปะทุไม่หยุด อัสนีสีม่วงครามแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตามพลังของเขา เหลยอวิ๋นถิงต่อยหมัดจู่โจมไป สายฟ้าะเิออก เบิกภูผาทลายศิลา!
ตูม!
หมัดนี้ แม้แต่แผ่นดินยังปริแตกพังถล่ม
เห็นได้ชัดถึงความแข็งแกร่งของเคล็ดวิชานี้
เวลานี้ เหลยอวิ๋นถิงอยู่ขั้นแรกกำเนิดหนึ่งชั้นฟ้าระดับสูงสุด และกำลังจะทะลวงขั้นแรกกำเนิดสองชั้นฟ้า!
ใบหน้าของเหลยชิงโหรวมีรอยยิ้มตื่นเต้น
เหลยอวิ๋นถิงในอดีตมีพร์ธรรมดาสามัญ ถูกคนตระกูลเหลยดูแคลน ถูกจำกัดทรัพยากรในการฝึกวิชา ทำให้ความสามารถของพี่ชายไม่ก้าวหน้าเลยสักนิด บัดนี้พี่ชายเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ความเร็วในการฝึกวิชาเหนือล้ำกว่าในอดีตมาก เหลยชิงโหรวดีใจจนน้ำตาคลอ
“ชิงโหรว ต่อไปพี่จะไม่ให้ใครมารังแกเ้าอีก” เหลยอวิ๋นถิงเอ่ยอย่างแน่วแน่ เหลยชิงโหรวเช็ดน้ำตา พยักหน้าซ้ำๆ
“อวิ๋นถิง ทำได้ไม่เลวนี่”
น้ำเสียงของเซียวเฉินดังมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
คนทั้งสองเดินมา
“เซียวเฉิน เป็อย่างไรบ้าง? เหลยเผิงสร้างความลำบากให้เ้าหรือไม่?” เหลยอวิ๋นถิงถาม
เหลยชิงโหรวก็มองเซียวเฉินด้วยสีหน้ากังวล “พี่เซียวเฉิน อาการาเ็ของเ้ายังไม่หายสนิท อย่าสู้กับพวกเขาเลย แม้ข้ารู้ว่าเ้าร้ายกาจ แต่...”
เซียวเฉินเห็นทั้งคู่มีสีหน้าเป็ห่วงก็ยิ้ม
“วางใจเถอะ นอกจากผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าของหมู่บ้านเหลยถิงก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้ ถึงผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าคิดจะจัดการข้าก็ไม่ง่ายดาย”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็โยนแขนชุ่มโลหิตข้างหนึ่งไว้บนพื้น เหลยชิงโหรวใจนร้องอุทาน เหลยอวิ๋นถิงก็อึ้ง
“เซียวเฉิน นี่คือ...”
“แขนของเหลยเยี่ย!” ประโยคเดียว ทำให้คนทั้งสองใอีกครั้ง
เซียวเฉินไปงานเลี้ยง มิเพียงไม่ได้รับาเ็ แต่นำแขนข้างหนึ่งของเหลยเยี่ยกลับมาแทน ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“เหลยเยี่ยใส่ร้ายข้าว่าข้าหยามเกียรติหมู่บ้านเหลยถิงและท้าสู้ข้า หากข้าแพ้ ข้าต้องขอโทษ หากเขาแพ้ เขาต้องถูกตัดแขนข้างหนึ่ง ส่วนผลก็เป็อย่างที่พวกเ้าเห็น”
ผลคือเหลยเยี่ยแพ้!
ทั้งสองคนยิ่งมองเซียวเฉินด้วยสายตาชื่นชม
ต้องรู้ก่อนว่า เหลยเยี่ยเป็คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านเหลยถิงนอกเหนือจากเหลยเผิง
ผู้มีความสามารถขั้นเสวียนฟ้าสี่ชั้นฟ้า ยังพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเซียวเฉินและถูกตัดแขนข้างหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าความสามารถของเซียวเฉินนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก!
“อวิ๋นถิง ชิงโหรว พวกเ้าสองคนต้องยกระดับความสามารถให้เร็วขึ้น ไม่เช่นนั้น สถานการณ์ในตอนนี้จะไม่เป็ผลดีต่อพวกเ้า หากคิดที่จะปกป้องตนเอง ความสามารถคือกุญแจสำคัญ”
คนทั้งสองพยักหน้าซ้ำๆ
“คราวนี้ ข้าจะยึดหมู่บ้านเหลยถิงคืน การประลองในตระกูลคือก้าวแรกของข้า!”
เหลยอวิ๋นถิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึม ดวงตาทอประกายเย็นเยียบ