หลังจากคนตระกูลเซียวกลับไปหมดแล้ว หลงเหยียนมองเซียวหลานเฟิงแล้วประกายรอยยิ้มเล็กๆ “พ่อเ้ากล่าวว่าหลังจากนี้อีกสิบวันจะทำให้ตระกูลหลงของข้าหายไป หรือไม่ ข้าทำให้เ้าหายไปเสียตอนนี้เลยดีหรือไม่...”
เมื่อพูดจบหลงเหยียนก็เตรียมลงมือ ทว่าผู้าุโแห่งตระกูลหลงห้ามไว้ก่อน...
“เหยียนเอ๋อ เ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้ พวกเราตระกูลหลงควรมีขีดกำจัดก็คือเส้นทางชีวิต เ้าเข้าใจหรือไม่?”
หลงเหยียนพยักหน้า
ไมนานคนตระกูลหลงก็กินยาถอนพิษ เป็อย่างที่คิด พวกเขาััได้ถึงระลอกอุ่นๆ กำลังขับฤทธิ์ของพิษภายในร่างกาย
ฝ่ามือแดนนรกเป็ยาพิษที่ร้ายแรงนัก ทว่าหลังจากกินยาถอนพิษแล้วภายในหกชั่วยามพิษต้องถูกขับออกหมด
หลงเหยียนจำตอนที่คนตระกูลเซียวจากไปได้ แววตาที่พวกเขามองตนต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง คล้ายเป็มีดมหาศาลที่แทงมาบนตัวหลงเหยียน
หลงเหยียนร่างกระตุกวูบ ทันใดนั้นความเ็ปก็สลายไปจนหมดสิ้น
ขณะที่คนตระกูลเซียวกำลังจากไป เดิมทีทุกคนคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว ทว่ากลับลืมคนคนหนึ่งนั่นก็คือเซียวจื่อมั่ว
เวลานี้ เซียวจื่อมั่วซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของคนตระกูลหลง ในมือของนางซ่อนกริชที่แหลมคมเล่มหนึ่งที่มีขนาดใหญ่เท่านิ้วมือนามว่า สลายกาย
กริชเล่มนี้เป็อาวุธที่สร้างจากวัสดุระดับทองคำขั้นสูง สามารถซ่อนอยู่หลังนิ้วมือทำให้ผู้อื่นไม่สังเกตเห็น ก่อให้เกิดการทำร้ายในระยะประชิดได้
ถึงแม้เซียวจื่อมั่วรู้สึกดีกับหลงเหยียน ทว่าเขาทำร้ายเซียวเชียนมั่วซึ่งเป็พี่ชายแท้ๆ ของนาง เมื่อครู่ ก่อนจากไป บิดาของนางหันกลับมามองนางด้วยสายตาดุร้าย นางจึงรู้ว่าตนเองคงไม่มีหน้ากลับตระกูลเซียวแล้ว
เพราะคนรุ่นเยาว์ในตระกูลเซียวต่างก็าเ็ มีนางเพียงผู้เดียวที่ไร้าแทำให้ผู้อื่นเกิดความสงสัย และที่ยิ่งน่าสมเพชคือเซียวเชียนมั่วถูกทำร้ายสาหัสปานนั้น นางเป็ถึงน้องสาวกลับไม่เป็อะไรเลย
ด้วยเหตุนั้น หลงหยุนฉีจึงละเลยสตรีนางนี้ไป
ขณะที่ไม่มีใครสังเกตเห็นนาง ทันใดนั้น นางก็พุ่งมาข้างกายหลงเหยียนก่อนจะแทงสลายกายไปที่เอวหลงเหยียนเข้าอย่างจัง
“หลงเหยียน เ้าทำลายพี่ชายข้า ข้าเกลียดเ้า...”
นางมีพลังระดับเพียงชีพัขั้นที่สาม ทว่าเพราะหลงเหยียนไม่ทันระวังตัว ยังโชคดีที่ราชสีห์หิรัณย์เห็นทุกอย่างชัดเจน ขณะที่นางกำลังลงมือ ราชสีห์หิรัณย์ก็ะโขึ้นกัดกริชเอาไว้ได้
การกระทำเล็กๆ นี้ดึงดูดความสนใจของคนตระกูลหลง เมื่อครู่อันตรายยิ่งนัก หลงเหยียนเองก็รับรู้ได้ถึงอันตรายเช่นกัน
เมื่อได้ยินเสียงะโ เขาจึงหันกลับมามอง แววตาเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง
เซียวจื่อมั่วล้มเหลว หลงอวี่ซีและคนอื่นๆ ในตระกูลพุ่งเข้ามาตรงหน้าหลงเหยียนแล้วจ้องนางด้วยสายตาดุดัน
“เซียวจื่อมั่ว นี่เ้าลอบทำร้ายผู้อื่นหรือ ก็ดี ในเมื่อเ้าไม่ไป เช่นนั้นข้าจะเอาชีวิตเ้าเสียเดี๋ยวนี้!”
หลงหยุนฉีเกลียดสตรีนางนี้เป็ที่สุด เพราะนางอยากฆ่าพี่เหยียนของนาง...
“หยุด!” หลงเหยียนะโ ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้
เขาหันไปมองราชสีห์หิรัณย์ครู่หนึ่ง เขาซาบซึ้งในตัวมันเหลือเกิน ไม่นานสายตาก็หยุดอยู่ที่เซียวจื่อมั่ว รังสีพลังที่แข็งแกร่งทำให้เซียวจื่อมั่วหายใจไม่ออก
เซียวจื่อมั่วถูกสายตาที่ดุดันของหลงเหยียนข่มจึงใถอยหลังอย่างอดไม่ได้ แล้วหลงเหยียนก็เดินเข้าใกล้เรื่อยๆ
ทันใดนั้น หลงเหยียนเข้าใกล้นางด้วยความเร็ว ประสานสายตาเข้าด้วยกัน ดวงตาทั้งสี่คู่ห่างกันเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น!
หลงเหยียนพูดเสียงเบา “ดูเหมือนเ้ากลัวข้ามากหรือ...”
“ข้า ข้า...” เซียวจื่อมั่วนึกถึงความเ็ปของพี่ชาย นางใช้หมัดเล็กๆ ของตนชกไปที่หน้าอกของหลงเหยียน
หลงเหยียนจับมือคู่นั้นแล้วพูดด้วยความโมโห “ต่อให้ข้า หลงเหยียน จะชั่วร้ายเพียงใดก็ไม่อยากทำร้ายเ้า เ้าไสหัวไปเสีย อย่าให้ข้าเห็นหน้าเ้าอีก ไม่อย่างนั้นจะเป็ข้าที่ฉีกเสื้อผ้าเ้าเป็ชิ้นๆ ...”
เมื่อหลงเหยียนพูดประโยคสุดท้าย เขาแทบคำรามออกมา “เข้าใจหรือไม่?”
เซียวจื่อมั่วอุทานด้วยความใ น้ำตาคลอเบ้า ผลักคนรอบตัวออกแล้วหนีออกจากกรงเล็บมารของหลงเหยียน
ตอนแรกหลงหยุนฉีอยากขัดขวางนางกลับถูกมือของหลงเหยียนจับไว้ก่อน
“หยุนฉี ปล่อยนางไปเถิด ที่เขาหยุนหลัวนางเคยขอร้องให้พี่ชายนางปล่อยข้าไป...”
หลงหยุนฉีพยักหน้า ในใจรู้สึกนับถือพี่ชายของตัวเองยิ่งนัก ไม่เพียงเท่านั้น แม้กระทั่งแววตาของหลงอวี่ซียังเปลี่ยนไป วันนี้หากไม่ใช่เพราะหลงเหยียน บางครั้งตนอาจถูก... นางไม่กล้าคิดไปไกลกว่านั้น ในใจนางเต็มไปด้วยความตื้นตัน
การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเป็เื่ที่ยากนัก ทว่าหลงเหยียนกลับทำสำเร็จ เพราะเมื่อก่อนคนมากมายเคยไม่เข้าใจหลงเหยียน ยิ่งไปกว่านั้น หลงเซ่าโหยวและหลงห่าวเทียนเคยรังแกหลงเหยียน พวกเขาทั้งสองก้มหน้าลงด้วยความละอายใจ หลงเหยียนไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตพวกเขา ยังช่วยคนทั้งตระกูลหลงไว้ด้วย
ขณะที่ทุกคนละสายตาจากหลงเหยียน กำลังจะกลับตระกูลหลง ตรงด้านหน้า หลงเหยียนพบรถม้าที่งดงามจอดอยู่
คนทั้งตระกูลหลงหยุดลงแล้วมองไปยังรถม้าด้านหน้า มีองครักษ์คุ้มกันสี่คน ต่างก็ขี่สัตว์อสูรที่ดุร้าย รังสีที่ยิ่งใหญ่ทำให้คนทั้งเมืองัแยกย้ายด้วยสัญชาตญาณ
ด้านในคือสตรีที่รูปโฉมงดงามนั่งตัวตรงอยู่ด้านใน
หนึ่งในผู้ติดตามลงมาจากหลังอสูร เดินเข้ามาหาหลงเหยียนแล้วพูดด้วยเสียงราบเรียบ “ฮูหยินมีเื่อยากคุยกับท่าน เชิญตามข้ามา”
กิริยาที่อวดดีของนางทำให้ทุกคนในตระกูลหลงต่อต้านไม่ได้
“ข้าคนเดียวหรือ?” หลงเหยียนมองไปทางหลงอีผู้เป็บิดาด้วยความสงสัย
หลงกงฉู่ขมวดคิ้วมุ่นแล้วพยักหน้า “ไปเถิด ไม่ว่านางจะบอกเ้าว่าอะไร ไม่ว่าอย่างไร เ้าต้องจำไว้ว่าตัวเองคือคนตระกูลหลงของข้า”
คำพูดนี้ดูพิกลนัก ทว่าหลงเหยียนยังไม่ทันเข้าใจก็เดินตรงเข้าไปหารถม้าแล้ว
“ท่านพ่อ ท่านกำลังเป็ห่วงเหยียนเอ๋อหรือ?” หลงอีมองผู้าุโแล้วเอ่ยถาม
หลงกงฉู่สีหน้าหนักอึ้ง เขาถอนหายใจ “เฮ้อ ข้าเป็ห่วงเขา ไม่มีใครนึกถึงว่าวันนี้นางจะแข็งแกร่งเพียงนี้ อีกทั้งยังไปถึงเมืองหยุนจง พละกำลังของนางอยู่ระดับชีพ์เชียวละ เกรงว่าคนทั้งตระกูลหลงของเรารวมกัน ยังรับพลังโจมตีของนางไม่ได้เลย”
“เื่ในวันนั้นจนถึงวันนี้ข้าก็ยังไม่เข้าใจ บางครั้งอาจเป็เพราะข้าทำผิดไปจริงๆ พวกเราตระกูลหลงทำผิดต่อนาง...”
...
“ท่านแม่ ใช่ท่านหรือไม่ท่านไม่ยอมรับว่ารู้จักเรา ท่าน้าทำแบบนี้จริงหรือ? ต่อให้ท่านจะทำผิดต่อตระกูลหลง ทว่าข้าเป็ลูกของท่านนะ อีกอย่างหนึ่ง ข้าจำความรักที่ท่านมีให้ในวัยเด็กได้ดี ทว่าเหตุใดกันท่านต้องเลือกจากไป เหตุใด?”
จิตใจของหลงเหยียนเกิดความสับสน ฝ่าเท้าเข้าใกล้รถม้ามากแล้ว หลงเหยียนรู้ดีว่าเมื่อครู่เกิดเื่มากมาย นางต้องรู้เป็แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งนางต้องกำลังเฝ้าปกป้องตระกูลหลงอยู่ห่างๆ แน่...
“ท่านกำลังปกป้องทุกคนหรือ หรือว่า...” เมื่อนึกถึงตรงนี้ ในความคิดของหลงเหยียนก็ปรากฏภาพของเซียวกงเป้า ความเกลียดแค้นลุกโชนดั่งมหาสมุทรโลกันตร์
--------------------