“เข้าทางกระจกุ์ แม้มันจะแตกแต่ก็ยังมีพวกุ์หลั่งไหลข้ามมา ข้าคิดว่าซ่านตงตงยังคงถ่ายพลังให้กระจกอยู่ และ มันน่าจะยังเป็ทางเข้าออกสู่ภพนั้นได้” เ้าวั่งซูเอ่ย
“แต่ตุ๊กตากระบอกนั่นมันขยายตัวมันเอง และปิดครอบปากทางเข้าออกไว้ และยังพวกประหลาดนั่นสวนทางออกมาเรื่อยๆ เราจะฝ่าเข้าไปยังไง” ฮวาเฟยฟาเอ่ยใช้ความคิด
“พวกข้าเอง พวกเราจะโจมตีหันเหความสนใจจากเ้าตุ๊กตาผีนั่น และพวกเ้าก็อาศัยจังหวะนั้นตรงเข้าสู่กระจก และปิดมันจากด้านในส่วนพวกุ์ที่ผุดออกมาจากรูเป็ดอกเห็ดนั่น......” จูจินผิงปรมาจารย์กระจกภพ์ และ เจียงซีฟ่านปรมาจารย์กระจกปรภพออกตัว พร้อมปรมาจารย์คนอื่นๆพยักหน้ารับ
“พวกข้าจะรับมือเองกับพวกที่ทยอยออกมานั่น และฝ่าเข้าไป” เ้าวั่งซูยกมือเคารพและหันหน้ามาทางฮวาเฟยฟา ชวนกันไป เหล่าปรมาจารย์ และ มือปราบมารต่างเร่งโจมตีตุ๊กตาหุ่นกระบอกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จนเริ่มมีโอกาสที่มันหันมองตามการโจมตีหลายด้านสลับไปมา เ้าวั่งซูและฮวาเฟยฟาถือโอกาสนั้นเหาะพุ่งตรงเข้าสู่ข้างใต้ฐานตุ๊กตาหุ่นกระบอก
“มนต์คลื่นทะเลใต้” สิ้นเสียงฮวาเฟยฟา ลำแสงสีฟ้าซัดเป็เกลียวคลื่นทะลุตัวประหลาดที่กายเหมือนคนแต่หน้าเป็นกแสกลำตัวขาดทะลุเสียงกรีดร้องของิญญาแตกออกเป็ส่วน
“มนต์เพลิงโลกันต์” วั่งซูเรียกไฟเบิกทางไปข้างหน้าทำให้พวกุ์ที่ออกมาจากกระจกล้วนหลีกหนีกรีดร้อง
“ไปเร็ว! ทางเปิดแล้ว” เ้าวั่งซูและฮวาเฟยฟาอาศัยจังหวะทางสู่กระจกุ์ เปิดออกเหาะตรงเข้าสู่กระจกอันดำมืดนั้น แต่อีกนิดก่อนจะเข้าถึงตัวกระจก เหล่ามือยาวเป็ข้อๆ ของตุ๊กตาหุ่นกระบอกก็ทิ่มลงมาปิดปากทางเข้า
“นี่คุณชายัจะทรงเสด็จไปไหนหรอ แล้วเ้าเด็กข้างๆนั่นมันใคร คนทั่วไปมันข้ามภพไปไม่ได้อยู่แล้ว หรือท่านทรงลืม ข้าว่าท่านอยู่ที่นี่ให้ข้าได้กินดวงจิตพันปีของท่านเถอะ ข้าจะได้แข็งแกร่งเกินใครในปฐี ฮิๆๆๆ!” ตุ๊กตาผีนั่นแสยะยิ้มพร้อมพูดจาน่าขยะแขยงพร้อมน้ำลายที่ยังคงไหลย้อย
“หลิ่งกวาง เ้าจงเปิดทาง ให้พวกเราหน่อย” สิ้นเสียงเ้าวั่งซู หลิ่งกวางขยายร่างขึ้นพอประมาณ พร้อมดวงตาสีแดงแหลมคม พร้อมกับหางทั้งเก้าที่ตั้งชูขึ้น หลิ่งกวางลอยขึ้นไปหยุดบริเวณด้านหน้าตุ๊กตาหุ่นกระบอก และมองจ้องสะกดเข้าไปที่ดวงตาปีศาจนั่นและใช้มนต์สะกดิญญา ตุ๊กตาหุ่นกระบอกไม่ทันตั้งตัว ที่จิ้งจอดกดำเก้าหางลอยเหาะมาจ้องตาเขม็งจึงตกอยู่ในพวัง มือทั้งหมดที่ขวางทางกั้นออก เ้าวั่งซูและฮวาเฟยฟารีบพุ่งตรงเข้าสู่ความมืดมิดภายในกระจก เมื่อหลุดพ้นผ่านปากทางเข้ากระจก เ้าวั่งซูไล่เวทย์และผายมือในอากาศปรากฏอาวุธคู่กาย “เคียวยมฑูต” ขึ้นกวัดแกว่งง้าวเปิดประตูสู่ปรภพ
“แง้วๆ” แสงสว่างวาบขึ้นก่อนที่เ้าวั่งซูจะตวัดง้าวปิดทางเป็เสียงหลิ่งกวางเ้าจิ้งจอกดำเก้าหางปรากฏตัวขึ้นบนบ่าวั่งซู
“ประตูสู่ภพจงปิดลงเพื่อกีดกั้นสิ่งที่น่ารังเกียจพวกนี้ห้ามข้ามไป” แสงสว่างวาบสีทองจากเคียวยมฑูตโค้งขึ้นตามแรงเหวี่ยงเคียวและปิดผนึกทางเข้าออกที่ต้องห้ามนี้สนิท เหลือเพียงความมืดมิดและเสียงคลางโหยหวนกรีดร้องของเหล่าุ์ที่กำลังเดินไปสู่ประตูแต่หาทางออกไม่ได้ ทั้งสองจุดดวงประทีปขึ้นในมือ และเดินส่องผ่านความมืดมิดเข้าไป
“ชิงหลงเ้าจงสร้างเกราะพลังเวทย์คุ้มบังกายาพวกเรา” ฮวาเฟยฟาเรียกัขาวคู่ใจ ชิงหลงตาสีฟ้าสว่างวาปพร้อมม่านหมอกขยับครอบร่างทั้งสี่คล้ายเกราะป้องกันจากการมองเห็นจากุ์
“ที่นี่มืดและชื้นมากบรรยากาศน่าขนลุก รวมทั้งตัวประหลาดพวกนั้น ข้ารู้สึกเหมือนความชื้นและไอเย็นนี่สะท้านทะลุทะลวงผ่านเข้าไปในกระดูก ว่าแต่ เฟยเฟย มันดูเหมือนไม่มีทางออก ข้าว่าพวกเราจะหลงทางเดินวนในนี้และหาทางออกไปภพุ์ไม่เจอตลอดกาล” วั่งซูเอ่ยถามพร้อมเอามือทั้งสองกอดแขนสั่นเทิ้มเพราะไอหมอก
“ข้าก็ไม่แน่ใจ ข้าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน เคยแต่ได้ยินว่าภพุ์เป็ภพที่สลัวๆ มีแต่ม่านหมอก และเสาหินผา ตัวุ์ที่ดูดกลืนร่างกายละิญญาสิ่งมีชีวิตจากต่างภพ และ ไอหมอกจากภพุ์นี้ปนเปื้อนไปด้วยิญญามากมายที่กึ่งเป็กึ่งตาย เต็มไปด้วยแรงอาฆาตและความทรมานจากการจองจำ “ิญญาเถื่อน” ทำให้ไอกระแสพลังจักราที่ผ่านมากับม่านหมอกนี่กัดทะลุหนาวเหน็บสะท้านไปถึงิญญา ข้าคิดว่าเราไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป เพราะม่านดักิญญานี่ก็อาจจะกำลังทอดตาข่ายลวงพวกเราให้เข้าไปติดกับได้ “ประทีปอนันตกาล”” สิ้นเสียงเฟยฟาโบกสะบัดมือนิ้วเรียวสวยในอากาศ ก็เกิดเป็ผีผาที่เปล่งแสงสว่างขึ้น ดวงไฟนั้นลอยขึ้นเหมือนดวงแก้วและหมุนไปมาเท้งเต้งกลางอากาศ
“ชี้นำทางสู่ภพุ์” ฮวาเฟยฟาเอ่ย ดวงไฟเปล่งแสงเจิดจรัสวิบวับหมุนวนไปมา และ เริ่มลอยขยับไปข้างหน้าช้าๆทางทิศตะวันออก
“ไปเราตามดวงประทีปอนันตกาลนี้ไปกันเถอะ เราก็จะเจอทางออกสู่ภพ” ฮวาเฟยฟาถอดเสื้อคลุมสีขาวเกล็ดัเข้าห่มคลุมให้เ้าวั่งซู และคว้าฉวยจับมือเ้าวั่งซูไว้มั่น และรีบเดินตามดวงประทีปไปก่อนที่แสงนั้นจะไกลออกไปจนเกินไป
ระหว่างเส้นทางที่มืดมิด และยาวไกลนี้ทั้งสองได้เห็นุ์หน้าตาผสมข้ามเผ่าพันธุ์ประหลาดมากมาย ทั้งตัวเล็กกระจิ๊ดริดและตัวใหญ่โตมโหฬาร ค่อยๆเดินสวนทางไปสู่ทางภพมนุษย์ที่ทั้งสองเข้ามา
“ นี่ถ้าพวกนี้ทั้งหมดสามารถออกไปยังโลกนี้ได้ คือ โลกมนุษย์วิบัติแน่” เ้าวั่งซูเอ่ย
ทางด้านนอกภพมนุษย์บริเวณลานประลองหุบเขาจินลู่ซี ตุ๊กตาหุ่นกระบอกเมื่อหลุดจากมนต์สะกดิญญาของหลิ่งกวาง ก็รุ้ตัวว่าตนนั้นเสียท่าให้องค์ชายั และเมื่อได้สติก็รู้ว่าประตูสู่ภพนั้นถูกผนึกถาวร ก็โมโหเกรี้ยวกราด
“หึหึ ไอเด็กนั่น ที่มันอยู่กับองค์ชายั จริงจริงแล้วมันคือคนจากตระกูลเ้ารึ มันมีง้าวแห่งความตายที่เปิดปิดประตูภพ แต่ว่ามันคนลืมไปว่าข้าคือเ้าภพุ์ ภพุ์คือข้า และข้าก็คือภพุ์ พูดเสร็จตุ๊กตาหุ่นกระบอกก็ท่องเวทย์อะไรบางอย่าง ลูกกะตาเริ่มเหลือก ปากที่น่าเกลียดอยู่แล้วนั่นก็ฉีกกว้างขึ้นพร้อมก้อนพลังบางอย่างสีดำพร้อมวงพลังสีเขียวล้อมรอบก้อนพลัง พุ่งตรงออกมาจากปาก
“แฮ่กๆ!” เสียงหอบของตุ๊กตาหุ่นกระบอกพร้มรอยยิ้มชั่วร้าย พร้อมมือสองมือที่ฉวยคว้าลุกพลังและผลักเข้าทางกระจกที่ถูกปิดไป
“เพล้ง! บึ้ม!” เสียงะเิของปากทางเข้าภพที่เ้าวั่งซูปิดไว้ถูกเปิดออก แนวพลัง และ กระแสลมรุนแรงถูกพัดผ่านผระตูภพนี้ พร้อมแสงสว่างเล็กๆจากที่ไกลๆ แน่นอนทั้งสองฝั่งได้รับแรงกระเทือนนี้
“นั่น แสง และกระแสพลังนี้ ไอ้ตุ๊กตาผีนั่นเปิดประตูภพได้หรือนี่” เ้าวั่งซูเอ่ยเมื่อรับรู้ถึงแรงสั่นะเื
“อืม ไม่แปลก เค้าคือซ่านตงตงซึ่งมีร่างกำเนิดในภพมนุษย์ซึ่งเป็ปรมาจารย์มีอายุมาหลายร้อยปี รวมเข้ากับร่าง ตุ๊กตาหุ่นกระบอกที่เป็เ้าภพุ์ และยังไม่นับดวงิญญามากมายที่ถูกมันดูดกลืนเข้าไป พลังมันช่างน่ากลัว พวกเราเจอศึกใหญ่แบบที่ไม่เคยมาก่อน” ฮวาเฟยฟาเอ่ยพร้อมขาที่ยังรีบก้าวเดินไปด้านหน้าตามดวงประทีป
“นั่นน่าจะเป็ปากทางออก” ฮวาเฟยฟาร้องบอกทุกคน ดวงประทีปอนันตกานลหยุดตรงก่อนปากทางออกสู่ภพุ์ และปรากฏภาพเ้าแม่แห่งจิติญญาขึ้นในดวงประทีป “พวกเ้าจงติดตามแสงแห่งอนันตกานนี้ไปทางเหนือและหา “หัวใจบริสุทธิ์แห่งุ์ให้เจอ” สิ่งนั้นคือคำตอบทั้งหมดที่เ้าตามหาของภพุ์” ภาพพระแม่แห่งจิติญญาหายไปกลายเป็ดวงประทีปอนันตกาลลอยขึ้นและริ่มชี้ทางสู่จุดหมาย
“ข้าเข้าใจละ แสดงว่า ดวงประทีปอนันตกานต์ที่เสด็จพ่อประทานให้ข้ามาคือเศษเสี้ยวของพระแม่แห่งจิติญญา ถึงได้มีแสงที่สส่างและชี้ทางในยามที่ทุกอย่างมืดมิด พวกเรามีสายสัมพันธ์และขะตาเชื่อมโยงถึงกันนี่เองพวกเราถึงได้มีโอกาสพบกันเมื่อครั้งไปภพพืชพันธุ์” เฟยฟาเล่า
“ช่างน่าอัศจรรย์ที่พวกเรามีพระแม่แห่งจิติญญาที่รู้และกำเนิดทุกอย่างติดตัว เ้านี่ช่างพิเศษเฟยเฟย ข้าก็เลยโชคดีไปด้วย ว่าแต่หัวใจบริสุทธิ์ที่ว่าคืออะไร” เ้าวั่งซูพูดหยอกพร้อมตบบ่าฮวาเฟยฟา
“ข้าก็ไม่แน่ใจ พวกเราต้องตามประทีปอนันตกานลไปค้นหาให้เจอ พวกเราก็จะได้คำตอบตรงนั้น” ฮวาเฟยฟาเอ่ย
“เดี๋ยวเฟยเฟย” เ้าวั่งซูปัดผายมือในอากาสเสื้อขนหมาป่าดำปรากฏ และนำมาห่มให้เฟยฟา
“เ้าให้เสื้อคลุมข้าแล้วเ้าจะห่มอะไร นี่เสื้อคลุมของข้ามันสะท้อนไอพยาบาทได้ดีพอกับเสื้อเกล็ดัเ้า ห่มไว้” เ้าวั่งซูคลุมเสื้อให้ฮวาเฟยฟาพร้อมยิ้มอ่อนโยน ฮวาเฟยฟาประณีตวางบนมือใหญ่นิ้วเรียวงามนั้น และแอบอมยิ้ม
“ไปพวกเรารีบไปกันเถอะ ข้ามีลางสังหรว่าภพมนุษย์อาจจะรอไม่ได้นานขนาดนั้น” ฮวาเฟยฟาและสหายทั้งสามพยักหน้าและเหาะลอยขึ้นเหนือฟ้าที่เต็มไปด้วยม่านหมอกเมื่อเข้าสู่เขตภพุ์ ติดตามแสงจากดวงประทีปอนันตกาลมุ่งตรงสู่ทางเหนือของตัวภพ
