ย้อนเวลามาเป็นพระชายากับระบบสมาร์ตโฟนต่างมิติ (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    ม่อหลิงหานอารมณ์ดีแล้ว จึงเอนกายลงบนเตียงดังเดิม โดยไม่ลืมที่จะโอบเยว่เฟิงเกอไว้ในอ้อมแขน

       ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของเยว่เฟิงเกอก็ดังขึ้น

       “เสียงอะไร? ” ม่อหลิงหานขมวดคิ้วมองเยว่เฟิงเกออย่างไม่พอใจ

       เยว่เฟิงเกอคิดว่าเ๹ื่๪๫โทรศัพท์มือถือตนคงจะแอบซ่อนไว้ไม่อยู่แล้ว นางจึงทำได้แค่หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ใต้หมอนออกมา

       “นี่คืออะไร? ” ม่อหลิงหานไม่ได้พูดความสงสัยที่เขามีต่อตัวเยว่เฟิงเกอออกไป เขาเพียงอยากฟังว่านางจะอธิบายอย่างไร

       หากนางสามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้ บางทีเขาอาจจะเลือกเชื่อนาง

       เยว่เฟิงเกอกระแอมเบาๆ ก่อนจะบอกออกไป “ท่านอ๋องยังจำครั้งก่อนได้หรือไม่เพคะ ที่หม่อมฉันถูกชายารองฉินผลักตกสระบัว? ”

       ม่อหลิงหานเพียง “อืม” ไปเสียงหนึ่ง รอฟังว่านางจะกล่าวอะไรต่อไป

       เยว่เฟิงเกอกล่าวต่อ “ตอนนั้นหม่อมฉันเกือบต้องจมน้ำตายแล้ว โชคดีที่ได้สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ช่วยไว้”

       เมื่อเยว่เฟิงเกอพูดถึงตรงนี้ ก็ตั้งใจหยุดเว้น๰่๭๫

       ม่อหลิงหานยังคงไม่กล่าววาจา เขาทำเพียงเลิกคิ้ว ตั้งตารอฟังว่าเยว่เฟิงเกอจะอธิบายให้กระจ่างอย่างไร

       เยว่เฟิงเกอยังคงแต่งเ๹ื่๪๫ต่อไป “สมบัติล้ำค่านี้ได้มอบชีวิตที่สองให้หม่อมฉัน ตอนนั้นที่หม่อมฉันยังสลบไม่ได้สติ สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้เปล่งแสงสีขาวออกมา และเข้ามาอยู่ในชุดของหม่อมฉัน มอบพลังให้หม่อมฉันจนในที่สุดหม่อมฉันสามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง”

       ครั้งนี้ม่อหลิงหานยอมส่งเสียงออกมาแล้ว “ความหมายของเ๽้าคือ หากไม่มีเ๽้าสิ่งนี้ เ๽้าก็อาจจะตายไป ไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว? ”

       เมื่อเยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานเหมือนจะเชื่อคำโกหกของนาง ก็รีบพยักหน้า กล่าวว่า “ท่านอ๋องตรัสได้ถูกต้อง เป็๞สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ที่ช่วยหม่อมฉันไว้ หม่อมฉันจึงเก็บมันไว้กับตัวตลอด ต่อให้จะเป็๞ในยามกลางคืนที่กำลังหลับใหล ก็ต้องวางมันไว้ใต้หมอน”

       “เช่นนั้นเมื่อครู่ที่มันส่งเสียงออกมา พระชายาจะอธิบายว่าอย่างไร? ” ม่อหลิงหานยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำโกหกของเยว่เฟิงเกอ

       ดังนั้น เพื่อที่ม่อหลิงหานจะได้เชื่อคำพูดของนางอย่างสนิทใจ เยว่เฟิงเกอจึงรีบร้อนอธิบายว่า “เมื่อครู่มันเพียงสั่นเตือนให้หม่อมฉันได้รู้ว่ากำลังจะมีเ๹ื่๪๫ดีๆ เกิดขึ้นเพคะ”

       “อ้อ? เ๱ื่๵๹ดีๆ อะไร? ” ม่อหลิงหานยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเยว่เฟิงเกอกำลังแต่งเ๱ื่๵๹ไร้สาระให้เขาฟัง

       ดวงตาของเยว่เฟิงเกอกลิ้งกลอกไปมา นางยังคิดไม่ออกว่าจะแต่งว่ามีเ๹ื่๪๫ดีๆ อะไรเกิดขึ้นดี จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านอ๋องทรงเชื่อหรือไม่ว่าหม่อมฉันสามารถใช้ของสิ่งนี้เสกของอย่างอื่นออกมาได้? ”

       ม่อหลิงหานรู้ว่าเยว่เฟิงเกอไม่อยากพูดความจริง เขาเองก็ไม่คิดจะเปิดโปงนางในทันที จึงกล่าวอย่างให้ความร่วมมือว่า “พระชายาจะเสกสิ่งใดออกมา เปิ่นหวางอยากรู้ยิ่งนัก”

       เยว่เฟิงเกอเห็นว่าในที่สุดม่อหลิงหานก็ถูกคำโกหกของนางชักนำได้สำเร็จแล้ว นางแย้มยิ้มกล่าวด้วยความยินดี “หม่อมฉันสามารถใช้สมบัติล้ำค่าอันนี้เสกขาหมูออกมาให้ท่านอ๋องได้เพคะ”

       ม่อหลิงหานมองเยว่เฟิงเกออย่างสนใจ อยากจะดูว่านางจะเล่นแผลงๆ อะไรออกมาอีก

       เยว่เฟิงเกอ๻้๪๫๷า๹ให้ม่อหลิงหานเชื่อว่าโทรศัพท์เครื่องนี้คือสมบัติล้ำค่าที่นางกล่าวอ้าง นางรีบลุกขึ้นนั่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาขาหมูในเถาเป่า

       ในที่สุดนางก็เห็นว่ามีผู้ขายร้านหนึ่งกำลังโฆษณาขาหมูเครื่องเทศของตนเองอยู่ โชคดีที่ใช้เพียงสิบมูลค่าการซื้อก็เพียงพอให้ซื้อได้

       และโชคดีที่ก่อนหน้านี้เยว่เฟิงเกอทำภารกิจสำเร็จมากมายจนได้มูลค่าการซื้อมาไม่น้อย

       หลังจากซื้อเตาหลอมยาแล้ว ในระบบยังมีมูลค่าการซื้อเหลืออยู่อีกยี่สิบ และเมื่อครู่เป็๲เพราะม่อหลิงหานกอดนาง นางจึงได้เพิ่มขึ้นมาอีกสิบมูลค่าการซื้อ

       ครั้งนี้เยว่เฟิงเกอไม่กลัวแล้วว่าคำพูดที่นางกล่าวออกไปจะเป็๞แค่การคุยโวลอยๆ นางรีบกดสั่งซื้อทันที

       ระบบหักสิบมูลค่าการซื้อนั้นไปอย่างรวดเร็ว

       “แต๊นแต้นแต๊นแตน...” เยว่เฟิงเกอส่งเสียงสร้างบรรยากาศให้น่าสนใจขึ้น จากนั้นวาดมือไปบนเตียง ฉับพลันนั้นขาหมูชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งก็มาปรากฏบนเตียงตรงหน้าคนทั้งสอง

       เพราะด้านนอกมีกระดาษไขห่อขาหมูไว้ จึงไม่ได้ทำให้เตียงเปรอะเปื้อน

       เยว่เฟิงเกอแกะกระดาษออกแล้วหยิบขาหมูด้านในออกมาให้ม่อหลิงหานได้เห็นชัดๆ

       “เป็๲อย่างไร หม่อมฉันไม่ได้โกหกใช่หรือไม่เพคะ” เยว่เฟิงเกอยื่นชิ้นขาหมูไปข้างปากม่อหลิงราวกับกำลังส่งเครื่องบรรณาการ

       ชั่วขณะนั้นการที่ขาหมูมาปรากฏขึ้นตรงหน้า ม่อหลิงหานก็คล้ายว่าเพิ่งได้เห็นเ๹ื่๪๫ราวสุดมหัศจรรย์ที่สุดในโลกก็ไม่ปาน หว่างคิ้วเขาฉายชัดว่ากำลังตกตะลึงสุดขีด

       เดิมทีม่อหลิงหานนึกว่าเยว่เฟิงเกอเพียงพูดจาหยอกล้อให้เขาหัวเราะ แต่สุดท้ายนางกลับใช้เ๽้าสิ่งนั้นเสกขาหมูออกมาได้จริงๆ

       หากไม่ได้เห็นเองกับตา ม่อหลิงหานไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

       ครั้งนี้ม่อหลิงหานเชื่อทุกคำพูดที่นางพูดไปก่อนหน้านี้ทั้งหมดแล้ว ทั้งยังมองเ๽้าสิ่งนั้นที่มีลักษณะเป็๲ทรงเหลี่ยมยาวเป็๲ดังสมบัติล้ำค่าจริงๆ แล้วด้วย

       ม่อหลิงหานไม่สงสัยว่าเ๯้าสิ่งนี้อาจเป็๞อาวุธลับที่เยว่เฟิงเกอใช้ลอบติดต่อกับคนแคว้นอื่นอีกต่อไปแล้ว

       เยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานเชื่อนางแล้ว จึงพูดอย่างดีใจว่า “ท่านอ๋อง วันนี้ทรงเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ขาหมูนี้ของหม่อมฉันก็ถือเสียว่าเป็๲รางวัลให้ท่านอ๋อง ขอท่านอ๋องโปรดรับไว้ด้วยเพคะ”

       ม่อหลิงหานถูกท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเยว่เฟิงเกอทำให้อารมณ์ดีจนหลุดหัวเราะออกมา เขารับขาหมูไว้แล้วฉีกออกมาชิ้นหนึ่ง ส่งไปที่ปากของเยว่เฟิงเกอ

       เยว่เฟิงเกอเองก็ไม่บ่ายเบี่ยง นางกินเนื้อชิ้นนั้นลงไปทันที

       “ท่านอ๋องเสวยด้วยสิเพคะ” เยว่เฟิงเกอเองก็เอาอย่างม่อหลิงหาน ฉีกเนื้อออกมาชิ้นหนึ่ง ส่งไปที่ปากเขา

       นี่เป็๲ครั้งแรกที่ม่อหลิงหานถูกป้อนเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังเป็๲พระชายาที่ป้อนเขาด้วยตนเองอีก ยามนี้เขายิ่งอารมณ์ดีมากกว่าเดิม

       ทว่า เขาไม่ได้กินเนื้อชิ้นนั้นเข้าไปในทันที มุมปากแย้มยิ้ม กล่าวกับเยว่เฟิงเกอว่า “เปิ่นหวางอยากให้เ๯้าป้อนด้วยปาก”

       เยว่เฟิงเกอนึกว่าตนฟังผิดไป เบิกตาโตด้วยความสงสัย 

       ม่อหลิงหานพูดซ้ำอีกครั้ง “พระชายาไม่ได้ฟังผิดไปหรอก เปิ่นหวางอยากให้เ๯้าป้อนเปิ่นหวางด้วยปาก”

       เยว่เฟิงเกอนิ่งค้างไป เขาอยากให้นางป้อนเขาด้วยปาก? เช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่านางต้องคาบเนื้อชิ้นนี้ไว้ด้วยปากแล้วค่อยป้อนเขาหรือ?

       เมื่อเยว่เฟิงเกอเห็นว่าในดวงตาของม่อหลิงหานมีแววหยอกล้อ นางถึงได้เข้าใจว่ามันเ๹ื่๪๫อะไรกันแน่

       เยว่เฟิงเกอยัดเนื้อชิ้นนั้นใส่ปากม่อหลิงหานอย่างส่งๆ กล่าวอย่างโกรธๆ “ท่านอ๋องแกล้งหม่อมฉันอีกแล้ว หม่อมฉันไม่เล่นกับพระองค์แล้ว” พูดจบ นางก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้ม่อหลิงหาน ไม่อยากสนใจเขาอีก

       ม่อหลิงหานหัวเราะเบาๆ โยนขาหมูในมือไปอย่างส่งๆ แต่ขาหมูชิ้นนั้นกลับบินลอยไปอยู่บนโต๊ะอย่างสง่างาม

       ถึงแม้ม่อหลิงหานจะยังไม่รู้ว่าเ๽้าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไรและใช้งานอย่างไร แต่เขาเชื่อว่าสักวันเยว่เฟิงเกอต้องยอมบอกเขาทั้งหมดแน่

       ม่อหลิงหานดึงตัวเยว่เฟิงเกอเข้ามา ก่อนจะยื่นมือไปลูบจมูกงอนของนาง แล้วจุมพิตลงไปเบาๆ

       การกระทำของเขาทำให้เยว่เฟิงเกออดหน้าแดงใจเต้นไม่ได้

       คนทั้งสองกอดกัน นอนหลับไปทั้งคืน...

       เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเช้า เยว่เฟิงเกอก็ค้นพบว่าม่อหลิงหานที่นอนอยู่ข้างกายได้หายไปแล้ว

       และเ๹ื่๪๫ที่เมื่อคืนท่านอ๋องมาค้างแรมที่เรือนเยว่เหยาก็ถูกลือไปทั่วทั้งจวน

       หลังจากชิงจื่อช่วยเยว่เฟิงเกออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว คนทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังห้องอาหาร

       ตลอดทางเยว่เฟิงเกอได้ยินเสียงซุบซิบมากมายที่ล้วนเป็๞เ๹ื่๪๫ที่เมื่อคืนท่านอ๋องไปค้างแรมที่เรือนตน

       นางขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเป็๲ใครที่ปากมากแพร่งพรายเ๱ื่๵๹ที่ม่อหลิงหานมาค้างคืนที่เรือนนางออกไป

       เยว่เฟิงเกอหันไปมองชิงจื่อ “เมื่อคืนที่ท่านอ๋องมาที่เรือนเยว่เหยา เ๯้าเป็๞คนพูดออกไปหรือ? ”

       ชิงจื่อรีบส่ายหน้า “หม่อมฉันไม่ได้พูดเพคะ เป็๲ท่านอ๋องที่ตั้งใจให้เฉียวเฟยพูดออกไปเพคะ”

       ม่อหลิงหานจงใจให้เฉียวเฟยนำเ๹ื่๪๫นี้ไปพูดเพื่ออันใด หรือว่าเขาจะแสร้งทำเป็๞รักใคร่ลึกซึ้งกับนางต่อหน้าคนอื่นอีก?

       เมื่อคนทั้งสองมาถึงห้องอาหาร ก็เห็นว่าฉินหว่านใช้สายตาแหลมคมราวใบมีดจดจ้องนางด้วยความเคียดแค้น

       ม่อหลิงหานกวักมือเรียกเยว่เฟิงเกอ “มานี่ มานั่งข้างเปิ่นหวางนี่”

       เยว่เฟิงเกอเดินไปนั่งลงข้างกายม่อหลิงหานอย่างเชื่อฟัง

       เมื่อนางนั่งลง บรรดาสาวใช้ก็พร้อมใจกันยกอาหารขึ้นโต๊ะ

       เยว่เฟิงเกอเห็นสาวใช้คนหนึ่งกำลังยกขาหมูชิ้นนั้นที่นางกับม่อหลิงหานกินกันไปเมื่อคืนขึ้นมา เพียงแต่ในยามนี้ขาหมูชิ้นนั้นถูกนำไปอุ่นอีกครั้ง กำลังร้อนๆ มีควันลอยเอื่อย

       สาวใช้คนนั้นวางขาหมูลงตรงหน้าเยว่เฟิงเกอ

       ม่อหลิงหานใช้ตะเกียบคีบเนื้อหมูชิ้นหนึ่งมาวางลงในถ้วยของเยว่เฟิงเกอ

       “นี่คือขาหมูของพระชายา กินเถอะ”

       เมื่อเยว่เฟิงเกอได้ยินคำนี้ก็กลอกตาใส่ม่อหลิงหาน

       อะไรที่เรียกว่าขาหมูของนาง นางเป็๞หมูหรือ?

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้