“เ้าทำให้ชีวิตของข้าพังพินาศ หัวใจแตกสลาย อับอายขายหน้าข้าขอจองล้างจองผลาญเ้าไปตลอด ไม่ว่าชาติภพไหน เจียวลู่“เปรี้ยงๆ!” หลายพันปีต่อมา
แคว้นเป่ยหลิว เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก ตามมาด้วยโรคระบาดมีชาวบ้านล้มตายเป็จำนวนมาก ผู้คนหนีความตายจากโรคระบาด พากันอพยพไปอยู่ยังแคว้นเหอซาน ที่แคว้นนี้กลับแห้งแล้งฝนไม่ตก มานานหลายปีแล้ว
ผู้คนต่างอพยพหนีภัยแล้งนี้ ไปยังแคว้นเป่ยไห่ ที่มีทะเลและแคว้นหยางเจียง
ครอบครัวหลัว ทั้งเจ็ดชีวิตก็เป็หนึ่งในจำนวนผู้อพยพทั้งหมด เดินทางรอนแรมมาไกล นานถึงสองเดือนจนทุกคนเริ่ม มีร่างกายย่ำแย่ โดยเฉพาะเด็กหญิงวัยหกขวบ ที่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง
“ ท่านพี่ ลูกเหนื่อยและหมดแรงแล้ว เราหาที่พักกันแถวนี้กันเถอะ”หลัวหลินหญิงวัยยี่สิบแปดปีบอกกับผู้เป็สามีหลังจากเห็นลูกสาวแม้จะอยู่บนหลังพ่อแต่ก็ดูเหนื่อยและอ่อนแรงเป็อย่างมาก
“ น้องหญิงรอไปถึงเขาลูกหน้าก่อนตรงนี้กลัวว่าตรงนี้จะอันตราย อยู่ห่างไกลกับผู้เดินร่วมเดินทาง กลัวจะมีโจรป่ามาปล้นพวกเราจะเดือดร้อนเอา”หลัวฟานชายหนุ่มวัยสามสิบปี พูดตอบภรรยา
ครอบครัวหลัวเดินทางมากันจนมาถึงูเาลูกใหญ่จึงได้พากันแวะพัก
“หลัวฟานเอาลูกของเ้า นอนพักที่ต้นไม้ต้นใหญ่นั่นเถอะดูเหมือนจะมีใบและกิ่งก้านน่าจะให้ร่มเงาได้ส่วนพวกเราก็ช่วยกันหาอาหาร”หลัวชุนชายวัยห้าสิบปี บอกลูกชายให้นำหลานตัวน้อยไปนอนพักอยู่ใต้ต้นไม้
“ ป่านี้ก็ดูแห้งแล้งยิ่งนัก พวกเราจะหาอาหารกันได้หรือไม่ น้ำที่มีมาก็จะหมดลงแล้ว”หลัวเพ่ยผู้เป็ย่าวัยสี่สิบแปดปี ที่พูดด้วยความอ่อนล้าและเหนื่อย
“ ท่านแม่กับท่านย่านั่งพักอยู่กับน้องเล็กนี้เถอะ เดี๋ยวข้าและท่านปู่ท่านพ่อจะออกไปหาอาหารเอง”หลัวจิน เด็กชายวัยสิบขวบพูดขึ้น
“ ข้าก็จะไปด้วยเหมือนกันพี่ใหญ่ท่านปู่ท่านพ่อ”หลิวเจียเด็กชายวัยแปดขวบลูกคนกลาง
เมื่อตกลงกันแล้วผู้หญิงทั้งสองคน ถูกให้นั่งพักกับเด็กน้อยวัยหกขวบ มีนามว่าชิ่วอิง
“หลัวหลิน เ้าพักอยู่กับลูกตรงนี้ก่อน แม่จะเดินไปดูใกล้ๆนี้เหมือนเห็นเถาวัลย์ที่แห้งตายอยู่ มันอาจจะเป็เถาของหัวมันก็ได้”
“ เ้าค่ะท่านแม่ ถ้าดูแล้วว่าไม่ไกลข้าก็จะทิ้งเด็กน้อยไว้ที่นี่แล้วไปช่วยท่านขุด”หลัวหลินพูดแล้วขยับลูกน้อยเข้าไปนอนตรงที่แสงแดดส่องได้น้อยที่สุด
“ แปลกจังทำไมต้นนี้ถึงมีใบอยู่ ทั้งที่ต้นอื่นในบริเวณนี้แม้แต่กิ่งก็แห้งจนหงิกงอไปหมดแล้ว นอนพักอยู่ตรงนี้นะแม่จะไปดูท่านย่าของเ้าก่อน”หลัวหลินพูดกับลูกแล้วก็เดินไปหาแม่สามี
เด็กน้อย นอนพักอยู่ใต้ต้นไม้แล้วก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และฝันไปถึงดินแดนไม่เคยรู้จัก
ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและมีสายฝนที่ตกกระหน่ำมาจนแทบจะมองไม่เห็นสิ่งใด ร่างของกระต่ายน้อยสีขาวที่เปียกปอน กำลังวิ่งหนีบางอย่างถูกสายฟ้าฟาดลงมาจนร่างกระเด็นตกหน้าผาและหายไป
และอีกมุมในฝันนั้นยังเห็นหญิงสาวผู้หนึ่ง ใช้ชีวิตอยู่ที่แห่งหนึ่งที่เป็โลกทันสมัย เป็เมืองศรีวิไลมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ตัวหญิงสาวโตมาจากสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าเรียนจนถึงมอปลาย ก็ถูกส่งตัวไปอยู่บนดอยเพื่อไปช่วยสอนหนังสือเด็กชาวเขา
เพราะอาสาคนที่เคยสอนประจำล้มป่วยลง นางไปสอนอยู่หนึ่งปี อาทิตย์นี้มีวันหยุดพักติดต่อกันหลายวัน และอีกไม่กี่วันก็จะนางได้กลับไปอยู่ในเมืองแล้ว มีเพื่อนที่ร่วมเป็อาสาด้วยกันชวนไปเที่ยวน้ำตก นางเห็นว่าอากาศร้อนก็เลยตามไปด้วย
น้ำตกที่สูงชัน และมีหลายชั้นพวกนางเดินมาจากที่สูง มีหลายคนชะโงกดูเบื้องล่างว่ามีอีกกี่ชั้นและนั่นทำให้นางตกลงมาจากน้ำตกที่เหมือนมีแรงผลักดันจากด้านหลัง หัวกระแทกกับหินเบื้องล่างและเสียชีวิตทันที
เด็กน้อยลืมตาขึ้น“ แปลกจังทำไมถึงรู้สึกปวดหัวหรือว่าเราเป็ผู้หญิงคนนั้นและความรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกระทำอย่างนั้นแหละ”
“ชิ่วอิงเ้าเป็อย่างไรบ้างลูก ดูสิเหงื่อไหลเต็มใบใบหน้าเลย”หลัวหลินพูดพร้อมกับ ใช้ผ้าซับเหงื่อให้ลูก นางเป็ห่วงเลยเดินกลับมาดูลูกน้อย
“ท่านแม่!”ชิ่วกอดท่านแม่เอาไว้แน่น
“ นั่นมันแค่ความฝันไม่ใช่ข้า เรายังมีท่านแม่ท่านพ่อปู่ย่าพี่ชายหญิงผู้นั้น ไม่ใช่ข้า”
“เ้าเป็อะไรหรือชิ่วอิง กอดแม่เสียแน่นเลย เ้าตื่นแล้วก็นั่งพักตรงนี้แหละอย่าออกไปไหนแม่จะเดินไปช่วยย่าของเ้าขุดหัวมันก่อน เย็นนี้เราจะได้มีหัวมันเผากินกัน”
ชิ่วอิงมองท่านแม่เดินไปหาท่านย่า ที่หาหัวมันอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนละอุที่เหมือนจะแผดเผาทุกอย่างบนเขาลูกนี้
“ เอ๊ะ! ทำไมข้างต้นไม้นี้ มีก้อนหินสองก้อนเหมือนมันจะถูกฝังไว้ แล้วข้ามองเห็นมันได้ยังไงกันในเมื่อมันอยู่ใต้ดิน หรือจะเป็ภาพหลอกกัน”
“ ไม่ได้ต้องหาอะไรมาขุดดู ว่าเป็ภาพลวงตาหรือไม่”ชิ่วอิงไม่ได้ สังเกตตัวเองว่าความนึกคิดของนาง ไม่ใช่เด็กน้อยวัยหกขวบปะปนมาโดยไม่รู้สึกตัว
“ มีจริงด้วยก้อนหินสีเหลืองแต่แปลกมันเหมือนมีอะไรปกคลุมอยู่ ยังมีอีกก้อนหนึ่งสีแดง อาจจะเป็ของมีค่าขุดมาเก็บไว้ก่อน”
“ เอ๊ะ! พอเอาหินสองก้อนนี้ออกมาจากใต้ดินทำไมใบไม้ที่อยู่บนต้นถึงร่วงลงมาหมดล่ะ แถมต้นมันก็ดูเหี่ยวแห้งเหมือนกับต้นอื่นหรือจะเป็เพราะเห็นสองก้อนนี้”
ชิ่วอิงเดิน สำรวจรอบต้นไม้ อย่างละเอียดจึงเห็น เป็ลายเส้นเหมือนใยแมงมุมแขยงซ้ายขวารอบล้อมต้นไม้และรวมกันที่หินก้อนหนึ่ง ใต้ต้นไม้พอหยิบหิินขึ้นมา เส้นใยเ่าั้ก็หายไป พอวางก็มีเส้นใยเหมือนเดิม
“ มันต้องเป็อะไรสักอย่างหนึ่งแน่ที่อยู่รอบต้นไม้นี้ไว้ เวลาย้ายก้อนหินออก สายใยพวกนั้นหายไปแต่กลับมีกลิ่นหอมขึ้นมาแทน”
ชิ่วอิงเอากระดาษ และก้อนหินสีที่ พี่ใหญ่สะสมไว้เพราะเขาชอบวาดรูป มาลากเส้นตามที่ตามองเห็น ลากเส้นไปมาเหมือนอย่างที่ตาเห็นแล้วเก็บกระดาษ และก้อนหินเดินไปดูท่านแม่กับท่านย่าที่ขุดหาหัวมันอยู่
“ชิ่วอิง หลานย่าเ้าออกมาทำไมตรงนี้แดดมันร้อนเ้าควรจะนอนพักอยู่ที่ต้นไม้โน้น”
“ ข้าไม่เป็อะไรแล้วเ้าค่ะท่านย่า ข้าอยากมาดูพวกท่านขุดหัวมันเ้าค่ะ”
“ นี่อย่างไงย่าเจอหัวหนึ่งแล้ว เย็นนี้เ้าต้องได้กินมันเผาแน่นอน”
“ ท่านย่ากับท่านแม่เ้าค่ะตรงที่ท่านขุดใต้ดินไม่เห็นมีอะไรเลยเ้าค่ะ ต้องขุดข้างหน้าที่ ใกล้กับต้นหญ้าต้นนั้นเ้าค่ะถึงจะมีหัวมันอยู่ใต้ดิน สองหัวอยู่ติดกันเลย”
“ชิ่วอิง เ้าหิวจนตาลายแล้วรึ ถึงมองเห็นใต้ดินว่ามีหัวมันอยู่ เ้าทนอีกหน่อยเดี๋ยวก็ได้หัวมันไปเผากินแล้ว ”
ชิ่วอิง“ข้าเห็นจริงๆ เ้าค่ะไม่อย่างนั้น ท่านแม่และท่านย่าลองขุดดูก็ได้ เ้าค่ะ” เด็กน้อยไม่พูดเปล่าแต่เดินไปนั่งอยู่ตรงที่หัวมันอยู่ หาไม้ทำท่าจะขุด
“ ก็ได้ เดี๋ยวแม่จะขุดให้เ้าดูเองว่าใต้นี้มีหัวมันหรือไม่มี”หลัวหลินขุด เพราะสงสารลูกน้อยใช้มืออันบอบบางและกิ่งไม้เล็กมาขุดดินอยู่ตรงนั้น
“ ท่านแม่!ระวังนะเ้าคะ ใกล้จะถึงหัวมันแล้วเดี๋ยวมีดของท่านแม่จะเจาะเข้าไปที่หัวของมันแล้วจะเสียหายเ้าค่ะ”
“ โอ้?! มีหัวมันจริงด้วย สองหัวอยู่ติดกันเลยชิ่วอิงเ้ามองเห็นได้อย่างไรกัน” เสียงร้องของลูกสะใภ้ทำให้ แม่สามีรีบเดินเข้าไปดู
“ชิ่วอิง เ้ามองเห็นได้จริงๆรึบอกย่ามาสิเ้ามองเห็นั้แ่ตอนไหนแล้วเห็นได้อย่างไร”หลัวเพ่ย รีบถามหลาน สาวด้วยความดีใจ และเป็ห่วงกังวลไปพร้อมกัน
“ ท่านย่าหลังจากข้าหลับแล้วฝันประหลาด ในฝันนั้นเหมือนกับเป็ตัวข้าเองแต่ดูยังไงก็ไม่ใช่ข้าเ้าค่ะ”ชิ่วอิง เล่าให้ทั้งสองคนฟัง
“ จริงนะเ้าคะท่านย่ากับท่านแม่ข้าตื่นมายังเจ็บตรงหัวที่กระแทกกับก้อนหินเลยเ้าค่ะ แล้วก็เริ่มมองเห็นสิ่งที่อยู่ใต้ดิน ั้แ่ตื่นขึ้นมาเลยเริ่มแรกก็ไม่เชื่อข้ามองเห็นก้อนหินสีเขียวกับสีเหลืองที่อยู่ใต้ต้นไม้จึงได้ขุดดูจงพบว่ามีจริงเ้าค่ะ”
“ โอ้!หลานน้อยเ้าเป็ตัวนำโชคของตระกูลหลัวของเราแล้ว เ้ารีบมองเลยหลานน้อยยังเห็นหัวมันอยู่ที่ไหนอีกบ้างจะได้ช่วยกันขุด”
ชิ่งอิง ชี้ให้ขุดอีกสองจุดก็ไม่มีแล้ว ก็ถือว่าเยอะแล้วได้มันหัวใหญ่มาตั้งห้าหัว ทั้งสองคนช่วยกันขนหัวมันมายังต้นไม้ ก่อไฟเผาหัวมันรอคนที่ไปหาอาหารในป่ากลับมา
ทั้งสี่คนกลับมาด้วยใบหน้าสิ้นหวัง และหมดแรงพวกเขาไม่ได้อะไรกลับมาเลย จากที่เดินไปไกลมากข้ามูเา ที่แห้งแล้งไปหลายลูก
“ เอ๊ะ! เหมือนข้าจะได้กลิ่นหอมของหัวมันเผาเลย”หลัวเจียพี่รองของชิ่วอิงร้องขึ้น ด้วยความดีใจใบหน้าที่สิ้นหวังกับมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
“ พวกเ้าโชคดีไปเจอหัวมันที่ไหนมารึ พวกเราเดินหาจนทั่วูเาไม่พบเจอสิ่งใด ที่พอจะเอามากินได้เลย” ชายชราพูดขึ้น ด้วยความดีใจที่เย็นนี้ทุกคนจะมีอาหารตกถึงท้องแล้ว
“ พวกเ้ากลับมากันเหนื่อยๆ นั่งพักกันแล้วกินหัวมันนี่ แล้วข้าจะเล่าเื่ให้พวกเ้าฟัง”ย่าหลัวฟาน แบ่งหัวมันเผาให้ครบทั้งเจ็ดคน แล้วนั่งกินและพร้อมกัน ด้วยความเอร็ดอร่อยอยู่ใต้ต้นไม้
“ ข้าอิ่มแล้วท่านแม่ เล่าให้ข้าฟังได้ไหมว่าไปเจอหัวมันพวกนี้ได้จากตรงไหน พวกเราจะได้ไปช่วยกันขุดหาอีกเอาไว้เป็เสบียงในการเดินทาง โอ้!ดูเหมือนชิ่วอิงเ้าจะอาการดีขึ้นแล้ว”หลัวฟานที่หันหน้ามองลูกต้วน้อย
หลัวเพ่ยเลยเล่าเื่ราวความฝันของหลานสาว ให้ทุกคนได้ฟังอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “ เื่มันเป็อย่างนี้แหละหากพวกเ้าไม่เชื่อ ตอนนี้ยังไม่มืดลองพิสูจน์ดูก็ได้
ท่านปู่ พาทุกคนมายังอีกฟากหนึ่งของต้นไม้ แล้วชิ่วอิงมองหาสิ่งที่อยู่ใต้ดิน
“ ทุกท่านข้าต้องบอกก่อนนะเ้าค่ะ ว่าข้าไม่สามารถมองเข้าไปลึกได้ มองได้แค่ตื่นเขินอยู่ใต้ดินไม่ลึกมากเท่านั้น”
“ แถวนี้ไม่มีอะไรที่กินได้เ้าค่ะ จะมีก็แค่ก้อนหินสีดำก้อนหนึ่งลึกเข้าไปใต้ในดินเล็กน้อย ลองขุดดูก็แล้วกันว่ามีอยู่จริงหรือไม่”
ท่านพ่อของชิ่วอิงเป็คนขุด และเจอเข้ากับก้อนหินสีดำอย่าที่เด็กน้อยพูด
“ หรือว่าต้นไม้ต้นนั้นจะเป็ต้นไม้์ ที่มีคนเล่าขานมานานว่าใครที่ได้ดมกลิ่นของมัน แล้วจะสามารถระลึกชาติได้”ท่านปู่ ที่เอ่ยออกมาแบบนั้นก็เลยเล่าเื่ ต้นไม้์ที่สมัยก่อนเกือบทำาแย่งชิงกันแต่ก็เป็ตำนานมาหลายพันปีแล้ว
“ จะเป็ไปได้ยังไงท่านพ่อ พวกเราอยู่กันตั้งหลายคน ทำไมถึงเป็ลูกเล็กของข้าล่ะที่ฝันถึงเหตุการณ์ แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็เื่ราวของใคร แต่ข้าแปลกใจคือสามารถมองเห็น สิ่งของที่อยู่ใต้ดินได้นี่แหละ”
“ เื่นี้พวกเราทุกคนต้องเก็บเป็ความลับรู้ไหม ไม่งั้นชิ่วอิงจะมีอันตราย”
“ ท่านปู่ถ้าเป็แบบนั้น ข้าต้องตอบแทนต้นไม้ต้นนี้ พรุ่งนี้พวกเราไปหาน้ำ มารดต้นของมันเถอะ”
“ ได้หลานน้อยแล้วพรุ่งนี้ปู่จะพาเ้าไปหาแหล่งน้ำั้แ่เช้า ในเมื่อเ้ามีความสามารถมองเห็นใต้ดินได้ก็ต้องมองเห็นน้ำที่อยู่ใต้ดิน ได้เช่นกัน”
เย็นวันนั้นทุกคนพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่พวกเขาเข้าใจว่าเป็ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์และอาจจะคุ้มครองชีวิตพวกเขาได้