“ข้าควรรู้อะไรหรือ?”
ไป๋เซี่ยเหอยิ้มอย่างสบายอารมณ์ นางไม่ตอบทว่าถามกลับ
ไป๋เหล่าฮูหยินโมโหขึ้นมาทันที นางยกมือขึ้นมาก่อนจะกดลงที่ตำแหน่งหัวใจอย่างแรง
“ไป๋เซี่ยเหอ เ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”
ไป๋เซี่ยเหอก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ก่อนจะเหลือบตามองไป๋เหล่าฮูหยินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสายตาเ็า
“คนเที่ยงธรรมไม่พูดจาอ้อมค้อม ตั๋วเงินหนึ่งล้านตำลึงแลกกับมารดาของข้า”
ไป๋เซี่ยเหอหยิบตั๋วเงินหนึ่งล้านตำลึงออกมาจากแขนเสื้อ ก่อนจะเขย่าเบาๆ กลางอากาศ
ั้แ่รับ่บ่อนพนันว่านก้วน เงินเก็บของนางก็ค่อยๆ งอกเงย
แม้ว่าการควักเงินหนึ่งล้านตำลึงออกมาจะเข้าเนื้ออยู่บ้าง ทว่าหากแลกกับการที่มารดาได้ออกจากจวนสุกลไป๋ก็นับว่าคุ้มค่า
ไป๋เหล่าฮูหยินจ้องมองตั๋วเงินั้แ่ไป๋เซี่ยเหอหยิบมันออกมาแล้ว ลำคอของนางขยับเล็กน้อย นางกลืนน้ำลาย แววตาเต็มไปด้วยความละโมบ
“เ้าพูดจริงหรือ?”
ไป๋เหล่าฮูหยินใจเต้น หากได้ตั๋วเงินหนึ่งล้านตำลึงมา ก็สามารถจ่ายหนี้ได้ หากมีเงินเหลือ นางก็จะยักยอกได้ด้วย
เพียงแต่สาวน้อยอย่างไป๋เซี่ยเหอเอาเงินมาจากที่ใดกัน?
หรือจะเป็ของฮั่วเยี่ยนไหว?
ทุกคนล้วนกล่าวว่าจวนเซ่อเจิ้งอ๋องร่ำรวยไม่แพ้ฮ่องเต้ เห็นได้ชัดว่าคำกล่าวนั้นไม่ได้หลอกลวงเลย เพราะว่าที่พระชายาที่เพิ่งหมั้นหมายกลับมีเงินใช้จ่ายมากมายเช่นนี้แล้ว
น่าเสียดายที่เป็ไป๋เซี่ยเหอ นางแพศยาตัวน้อยไร้มโนธรรม
หากเปลี่ยนเป็ไป๋ซูเหอ...
สีหน้าของไป๋เหล่าฮูหยินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นางไม่กล่าวอะไรเลยเป็เวลานาน ไป๋เซี่ยเหอหมดความอดทน จึงยัดตั๋วเงินเข้าไปในแขนเสื้อ
“ในเมื่อไป๋เหล่าฮูหยินไม่ขาดแคลนเงิน เช่นนั้นก็ช่างเถิด ทำเหมือนว่าวันนี้ข้าไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน”
เมื่อตั๋วเงินถูกเก็บไป ไป๋เหล่าฮูหยินรู้สึกราวกับหัวใจของตนเองถูกควักออกมา ดวงตาของนางแข็งกร้าวก่อนจะตวาดออกมา
“เอาเงินมาให้ข้า!”
เมื่อไป๋เซี่ยเหอเห็นท่าทีของหญิงชราตรงหน้า ในใจก็เกิดความเหยียดหยามขึ้นมา
ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเจอคนเห็นแก่ตัว ทว่านางไม่เคยเจอคนที่เห็นแก่ตัวมากขนาดนี้มาก่อน เมื่อก่อนไป๋เหล่าฮูหยินมีใจลำเอียงให้ไป๋หว่านหนิงเพียงเพราะอีกฝ่ายมีประโยชน์กับจวนสกุลไป๋ ทว่าตอนนี้ไป๋หว่านหนิงแต่งเข้าตำหนักของไท่จื่อในฐานะชายารอง และได้สินสอดน้อยมาก นางก็ทิ้งไป๋หว่านหนิงในชั่วพริบตา
นอกจากนี้ นางยังใช้ชื่อของไป๋เสียนอันในการยักยอกเงิน ทั้งยังเป็หนี้ไปทั่ว แม้ว่าการเป็หนี้มากมายเช่นนี้จะสามารถทำให้สกุลไป๋ถูกปะาเก้าชั่วโคตรได้ ทว่าไป๋เหล่าฮูหยินยังอดไม่ได้ที่จะเป็ห่วงชื่อเสียงและเกียรติยศของตนเอง ขณะที่ปวดศีรษะว่าจะอุดรอยรั่วอย่างไร นางก็ยังคงเสาะหาของล้ำค่ามาอยู่
“เงินน่ะให้ได้ แต่ท่านต้องยอมให้ข้าพาท่านแม่ของข้าออกไปจากที่นี่”
น้ำเสียงของไป๋เซี่ยเหอเ็าขึ้นเรื่อยๆ
“พาไปหรือ? เ้าจะพานางไปไหน?”
ไป๋เซี่ยเหอหยิบตั๋วเงินขึ้นมาถือไว้ในมือ ไป๋เหล่าฮูหยินโมโหจนตัวสั่น ปรารถนาจะพุ่งเข้าไปแย่งมันมา
“เซ่อเจิ้งอ๋องมอบเรือนเล็กๆ ให้ข้าหลังหนึ่ง ข้าจึงคิดจะพาท่านแม่ของข้าย้ายไปอยู่ที่นั่น จะได้ไม่ขวางหูขวางตาพวกท่าน”
เมื่อไป๋เหล่าฮูหยินได้ยินเช่นนั้น ความละโมบในแววตาก็เพิ่มขึ้น ในใจลอบวางแผนบางอย่างทันที
แม้ว่านางจะอยากได้ตั๋วเงินในมือของไป๋เซี่ยเหอ ทว่าตอนนี้นางพยายามสงบสติอารมณ์ลง
“ข้ารับปากไม่ได้ เ้ายังไม่ออกเรือน การย้ายออกจากจวนย่อมเป็ไปไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเื่ที่เ้าจะพานายหญิงของจวนสกุลไป๋ไปด้วย หากเ้าทำเช่นนี้ จะไม่ทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะจวนสกุลไป๋ของข้าหรือ?”
“จวนสกุลไป๋เคยถูกผู้คนหัวเราะเยาะมาตั้งหลายครั้ง ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง จะมีสิ่งใดแย่ไปกว่านี้อีกหรือ?”
เมื่อไป๋เซี่ยเหอเอ่ยเช่นนั้น สีหน้าของไป๋เหล่าฮูหยินก็ดำดิ่งลง
“ไป๋เซี่ยเหอ เ้าอย่าสามหาวให้มันมากเกินไป ข้าคือย่าของเ้านะ”
ไป๋เหล่าฮูหยินเชิดศีรษะขึ้นสูง ก่อนจะมองไป๋เซี่ยเหอด้วยท่าทีหยิ่งผยอง
“เด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือนอย่างเ้า นึกไม่ถึงว่าจะซ่อนเงินเก็บไว้ไม่บอกกล่าว เงินก้อนใหญ่ปานนี้ กล้าเก็บไว้ในมือตนเองได้อย่างไร? ไม่กลัวจะทำหายเลย”
ไป๋เซี่ยเหอไหนเลยจะเดาความคิดของอีกฝ่ายไม่ได้ นางยิ้มออกมาทันที “ข้าไม่กลัว หายแล้วก็ยังมีอีก!”
ไป๋เหล่าฮูหยินโมโหจนแทบกระอักเื
จวนสกุลไป๋ให้กำเนิดสตรีจอมล้างผลาญเช่นนี้ได้อย่างไร?
ขณะเดียวกันนี่ก็ช่วยยืนยัน ‘ความร่ำรวย’ ของจวนเซ่อเจิ้งอ๋องได้มากกว่าเดิม
ความคิดที่จะส่งไป๋ซูเหอเข้าจวนเซ่อเจิ้งอ๋องยิ่งแน่วแน่มากขึ้น แม้นางไม่อาจเป็ว่าที่พระชายา ก็ต้องเป็ชายารอง
จะต้องแบ่งชามน้ำแกงมาให้จงได้!
“เ้าพูดเหลวไหลให้มันน้อยๆ หน่อย มอบเงินมาให้ข้าเก็บ รอให้เ้าออกเรือนก่อน ข้าถึงค่อยคืนให้เ้า”
ไป๋เซี่ยเหอหลุดหัวเราะด้วยความเย้ยหยัน นางเคยเจอคนหน้าด้าน ทว่าไม่เคยเจอคนที่หน้าด้านขนาดนี้มาก่อน
“ไป๋เหล่าฮูหยิน ท่านเห็นข้าเป็คนโง่หรือท่านเป็คนโง่กันแน่?”
ไป๋เหล่าฮูหยินรู้สึกอับอายขึ้นมาทันที หัวใจปวดตุบๆ หากไม่ใช่เพราะตอนนี้ไม้เท้าไม่ได้อยู่ในมือ นางจะต้องทุบตีไป๋เซี่ยเหออย่างโเี้แน่นอน
“เช่นนั้นเ้ากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?”
เด็กสาวตรงหน้าที่ในมือถือตั๋วเงินจำนวนมากกำลังย้ำเตือนไป๋เหล่าฮูหยินว่านางไม่ใช่เศษสวะ และไม่อาจปฏิบัติต่อนางเหมือนในอดีตได้อีกต่อไป
“ท่านคิดว่าระหว่างชื่อเสียงอันจอมปลอมกับชีวิตของท่าน สิ่งใดสำคัญกว่ากัน?”
“ไหนเลยจะจริงจังเช่นนั้น? ขอเพียงข้าจ่ายหนี้ครบ ข้าจะสิ้นชีพได้อย่างไร? เ้าข่มขวัญคนชราอย่างข้าให้มันน้อยๆ หน่อย”
ไป๋เซี่ยเหอใช้สองนิ้วคีบตั๋วเงินไว้ตรงหน้า นางเป่าลมเบาๆ ตั๋วเงินก็โบกสะบัดเกิดเป็เสียงพึ่บพั่บ
“แล้วท่านมีเงินหรือ?”
ไป๋เหล่าฮูหยินโมโหจนต้องหลับตาลง ดูราวกับผีฉิว[1]ที่ไม่มีลมอยู่ข้างใน ใบหน้าดูแก่ชราลงกว่าเดิม
“ข้าตัดสินใจไม่ได้”
ถึงแม้เจียงเยว่เสียนจะสลบไสลอยู่ ทว่านางได้เรือนหลังที่ดีที่สุดในจวน นอกจากนี้ จวนต้องจ่ายเงินเดือนของบ่าวรับใช้เป็จำนวนมาก ทั้งยังต้องดูแลบุตรสาวอย่างไป๋เซี่ยเหออีก
ทุกเดือนในจวนต้องจ่ายเงินไม่รู้มากเพียงใด นางเคยคิดจะไล่สองแม่ลูกออกไปนานแล้ว
ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อนางเอ่ยเื่นี้...
บุตรชายกลับคลุ้มคลั่งราวกับพยัคฆ์พองขนก็ไม่ปาน เขาย้ำเตือนนางหลายครั้งว่าความคิดเช่นนี้ ไม่แม้แต่จะอนุญาตให้คิด
ทว่าไม่เคยบอกเหตุผลกับนางเลย
เื่นี้ทำให้นางงุนงง ทว่าก็ไม่กล้าคิดที่จะไล่สองแม่ลูกออกจากจวนอีก
“เพราะเหตุใด?” ไป๋เซี่ยเหอหยั่งเชิงอย่างระมัดระวัง
“ข้าไม่รู้” ท่าทีของไป๋เหล่าฮูหยินดูจริงจังอย่างยิ่ง ไม่เหมือนคนที่กำลังพูดโกหก “อันเอ๋อร์กำชับข้าว่าไม่อนุญาตให้วางแผนการกับเจียงเยว่เสียน”
เมื่อพูดถึงเจียงเยว่เสียน ไป๋เหล่าฮูหยินก็เกิดโทสะ เพราะนางเป็ต้นเหตุที่ทำให้สองแม่ลูกทะเลาะกันบ่อยครั้ง
การที่นางนอนสลบไสลในตอนนี้ นับได้ว่ากรรมตามสนองแล้ว
ไป๋เหล่าฮูหยินเคยเตือนบุตรชายแล้วว่าอย่าแต่งกับสตรีเช่นนี้ เป็หมอเทวดาแล้วอย่างไร? สุดท้ายก็เป็เพียงผีอายุสั้นเท่านั้น!
“ไป๋เหล่าฮูหยิน ท่านต้องระวังคำพูดด้วย!”
เมื่อไป๋เหล่าฮูหยินสบกับแววตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารที่สามารถพรากิญญาของไป๋เซี่ยเหอ หัวใจก็เต้นผิดจังหวะด้วยความใ นางเบะปาก ทว่าไม่ได้โต้แย้งอะไรอีก
“เ้ามอบตั๋วเงินให้ข้าแลกกับข้อเรียกร้องอื่น รับรองว่าข้าจะทำตามข้อเรียกร้องของเ้าแน่นอน”
หนี้สินจำเป็ต้องจ่าย แม้ว่าไป๋เหล่าฮูหยินจะปากแข็ง ทว่าไม่ใช่คนโง่ มิฉะนั้นจะรีบหาทางวางแผนยัดไป๋ซูเหอเข้าไปในจวนเซ่อเจิ้งอ๋องหรือ?
“ข้ามีเพียงข้อเรียกร้องเดียวเท่านั้น หากทำไม่ได้ก็ช่างเถิด”
ไป๋เซี่ยเหอทำท่าจะเก็บตั๋วเงินเข้าไปในแขนเสื้อ เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวใจของไป๋เหล่าฮูหยินก็ปรารถนาที่จะติดตามตั๋วเงินนั้นเข้าไปในแขนเสื้อของนางด้วย
“รอเดี๋ยว”
ไป๋เหล่าฮูหยินไม่รู้ว่าควรแสดงท่าทีอย่างไรในการเผชิญหน้ากับไป๋เซี่ยเหอ เพราะอีกฝ่ายเข้าหายาก ทั้งยังเอาแน่เอานอนไม่ได้
เมื่อเห็นสีหน้าลังเลและลำบากใจของไป๋เหล่าฮูหยิน ไป๋เซี่ยเหอก็สุมไฟอีกครา นางชักจูงอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง
“ถึงแม้แม่ทัพไป๋จะไม่เต็มใจ แต่หากท่านยอมให้พวกเราจากไป เขาย่อมก่อาเย็นกับท่านด้วยความโกรธเคืองเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ท่านคือมารดาที่ให้กำเนิดเขา เขาจะกล้าตัดความสัมพันธ์กับท่านหรือ?”
ขณะเอ่ยวาจา ั์ตาจิ้งจอกก็ยกสูงขึ้น ดูเฉลียวฉลาดและเ้าเล่ห์ น้ำเสียงของนางฟังดูล่องลอยชวนให้จิตใจสับสน
“นอกจากนี้ การยอมให้พวกเราจากไปเพียงทำให้พวกท่านแม่ลูกขัดแย้งกันระยะหนึ่งเท่านั้น ทว่าหากไม่ยอมทำเช่นนั้น ท่านย่อมไม่มีเงินไปใช้หนี้ เมื่อเื่แพร่กระจายไปถึงในวัง พวกท่านก็ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะขัดแย้งกันเสียแล้ว!”
------------------------
[1] ผีฉิว หมายถึง ลูกบอล