“ใกล้ๆ ละติจูดเหนือ 30 องศา มีเื่ราวประหลาดมากมายเกิดขึ้นสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเอง ก็เป็หนึ่งในนั้น”
ภายในห้องประชุมเล็กๆ เลเซอร์เส้นสีแดงในมือของเหวินกวนจิ่งชี้ไปยังรูปแสดงขอบเขตทะเลที่ฉายอยู่บนโปรเจคเตอร์ก่อนจะหยุดอยู่ที่บริเวณของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
“พวกเราทุกคนน่าจะเคยได้ยินเื่ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดากันมาแล้วมันถูกเรียกว่าเป็หลุมดำของโลก หลายปีที่ผ่านมา ต่างก็มีเรือที่สูญหายคนหายไปอย่างไร้ร่องรอย และเครื่องบินพังเสียหาย...แต่ที่นี่คือสถานที่ที่เราจะดำเนินการครั้งนี้กัน”
เมื่อพูดจบเหวินกวนจิ่งก็กวาดสายตาไปโดยรอบ เพราะว่าน้ำเสียงของเขาดูจริงจังเหล่าผู้คนที่นั่งฟังอยู่จึงเต็มไปด้วยความตั้งใจ
“รุ่นพี่เหวิน เื่แบบนี้ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกันแต่ก็ยังมีเื่ที่ว่า เื่การสูญหายไปเหล่านี้ส่วนมากต่างก็เป็เื่ที่ถูกแต่งขึ้น ความจริงแล้วอัตราการสูญหายที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นไม่ได้มากไปกว่าในทะเลที่อันตรายส่วนอื่นเลย?” คนที่พูดขึ้นมาคือหญิงสาวอีกคนในกลุ่มนอกจากหลินลั่วหรานเธอสวมชุดกระโปรงยาวในแบบของยุคถัง มองดูแล้วให้ความรู้สึกโบราณใบหน้ากลมราวกับไข่ห่าน และดวงตากลมโตน่ารัก เมื่อมองดูรวมๆ แล้ว ก็ดูเป็สาวสวยสง่าแห่งราชวงศ์ถังคนหนึ่ง
ดูเหมือนความสัมพันธ์ของเธอและคนในทีมจะไม่แย่นัก เมื่อได้ยินคำพูดของเธอใบหน้าของเหวินกวนจิ่งก็ประดับรอยยิ้มขึ้นมา
“รุ่นน้องหลี เื่เหล่านี้ต่างก็เป็เื่ที่ทางรัฐบาลออกมาพูดในความจริงสองปีที่ผ่านมา ด้วยระยะเวลาการเริ่มของ ‘ค่ำคืนแห่งเบอร์มิวดา’ ที่เข้ามาใกล้ขึ้นเื่การสูญหายของเธอในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นมากขึ้น ไม่ได้น้อยลงเลย”
ใบหน้ากลมราวกับไข่ห่านของรุ่นน้องหลีเริ่มขึ้นสีแดงขึ้นมาเหมือนเธอจะรู้สึกว่าตัวเองถามคำถามอะไรโง่ๆ ออกมาเสียแล้ว
หลินลั่วหรานก้มหน้าลงไม่ได้พูดอะไร การพูดของรัฐบาลไม่แปลกเลยหากมีอิทธิพลเข้ามามากขนาดนี้ ไม่ว่าจะถามอย่างไรก็คงได้คำตอบแบบเดียวกัน
ถ้าแบบนั้นแล้ว “ค่ำคืนแห่งเบอร์มิวดา” แสดงถึงอะไรกันแน่?
เหวินกวนจิ่งไม่ได้รับรู้ถึงความคิดในใจของเธอและทำตามความคิดของตัวเองต่อไป
“เื่เหล่านี้ต่างกลายเป็เบื้องหน้าของข้อมูล ในความจริงแล้วก้นบึ้งของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ซ่อนสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งเอาไว้เป็สิ่งที่เตรียมเอาไว้เพื่อเหล่าผู้ฝึกศาสตร์โดยเฉพาะ!”
สถานที่ลึกลับ! ดวงตาของหลินลั่วหรานขยับไปมาที่แท้ก็ไม่ได้ต่างจากที่เธอคิดเอาไว้มากนักตอนแรกเหวินกวนจิ่งบอกว่าอะไรที่หามาได้ ก็สามารถเอากลับไปได้เลยหลินลั่วหรานก็รู้สึกสงสัย ที่แท้ “ค่ำคืนแห่งเบอร์มิวดา” ก็คือกิจกรรมค้นหาสมบัติของโลกแห่งการฝึกศาสตร์นั่นเอง
“สถานที่ลึกลับเหรอ?” ดวงตาของรุ่นน้องสาวสกุลหลีเปล่งประกายขึ้น “รุ่นพี่ ด้านในมีสมบัติเหรอคะ?”
เหวินกวนจิ่งพยักหน้าลง “ไม่เพียงแต่สมบัติเท่านั้นด้านในยังมีโอกาสที่จะได้ก้าวเข้าสู่ระดับพื้นฐานอีกด้วย...เหล่าผู้าุโที่สามารถเลื่อนไปถึงระดับพื้นฐานได้ของเราต่างก็ได้รับโอกาสมาจากคืนแห่งเบอร์มิวดาครั้งก่อนหลังจากนั้นถึงได้ฝึกหนักจนพัฒนาขึ้นไปได้”
โอกาสที่จะได้ก้าวเข้าสู่ระดับพื้นฐานอย่างนั้นเหรอ? ไม่เพียงแค่รุ่นน้องสาวสกุลหลี แต่เหล่าผู้ชายในทีมต่างก็พากันหยุดหายใจพวกเขารู้เกี่ยวกับ “ค่ำคืนแห่งเบอร์มิวดา” อยู่แล้ว แต่เื่ที่อาจจะสามารถเลื่อนขึ้นไปสู่ระดับพื้นฐานได้นั้นก็เพิ่งจะเคยได้รับการยืนยันออกมาจากปากของเหวินกวนจิ่งเป็ครั้งแรก
รุ่นน้องสาวสกุลหลีพูดออกมาด้วยความใ “โอกาสที่จะได้เป็ระดับพื้นฐานรุ่นพี่เหวิน หรือว่าจะเป็...?”
หลินลั่วหรานเองก็สนใจขึ้นมาชายแก่ทั้งสองบอกว่าเธออยู่ห่างจากการเติมเต็มระดับฝึกลมปราณอยู่ไม่เท่าไรไม่ใช่เหรอถ้าแบบนั้น ไม่ใช่ว่าในกลุ่มคนนี้เธอจะไม่ได้เป็คนที่เลือกเวลามาได้เหมาะสมที่สุดเหรอ?
เหวินกวนจิ่งเองก็มองมาที่เธออยู่เมื่อเห็นว่าเธอดูสนใจขึ้นมากว่าในตอนแรกปากของเหวินกวนจิ่งก็พูดออกมาอย่างไม่ทันได้รู้ตัว “รุ่นน้องหลีเดาถูกแล้วโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่ระดับพื้นฐาน แน่นอนว่าต้องเป็ยาระดับพื้นฐานอยู่แล้ว”
ยาระดับพื้นฐาน! รุ่นน้องสาวสกุลหลียกมือขึ้นปิดปากความดีใจที่ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอไม่อาจจะปกปิดได้มิด
แต่หลินลั่วหรานกับรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเธอคิดว่าโอกาสที่น่าสนใจนั่นจะเป็วิธีการเวทอะไรสักอย่าง ที่แท้ก็เป็ยานี่เองพูดถึงแล้ว ทำไมคนพวกนี้ถึงได้ดูกระตือรือร้นขึ้นมา ยาระดับพื้นฐานพวกนี้ไม่ใช่ว่าเป็ของที่หาได้ทั่วไปอย่างในนิยายเหรอ?
“ยาระดับพื้นฐานทำขึ้นมายากมากเลยเหรอ?” หลินลั่วหรานขมวดคิ้วเข้าหากันเธอตั้งใจเอาไว้ว่า จะใช้สมุนไพรที่เธอปลูกขึ้นมาในพื้นที่ลึกลับในการทำกิจการยาที่ยิ่งใหญ่หลังจากนี้นะ!
ทุกคนต่างใช้สายตาที่ใช้มองคนโง่เขลามองมาทางเธอเหวินกวนจิ่งไอออกมาอ้อมแอ้ม “รุ่นพี่หลิน ั้แ่ที่พลังธรรมชาติปั่นป่วนยาวิเศษส่วนมากก็สูญสิ้นไป อีกครั้งยังเกิดตำหนิขึ้นในส่วนของฤทธิ์ยาต่างๆการทำยาพื้นบ้านของยาระดับพื้นฐานเองก็หายไปด้วย หากจะทำยาระดับพื้นฐานล่ะก็ดูเหมือนว่าจะเป็เพียงเื่เพ้อฝันแล้ว...”
ในโลกของการฝึกศาสตร์หากพูดกันตามจริงแล้วนอกจากความสัมพันธ์ทางเครือญาติหรือในศิษย์ครูในสำนักที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้แล้วต่างก็จัดลำดับตามความสามารถของแต่ละคนทั้งนั้น
คำเรียก “รุ่นพี่” ของเหวินกวนจิ่งเป็อีกเหตุผลที่ทำให้ผู้คนต่างก็ไม่กล้าเข้าใกล้หลินลั่วหราน หลินลั่วหรานไม่ชินนักแต่ก็ยังคงเรียกต่อไป “รุ่นพี่เหวินเราต่างก็เรียกกันและกันแล้วกันนะ...การทำยาพื้นบ้านของยาระดับพื้นฐานหายไปเหรอมันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ?”
“นี่ก็เป็อีกเื่หนึ่งในโลกของการฝึกศาสตร์ หากว่ารุ่นพี่หลินสนใจหลังจากนี้ผมจะเล่าให้ฟัง เป็ไง?”
ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนสนใจต่างเพ่งเล็งไปยังสถานที่ลึกลับของเบอร์มิวดาหลินลั่วหรานใช่ว่าจะไม่รู้อะไร ในเมื่อเหวินกวนจิ่งไม่ได้คิดจะปิดบังเธอจะเล่าตอนนี้หรือตอนหน้าก็ไม่ได้ต่างกันแต่ว่าการที่เหวินกวนจิ่งยังคงดึงดันเรียกเธอว่ารุ่นพี่ต่อไปนั้นช่างดื้อด้านเสียจริง! ถ้าหากว่าสามารถหาวิธีการทำยาได้พบหลินลั่วหรานก็ไม่ได้กังวลอะไรถึงตัวยาที่เหวินกวนจิ่งพูดถึงแล้ว...
“รุ่นพี่เหวิน ถ้าในนั้นมีโอกาสที่จะพบยาระดับพื้นฐานทำไมเราไม่เลือกคนเข้าไปเยอะหน่อยล่ะ?”
หลินลั่วหรานคิดถึงเื่นี้มาั้แ่แรกแล้วแม้ว่าเหวินกวนจิ่งจะบอกว่าเป็กิจกรรมครั้งสำคัญแต่คนที่มาเข้าร่วมของประเทศจีนต่างก็เป็เด็กๆ ทั้งนั้น อีกทั้งยังรวม “คนนอก” อย่างเธอเข้ามาอีกด้วย รวมๆแล้วก็แค่สิบคนเท่านั้น...นี่น่าจะมีเหตุผลอยู่นะ
เหวินกวนจิ่งฝืนยิ้มขึ้น “สถานที่ลึกลับนั้นแปลกประหลาดมากมีเพียงคนที่ฝึกในระดับฝึกลมปราณเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ด้านในนั้นไม่ได้มีเพียงผู้ฝึกศาสตร์จากจีนเท่านั้นที่ก้าวพัฒนาไปสู่ขั้นพื้นฐานแต่ยังมีคนจากต่างชาติที่สามารถใช้ยาลึกลับได้เช่นกัน...จากการปรึกษาพูดคุยกันแล้วตอนนี้จำนวนคนของประเทศจีนที่สามารถเข้าไปได้ ก็มีเพียงสิบคนเท่านั้น
รุ่นน้องสาวสกุลหลียกมือขึ้นปิดปาก ก่อนจะพูดพร้อมรอยยิ้ม “แบบนั้นก็คงช่วยไม่ได้สินะคะคงมีเพียงแค่พวกเราคงจะต้องเก็บยาออกมาสองเม็ดแล้วล่ะ!”
เหวินกวนจิ่งกดปุ่มปิดจอโปรเจคเตอร์ส่งเสียง “ปี๊บ” ออกมา “รุ่นน้องหลีด้านในของสถานที่ลึกลับพลังรวมกันเป็หนึ่งแผ่นฟ้าดิน นอกจากยาระดับพื้นฐานแล้วก็ยังมีสัตว์ร้ายที่ต้องร่วมมือกันจึงจะล้มมันได้อยู่ไม่อย่างนั้นเราคงจะไม่ต้องใช้คนจำนวนเยอะแบบนี้...แต่ที่อันตรายที่สุดก็ไม่ใช่การตกหลุมพรางของสัตว์ร้าย แต่เป็ผู้ฝึกศาสตร์ที่ไม่ใช่พวกเดียวกับเราต่างหาก!ในตอนที่สถานที่ลึกลับเปิดออกเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนผู้เชี่ยวชาญการฝึกศาสตร์ดับฝึกลมปราณของจีนได้เข้าไปทั้งหมดยี่สิบห้าคนคนที่มีชีวิตกลับมานั้นไม่ถึงห้าคนด้วยซ้ำไป...จากการบุกรุกของทหารต่างชาติเ่าั้ ก็น่าจะรู้ได้นะ ว่าพวกรุ่นก่อนนั้นตายเพราะอะไร!”
ในความคิดของหลินลั่วหรานนั้น เมื่อได้ยินเหวินกวนจิ่งพูดนอกจากนักปราชญ์ที่ตายภายในน้ำมือของสัตว์ร้ายแล้วต่างก็พูดถึงนักปราชญ์ชนชาติอื่นเล่นสกปรกอย่างนั้นเหรอ?
ทำไมฟังแล้วเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่? หลินลั่วหรานก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความรู้สึก เื่ด้านในจะเป็อย่างไรก็ได้แต่ฟังจากปากคนที่ออกมาเท่านั้นเมื่อเห็นสมบัติจิตใจที่ยั่วยุให้ฆ่าคนก็เกิดขึ้นมา...ไม่น่าจะมีเพียงนักปราชญ์ชนชาติอื่นหรือเปล่า?
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องคอยระวังความปลอดภัยของตัวเองเอาไว้เสียแล้ว!
แต่ว่า เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เหวินกวนจิ่งพูดว่าอะไรนะ? ต้องเป็ระดับฝึกลมปราณเท่านั้น จึงจะเข้าไปได้อย่างนั้นเหรอแล้วตอนแรกที่บอกว่าอยากจะเชิญ “อาจารย์” ของเธอมาช่วยล่ะ หรือว่ากำลังหลอกเธออยู่อย่างนั้นเหรอ?
หลินลั่วหรานรู้สึกตัวขึ้นมา ก่อนจะรู้ว่าจิตใจของคนนั้นไม่อาจจะหยั่งรู้ได้จริงๆั้แ่นี้ต่อไป แม้ว่าจะเป็คำพูดของเหวินกวนจิ่งเธอก็ไม่อาจจะเชื่อมันได้ทั้งหมดแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้