หลังจากที่หลินลั่วหรานผลักให้หลีซีเอ๋อร์กระเด็นไปอยู่บนหินที่ยื่นออกมาตัวเธอก็ตกลงไปราวกับว่าวที่เชือกขาดสะบั้น
บางทีโชคในวันนี้ของเธออาจจะถูกใช้ไปจนหมดแล้วแม้ว่าจะตกลงมาสักพักแล้ว แต่ก็ไม่เจอหินยื่นแบบนั้นอีกเลย หรือพูดได้ว่าวิธีที่ใช้ช่วยหลีซีเอ๋อร์นั้น ไม่อาจจะทำซ้ำได้อีกครั้งแล้ว
นี่ก็เป็ครั้งแรกที่เธอพบเจอกับเื่แบบนี้หากจะบอกว่าไม่สับสนหรือตื่นตระหนกก็คงจะเป็การหลอกลวง เวลาค่อยๆผ่านพ้นไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่ตกลงมา เธอได้ลองใช้เวทน้ำไปแล้วพลังธาตุน้ำระหว่างหุบเขาแห่งนี้ มีมากพอให้สร้างกลายเป็เชือกน้ำขึ้นมาได้แต่ว่าบนหน้าผานั้น ก็ไม่มีพื้นที่ที่สามารถปีนป่ายขึ้นไปได้เลยช่างน่ากังวลเสียจริง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากจะเข้าไปหลบในไข่มุกแต่หากเข้าไปหลบในไข่มุก ตัวของเธอก็คงจะไม่เป็อะไรแต่ตัวของไข่มุกเองก็ยังคงตกลงไปอยู่ดี ยังไม่ต้องพูดว่าพื้นที่ลึกลับด้านในนั้นจะพังถล่มลงมาเพราะสาเหตุนี้หรือไม่ แต่ถ้าหากร่วงหล่นลงไปแล้วได้พบว่าด้านล่างมีลักษณะเป็ราวกับแก้วใบหนึ่ง ไม่มีทางออก หุบเหวที่ลึกขนาดนี้หลินลั่วหรานก็น่าจะต้องตายอยู่ด้านในสถานเดียว หากว่าเธอสามารถออกไปได้ก็ดูเหมือนว่าเวลาหนึ่งเดือนคงจะไม่เหลือเท่าไรแล้ว การมาเบอร์มิวดาของเธอครั้งนี้ก็คงจะได้แต่มาเสียเปล่า
การมาเสี่ยงอันตรายครั้งหนึ่งอย่างไรก็ควรจะได้อะไรกลับไปเสียหน่อยใช่ไหม?
ในระหว่างที่กำลังตกลงไปในใจของหลินลั่วหรานก็ภาวนาขึ้นมา ร่างของเธอหายไปจากกลางอากาศไข่มุกเปล่งแสงสลัวๆ เม็ดนั้นตกลงดิ่ง เมื่อหลินลั่วหรานปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งในมือของเธอก็ถือปิ่นปักผมฟีนิกซ์สองหัว ที่เปล่งประกายแสงสีฟ้าอ่อนๆ เอาไว้ในมือ
ปิ่นปักผมฟีนิกซ์นั้นดูไม่ได้สงบนิ่งเหมือนเวลาปกติราวกับมันรู้ตัวว่าในที่สุดมันก็มีประโยชน์ขึ้นมาจึงอดที่จะขยับสั่นไหวอยู่ในมือของหลินลั่วหรานไปไม่ได้
หลินลั่วหรานเคยทดลองพลังของมันมาก่อนแล้วตอนนี้หลินลั่วหรานควบคุมพลังภายในกายขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ส่งเข้าไปยังปิ่นปักผมฟีนิกซ์ แน่นอนว่าในตอนนี้พลังธาตุไฟของหลินลั่วหรานไม่อาจจะทำอะไรได้ ปิ่นปักผมฟีนิกซ์ดูเหมือนว่าจะเป็ธาตุน้ำพลังธาตุไฟไม่น่าจะเข้ากับมันนัก
ปิ่นปักผมฟีนิกซ์สองหัว แบ่งออกเป็สองเมื่อเห็นว่าหลินลั่วหรานไม่หยุดส่งพลังมาให้ แต่กลับแบ่งพลังในร่างออกเป็สองและส่งเข้าไปยังปิ่นปักผมฟีนิกซ์ที่แบ่งออกแล้วเรียบร้อย!
รูปร่างของปิ่นปักผมฟีนิกซ์ทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปก่อนจะกลายเป็ดาบบางสองเล่ม ตัวดาบปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้าอ่อน และท้ายที่สุดมันก็ปรากฏร่างของนกฟีนิกซ์สองตัวออกมาล้อมรอบตัวดาบในตอนที่ฟีนิกซ์ทั้งสองพันเกี่ยวพันกันก็ส่งเสียงใสกังวานออกมา!
ใบหน้าของหลินลั่วหรานประดับไปด้วยความดีใจเธอใช้มือของตัวเองผลักออกไปทางฝั่งตรงข้าม แรงลมจากการผลักส่งผลให้เธอกระแทกเข้ากับหน้าผาฝั่งหนึ่งมือทั้งสองของหลินลั่วหรานกำดาบเอาไว้ มือขวาของเธอออกแรงปักดาบเข้าไปในหน้าผา
ดาบนี้คมเสียยิ่งกว่าอะไร ภายใต้ดาบคมนั้นหน้าผานั้นก็เป็ดั่งเต้าหู้ เสียง “ฟึ่บ” ดังขึ้นตัวดาบก็ปักลงไปในหน้าผา เหลือให้เห็นเพียงส่วนด้ามจับที่เป็รูปฟีนิกซ์สวยงามอยู่ในมือของหลินลั่วหรานแน่นอนว่า เมื่อร่างของเธอกระแทกเข้ากับผา ความทรมานที่หลีซีเอ๋อร์เคยได้รับเธอก็เข้าใจมันในทันที อย่างแรกก็คือโดนแรงกระแทกที่ทำเอามึนงงไปหมด
เมื่อเห็นทางที่พอจะทำได้ในระหว่างที่หลินลั่วหรานกำลังจะดีใจนั้น ใครจะรู้ว่าดาบที่เต็มไปด้วยพลังนี้มันจะคมเกินไป มันสามารถตัดผ่านหินได้ราวกับเต้าหู้ ทั้งยังมีตัวคนทั้งคนแขวนอยู่ก็ยิ่งทำให้มันเป็ดั่งมีดร้อนที่กดลงบนเนยอ่อนแต่ว่าความรวดเร็วในการตกลงก็ช้ากว่าตอนแรกมากทีเดียว แม้ว่าจะใช้แรงไปเท่าไรก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
หลินลั่วหรานไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะร้องไห้ดีเธอสามารถที่จะเลือกใช้แรงจากสองเท้าของเธอปีนป่ายขึ้นไปก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นอย่างไรเธอก็คงต้องตกลงไปกลางอากาศอยู่ดี ไม่ได้ต่างอะไรจากตอนแรกเลย...โอเคโชคดีที่อย่างน้อยเธอก็มีดาบสองเล่ม ก็อาจจะสามารถเปลี่ยนแขนไปได้เรื่อยๆ?
หลินลั่วหรานพยายามคิดเข้าข้างตัวเองเพื่อปลอบประโลมการเปลี่ยนมือไปมานี้ ทำให้เศษหินจากหน้าผาหลุดลงมาเต็มหน้าเต็มตัวของเธอชุดกระโปรงยาวบนตัวก็ถูกเกี่ยวจนขาดไปหมดไม่ต้องพูดถึงร่างกายของเธอที่เต็มไปด้วยาแโดยไม่อาจจะเลี่ยงได้...
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรหลินลั่วหรานรู้สึกว่าพลังในร่างกายถูกใช้ไปจนเกือบหมดแล้วหากไม่ใช่เพราะในสถานที่ลึกลับแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังเธอไม่ต้องดูดซึมด้วยตัวเองเพราะมีไข่มุกช่วย พลังของเธอก็คงจะหมดไปนานแล้วไม่อาจจะรับอะไรแบบนี้ได้ ด้วยความเร็วแบบนี้ หลินลั่วหรานเองก็ยังรับมือได้ยาก...ทันใดนั้นเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังถือดาบอยู่สองเล่มไม่แปลกเลย! เธอรีบจัดการเก็บดาบเล่มหนึ่งเข้าไปไว้ในพื้นที่ลึกลับแล้วตั้งใจอยู่กับดาบเพียงเล่มเดียว เธอน่าจะสามารถรับมือต่อไปได้อีกสักพัก
หลินลั่วหรานปิดปากแน่นเธอรู้สึกว่าเศษฝุ่นนั้นต่างพากันเข้าไปในหูและจมูกของเธอดวงตาก็ไม่อาจจะลืมขึ้นได้อีกต่อไป ไม่อาจจะทนได้อีกในระหว่างที่เธอกำลังคิดว่าจะเข้าไปเสี่ยงหลบในไข่มุกดีไหมก็รู้สึกราวกับสองเท้าของตัวเองััลงกับบางอย่างที่นุ่มๆ
“ตึง” เสียงดังขึ้น ตัวของหลินลั่วหรานร่วงหล่นลงบนพื้นแห่งหนึ่ง
เธอลูบฝุ่นบนใบหน้าออกเพื่อให้ดวงตาเปิดขึ้นมาได้ก่อน เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนทุ่งหญ้าหนาๆ นุ่มๆ แห่งหนึ่งเธอไม่เหลือแรงอีกต่อไปแล้ว แม้แต่ดาบที่ปักอยู่ที่หน้าผาก็ไม่อยากจะลุกไปดึงออกเธอได้แต่นอนอยู่บนพื้นพร้อมกับความรู้สึกชาไปทั่วทั้งร่าง...โดยเฉพาะแขนทั้งสองของเธอมันปวดร้าวเสียจนไม่อาจจะยกขึ้นมาได้
เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจในที่นี้มีเสียงนกและกลิ่นหอมของดอกไม้ เธออยากจะนอนหลับลงไปสักตื่นในใจของหลินลั่วหรานได้แต่คิดอยู่แบบนั้น แต่ว่าเมื่อนอนพักลงไปสักพักเธอก็พยายามดิ้นรนลุกขึ้นมาอีกครั้ง เธอจำได้อย่างชัดเจนเหวินกวนจิ่งบอกเอาไว้ว่าที่นี่อันตรายมากเธอไม่สามารถจะมองที่นี่เป็สวนดอกไม้ให้พักผ่อนหย่อนใจได้!
ร่างของเธอแหลกเหลวร่องรอยาแเต็มไปทั่วทั้งตัว พลังในกายถูกใช้ไปจนหมด...ดีมากเลย แม้แต่เวทง่ายๆยังไม่สามารถร่ายออกมาได้ ในหัวของหลินลั่วหรานนิ่งไป ในพื้นที่ลึกลับของเธอมีชุดที่เตรียมเอาไว้อยู่ แต่ว่าจะให้ไปอาบน้ำในบ่อน้ำแร่ก็คงจะไม่ได้ใช่ไหม?
นั่นต้องเอาไว้ดื่ม เธอไม่อาจจะทำแบบนั้นได้หรอก จะว่าไปแล้ว พวกเ้าหญิงในหนังสือนิยายก็มีพวกบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ที่ด้านในอาจเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาเพื่อทำเงินแล้วยังเอาน้ำในนั้นมาใช้ดื่มในชีวิตประจำวันเพื่อดูแลร่างกายด้วยน้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจากกุ้งปลา พวกเขาดื่มลงไปได้อย่างไรกันนะ?
แย่จังนะ...
หลินลั่วหรานมองไปรอบๆที่นี่คือหุบเขาที่มีหมอกปกคลุมอยู่เบาบางมองดูแล้วพืชพันธุ์ต่างเติบโตออกมาได้ค่อนข้างดี น่าจะมีแหล่งน้ำใช่ไหม? หลินลั่วหรานคิดก่อนจะไปพยายามดึงเอาดาบออกมา ใครจะรู้ว่าในหุบเขานี้จะมีอะไรอยู่บ้างมีอาวุธติดตัวเอาไว้น่าจะดีกว่า
หุบเขาแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่นักภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงหลินลั่วหรานก็สามารถเดินได้รอบโชคดีที่ที่นี่มีเสียงนกกลิ่นดอกไม้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ก็มีบ่อน้ำเล็กๆ อยู่น่าจะขนาดราวๆ สามสิบฟุตแถมยังมีสัตว์ที่มีเขาราวกับกวางกำลังย่างก้าวอย่างงามสง่า มันก้มหน้าลงดื่มน้ำ เมื่อเห็นว่าหลินลั่วหรานขยับเข้ามาใกล้ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก แต่กลับดูเป็มิตรมากทีเดียว
ที่โชคร้ายก็คือ ที่นี่ไม่เพียงแต่มีรูปทรงเป็เหมือนกับแก้วแต่มันคือบีกเกอร์ที่เราใช้กันในวิชาเคมีต่างหาก! ถ้าหากว่าหน้าผานั่นคือตัวแก้วหุบเขานี้ก็คือก้นแก้ว นอกจากจะมีพลังที่จะทำให้พุ่งขึ้นฟ้าไปได้แล้วตอนนี้หลินลั่วหรานก็อย่าได้คิดจะปีนขึ้นไปเลย
แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีทางออกไปเมื่อเห็นว่าบ่อน้ำนั้นใสแจ๋วจนมองลงไปเห็นถึงข้างใต้หุบเขาแห่งนี้ไม่มีแม้แต่สัตว์ตัวใหญ่ๆ พวกกระต่ายหรือกวางเ่าั้ดูไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไรหลินลั่วหรานสกปรกไปทั่วทั้งตัว เมื่อเห็นน้ำใสเ่าั้ก็ยากที่จะอดใจไหวพลังก็ใช้ไปจนหมด เธอเตรียมเสื้อผ้าออกมาจากด้านในพื้นที่ลึกลับก่อนจะทิ้งตัวลงไปในบ่อน้ำ ทำเอาเ้ากวางตัวเมื่อครู่ใจนหนีไป
น้ำในบ่อนั้นเย็นมาก เมื่อปะทะเข้ากับาแบนกายของหลินลั่วหรานด้วยผลของการประคบเย็น ทำให้รอยาแเ่าั้ไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป
เธอจุ่มหน้าลงในบ่อน้ำสบายเสียจนไม่อยากจะเงยหน้าขึ้น
“นี่มันเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่ปีเองทำไมเสื้อผ้าของผู้หญิงถึงเปลี่ยนไปเป็แบบนี้แล้วล่ะ? น่าเกลียดเสียจริง!”
ในระหว่างที่จิตใจของหลินลั่วหรานกำลังผ่อนคลายเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นจาก้าของบ่อน้ำ เธอใเสียจนคว้าดาบมาไว้ในมือก่อนจะโผล่ตัวออกมาจากน้ำแล้วมองขึ้นไปยังร่างที่ลอยอยู่้าบ่อน้ำด้วยสายตานิ่งเรียบ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้