“ชูร่าเป็การอุทิศตัวเพื่อความแข็งแกร่งสูงสุดซึ่งทำให้คนผู้หนึ่งต้องละทิ้งทั้งจิติญญาความเชื่อ และอารมณ์จนหมดสิ้นเพื่อเข้าสู่วิถีแห่ง ‘การเข่นฆ่า’ครั้นมนุษย์ผู้หนึ่งกลายเป็ชูร่า พวกเขาจะได้รับความแข็งแกร่งที่น่าพรั่นพรึงและกลายเป็คนที่โเี้ไร้ความปราณี ทั้งยังสนใจแต่เพียงการนองเื นานมาแล้วที่มนุษย์ทราบเื่ราวเล็กๆน้อยๆ ของชูร่า ดังนั้นตำนานต่างๆในเวลานั้นที่เกี่ยวกับชูร่าจึงถูกเล่าขานดั่งเพียงเื่ราวในจินตนาการเท่านั้นจนกระทั่งหนึ่งหมื่นปีก่อนในตอนที่ชูร่าที่แท้จริงคนแรกปรากฏตัว”
หลิงเฉิน“...”
“ตำนานมีอยู่ว่าเขาหยิบยืมพลังของไอเทมโบราณเพื่อเข้าสู่วิถีแห่ง‘ชูร่า’อย่างไรก็ตามไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าทำไมเขาถึงเต็มใจละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อกลายเป็‘ชูร่า’บางคนกล่าวว่าเป็เพราะความเกลียดชังบางคนก็กล่าวว่าเป็เพียงแค่ความ้าที่จะแข็งแกร่งขึ้นแต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามชูร่าที่แท้จริงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วการปรากฏตัวของเขาบนทวีปหลงลืมนั้นเป็เวลาแค่่สั้นๆเท่านั้นทว่ากลับเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนทวีปหลงลืมไปถึงหนึ่งในสิบ”
“อะ...อะไรนะ!?”หลิงเฉินเผยอาการใอย่างรุนแรง
หลิงเฉินไม่ทราบแน่ชัดว่าผืนแผ่นดินของทวีปหลงลืมกว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหนแต่ความเป็จริงที่ว่ามันสามารถจุผู้เล่นได้หลายล้านคนก็หมายความว่ามันไม่ได้มีขนาดเล็กๆแน่นอน และต้องมีมนุษย์ สัตว์อสูร ปีศาจ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกนับไม่ถ้วนบนผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ผืนนี้นอกจากนี้จำนวนของพวกมันก็ต้องมีนับหลายพันล้าน
อย่างไรตามเพียงแค่ชูร่าหนึ่งตนกลับสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนทวีปหลงลืมไปถึงหนึ่งในสิบช่างเป็จำนวนที่น่าหวาดกลัวจริงๆ
“เ้าได้ยินไม่ผิดหรอกมันคือหนึ่งในสิบจริงๆ จำนวนที่น่ากลัวนี้แทบจะเหลือเชื่อและเป็จำนวนที่ทำให้ใครต่อใครรู้สึกเย็นสันหลังวาบ ใครก็ไม่อาจจินตนาการได้ว่าความน่ากลัวของเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็อย่างไรหากไม่ได้เผชิญมันด้วยตัวเองตามตำนานนั้นที่ไหนก็ตามที่ชูร่าเดินผ่านจะกลายเป็นรกที่มีชีวิต เนื่องจากการปรากฏตัวของชูร่าทวีปหลงลืมจึงกลายเป็ทะเลแห่งซากศพสิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกหวาดกลัวเขานอกจากนี้ในพวกสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่เขาสังหารไปนั้นยังรวมถึงเทพยากรณ์ทั้งสามสิบตนด้วย”
หลิงเฉิน “!!!!!”
เทพยากรณ์สามสิบตนผู้ซึ่งพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าระดับเทพลึกลับ!?
“ทว่าในท้ายที่สุดความแข็งแกร่งและวิถีความรุนแรงของเขาก็นำไปสู่การลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สายฟ้ามากมายฟาดลงมาจากสรวงสรรค์เพื่อหวังทำลายร่างของเขา ในขณะเดียวกันเทพีทั้งสามของเผ่าเทพจันทราก็ได้รวมพลังกับเทพัแห่งความว่างเปล่าเพื่อหยุดยั้งเขากล่าวกันว่าการต่อสู้กินระยะเวลายาวนานถึงสามวันสามคืนพร้อมกับการเสียสละผืนแผ่นดินของทวีปหลงลืมไปหนึ่งในสิบส่วนในที่สุดพวกเขาก็สามารถทำลายไอเทมโบราณซึ่งช่วยให้เขาเข้าสู่วิถีแห่งชูร่าอย่างไรก็ตามถึงแม้พวกเขาจะประสบผลสำเร็จจนกลายเป็ผู้ชนะแต่เทพีทั้งสามก็ได้รับาเ็สาหัสรวมถึงเทพัแห่งความว่างเปล่าที่ต้องพักรักษาตัวอีกหนึ่งพันปีหากพวกเขาไม่มีสายฟ้าของสรวงสรรค์ให้ความช่วยเหลือต่อให้พวกเขาร่วมมือกัน พวกเขาก็ยากที่จะเอาชนะและทำลายชูร่าลงได้”
หลังจากกล่าวเื่นี้จบใบหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านก็ปกคลุมไปด้วยความปวดร้าวขณะจ้องมองไปที่หลิงเฉินด้วยสายตาที่ดูว่างเปล่าทว่าหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกับส่ายหัว ก่อนจะเริ่มกล่าวอีกครั้ง “อ่าข้าแก่ไปมากจริงๆ จนกระทั่งไม่สามารถควบคุมการพูดของตัวเองได้ข้าไม่ควรบอกเื่นี้กับเ้าทวีปหลงลืมพยายามซุกซ่อนประวัติศาสตร์ของเื่นี้มาโดยตลอดและปล่อยให้ผู้คนลืมเลือนเหตุการณ์ที่เลวร้ายของชูร่าซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนในตอนนี้มีผู้คนจำนวนน้อยนิดที่ทราบเื่ราวนี้แม้แต่เผ่าเทพจันทราก็ได้ประกาศแล้วว่าชูร่าจะไม่ปรากฏตัวอีกบนทวีปหลงลืมเ้าไม่ต้องจดจำเื่ราวทั้งหมดที่ข้าเพิ่งกล่าวไปนะ”
หลิงเฉินพยักหน้าอย่างไรก็ตามในเวลานี้คำว่า ‘ชูร่า’ ได้สลักลึกเข้าไปในจิตใจของเขาเรียบร้อยแล้ว
มนุษย์ผู้หนึ่งทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนทวีปหลงลืมไปถึงหนึ่งในสิบมนุษย์ผู้หนึ่งภายใต้การโจมตีของสายฟ้าเหลือคณานับจากสรวงสรรค์ได้ต่อสู้กับเทพัแห่งความว่างเปล่าและเทพีทั้งสามของเผ่าเทพจันทราด้วยตัวคนเดียวช่างเป็ระดับที่โเี้ รุนแรง แข็งแกร่ง และน่าเกรงขามอย่างแท้จริง...
นาม ‘ชูร่า’นั้นหลิงเฉินไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย ตอนนี้ในกระเป๋าของเขาเขาถือชิ้นส่วนของดาบชิ้นหนึ่งที่เคยถูกใช้โดย ‘ชูร่า’ ซึ่งหัวหน้าหมู่บ้านกล่าวถึง ‘ชิ้นส่วนที่แตกหักของดาบจักรพรรดิชูร่า!’ ในคำอธิบายของชิ้นส่วนที่แตกหักของดาบจักรพรรดิชูร่านั้นมีคนผู้หนึ่งซึ่งกลายเป็ร่างจุติของชูร่า‘ราชันย์ดาบลึกลับสีชาด’ผู้ซึ่งมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่เพียงเพื่อการเข่นฆ่าและสังหารสิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนจนทำให้โลกใบนี้ตกสู่ความโกลาหลในท้ายที่สุดก็นำพาตัวของเขาไปสู่การลงทัณฑ์ของ์พร้อมกับการร่วมกันพิพากษาของอสูรระดับผู้พิฆาตนักบุญ‘เทพัแห่งความว่างเปล่า’และเทพีทั้งสาม เทพีแห่งระเบียบแบบแผน เทพีแห่งอิสรภาพ และเทพีแห่งโชคลาภในท้ายที่สุดก็ตายด้วยน้ำมือของเทพีทั้งสาม” หลังจากได้ฟังคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านเกี่ยวกับชูร่าหัวใจของหลิงเฉินก็สั่นระรัว เพราะหลังจากเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเทพีทั้งสามตอนนี้เขาก็รู้ชัดเจนแล้วว่าภารกิจในการต่อสู้กับเทพีทั้งสามด้วยตัวคนเดียวนั้นน่าหวาดกลัวขนาดไหน และความจริงที่ว่าในเวลานี้เขาชิ้นส่วนของดาบชิ้นหนึ่งก็ทำให้หัวใจของเขาสั่นกลัวมากขึ้นกว่าเดิม
“ข้าไม่ได้เจตนาพูดมากนะแต่อย่างไรก็ตาม ผู้กล้าหนุ่ม เ้ามีคำถามอะไรอีกไหม? หากเ้าไม่มีคำถามอะไรแล้วเช่นนั้นให้ข้าส่งเ้าไปที่ทวีปหลงลืมเถอะ” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว
“ผมอยากจะถามว่านอกจากเทพีทั้งสามและอสูรผู้พิทักษ์เผ่าเทพจันทรายังมีเทพยากรณ์อีกมากเท่าไหร่ครับ?ผมแค่เพียงพยายามสนองความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง” หลิงเฉินเอ่ยถาม
หัวหน้าหมู่บ้านมองมาที่เขาอย่างแปลกประหลาดพลางครุ่นคิดเล็กหน่อยก่อนจะกล่าวตอบ “มันดูเหมือนว่าเ้าจะสนใจเผ่าเทพจันทรามากๆ เลยนะ ฮ่าๆ ทว่านั่นไม่ใช่เื่แปลกเผ่าเทพจันทรามีผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงประมาณสองร้อยตนและพวกเขาถูกส่งไปทั่วทั้งทวีปหลงลืมเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยมีเทพพยากรณ์หนึ่งตนในทวีปหลงลืมซึ่งพวกข้าตั้งชื่อนางว่าเทพธิดาหลงลืมนางอาจจะอยู่บนท้องฟ้าเหนือพวกเรา และมองมาที่เราซึ่งคุยกันอยู่ ณ ขณะนี้ก็ได้ ฮ่าๆนอกเหนือจากนี้ก็ยังมีเทพยากรณ์ตนอื่นอีกมากมายที่ข้าไม่รู้จัก”
เทพพยากรณ์ระดับสูงสองร้อยตนเป็จำนวนที่ทำให้หลิงเฉินถึงกับอ้าปากค้างนี่เป็ความแข็งแกร่งที่น่าหวาดกลัวสุดๆไม่สงสัยเลยว่าทำไมเผ่าเทพจันทราถึงมีคุณสมบัติในการควบคุมโลกจันทร์ลี้ลับทั้งโลกเทพพยากรณ์แต่ละตนล้วนบรรลุถึงระดับเทพลึกลับและปฏิเสธไม่ได้ว่าเทพีทั้งสามผู้ซึ่งยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของเผ่าเทพจันทรานั้นมีความสามารถที่จะปกครองสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
แต่ชูร่าผู้นั้นเขาใช้เพียงแค่ความแข็งแกร่งของมนุษย์เพื่อต่อต้านไม่ใช่แค่เทพีทั้งสามแต่ยังรวมถึงเทพัแห่งความว่างเปล่าเขาเป็มนุษย์ที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง
“ถ้าอย่างนั้นแล้วมีอสูรระดับเทพลึกลับบนทวีปหลงลืมมากเท่าไหร่ครับ?”หลิงเฉินกล่าวถามต่อ เขาอยากจะรู้ให้แน่ชัดว่าทวีปหลงลืมนั้นทรงพลังแค่ไหน
หัวหน้าหมู่บ้านครุ่นคิดชั่วครู่หนึ่งก่อนกล่าวตอบ“ผืนแผ่นดินของทวีปหลงลืมนั้นกว้างใหญ่ไพศาลฉะนั้นแล้วจึงไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้แน่ชัดว่ามีอสูรระดับเทพลึกลับจำนวนเท่าไหร่อย่างไรก็ตามเป็เื่ยากมากสำหรับอสูรระดับเทพลึกลับที่จะปรากฏตัวดังนั้นแล้วนอกเหนือจากอสูรปีศาจโบราณทั้งสิบตนทวีปหลงลืมก็น่าจะมีอสูรระดับเทพลึกลับอีกแค่เพียงสิบกว่าตนเท่านั้นซึ่งได้แก่อสูรผู้พิทักษ์ซึ่งทุกคนรู้จัก เช่น ัคราม พยัคฆ์ขาว ปักษาสีชาด และเต่าทมิฬหากรวมกับอสูรปีศาจโบราณทั้งสิบตนก็น่าจะมีอสูรระดับเทพลึกลับมากกว่ายี่สิบตน”
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้านพูดถึงอสูรปีศาจโบราณทั้งสิบตนแล้วประวัติที่แท้จริงของพวกมันเป็อย่างไรครับ?” หลิงเฉินเอ่ยถาม
“อสูรปีศาจโบราณทั้งสิบตนปรากฏขึ้นในสมัยโบราณโดยมีหัวหน้าของเผ่าปีศาจชุบเลี้ยงขึ้นมา ทว่าหลังจากที่เผ่าปีศาจพ่ายแพ้อสูรปีศาจโบราณทั้งสิบตนก็ได้ซ่อนตัวของพวกมันอยู่ในส่วนที่ลึกลับของทวีปหลงลืมและไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยพวกมันแต่ละตนอยู่ในระดับเทพลึกลับและดินแดนที่พวกมันล้วนแล้วแต่เป็ดินแดนต้องห้ามซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดกล้าย่างกรายเข้าไปอสูรปีศาจโบราณทั้งสิบตนได้แก่ ตนแรกคือ ‘อสูรปีศาจฟ้า’ มันเป็อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่อสูรทั้งสิบตนทั้งยังมีร่างที่ใหญ่โตกับปีกทั้งแปดคู่ซึ่งมีขนสีดำเล่าลือกันว่ามันแข็งแกร่งยิ่งกว่าระดับเทพลึกลับและใกล้เคียงกับระดับผู้พิฆาตนักบุญ ตนที่สองคือ ‘อสูรปีศาจพสุธา’ ตำนานกล่าวไว้ว่ามันซ่อนอยู่ใตู้เาที่สูงที่สุดของทวีปหลงลืม มันถือครองพลังของพสุธาและความสามารถในการใช้ผืนพสุธาซ่อนตัวของมันซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถเทียบเทียมตนที่สามคือ ‘อสูรปีศาจทรราชย์’อสูรผู้มีรูปร่างดั่งหมาป่ามันมีพฤติกรรมที่รุนแรงและชอบอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดมิดเพราะมันจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่ออยู่ภายใต้ความมืดตนที่สี่คือ ‘อสูรปีศาจเงา’อสูรผู้ถือครองพลังแห่งความมืดที่กล้าแกร่งที่สุด และดำรงอยู่ในเงามืดตลอดเวลาตนที่ห้าคือ ‘อสูรปีศาจอัคคี’อสูรผู้มีความสามารถอันทรงพลังในการควบคุมเปลวเพลิงแห่งการทำล้ายล้างและสร้างทะเลแห่งเปลวเพลิงถึงแม้ความสามารถของเปลวเพลิงของมันจะด้อยกว่าของอีกาทองคำแต่มันก็เป็หนึ่งในอสูรปีศาจโบราณทั้งสิบที่เกรงกลัวอีกาทองคำน้อยที่สุดตนที่หกคือ ‘อสูรปีศาจคลั่ง’อสูรผู้ถูกเล่าลือว่ารวบรวมความเกลียดชังจากดวงิญญาของคนตายมันไม่เกรงกลัวทั้งพลังแห่งความมืดและแสงสว่าง ทว่าพลังของมันไม่มั่นคงทั้งยังผันผวนั้แ่อ่อนแอจนถึงแข็งแกร่งบางครั้งมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าอสูรปีศาจฟ้า ในบางคราก็ลดลงมาอยู่ที่ระดับปลายฟ้าตนที่เจ็ดคือ ‘อสูรปีศาจวายุ’ผู้ซึ่งกำเนิดมาจากพายุลมแรง และถือครองความสามารถประเภทลมที่แข็งแกร่งอย่างมากซึ่งทำให้มันสามารถท่องไปทั่วท้องนภาและผืนปฐีอย่างอิสระเสรี ตนที่แปดคือ ‘อสูรปีศาจน้ำแข็ง’อสูรผู้กำเนิดมาจากน้ำแข็งขั้วโลกที่เย็นจัด เพียงแค่การโบกมือข้างหนึ่งมันก็สามารถแช่แข็งทุกสรรพสิ่งภายในระยะทางหนึ่งพันไมล์และมันน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในธารน้ำแข็งที่ห่างไกลทางทิศเหนือ ตนที่เก้าคือ ‘อสูรปีศาจา’มันเป็หนึ่งในอสูรปีศาจทั้งสิบตนที่ชื่นชอบการต่อสู้เป็ที่สุดนอกจากนี้มันยังมีนิสัยที่บ้าระห่ำที่สุดในหมู่อสูรทั้งสิบตนเพราะสิ่งเดียวที่มันปรารถนาคือการแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และตนที่สิบคือ ‘อสูรปีศาจแสง’ อสูรผู้เงียบสงบที่สุดในหมู่อสูรปีศาจทั้งสิบมันอ่อนแอที่สุดในด้านการโจมตี แต่ก็เป็อสูรที่มีความสามารถในการป้องกันการฟื้นฟู และพลังชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางอสูรทั้งสิบตนมันชอบอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก และน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งบนพื้นมหาสมุทรอสูรปีศาจโบราณทั้งสิบตนเหล่านี้ล้วนไม่เกรงกลัวเผ่าเทพจันทราเพราะตราบใดที่พวกมันไม่ทำสิ่งเลวร้ายใดๆ เผ่าเทพจันทราก็จะไม่เข้าไปยุ่งกับพวกมันแต่ในขณะเดียวกัน พวกมันก็ล้วนหวาดกลัวอีกาทองคำเป็อย่างมากและไม่ปรากฏตัวออกมาเลยตลอด่เวลาที่ผ่านมาเพราะพวกมันกลัวเื่ความเป็ไปได้ที่อีกาทองคำจะยังคงมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งบนทวีปหลงลืมหากไม่นับอีกาทองคำ พวกมันก็ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสินเพราะเมื่อพวกมันทั้งสิบตนรวมพลังกันก็จะเป็เื่ง่ายสำหรับพวกมันที่จะเอาชนะอสูรระดับผู้พิฆาตนักบุญดังนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าว แม้กระทั่งอสูรระดับผู้พิฆาตนักบุญก็ไม่อยากไปยุ่งกับพวกมันเ้าหนุ่ม เ้าต้องจำให้ขึ้นใจหลีกเลี่ยงการท่องไปในผืนแผ่นดินที่ห่างไกลของทวีปหลงลืมเพราะสถานที่เ่าั้อาจจะเป็ที่พักผ่อนของเหล่าอสูรปีศาจ”
หัวหน้าหมู่บ้านแห่งการเริ่มต้นเอาใจใส่หลิงเฉินเป็พิเศษด้วยการอธิบายเื่นี้ให้กับหลิงเฉินเพราะเขาเห็นศักยภาพที่ดีในตัวผู้เล่นคนแรกที่จะออกไปจากหมู่บ้านแห่งการเริ่มต้นสำหรับหลิงเฉิน เขาก็จดจำสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวกับเขาไว้ในใจก่อนจะเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าหมู่บ้านครับท่านเคยได้ยินชื่อไอเทมที่เรียกว่าจันทร์ต้องสาปไหมครับ?”
“จันทร์ต้องสาป?”หัวหน้าหมู่บ้านพูดตอบด้วยความงงงวยทว่าหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็กล่าวออกมา“ข้าคิดว่าตัวข้ายังคงรู้ไม่มากพอเกี่ยวกับโลกใบนี้นี่เป็ครั้งแรกที่ข้าเคยได้ยินชื่อไอเทมนี้ เ้าหนุ่มเ้าไปได้ยินชื่อของไอเทมนี้ที่ไหนกัน?”
ถึงแม้หัวหน้าหมู่บ้านผู้นี้จะอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้นและชัดเจนว่าเขามีความรู้มากมาย เขาท่องไปทั่วโลกแห่งนี้และรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่คนทั่วไปไม่เคยรู้ ดังนั้นแล้วถ้าหากเขาไม่เคยได้ยินเื่จันทร์ต้องสาปมันก็มีความหมายเพียงอย่างเดียวว่าไอเทมชิ้นนี้ถูกลืมเลือนไปแล้วจริงๆอย่างไรก็ตามเวลานับหมื่นปีได้ล่วงเลยผ่านไป ผู้คนมากมายหลายรุ่นได้เข้ามาและจากไปแน่นอนว่ามันเป็เวลามากพอสมควรที่จะทำให้ลืมเลือนเื่ราวต่างๆ มากมายหลิงเฉินส่ายหัวพลางกล่าว “ผมก็เพียงแค่ถามไปเรื่อยเปื่อยครับขอบคุณท่านหัวหน้าหมู่บ้านสำหรับการเล่าเื่มากๆ ครับ ผมไม่มีคำถามอะไรแล้วท่านช่วยส่งผมไปยังทวีปหลงลืมด้วยครับ”
หัวหน้าหมู่บ้านแย้มยิ้มพร้อมกับพยักหน้า“ถ้างั้นให้ข้าส่งเ้าไปตอนนี้เลยนะข้าเชื่อว่าในฐานะที่เ้าเป็ผู้เล่นคนแรกที่ออกไปจากหมู่บ้านแห่งการเริ่มต้นเ้าจะกลายเป็ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ในทวีปหลงลืม ฉะนั้นแล้วมุ่งมั่นตั้งใจให้มากล่ะเ้าหนุ่มและช่วยยืนนิ่งๆ ด้วย”
หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวจบเขาก็ยกมือขึ้น ในเวลาเดียวกันนี้วงกลมของแสงสีขาวก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้าและล่องลอยอยู่เหนือหัวของหลิงเฉิน
ในเวลานี้ตรงมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้านแห่งการเริ่มต้นประตูที่ชำรุดของบ้านสภาพทรุดโทรมซึ่งหัวหน้าหมู่บ้านเตือนว่าอย่าเข้าไปใกล้ก็เปิดออกชายแก่ที่ส่งกลิ่นเหม็นกับชุดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งเดินออกมา จู่ๆชายแก่ก็รู้สึกใและหันหัวกลับมาทั้งยังเพ่งสายตาคู่หนึ่งที่มืดมัวไปที่หลิงเฉินและจ้องไปที่จันทร์ต้องสาปซึ่งสวมอยู่บนข้อมือของหลิงเฉิน
ทั่วทั้งร่างของชายแก่สั่นสะท้านเขาเริ่มะโร้องและวิ่งอย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็ไปได้มาหาหลิงเฉินผู้เล่นโดยรอบต่างประหลาดใจขณะรีบหลบให้เขา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้