การกรีดเืออกจากสิ่งมีชีวิตเป็จุดแข็งของหลินเมิ้งหยานางขอยืมมีดสั้นจากหลงเทียนอวี้จากนั้นกรีดเอาเืของนกพิราบออกมาเล็กน้อยแล้วหยดลงในผ้าเช็ดหน้า เท่านี้พิธีการเข้าห้องหออันแสนดื่มด่ำเร่าร้อนก็ได้จบลง
ทันทีที่หัวถึงหมอนนางก็หลับลงไปในทันที กลับกันกับหลงเทียนอวี้ซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนตั่งหลายต่อหลายชั่วโมง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงพระอาทิตย์ส่องแสงยามเช้านางในซึ่งอยู่ด้านนอกจะเคาะประตูแทบจะทันที
“คารวะท่านอ๋อง คารวะพระชายาพระองค์ใหม่บัดนี้เช้าวันใหม่มาถึงแล้ว ได้โปรดตื่นบรรทมด้วยเพคะ”
หลินเมิ้งหยาค่อยๆ ลืมตาซึ่งยังคงสะลึมสะลืออยู่ขึ้นเมื่อคืนกว่านางจะเอาตัวรอดจากการดักฟังได้ก็เหนื่อยเอาการ
นางซึ่งยังคงอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นได้ยินเสียงทุ้มต่ำของหลงเทียนอวี้
“พวกเ้าเข้าไปพยุงพระชายาเถิด ไม่ต้องช่วยข้า”
“เพคะ”
บ่าวรับใช้ในตำหนักแห่งนี้ทุกคนล้วนเคารพนับถือหลงเทียนอวี้หลินเมิ้งหยาไม่เคยได้รับการดูแลเช่นนี้มาก่อนดังนั้นนางจึงปล่อยให้บ่าวรับใช้ทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่ขัดขืน
ภายในห้องอ่านหนังสือ หลงเทียนอวี้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็ชุดปกติเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ภาพการกระทำของหลินเมิ้งหยาทั้งหมดยังคงตราตรึงอยู่ในสมองของหลงเทียนอวี้
เขามั่นใจแล้วว่านางไม่ใช่คนที่ฮองเฮาส่งเข้ามาสอดแนม
แม้ว่าฮูหยินของเจิ้นหนานโหวจะเป็น้องสาวแท้ๆ ของฮองเฮาแต่หลินเมิ้งหยาไม่ใช่คนของพระนางอย่างแน่นอน
อีกอย่างเขาเองก็รู้ซึ้งถึงวิธีการที่ฮองเฮาใช้เป็อย่างดี
หากหลินเมิ้งหยาเป็คนของฮองเฮาเกรงว่าเมื่อคืนนางคงจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยั่วยวนเขาให้จนได้
หลินเมิ้งหยาคนนี้มีใบหน้างดงามราวกับนางฟ้านาง์อีกทั้งยังฉลาดเฉลียวฆ่าไม่ตาย ตกลงแล้วนางมีความลับอะไรอยู่กันแน่?
“ท่านอ๋องขอรับ พระชายาเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วรถม้าที่จะพาเสด็จเข้าวังจอดรออยู่ที่ด้านหน้าประตูพระตำหนักขอท่านอ๋องได้โปรดออกคำสั่งด้วยเถิดขอรับ”
พ่อบ้านตำหนักหวังยืนอกผายไหล่ผึ่งอยู่กับที่เพื่อรอคำสั่งจากหลงเทียนอวี้
เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าหากเข้าวังแล้วจะได้เจอกับหมู่เฟย1 ใบหน้าของหลงเทียนอวี้จึงเผยให้เห็นความอ่อนโยนขึ้นมา
หลายปีมานี้หมู่เฟยต้องอดทนต่อความทุกข์ทรมานมากมายเพื่อทำให้เขาได้ทำงานรับใช้ฮ่องเต้อีกไม่นานหรอกสักวันหนึ่งเขาจะต้องพาหมู่เฟยออกมาจากพระราชวังอันแสนเยือกเย็นแห่งนั้นให้ได้!
“ขอแสดงความยินดีกับพระชายาพระองค์ใหม่ขอให้พระชายาพระองค์ใหม่ประสูติพระโอรสโดยเร็วและมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง”
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วนางในผู้รับใช้พระชายายืนเรียงแถวแล้วถวายความเคารพต่อหลินเมิ้งหยา
“อืม พวกเ้าออกไปก่อนเถอะ”
หลินเมิ้งหยาซึ่งยังไม่ชินกับการใช้ชีวิตเช่นนี้ทำเพียงกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนที่นางจะไล่ทุกคนออกไป
“ฮู้ว...” ถือว่าสบายใจไปได้หนึ่งเปลาะ หลินเมิ้งหยายกมือขึ้นนวดขมับซึ่งกำลังปวดตุบๆโชคดีที่แต่ก่อนนางเคยทำงานวิจัยจนดึกดื่นมิเช่นนั้นหลังจากที่ต้องผ่าน่เวลายามค่ำคืนอันแสนทุกข์ทรมานนางคงไม่อาจลุกขึ้นจากเตียงไหว
สายตาพลันเหลือบไปมองเห็นใบหน้าสวยงามในกระจกแม้แต่หลินเมิ้งหยาซึ่งเป็ผู้หญิงยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
หากบอกว่าใบหน้าของนางในชาติที่แล้วสวยงามประหนึ่งนางฟ้าจากูเาน้ำแข็งแล้วละก็ถ้าอย่างนั้นภายใต้รูปร่างอ้อนแอ้นอรชรในภพชาตินี้ใบหน้าของนางงดงามเกินกว่าใครในปฐีก็มิปาน
ไม่ว่าจะเป็โครงหน้าเรียวเล็กหรือดวงตาเปล่งประกายราวกับหยดน้ำล้วนดูงดงามและทรงเสน่ห์
เป็ความงามที่ไม่ได้ปรุงแต่งทว่าทุกองค์ประกอบที่สวยงามกลับถูกจัดวางบนใบหน้า
บางทีอาจเพราะจิติญญาที่สถิตอยู่ในร่างกายเปลี่ยนไปดังนั้นแผ่นหลังขอนางจึงส่งกลิ่นอายของความเยือกเย็นออกมา
แม้นางจะไม่ใช่คนรักสวยรักงามแต่ไม่มีใครหวังอยากให้ตนเองมีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์หรอก
ผมสีดำเงางามของนางถูกเกล้าขึ้นสูงตามแบบของสาวชาววัง
อีกทั้ง้าผมยังถูกประดับเอาไว้ด้วยมงกุฎหงส์คู่ลำคอสวมใส่สร้อยคอลายดอกไม้เอาไว้
ประจวบกับเสื้อผ้าขนาดใหญ่โตโอ่อ่าหลินเมิ้งหยาอดคิดไม่ได้ว่าตนเองในเวลานี้เหมือนตัวละครในการแสดงงิ้ว
เสื้อผ้าของคนสมัยโบราณช่างดูเทอะทะไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย
***********************
1 หมู่เฟยคือคำเรียกขานชื่อมารดาซึ่งเป็พระสนม