บทที่ 55 าคำพูด
“คำพูดนี้ของท่านหมายความว่าอย่างไร?!” ดวงตาของฉู่อวิ๋นแปรเปลี่ยนเป็เ็า เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“หมายความว่าอย่างไร? เชอะ!” ผู้าุโหกแค่นเสียงตะคอกอย่างดุดันและะโเข้าสู่เวทีประลองด้วยแรงกดดันอันท่วมท้น
เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผู้เฒ่าเฟิงจึงเดินขึ้นมายืนบ้งหน้าฉู่อวิ๋นทันทีและพูดว่า "เ้า้าอะไร? มีเื่อะไรค่อยๆ พูดกับข้า!"
"เปรี๊ยะ!"
รังสีของสายฟ้าขั้นมหาสมุทรเล็ดลอดออกมาจากผู้เฒ่าเฟิง ทำให้ผู้าุโหกขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะมีิญญายุทธ์เป็สายฟ้าขั้นมหาสมุทรด้วย แต่เขาอยู่ที่ระดับห้าเท่านั้น ไม่อาจเทียบเคียงกับผู้เฒ่าเฟิงได้
จากนั้น ผู้าุโหกก็หรี่ตาลง มองไปยังผู้ชมโดยรอบ และะโเสียงดังว่า "ขออภัยทุกท่าน! ยกโทษให้ข้าฉู่เจิ้นหยวนที่มุทะลุ แต่สถานการณ์นี้ร้ายแรงนัก และข้าหวังว่าจะไม่มีผู้ใดเข้ามาแทรก!"
“เอ๊ะ? ผู้าุโตระกูลฉู่คนนี้กำลังจะทำอะไร? เขาบอกว่าฉู่อวิ๋นเป็คนทรยศหรือ? หมายความว่าอย่างไร?”
“หรือเขาทนเห็นฉู่อวิ๋นได้ชัยชนะกลับไปไม่ได้เลย้าเข้ามาแทรกแซง? คงไม่โง่ขนาดนั้นกระมัง?”
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ และสถานที่ที่เคยคึกคักก็เงียบสงบ
ผู้เฒ่าเฟิงเหลือบมองเ้าเมือง และเห็นมู่หรงเจี๋ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยแล้วก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อให้ผู้าุโหกมองเห็นฉู่อวิ๋น
แต่ผู้เฒ่าเฟิงก็ยังคงแสดงท่าทีที่ระมัดระวังไว้
“เมื่อครู๋นี้ข้าได้ข่าวว่าสุสานของเราถูกกลุ่มคนชุดดำโจมตีเมื่อคืนนี้ หลุมศพถูกทำลาย และฉู่ป้า ลูกชายของข้าเสียชีวิตกลางป่าอย่างน่าอนาถ! หลังจากตรวจสอบแล้ว สันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเื่ทั้งหมดนี้คือ ฉู่อวิ๋นผู้นี้!” เสียงของผู้าุโหกดังกึกก้อง น้ำตาไหลออกมาจากดวงตา เขาดูเศร้าและโกรธมาก
ทันทีที่เขาพูดจบ ทุกคนก็ตระหนักได้ทันทีว่าสาเหตุที่ฉู่ป้าไม่กลับมาก็เพราะเขาเสียชีวิตในป่าไปเสียแล้ว
ในเวลานี้ ฉู่อวิ๋นถ่มน้ำลายด้วยสายตาที่เฉียบคมและพูดว่า "หึ ผู้าุโหก ข้าไม่คิดว่าท่านจะตื่นตระหนกขนาดนี้นะ พูดกันตามตรง มันเป็เพราะฉู่ป้า้าเปิดสุสานบรรพบุรุษ ข้าก็เลยสู้กับเขา แต่ข้าไม่ได้ฆ่าเขา!”
อันที่จริง ฉู่อวิ๋นรู้เพียงว่าเขาสู้กับฉู่ป้าจนกระทั่งอีกฝ่ายได้รับาเ็สาหัส จากนั้นฉู่ป้าก็ได้รับการช่วยเหลือจากชายแปลกหน้าในชุดคลุมสีดำ
แต่บัดนี้ ตามคำบอกเล่าของผู้าุโหกที่ว่าฉู่ป้าตายแล้ว คนที่อยู่กับเขาเพียงลำพังในตอนนั้นคือชายชุดดำ
“หรือว่า…” ความคิดของฉู่อวิ๋นเปลี่ยนแปลงอย่างฉับไว และในที่สุดเขาก็อนุมานความจริงได้
“หรือว่าชายชุดดำคนนั้นจะกลับคำ ขโมยคัมภีร์โบราณเล่มนั้น แล้วสังหารฉู่ป้า?!”
ไม่แปลกใจที่ผู้าุโหกจะโกรธมาก ที่แท้เขาถูกชายชุดดำหลอกและเขาก็ยังไม่รู้ คิดว่าฉู่อวิ๋นฆ่าลูกชายของเขา
ในเวลานี้ ได้ยินเสียงผู้าุโหกหลั่งน้ำตาและพูดอย่างโกรธแค้น "กระบี่เศวตรรุ้งของเ้าและเศษขวานรบเหล็กสีทองของป้าเอ๋อร์ของข้าถูกพบในหลุมศพของบรรพบุรุษ ข้าเกรงว่าเ้าจะเป็คนที่มีเจตนาชั่วร้ายต่อหลุมศพบรรพบุรุษ! ต้องเป็เช่นนั้นแน่ ลูกชายของข้าสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของเ้า และจบลงด้วยการนอนตายอยู่ในป่าโดยมีาแจากกระบี่ไปทั่วทั้งตัว!”
“อย่ามาโกหกหน่อยเลย! คนที่ทรยศตระกูล สมรู้ร่วมคิดกับบุคคลภายนอก และขโมยหยกเขี้ยวอสูรไปเพื่อเปิดศิลาทลายันั้นชัดเจนว่าเป็ฉู่ป้ากับเ้า!” ฉู่อวิ๋นก้าวไปข้างหน้าและโต้เถียงอย่างมีเหตุผล
“ฮ่าฮ่า ทุกคนในเมืองไป๋หยางรู้ดีว่าข้า ฉู่เจิ้นหยวน ภักดีต่อตระกูลฉู่มาโดยตลอด ข้าไม่มีเจตนาอื่นใด! และป้าเอ๋อร์ของข้าก็จงรักภักดีเหนือสิ่งอื่นใด อย่าพูดไร้สาระไปหน่อยเลย!” ผู้าุโหกเถียงเสียงแหบแห้ง และดูเหมือนว่าคำพูดของเขาจะมีน้ำหนักมาก
ทันใดนั้น เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม "ตรงกันข้าม ข้าคิดว่าเพราะสมาชิกในตระกูลเสียชีวิตในการต่อสู้ เพราะความแค้นและพยายามแก้แค้นของเ้า ดังนั้นจึงสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลภายนอกมาทำลายสุสานของตระกูลเรา แรงจูงใจชัดเจนยิ่งนัก ตอนนี้พยานอยู่ที่นี่ หลักฐานก็อยู่ที่นี่ อย่าคิดหาข้อแก้ตัวเลย!”
“ไร้สาระ!” มู่หรงซินทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วะโว่า “เมื่อคืนข้าเองที่ไปเป็เพื่อนฉู่อวิ๋นที่สุสานปราณัและได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พวกเราเห็นกับตาว่าฉู่ป้าลูกชายของเ้าเป็คนเปิดศิลาทลายั! แถมได้รู้มาอีกว่า เ้าเป็ผู้บงการเื่นี้!”
“โอ้ นังหนู เช่นนั้นข้าถามเ้า เ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็ผู้บงการเื้ั?” ผู้าุโหกยิ้มเยาะ
“เชอะ แน่นอนว่าเป็ฉู่ป้า ลูกชายของเ้าที่เป็คนพูดเอง ยังจะโกหกอีกหรือ? หยุดเสแสร้งแล้วโยนความผิดให้ฉู่อวิ๋นได้แล้ว!” ใบหน้าของมู่หรงซินเปลี่ยนเป็สีแดงด้วยความโมโห นางปกป้องฉู่อวิ๋นเต็มที่
“ฮ่าฮ่าฮ่า! นังหนูน้อย เ้ายังตื้นเขินนัก! ถ้าสิ่งที่เ้าพูดเป็ความจริง ป้าเอ๋อร์ของข้าจะโง่ถึงขนาดเปิดเผยผู้บงการต่อหน้าพวกเ้าสองคนได้อย่างไร? น่าขันจริงๆ!” สายตาของผู้าุโหกสว่างวาบ เขายืนมองด้วยท่าทางภาคภูมิใจที่ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมั่นคง
“ฉู่ป้า...เขาพูดเช่นนั้นจริงๆ!” มู่หรงซินโกรธมาก ทุกคำพูดของผู้าุโหกมีเล่ห์กลดึงดูดเธอให้ติดกับดักทางคำพูด ทำให้นางพูดไม่ออก
ผู้าุโหกแค่นเสียงอย่างเ็า เปลี่ยนหัวข้อแล้วพูดว่า "หึ! ไร้สาระนัก คำพูดของเ้ามีแต่ช่องโหว่! ยิ่งไปกว่านั้น ข้าคิดว่าเ้าจงใจสร้างเื่เพื่อแก้ตัวแทนฉู่อวิ๋น!"
“เ้า...เ้าเพ้อเจ้อ!” มู่หรงซินตกตะลึงและโกรธขึ้นมาทันที แต่นางก็เถียงอะไรไม่ได้
เวลานี้ สีหน้าของมู่หรงเจี๋ยก็อึมครึมลงเช่นกัน เขาเอ่ยอย่างเ็า "ฉู่เจิ้นหยวนเ้าหมายความว่ายังไง? เ้ากำลังบอกว่าลูกสาวของข้าพูดโกหกเช่นนั้นหรือ?"
“แล้วมิใช่หรือ?” ผู้าุโหกยิ้มเยาะส่งสายตาที่น่ากลัว และพูดว่า “คราที่ลูกสาวของเ้ากับฉู่อวิ๋นกลับมาต่างก็กระเซอะกระเซิง พวกเขาต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเป็แน่ และเป็เื่ปกติที่หญิงสาวจะสร้างเื่เพื่อปกป้องคนรักของตนเอง!”
“บางทีที่ทั้งคู่มาสายอาจเพราะกำลังทำเื่สกปรกบนูเาอยู่ก็ได้!”
“ไร้สาระ!” มู่หรงเจี๋ยะโด้วยความโมโหจนทุบที่นั่งเป็ชิ้นๆ ทำให้เศษซากกระเด็นไปไกล “ทุกอย่างเ้าคาดเดาเอาเองทั้งเพ หามีหลักฐานใดไม่!”
มู่หรงเจี๋ยรักมู่หรงซินมาก ถือว่านางเปรียบเสมือนไข่ในหิน แต่ตอนนี้ผู้าุโหกกลับตั้งคำถามถึงพรหมจรรย์และคำพูดของนาง เขาย่อมโกรธเป็ธรรมดา
แต่ทุกคนก็ดูจะเชื่อคำพูดที่มีมูลจากผู้าุโหก เพราะสิ่งที่เขาพูดดูไม่น่าจะเป็เื่เท็จ
สิ่งสำคัญที่สุดคือฉู่อวิ๋นได้ต่อสู้อย่างดุเดือดกับฉู่ป้าในหลุมศพของบรรพบุรุษ และทิ้งรอยกระบี่ไว้หลายรอยบนร่างกายของเขา
ตอนนี้ ฉู่ป้าตายแล้ว และฉู่อวิ๋นก็กลายเป็ผู้ต้องสงสัยที่สำคัญที่สุด
“พูดมา! เ้าที่ทรยศตระกูล ประสานในนอกกับคนลึกลับพวกนั้นทำลายสุสานปราณั และโจมตีสังหารฉู่ป้าลูกชายข้า มีจุดประสงค์อะไร?” ผู้าุโหกจ้องฉู่อวิ๋น ทักษะการแสดงของเขาดีมากจนดูเหมือนเขาเองก็พูดความจริงออกมาเช่นกัน
“ประสานในนอกหรือ? จุดประสงค์หรือ?! ไร้สาระ!!!” ฉู่อวิ๋นขมวดคิ้วและะโด้วยความโมโห
“ในฐานะผู้าุโของตระกูล เ้าสมรู้ร่วมคิดกับคนนอก ปล้นฆ่าบิดาข้า และสมคบคิดขโมยสมบัติลับที่สืบทอดมานานของตระกูลเรา ตอนนี้กลับกำลังกระอักเืใส่ผู้อื่น คนชั่วส่งเื่ขึ้นศาลก่อนหรืออย่างไร?”
ฉู่อวิ๋นจ้องมองด้วยความโกรธและหายใจเข้าแรงๆ ผู้าุโหกคนนี้บิดเบือนข้อเท็จจริง ช่างคิดคดทรยศและร้ายกาจเหลือเกิน!
ในเวลาเดียวกัน เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่อวิ๋นทุกคนก็ตกตะลึงและรู้สึกสับสน ที่สุสานปราณัยังมีเื่อื่นให้น่าใอีกหรือไม่?
“สมบัติลับ? ฮ่าฮ่า เ้าเด็กปากเหลือง[1] เ้ากำลังอวดความผิดพลาดของตนเองอยู่! ตระกูลหลักของเราไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสมบัติลับมาก่อน เ้าได้ข่าวนี้มาได้อย่างไร?” ผู้าุโหกยิ้มเยาะ
“หึ ข้าจะบอกเ้าให้ พร้อมกับเปิดเผยโฉมหน้าที่น่าเกลียดของเ้าเสีย!” ฉู่อวิ๋นอธิบายเสียงดังก้องอย่างโกรธเคือง
“ตอนนั้น ฉู่ป้าใช้หยกเขี้ยวอสูรสองก้อนในการเปิดศิลาทลายั ก้อนหนึ่งถูกเ้าขโมยจากผู้นำตระกูลตอนคนเขาไม่อยู่ และอีกก้อนหนึ่งถูกเ้าสมรู้ร่วมคิดกับคนนอกมาโจมตีและฆ่าท่านพ่อของข้า!”
“นอกจากนี้ ฉู่ป้า ลูกชายของเ้าก็โง่ดังที่ว่า เขาคิดว่าตนเองสามารถฆ่าปิดปากมู่หรงซินและข้าได้ เลยสาธยายเื่ทั้งหมดเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดของเ้ากับคนนอก! เขาบอกว่าเ้า้าขโมยสมบัติลับที่สืบทอดมาจากตระกูลเรา และยังพูดอีกว่า พ่อของข้าถูกเ้ากับคนชุดดำล้อมฆ่า!”
“แต่น่าเสียดายที่ทักษะของลูกชายเ้าด้อยกว่า ในที่สุดเขาก็แพ้ข้า! าแกระบี่บนร่างเขาเกิดจากข้าจริง! จริงๆ ข้าเองก็อยากจะฆ่าเขาอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้าย เขาก็ถูกผู้สมรู้ร่วมคิดของชายชุดดำช่วยเอาไว้!”
คำพูดของฉู่อวิ๋นสรุปเป็ข้อๆ และเขาก็พูดเสียงดังฟังชัดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่สุสานปราณั ทุกคนดูตกตะลึงและเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดเป็ความจริง
“ไร้สาระ! เ้ากำลังพูดเื่อะไร!” ผู้าุโหกเหยียดฝ่ามือออกแล้วชี้ไปที่ฉู่อวิ๋น โดยยังคงแสร้งทำ “ข้าภักดีต่อตระกูล แล้วจะไปมีแรงจูงใจอันใดในการทำเื่เช่นนี้? เห็นได้ชัดว่าเป็เ้าที่พูดเื่เหลวไหล!"
ทั้งสองฝ่ายต่างมีความคิดเป็ของตัวเองอยู่พักหนึ่ง ทำให้ทุกคนสับสน หากเชื่อตามคำพูดของฉู่อวิ๋น ผู้าุโหกก็คือคนที่ร่วมมือกับคนนอกและสั่งให้ฉู่ป้าเปิดสุสานปราณั ไม่มีจุดอ่อนและค่อนข้างสมเหตุสมผล
แต่หากอิงตามที่ผู้าุโหกพูด ฉู่อวิ๋นมีความแค้นในใจ เขาสมรู้ร่วมคิดกับคนนอกเพื่อโจมตีสุสานปราณั นี่ก็สมเหตุสมผลเช่นกัน
ลานประลองค่อยๆ เริ่มแบ่งออกเป็สองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนผู้าุโหก ในขณะที่อีกฝ่ายเชื่อในตัวของฉู่อวิ๋น
“เฮ้อ เื่นี้ไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว ท่านผู้นำตระกูลทั้งหลายคิดอย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยขมวดคิ้วและถามผู้นำตระกูลของแต่ละค่าย พวกเขาเป็เพียงกลุ่มเดียวที่มีอิทธิพลมากที่สุดในลานประลอง
“เชอะ เดิมทีเ้าฉู่อวิ๋นนี่ก็เป็นักรบิญญายุทธ์พิการอยู่แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาจะพัฒนาก้าวะโถึงขั้นเอาชนะฉู่เฟยได้อย่างไร? ดังนั้นเขาต้องสมรู้ร่วมคิดกับคนนอกและใช้วิธีการชั่วร้ายบางอย่างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง เพื่อให้มั่นใจในความเป็ธรรมของการประลอง และทวงความยุติธรรมให้ฉู่เจิ้นหยวน ข้าแนะนำให้ตัดหัวมันเสีย!”
หลินหู่เป็คนแรกที่แสดงความคิดเห็น ลูกชายของเขาหลินหล่างที่เขาคาดหวังไว้สูง ถูกฉู่อวิ๋นทำลายจนเละ เขาย่อมแค้นฉู่อวิ๋นเป็ธรรมดา
“แต่ข้าคิดว่าฉู่อวิ๋นผู้นี้เป็คนบริสุทธิ์นัก คำอธิบายของเขาเมื่อครู่ไร้ข้อสงสัย แถมยังมีมู่หรงซินให้การเป็พยาน บนเวทีประลองเมื่อครู่เขาก็ไม่ได้ฆ่าฉู่เฟย นั่นแปลว่าเขาสามารถควบคุมอารมณ์ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็คนใจดี ข้าเต็มใจที่จะเชื่อเขา..."
โดยไม่คาดคิด คนแรกที่พูดเข้าข้างฉู่อวิ๋นคือพ่อของหลี่เจ๋อ หลี่ซาน
“ฮ่าๆ ใจดีหรือ? เขาก็แค่เด็กปากร้าย เ้าไม่เห็นสีหน้าของเขาตอนที่ตบฉู่เฟยเหรอ เหมือนปีศาจไม่มีผิด! อย่างไรก็ตาม ข้าอยู่ข้างฉู่เจิ้นหยวน” ผู้นำตระกูลซือหม่ากล่าว
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำตระกูลทั้งหมดก็แสดงความคิดเห็นต่างกันไป บางคนสนับสนุนฉู่อวิ๋น ในขณะที่บางคนสนับสนุนผู้าุโหก จนมีแนวโน้มที่จะโต้เถียงกันเอง
แม้แต่คนในกลุ่มผู้ชมที่ยืนกันสองฝั่ง ก็ยังทะเลาะกันเอง
แน่นอนว่าผู้าุโทุกคนในค่ายตระกูลฉู่ เข้าข้างผู้าุโหกและเป็ศัตรูกับฉู่อวิ๋นโดยไม่มีข้อสงสัย
ในทางกลับกัน มู่หรงเจี๋ยส่ายหัวและถอนหายใจครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะพูดว่า "ทั้งสองฝ่ายต่างก็เห็นต่างกันและคงไม่มีข้อสรุปอยู่อีกพักหนึ่ง รอจนกว่าจะรู้ความจริงแล้วค่อยตัดสินใจจะดีกว่า! ข้าผู้เป็เ้าเมืองจะให้ความยุติธรรมแก่ทุกคนอย่างแน่นอน"
ในขณะนี้ ผู้าุโหกบนเวทีประลองหรี่ตาลง และจ้องมองไปที่กระบี่ชื่อยวนบนหลังของฉู่อวิ๋น ดวงตาของเขากะพริบด้วยความละโมบ
“ในเมื่อท่านเ้าเมืองเอ่ยปากเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด!” ผู้าุโหกดูผิดหวังและโกรธมาก แล้วพูดต่อว่า "แต่ลูกชายข้าคงตายตาไม่หลับ ดังนั้นจึงหวังว่าจะได้ต่อสู้เป็ตายกับฉู่อวิ๋นคนนี้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง ผู้าุโหกคนนี้คิดจะรังแกผู้เยาว์หรือ?
ต้องรู้ว่า การต่อสู้เป็ตาย คือการที่นักรบสองคนตัดสินใจในสถานการณ์ที่ส่งผลต่อชีวิต แล้วต่อสู้กันตัวต่อตัวในที่สาธารณะจนกระทั่งหนึ่งในนั้นตายไป มันค่อนข้างโหดร้าย
“คำขอนี้ไร้เหตุผลเกินไปแล้วกระมัง?” มู่หรงเจี๋ยขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“ไม่ไร้เหตุผลดอก!” เจตนาฆ่าฉายชัดในสายตาของผู้าุโหก แต่เขายังคงพูดอย่างชอบธรรม “ข้าจะระงับการฝึกฝนของตัวเองให้ถึงขอบเขตควบแน่นพลังปราณเพื่อต่อสู้อย่างยุติธรรม ทุกท่านคิดเห็นว่าอย่างไร?”
ทันทีที่มีข้อเสนอนี้ สีหน้าของทุกคนก็นิ่งอึ้งและต่างก็เริ่มกระซิบและพูดคุยกัน
ในขณะเดียวกัน ผู้าุโหกและฉู่อวิ๋นต่างมองหน้ากัน ดวงตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
----------
[1] เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ใช้ในการเยาะเย้ยคนอื่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้