ถ้าูเี่อันจำไม่ผิดล่ะก็เจียงเส้าข่ายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจำเมือง
และถ้าเธอมองไม่ผิดล่ะก็เอ่อ...เหมือนลู่เป๋าเหยียนจะไม่ได้มุ่งหน้าไปทางนั้น
เธอพูดเตือนเขาแต่เขากลับตอบว่า
“ฉันรู้”
“นายรู้ว่ากำลังไปผิดทาง?” ูเี่อันเริ่มสับสน“นายสนุกไหมเนี่ย”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม“เธอคงไม่คิดว่าฉันจงใจหรอกใช่ไหม”
ูเี่อันนิ่งคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่เข้าใจ
“จงใจทำอะไร?”
“บางทีฉันอาจจะจงใจขับรถผิดทางเพื่อไม่ให้เธอไปเยี่ยมเจียงเส้าข่ายก็ได้”
เขาพูดพลางยิ้มเล็กน้อยยากที่จะคาดเดาว่าเขาพูดจริงหรือแค่ล้อเล่น
แตู่เี่อันนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจและส่ายหน้า
“เป็ไปไม่ได้”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วอย่างสนใจ
“ทำไมถึงคิดว่าเป็ไปไม่ได้?”
“นายไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำแบบนั้นนี่”ูเี่อันวิเคราะห์ “ฉันจะไปเยี่ยมเจียงเส้าข่ายก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับนายแล้วนายจะไม่ให้ฉันไปเยี่ยมเขาทำไม อีกอย่าง...การแกล้งขับรถผิดทางมันดูปัญญาอ่อนไปหน่อยฉันไม่เชื่อว่านายจะทำเื่ติงต๊องแบบนั้น”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตาเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจคาดเดาอารมณ์
“ใครบอกเธอว่าถ้าเธอไปเยี่ยมเจียงเส้าข่ายแล้วจะไม่มีผลกระทบกับฉัน
ูเี่อันนิ่งไป
“หรือว่ามี? นอกจากน้ำมันรถในถังที่ลดลงยังจะมีเื่อะไรส่งผลกระทบกับนายอีกเหรอ”
“...” สภาพจิตใจฉันไง!
แต่ถึงจะพูดออกไปูเี่อันก็คงไม่เข้าใจ ลู่เป๋าเหยียนจึงตัดสินใจไม่พูดเสียดีกว่าูเี่อันเห็นเขาเงียบไป เลยไม่พูดอะไรต่อ
ไม่นานภาพของโรงพยาบาลเอกชนที่หรูหรายิ่งกว่าโรงแรมก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าูเี่อันหันไปถามลู่เป๋าเหยียนอย่างแปลกใจ
“ทำไมพวกเราต้องมาที่นี่?”
ลู่เป๋าเหยียนจอดรถพลางตอบเธอ
“ตอนที่พวกเราอยู่เมือง G เจียงเส้าข่ายย้ายมารักษาตัวที่นี่”
“ขนาดฉันสนิทกับเจียงเส้าข่ายยังไม่รู้เื่นี้เลยแล้วนายรู้ได้ยังไง?”ูเี่อันมองซีกหน้าด้านข้างลู่เป๋าเหยียนพลางคิดอย่างสงสัยจากนั้นจึงตาโตอย่างแปลกใจ
“หรือว่านายเป็คนช่วยย้ายโรงพยาบาลให้เขา?”
“อืม” ลู่เป๋าเหยียนตอบ“ลงรถ”
ูเี่อันเดินคิดนู้นคิดนี่ตามลู่เป๋าเหยียนขึ้นลิฟต์
“ที่นี่สภาพแวดล้อมดีกว่าที่อื่นจริงๆเหมาะที่เจียงเส้าข่ายจะพักรักษาตัว ขอบใจนะ”
ติ๊ง ลิฟต์หยุดลงตรงชั้นที่ลู่เป๋าเหยียนกดเลือกไว้ประตูเหล็กแวววาวเคลื่อนเปิดออก ูเี่อันกำลังก้าวเท้าเดินออกไปแต่กลับได้ยินเสียงดัง ปัง! ตามด้วยเงาของคนที่เข้ามาขวางหน้าเธอ
ซึ่งก็คือลู่เป๋าเหยียน
เขากดปุ่มปิดประตูค้างไว้ทำให้ประตูไม่สามารถเปิดออกได้อีกในระหว่างนี้ร่างสูงใหญ่ของเขาขวางทางตรงหน้าเธอจนมิด
พื้นที่เล็กคับแคบภายในลิฟต์ูเี่อันอยู่ใกล้เขาจนเห็นชัดแม้กระทั่งแผงอกแกร่งที่ขยับตัวตามจังหวะหายใจั์ตาสีนิลที่ไม่รู้ว่าเริ่มเคร่งเครียดั้แ่เมื่อไรส่งรังสีอันตรายออกมากดดันคนที่อยู่ใกล้จนแทบลืมหายใจ
“ลู่เป๋าเหยียน”ูเี่อันมองคนที่จู่ๆ ก็ทำท่าเหมือนคนแปลกหน้าอย่างหวาดหวั่น
“นายเป็อะไรไป”
ลู่เป๋าเหยียนกัดฟันพูดออกมาทีละคำอย่างชัดเจน
“ทีหลังอย่าให้ฉันได้ยินเธอพูดขอบคุณแทนเจียงเส้าข่ายอีก”
“...”ูเี่อันไม่เข้าใจ เธอขอบคุณแทนเจียงเส้าข่ายแล้วอย่างไร?
เห็นเธอทำสีหน้างงงวยลู่เป๋าเหยียนจึงทนไม่ไหวต้องพูดย้ำเพื่อให้ทุกคำซึมเข้าไปในสมองของูเี่อัน
“ฉันช่วยย้ายโรงพยาบาลให้เจียงเส้าข่ายคนที่ต้องขอบคุณคือเขา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ? เธอกับเจียงเส้าข่ายเป็อะไรกัน? หืม?”
ูเี่อันเริ่มรู้สึกได้ว่าลู่เป๋าเหยียนกำลังหึงเธอ...
เธอผลักลู่เป๋าเหยียนให้ออกห่างจากนั้นจึงอธิบาย
“เจียงเส้าข่ายเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉันแต่สิ่งที่ฉันทำให้เขาได้มีแค่ต้มซุปทำอาหารมาเยี่ยมเขาเท่านั้นฉันก็แค่ขอบคุณนายที่ช่วยฉันจัดการให้เจียงเส้าข่ายได้นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลดีๆไม่ได้ขอบคุณนายแทนเขาสักหน่อย นายคิดอะไรอยู่เนี่ย”
แรงกดดันภายในลิฟต์เมื่อครู่เหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออกกะทันหันและค่อยๆ จางหายไปในอากาศ
ูเี่อันพูดต่อ“ถึงฉันจะสนิทกับเจียงเส้าข่าย อืม...ก็สนิทกว่านายนิดหน่อยแต่ว่าไม่ได้สนิทกันขนาดที่จะพูดขอบคุณแทนกันได้ถึงยังไงฉันก็ไม่ใช่คนในครอบครัวหรือแฟนเขานี่”
ต่อหน้าเขาเธอยังกล้าพูดเน้นย้ำว่าเธอสนิทกับเจียงเส้าข่ายมากกว่าเขา?
ลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออกไปเมื่อครู่เริ่มขยายตัวขึ้นอีกครั้ง รังสีอำมหิตและแรงกดดันเริ่มแพร่กระจายไปทุกอณูภายในลิฟต์
ลู่เป๋าเหยียนปล่อยมือออกจากปุ่มปิดประตูประตูลิฟต์จึงเปิดออก เขาจูงูเี่อันออกไปทันที
ูเี่อันรู้สึกว่าลู่เป๋าเหยียนดูแปลกๆไป
เฮ้อตาคนนี้ทำไมอารมณ์แปรปรวนเสียยิ่งกว่าอากาศเดือนมิถุนายนอีกล่ะเนี่ย
ขณะนั้นเอง อยู่ๆลู่เป๋าเหยียนก็ผลักเธอแนบชิดกำแพงเขาใช้ร่างกายสูงใหญ่ขังเธอเอาไว้ในวงแขน ลมหายใจอันคุ้นเคยเริ่มเข้ามาใกล้
เธอกลืนน้ำลาย “ละ ลู่เป๋าเหยียน?”
ลู่เป๋าเหยียนก้มหน้าลงเล็กน้อยพลางจ้องตาเธอ
“เธอสนิทกับเจียงเส้าข่ายถึงขนาดไหนกัน? หืม?”
“สนิทมากพอๆ กับที่สนิทกับเสี่ยวซีไง”ูเี่อันเริ่มคิดอยากจะดิ้นออกจากวงแขนนี้
“นายถามทำไม” อีกอย่างก็ไม่จำเป็ต้องถามอย่างใกล้ชิดขนาดนี้สักหน่อย
ชมพูจางๆ เมื่อเธออยู่ภายใต้วงแขนเขาเธอเหมือนนกกระทาตัวน้อยที่คิดแต่จะหนีออกไปริมฝีปากอิ่มที่ถูกเม้มจนเป็สีระเรื่อดึงความสนใจของลู่เป๋าเหยียนได้ชะงัด
รู้ตัวอีกทีสายตาของลู่เป๋าเหยียนก็ถูกหยุดอยู่ที่เรียวปากของูเี่อัน
รสชาติหอมหวานของมันยังคงตราตรึงในความทรงจำเป็รสชาติที่เพียงได้ชิมสักครั้งไม่ว่าใครก็ต้องเสพติด
บุหรี่ เหล้าหรือยาเสพติด สิ่งเหล่านี้เขาสามารถปฏิเสธได้อย่างไม่ลังเล
มีเพียงเธอที่ทำให้เขาต้องอดทน และทำให้เขาสูญเสียความสามารถในการควบคุมตัวเอง
ูเี่อันนึกไม่ถึงเลยว่าลู่เป๋าเหยียนจะคิดเอาเปรียบเธอ เมื่อกี้เขายังโมโหอยู่เลยแต่ในชั่ววินาทีกลับเปลี่ยนเป้าหมายซะอย่างนั้นในสถานที่โล่งแจ้งบนระเบียงทางเดินของโรงพยาบาลแบบนี้เขายังกล้าที่จะจูบเธอเนี่ยนะ!
สมองเธอขาวโพลนไปชั่วครู่แต่เมื่อได้สติก็ผลักเขาออกทันที แต่เขากลับใช้วงแขนรัดเอวเธอไว้ทำให้ทั้งตัวเธอตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“อย่าผลักฉัน!”
เสียงทุ้มต่ำของเขาเจือปนด้วยความอ่อนโยนอยู่บ้างก็จริงแต่ที่มีมากกว่าคือการออกคำสั่ง
ูเี่อันยอมเชื่อฟังเขาง่ายๆที่ไหน เธอผลักเขาแรงขึ้นอีก
“ไม่ได้นะนี่โรงพยาบาลนะ นาย...อื้อ...”
ยังพูดไม่ทันจบริมฝีปากเธอก็ถูกเขาอีกครั้งแถมคราวนี้อย่าว่าแต่ผลักเขาออก แม้แต่ช่องว่างที่จะหายใจยังไม่มี
จูบของลู่เป๋าเหยียนก็เหมือนเ้าตัวริมฝีปากเย็นที่ห้ามใครหน้าไหนปฏิเสธ เขาบังคับให้เธอเปิดริมฝีปากและส่งลิ้นรุกล้ำเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอเพื่อหาความหอมหวาน
ูเี่อันเริ่มหมดแรงที่จะขัดขืนตัวเธออ่อนปวกเปียกได้แต่ปล่อยให้เขาช่วยพยุงเอาไว้ที่ข้างหูััได้ถึงความอุ่นร้อนและเสียงลมหายใจของเขากับเธอ
นี่นับเป็่เวลาหนึ่งที่พวกเธอใกล้ชิดกันมากที่สุด
ผ่านไปสักพักลู่เป๋าเหยียนถึงยอมปล่อยเธอเป็อิสระ
ดวงตาคู่ใสของเธอดูงุนงงเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่หาเ้าของไม่เจอพวงแก้มชมพูอ่อนทั้งสองข้างเวลานี้ได้แปรเปลี่ยนเป็สีแดงจัดริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อดูเย้ายวน
เธอมองตาของเขาเหมือนยังไม่ได้สติจากการถูกเอาเปรียบเมื่อครู่
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มบางพลางก้มหน้าลงไปจนหน้าผากของทั้งคู่ใกล้จะัักัน สีหน้าของเขาในเวลานี้ดูเจือความเ้าเล่ห์
“เธอกับเจียงเส้าข่ายสนิทกันถึงขนาดนี้แล้วหรือยังหืม?”
ดวงตากลมโตของูเี่อันเบิกกว้างเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันเธอสะบัดมือเขา
“ฉะฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”
แถวนี้มีห้องน้ำที่ไหนกันลู่เป๋าเหยียนไม่รั้งเธอไว้ เขายืนมองเธอที่ทำท่าจะวิ่งตรงไปแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนอยู่ที่ระเบียงทางเดิน จึงก้มหน้างุดๆ เดินกลับมาอย่างว่าง่าย
“เปล่า!”ใบหน้าเล็กเงยขึ้นมามองเขา “ฉันกับเจียงเส้าข่ายถ้าต้องััมือกันก็แค่ตอนทำการทดลองเท่านั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเป็พิเศษสักนิด พวกเราไม่ได้สนิทถึงขั้นจูบกัน นายพอใจหรือยัง?”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มกว้าง
“พอใจมาก”
เธอกับเจียงเส้าข่ายอยู่ห้องเดียวกันั้แ่สมัยปีหนึ่ง ูเี่อันเป็คนพูดน้อยขึ้นปีสอง ทั้งสองคนถึงเริ่มสนิทกันทั้งคู่ไปเรียนด้วยกัน ทำการทดลองด้วยกัน ดูเผินๆ แล้วสนิทสนมใกล้ชิดกันยิ่งกว่าใครแต่ในความเป็จริงทั้งสองคนเป็แค่เพื่อนสนิทและเจียงเส้าข่ายเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย
เื่พวกนี้ลู่เป๋าเหยียนรู้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเจียงเส้าข่ายคงถูกสั่งให้ย้ายห้องไปตั้งนานแล้ว
“นายงี่เง่าชะมัด”ูเี่อันเบ้ปากบ่น “เจียงเส้าข่ายอยู่ห้องไหน”
“1401”
ห้องของเจียงเส้าข่ายอยู่ตรงสุดระเบียงทางเดินอีกฝั่งพอดีูเี่อันเดินไปถึงแล้วจึงเคาะประตู ไม่ช้าเสียงของเจียงเส้าข่ายก็ดังออกมา
“เข้ามา”
เมื่อเห็นว่าเป็ูเี่อันเจียงเส้าข่ายก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เล็กน้อยแต่เมื่อเห็นคนที่เดินตามมาข้างหลังอย่างลู่เป๋าเหยียนเจียงเส้าข่ายก็เริ่มเข้าใจเื่ราวทั้งหมด เขาส่งเสียงทักทาย
“เชิญนั่งตามสบายครับ”
ูเี่อันลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
“แผลเป็ไงบ้าง”
“แผลหายไวมากอีกไม่นานคงได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะ”เจียงเส้าข่ายมองไปยังลู่เป๋าเหยียนแล้วจึงยิ้มออกมา“ที่จริงคุณลู่ไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมผมถึงที่นี่ก็ได้นะครับ”
ูเี่อันหันไปมองลู่เป๋าเหยียนเขาเดินเข้ามาพลางยิ้มอย่างไว้ท่า
“ผมควรจะมาขอบคุณคุณเจียงสักครั้งน่ะครับที่ช่วยชีวิตเจี่ยนอันเอาไว้ในยามคับขัน”
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรในสถานการณ์แบบนั้นยังไงผมก็ต้องช่วยเธออยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”
เจียงเส้าข่ายหยุดคิดแล้วจึงพูดยิ้มๆ
“อีกอย่างตอนนี้ควรเป็ผมมากกว่าที่ต้องขอบคุณพ่อบอกผมแล้วว่า คุณช่วยทำให้ธุรกิจบ้านผมผ่านวิกฤตไปได้เื่ย้ายมาโรงพยาบาลนี้ก็เหมือนกัน คุณทำเพื่อผมมามากพอแล้วล่ะ”
เื่พวกนีู้เี่อันไม่เคยรู้มาก่อนแถมลู่เป๋าเหยียนก็ไม่เคยพูดถึงแม้แต่น้อย
เธอมองหน้าลู่เป๋าเหยียนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัยแต่กลับเห็นเพียงรอยยิ้มบางบนใบหน้าเขา
“เจี่ยนอันเธอยังไม่กลับไปทำงานงั้นเหรอ” เจียงเส้าข่ายถาม
“ยังอีกไม่กี่วันก็คงกลับไปทำงานแล้วล่ะ ใช่สิ เย็นนี้นายอยากกินอะไร เดี๋ยวฉันทำให้!”ูเี่อันกล่าว
“ไม่ต้อง”
คนที่ตอบออกไปกลับเป็ลู่เป๋าเหยียนแทนูเี่อันหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมล่ะ”
“ฉันสั่งให้หมอจัดหานักโภชนาการเพื่อคอยดูแลอาหารทั้งสามมื้อให้กับคุณเจียงแล้วอาหารที่ช่วยรักษาาแของคุณเจียงให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นนั้น ทางพ่อครัวของโรงพยาบาลจะเป็คนทำเธออย่าเข้าไปก่อกวนการทำงานของพวกเขาเลย”
“ก่อกวน”คำพูดที่ดูเหมือนกำลังตำหนิ แต่เขากลับพูดมันออกมาอย่างรักใครู่เี่อันมองรอยยิ้มอ่อนโยนของเขาจนเผลอลืมตัวไปชั่วขณะว่าแล้วจึงส่งเสียงตอบรับ จากนั้นจึงหันความสนใจมายังเจียงเส้าข่ายตามเดิม
ให้ตายเถอะเจียงเส้าข่ายเองก็หน้าตาดีนะ สมัยเรียนนับว่าเป็เดือนมหาวิทยาลัยเสียด้วยซ้ำทุกวันเขาต้องได้รับจดหมายรัก ไม่ก็โดนใครสักคนสารภาพรักพอถึงวันวาเลนไทน์ก็มักได้ช็อกโกแลตกองโตพอที่จะเปิดร้านได้เลยแล้วทำไมเธอถึงไม่เคยใจเต้นกับเพื่อนคนนี้เลยล่ะ
แต่พอเป็ลู่เป๋าเหยียนทุกการกระทำ ทุกการัั หรือแม้กระทั่งแววตาเพียงเล็กน้อยก็ทำเอาหัวใจของเธอปั่นป่วนไปหมด
ไร้ศักดิ์ศรีจริงๆ ูเี่อัน!
เธอตัดสินใจแล้วว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้ศักดิ์ศรีของตนคืนมา
“ฉันมีเื่จะปรึกษาเจียงเส้าข่าย”เธอพูดพลางเอียงหน้ามองลู่เป๋าเหยียน
“ถ้านายยุ่งอยู่ก็กลับไปก่อนเถอะเดี๋ยว่บ่ายฉันเรียกรถกลับบ้านเองก็ได้”
