ภายในหุบเขาปีศาจิญญา์ กลุ่มคนขนาดเล็กห้าคนกำลังเดินหน้าอย่างเชื่องช้า ส่วนหลงอวี้นั้นแอบตามจากไกลๆ ทางด้านหลัง
ด้วยทักษะการสะกดรอยของหลงอวี้ อีกฝ่ายมันไม่มีทางรู้สึกตัวได้แน่นอนว่าพวกตัวเองกำลังถูกสะกดรอยตาม
‘ถึงแม้ว่าหุบเขาปีศาจิญญา์จะเป็โลกของปีศาจ แต่มันก็ใช่ว่าจะหาสัตว์อสูรเจอได้ง่ายดายขนาดนั้น...’
หลงอวี้แอบสะกดรอยตามนานถึงหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ถึงจะพบว่าภายในหุบเขาแห่งนี้แตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้เล็กน้อย สัตว์อสูรทั้งหมดในนี้ระวังตัวกันอย่างมากเลยทีเดียว!
หากมันพบร่องรอยของมนุษย์จากไกลๆ พวกมันจะประเมินทันทีว่าต่อกรด้วยได้ไหม หากมนุษย์ผู้นั้นแข็งแกร่งมากเกินไป พวกมันก็จะหนีห่างทันที
ผู้ฝึกยุทธ์ที่เป็มนุษย์สามารถดูดกลืนปราณอสูรภายในเน่ยตานของสัตว์อสูรได้ ในทางกลับกัน สัตว์อสูรก็สามารถดูดฆ่าสังหารมนุษย์เพื่อดูดกลืนลมปราณมายกระดับพลังของตัวเองได้เช่นกัน
หากพูดกันตามความเป็จริง หุบเขาปีศาจิญญาอสูรไม่ใช่สถานที่สำหรับล่าสัตว์อสูรของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์ แต่เป็สถานที่ที่มนุษย์กับสัตว์อสูรต่อสู้ฆ่าฟันกันต่างหาก!
มนุษย์ที่อ่อนแอมากเกินไป เมื่อเข้ามาในหุบเขาแล้ว เพียงไม่นานก็จะไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
แต่หากเป็มนุษย์ที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่ง จะสามารถอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ได้นานขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนกล้าไปหาเื่ด้วยเลย
‘สัตว์อสูรเองก็มีสติปัญญาอยู่เหมือนกัน เพราะอย่างนั้น การจะฆ่าทูตปีกหุบเขาปีศาจที่มีระดับผสานิญญาแท้ได้นั้นจึงไม่เพียงแต่ต้องมีความแข็งแกร่งสูงมากเท่านั้น แต่ยังจำเป็ต้องมีดวงด้วย...’
หลงอวี้ครุ่นคิดในใจ
ทูตปีกหุบเขาปีศาจนั้นไม่ใช่ตัวตนที่จะถูกมนุษย์ฆ่าตายได้ง่ายดายขนาดนั้น
แต่ทันทีที่ถูกฆ่าตาย กลับมีโอกาสได้รับเน่ยตานระดับิญญาขั้นสูงและวัตถุดิบต่างๆ จากตัวมันเพื่อนำมาใช้สร้างเป็ยุทธภัณฑ์ได้
เื่นี้ทำให้หลงอวี้คาดเดาได้ว่า หากสามารถสังหารสัตว์อสูรใดๆ ก็ตามได้ ศพของมันอาจจะมีมูลค่ามากด้วยเช่นกัน!
ชิ้นส่วนต่างๆ ของสัตว์อสูรนั้น ไม่ว่าจะนำมาหลอมโอสถหรือนำมาสร้างยุทธภัณฑ์ก็ตาม แต่ละส่วนก็ล้วนมีคุณค่าเฉพาะตัว
หลงอวี้ยังไม่เคยตั้งใจศึกษาเื่พวกนี้อย่างจริงจังมาก่อน จึงไม่อาจเลือกเก็บเฉพาะส่วนที่มีประโยชน์ของสัตว์อสูรได้ จึงได้แต่ต้องเก็บซากศพทั้งร่างเข้าไปในช่องว่างปรภพเท่านั้น
จุดนี้ทำให้เขาได้เปรียบกว่าผู้ฝึกยุทธ์พเนจรคนอื่นๆ เป็อย่างมาก
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น กลุ่มที่หลงอวี้สะกดรอยตามไปก็เข้าใกล้กับเขตพื้นที่ที่ค่อนข้างพิเศษแห่งหนึ่ง ในพื้นที่นี้มีก้อนหินตั้งตระหง่านมากมายราวกับต้นไม้ และพืชพันธุ์ต่างๆ นานามากมายกระจายไปทั่ว เป็ดั่งเขาวงกฎที่ซับซ้อนสุดขีดแห่งหนึ่ง
“ระวัง”
กลุ่มห้าคนนั้นได้หยุดลงตรงจุดที่ห่างจากทางเข้าป่าหินแห่งนั้นนับสิบจ้าง เหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง
“นี่มันอาณาเขตของหลงซีศิลา ไม่รู้ว่าหลงซีศิลาฝูงนี้มีตัวหน้าที่เปลี่ยนิญญาแท้เป็รูปธรรมได้แล้วหรือเปล่า หากมันโผล่ออกมาล่ะก็ ให้ทั้งหมดรีบล่าถอยทันที”
พวกเขาไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยว่าหลงอวี้ติดตามอยู่ด้านหลังพวกเขาห่างออกไปราวๆ ร้อยจ้าง กำลังแอบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าทึบ
เมื่อหลงอวี้เห็นอีกฝ่ายหยุดเดินก็คิดในใจทันที ในที่สุดก็จะเริ่มสู้แล้วหรือ?
ต่อจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างเดือดดาลอันเป็เอกลักษณ์เฉพาะเสียงหนึ่งจากป่าหินด้านหน้า ในเสียงคำรามนี้แฝงด้วยมหาพลังฟ้าดินที่ทรงพลังสุดขีดด้วย หรืออาจถึงเขตแดนแล้วก็เป็ได้ มันได้สะกดทั้งห้าคนนั้นไว้ในพริบตา!
ต่อจากนั้นก็มีสัตว์อสูรขนาดใหญ่โตมโหฬารที่มีรูปร่างเหมือนกับแรด แต่ทั่วร่างกับดูแข็งราวกับก้อนศิลาก็ไม่ปานปรากฏขึ้น ขนาดของมันนั้นสูงใหญ่กว่าคนสองคนต่อกัน
มันคือสัตว์อสูรหลงซีศิลาตัวเต็มวัย!
“ระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่ แถมไม่ได้มีแค่ตัวเดียวด้วย!”
พริบตานั้นทั้งห้าคนก็พลันตาเป็ประกายทันที
พวกเขาสังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่า หลงซีศิลาตรงหน้านี้กำลังอยู่ใน่ขยายพันธุ์พอดี แม้จะมีระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่แล้ว แต่พลังต่อสู้กลับไม่ได้แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น
ซึ่งเขาที่เหมือนกับแรดของหลงซีศิลาตัวนี้มีขนาดใหญ่เท่ากับคนคนหนึ่งเลยทีเดียว มีลายเหมือนกับหินแกรนิตกระจายไปทั่วทั้งเขา แค่มองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็วัตถุดิบชั้นยอดสำหรับใช้สร้างยุทธภัณฑ์แน่!
ดวงดีไม่เลวเลย รวยแล้ว!
ทั้งห้าคนนั้นรีบเตรียมพร้อมต่อสู้อย่างรวดเร็วทันที แม้ว่าหลงซีศิลาตัวนี้อยู่ใน่ขยายพันธุ์ ในท้องของมันยังอุ้มลูกหลงซีศิลาน้อยไว้อยู่ แต่จะประมาทพลังต่อสู้ของมันไม่ได้เด็ดขาด
หลงอวี้ที่แอบอยู่ห่างๆ เพียงมองดูทั้งห้าคนเข้าต่อสู้กับหลงซีสิลาตัวนั้นโดยที่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
เพราะเขาสังเกตเห็นอะไรผิดปกติบางอย่าง
ด้วยระดับพลังและสภาพร่างกายของหลงซีศิลาขนาดมหึมาตัวนั้น ไม่มีทางต่อกรกับกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ห้าคนนี้ได้แน่ แต่มันกลับเป็ฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อนเสียอย่างนั้น
หลงอวี้ไม่เชื่อแน่ว่าเ้าหลงซีตัวนี้จะไม่มีไพ่ตายอื่นซ่อนอยู่!
กลุ่มห้าคนนั้นเป็กลุ่มที่มีประสบการณ์ในการล่าสัตว์อสูรสูงมาก พวกเขาเองก็ไม่ได้ประมาทอะไรขนาดนั้น แต่เพราะหลงซีศิลาตัวนี้มันล่อตาล่อใจมากเกินไป ทำให้พวกเขาไม่ได้ประเมินความเสี่ยงมากขนาดนั้น
หากมีความเสี่ยงอะไร รอฆ่าหลงซีศิลาตัวนี้แล้วชิงเน่ยตานกับเขาของมันก่อนค่อยว่ากัน!
การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งห้าคนนั้นเปิดฉากล้อมโจมตีหลงซีศิลาตัวนั้นอย่างรวดเร็ว ิญญาแท้รูปแบบต่างๆ ถูกปล่อยออกมา ทั้งแก่นทั้งหมดพลังของกฎเกณฑ์ต่างๆ ถูกใช้ออกไปครอบคลุมหลงซีศิลาตัวนั้นไว้
หลงซีศิลาตัวนั้นแผดเสียงคำราม ที่ด้านหลังมีิญญาหินั์ที่เป็รูปธรรมแล้วก้อนหนึ่งปรากฏขึ้น มันเพียงพุ่งออกไปก็สามารถกระแทกิญญาแท้ของหนึ่งในห้าคนนั้นจนแหลกเละ!
เพียงครู่เดียวเท่านั้น หนึ่งในห้าคนนั้นก็ได้สูญเสียพลังต่อสู้จากิญญาแท้ ทำให้คนผู้นั้นหน้าแดงก่ำ
แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะในกลุ่มห้าคนนั้น ไม่ว่าจะเป็ิญญาแท้ของใครก็ไม่อาจต้านรับการโจมตีของิญญาแท้หินั์ก้อนนั้นได้!
ถึงอย่างไริญญาแท้ของหลงซีศิลาตัวนั้นก็กลายเป็รูปธรรมแล้ว ความแข็งแกร่งของมันย่อมสูงกว่าพวกเงาิญญาแท้นับสิบเท่าเป็อย่างน้อย
แต่กระนั้น พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของหลงซีศิลาตัวนั้นก็มีแต่ิญญาแท้ของมันเท่านั้น นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีก เพราะร่างกายของมันหนักเกินไป ทั้งยังอุ้มท้องหลงซีน้อยตัวหนึ่งไว้อีกด้วย พลังต่อสู้ตรงๆ ของมันไม่ได้สูงเท่าไร
อีกสี่คนที่เหลือได้ฉวยโอกาสรีบใช้วิทยายุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดของตัวเองออกมา เพียงครู่เดียวก็ได้ปะทะเข้ากับร่างกายของหลงซีศิลาตัวนั้น
ตูม!!!
ในเสียงะเิของพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้น หลงซีศิลาขนาดมหึมาตัวนั้นดูเสียหลักไปเล็กน้อย แต่บนร่างกายของมันกลับมีลายเหมือนหินแกรนิตปรากฏขึ้น
ลายหินบนตัวมันได้สลายการโจมตีอันทรงพลังของทั้งสี่จนสลายเป็ฝุ่นผงโดยไม่อาจทำอันตรายอะไรกับร่างกายของมันได้เลย
ลายหินบนตัวมันคือความสามารถในการป้องกันของหลงซีศิลา!
และในจังหวะนั้นเองก็ได้มีเสียงร้องโหยหวนเสียงหนึ่งดังเข้าไปในหูของทั้งสี่คน
พวกเขาหันไปมองด้วยความสงสัยระคนใ พบว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ถูกทำลายิญญาแท้ไปแล้วผู้นั้น ใบหน้าของเขาตอนนี้กลายเป็สีม่วงคล้ำ เขาล้มลงพื้นไปพร้อมกับกุมหน้าอกด้วยความเ็ปทรมานสุดขีด!
แย่แล้ว พวกนาคาทมิฬลอบโจมตี!
พริบตานั้นทั้งสี่คนก็ลนลานไปทันที!
สิ่งที่นาคาทมิฬชื่นชอบมากที่สุดก็คือการกัดเส้นเืของผู้ฝึกยุทธ์ให้ขาดแล้วปล่อยพิษร้ายเข้าไปในหัวใจของเหยื่อผ่านทางเส้นเื
พิษร้ายอันน่าสะพรึงกลัวสามารถทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับิญญาแท้ขั้นที่สามต้องตายอย่างเ็ปทรมานได้ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ หน้าม่วงคล้ำอย่างน่าหวาดหวั่น!
พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีนาคาทมิฬลอบโจมตีกะทันหันในตอนที่กำลังต่อกรกับหลงซีอยู่เช่นนี้
พวกเขาควรจะรู้ตัวให้เร็วกว่านี้!
ไม่น่าทำไมหลงซีศิลาถึงได้บังอาจกล้าไล่ตามพวกเขามาขนาดนี้!
“หนี!”
ในบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ทั้งห้าคนนั้น ผู้ที่เป็หัวหน้าได้ตัดสินใจออกมาทันที สี่คนที่เหลือในกลุ่มพวกเขาล้วนมีระดับเพียงิญญาแท้ขั้นที่สามเท่านั้น ไม่มีทางต่อกรกับสัตว์อสูรระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่พร้อมกันสองตัวได้แน่ๆ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเื่ที่หนึ่งในสัตว์อสูรสองตัวนั้นยังเป็นาคาทมิฬแห่งหุบเขาปีศาจที่เป็ที่หวาดกลัวของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์พเนจรทั้งหลายด้วย!
อันที่จริงทั้งสี่คนที่เหลือเองก็ไม่ต้องรอให้ผู้เป็หัวหน้าบอกอะไรอยู่แล้ว พวกเขารีบหันหลังแล้ววิ่งหนีไปคนละทิศละทางด้วยความเร็วสูงั้แ่ที่นาคาทมิฬปรากฏตัวแล้ว!
แต่หลังจากที่พวกเขาหันหลังวิ่งไปได้ไม่ทันไรก็มีประกายแสงสีดำสายหนึ่งสว่างวาบขึ้น จากนั้นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์พเนจรทั้งห้าก็ได้ถูกงูพิษสีดำที่มีขนาดตัวเท่ากับแขนคนตัวหนึ่งกัด พิษร้ายได้แล่นเข้าไปถึงหัวใจในพริบตาของคนผู้นั้นทันที
“อ้าก!!! ช่วยด้วย!!!”
หลังจากที่เขาส่งเสียงะโร้องโหยหวน ตัวเขาก็รู้สึกว่าร่างกายอ่อนยวบแล้วล้มลงพื้นไป ใบหน้ากลายเป็สีม่วงคล้ำก่อนจะสิ้นลมไปทันที!
ต่อจากนั้นหลงอวี้ก็มองเห็นงูพิษสีดำตัวนั้นพุ่งทะยานออกไปจนกลายเป็ประกายแสงสีดำสายหนึ่ง ไล่ล่าพวกคนที่เหลือไปด้วยความเร็วสูงสุดขีด ความเร็วของมันทัดเทียมกับหลงอวี้ตอนเร่งเร้าพลังของปีกจันทราออกมาอย่างเต็มกำลังเลยทีเดียว!
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์พเนจรที่เหลืออยู่ไม่มีทางหนีรอดไปจากนาคาทมิฬได้แน่
และตอนนี้มันก็ได้กลายเป็โอกาสชั้นยอดของหลงอวี้แล้ว!
พอเห็นนาคาทมิฬพุ่งหายออกไปไกลในพริบตาแล้ว หลงอวี้ก็จับจ้องสายตาไปที่หลงซีศิลาที่เริ่มโซเซบ้างแล้วตนนั้น
ตัวมันที่เพิ่งถูกผู้ฝึกยุทธ์สี่คนรุมโจมตีอย่างเต็มกำลังนั้น แม้จะใช้ลายหินบนตัวป้องกันไว้ได้ แต่การโจมตีของศัตรูก็ยังสามารถสร้างความเสียหายขึ้นกับตัวมันได้อยู่ประมาณหนึ่ง ทำให้มันยืนโซเซเล็กน้อย
เป้าหมายของหลงอวี้ในตอนนี้ก็คือหลงซีศิลา!
“ัปรภพทะยานฟ้า!”
หลงอวี้ที่ใช้ท่าัปรภพทะยานฟ้าข้ามผ่านระยะห่างร้อยจ้างไปได้ทันที!
ในจังหวะเดียวกันนั้นเองเขาก็ได้กัดนิ้วตัวเองแล้วสาดเืลงบนหอกัปรภพ ใช้กระบวนท่าเชื่อมปัญญา แตะเกล็ดั
หอกยาวอันน่าสะพรึงกลัวเปล่งประกายแสงแห่งปรภพอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา แทงเข้าใส่หลงซีศิลาด้วยความเร็วสูงสุดขีด!
แต่หลงซีศิลานั้นกลับตอบโต้ได้แทบจะทันที
แม้มันจะมีขนาดตัวใหญ่โตจนดูอืดอาดอุ้ยอ้าย แต่เมื่อต่อสู้มันกลับคล่องแคล่วว่องไวไม่ธรรมดา ทันทีที่มันพบว่าตัวเองถูกลอบโจมตี มันก็สร้างลายหินอันแข็งแกร่งทนทานขึ้นมาหนึ่งชั้นบนร่างกายทันที
ต่อจากนั้นิญญาแท้ก้อนหินั์ที่กลายเป็รูปธรรมแล้วของมันก็พุ่งเข้าหาหอกัปรภพทันที!
แต่การตอบโต้ของหลงซีอยู่ในการคาดการณ์ของหลงอวี้อยู่แล้ว
“เ้าตายแล้ว!”
หลงอวี้ปล่อยมือออกจากหอก ตัวเขากลายเป็ปราณิญญาสายหนึ่งแล้วหายตัวไปกลางอากาศทันที ต่อจากนั้นก็ได้ปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของหลงซี
ซึ่งตอนนี้หลงซีศิลาได้ใช้ิญญาแท้ของมันต่อกรกับหอกัปรภพไปแล้ว!
หอกัปรภพมันสมกับเป็ยุทธภัณฑ์ระดับิญญาชั้นยอดจริงๆ แม้จะต่อกรกับิญญาแท้ที่กลายเป็รูปธรรมไปแล้วตรงๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสียหายเลยแม้แต่น้อย!
หากเปลี่ยนเป็ยุทธภัณฑ์ทั่วไป เกรงว่าคงถูกิญญาแท้หินั์ทำลายทิ้งในคราวเดียวแล้ว
ตอนนี้หลงซีศิลาไม่มีวิธีอื่นที่จะใช้ต่อกรกับหลงอวี้ได้อีกแล้ว จึงได้แต่ต้องฝืนรับการโจมตีของหลงอวี้ตรงๆ เท่านั้น
“หมัดัปรภพ ตื่นรู้สู่สังสารวัฏ! มัวเมาล้มสู่ปรภพ!”
เส้นทางปรภพและเส้นทางสังสารวัฏได้ถูกจำลองขึ้นมาแทบจะพร้อมๆ กัน ครอบคลุมหลงซีศิลาเอาไว้ภายในอย่างสมบูรณ์!
หลงซีศิลานั้นไม่เพียงแต่ถูกปราณปรภพข่มขวัญจนหมดสติในพริบตาเท่านั้น แต่ยังถูกหลงอวี้ซัดเข้าไปในวัฏสงสารเป็เวลาสั้นๆ ในหนึ่งหมัดด้วย ทำให้ระดับพลังของมันลดลงมาเหลืออยู่ที่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สามไปชั่วขณะ
ต่อจากนั้นหลงอวี้ก็ได้ชกหมัดลงบนพื้นภายในป่าหินแห่งนี้
คลื่นะเิปรภพ!
