ยามนี้ทั้งสายหลักสายรองของตระกูลหลิว ต่างมารวมตัวกันยังโถงรับรอง เพื่อช่วยกันคิดหาสาเหตุที่บ่าวไพร่หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
“พ่อสามีเ้าคะ ข้าเรียกหาพ่อบ้านหลิวจนเจ็บคอไปหมด แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลยเ้าค่ะ” หลิวซิ่วอิงทำทีจับลำคอคล้ายกับว่าเจ็บเสียเต็มประดา
หลิวเฟยนั่งอยู่บนเก้าอี้ประจำตำแหน่งเ้าบ้าน คิดถึงสาเหตุของเื่ก็ยังคิดไม่ออก “หากมีโจรบุกเข้ามาปล้นจริง ๆ ทำไมไม่มีเสียงกระทบกันของอาวุธเลยเล่า นี่มันเป็เหตุการณ์ประหลาดอันใด เพียงชั่วพริบตาจวนของข้าก็ไม่มีบ่าวไพร่ให้เรียกใช้ละ..”
ไม่จำเป็ที่หลิวเฟยจะพูดข้อสงสัยให้จบ เพราะซูอันเดินเข้ามาเป็ผู้ตอบให้เอง “จวนของพวกเ้าไม่จำเป็ต้องมีบ่าวไพร่อีกแล้ว ต่อให้ะโจนคอแตกก็ไม่มีใครขานรับ”
“ซูอัน!/ นางซูอัน!”
หลิวเฟยลุกขึ้นชี้นิ้วไปทางซูอันด้วยมือที่สั่นเทา “หลานอกตัญญูอย่างเ้ากลับมาที่ตระกูลหลิวอีกทำไม หรือจะมาขอร้องแทนบิดาของเ้างั้นรึ ฮึ”
“ฮ่า ๆ ๆ คนอย่างจินซูอันน่ะหรือ ที่จะมาร้องขอความเมตตาที่ไม่มีจากพวกเ้าทุกคนน่ะ น่าขำไปสามวันเจ็ดวันเสียจริง พวกเ้าลองทบทวนให้ดี ๆ ว่าหลายวันก่อนได้ส่งใครไปเมืองผู่เถียนบ้าง”
“เชอะ! จะเป็ใครไปได้ก็ต้องเป็ท่านพ่อของข้าน่ะสิ” หลิวเซี่ยหลินเชิดหน้าพูดอย่างภูมิใจในตัวบิดา ที่มีความกล้าหาญไปจัดการครอบครัวซูอันเื่ร้านผ้าไหม ด้วยนางวาดฝันจะได้ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าไหมราคาแพง
“อ้อ บิดาของเ้าเองน่ะหรือข้าได้พบเช่นกัน และข้ายังมีน้ำใจพามาส่งคืนถึงจวนด้วยตนเองเชียวนะหลิวเซี่ยหลิน” ซูอันพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อนหันไปใช้สายตาส่งสัญญาณ ให้อู๋ซูกับไห่หยุนนำตัวคนเข้ามาในโถงรับรอง
ตุบ ตุบ “อื้อ! อื้อ! อั่นอ้ออ๊วยอ้าอ้วย (ท่านพ่อช่วยข้าด้วย) ”
ฉุนเหลียนฮวาเห็นสภาพของสามีถึงกับส่งเสียงร้องขึ้นทันใด “ว้ายยย ตายแล้วท่านพี่ทำไมใบหน้าถึงได้ฟกช้ำเช่นนี้เ้าคะ หรือว่าเป็นางซูอันที่ทำร้ายท่านใช่ไหมเ้าคะท่านพี่”
“ซูอัน!! นั่นลุงใหญ่กับลุงรองของเ้านะ เหตุใดถึงได้ลงมือกับพวกเขาหนักถึงเพียงนี้” หลิวเหมยเซียงใไม่ต่างจากลูกสะใภ้
หลิวเฟิงเย่โกรธซูอันที่ทำร้ายบิดาของตน จึงคิดจะเข้าไปสั่งสอนญาติผู้น้องแต่กลับกลายเป็ตนเอง ที่เดินเข้าไปรนหาที่ตายเป็คนแรก “หนอยยย ซูอันเ้าบังอาจทำร้ายท่านพ่อของข้า หากไม่สั่งสอนเ้าเสียบ้างคงไม่รู้สำนึกสินะ”
หมับ! ผัวะ อ้าก ผัวะ โอ้ยยย ปึก ปึก อ้ากก ฉึก! อั่ก
“จะ จะ เ้า..ชะ ชะ ช่างอำมหิตนะ อึก ตุบ”
“เย่เอ๋อร์ลูกแม่!!/ อ้ายยยย นางซูอันฆ่าคนแล้ว”
ซูอันไม่สนใจเสียงกรีดร้องนั่น นางดึงมีดสั้นออกจากอกของหลิวเฟิงเย่ จากนั้นค่อย ๆ เงยหน้าไล่มองคนที่เหลือทีละคน พร้อมกับคำพูดที่อัดอั้นอยู่ในใจของซูอันตัวจริงมานานนับสิบปี
“พวกเ้ามีความสุขบนความทุกข์ของครอบครัวข้ามานาน รายได้จากการขายผ้าปักั้แ่ท่านย่ายังอยู่ จนนางสิ้นใจก็ยังเป็บิดาข้าที่เหน็ดเหนื่อย คนหาเงินไม่ได้ใช้เงินแต่คนที่ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย กลับมิเคยช่วยหาแม้แต่น้อย พวกเ้ามีสิทธิ์อันใดคิดจะร้านผ้าไหมของข้า!
หลิวเฟยเ้าเป็พ่อคนประสาอะไร ทำไมถึงไม่รู้จักอบรมสั่งสอนบุตรชาย ให้เป็คนมีเมตตาเห็นใจผู้อื่นบ้าง อ้อ ข้าลืมไปบิดาเป็เช่นไรลูกก็เป็เช่นนั้นสินะ อยากได้ผ้าไหมทองคำจนความโลภบังตา ส่งบุตรชายไม่เอาไหนไปข่มขู่ทำร้ายท่านพ่อของข้าถึงที่
แต่ไม่ว่าพวกเ้าอยากจะเพียงใด ข้าขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ‘ไม่มีทาง’ ต่อให้ข้าต้องตายกลายเป็ผี ข้าก็จะตามจองล้างจองผลาญพวกเ้าไปทุกชาติภพ”
“ซะ ซะ ซูอันเ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ เ้าปล่อยพวกข้าไปสักครั้งเถิด ข้ารับปากว่าหลังจากนี้จะไม่ยุ่งกับครอบครัวของเ้าแล้วนะ” หลิวเฟยััได้ถึงไอสังหารของซูอัน ถึงกับเอ่ยปากร้องขอความเมตตา
“ปล่อยพวกเ้า? มาพูดตอนนี้มันสายไปแล้วหลิวเฟย!”
ฉึก! ฉึก! อั่ก ตุบ
เมื่อจัดการหัวหน้าตระกูลหลิวจนสิ้นใจแล้ว ซูอันหันไปทางหลิวเหมยเซียงที่อยู่ใกล้ ๆ พร้อมสั่งการให้อู๋ซูกับไห่หยุนลงมือทันที “พวกเ้าสองคนจัดการที่เหลืออย่าให้ใครหนีรอดไปได้เด็ดขาด”
“ขอรับ!/ ขอรับ!”
“หยะ หยะ อย่าเข้ามานะซูอันข้าเป็ย่าใหญ่ของเ้านะ การฆ่าคนเป็บาปมหันต์เ้าไม่รู้รึ!”
“หึ หลิวเหมยเซียงถึงภายนอกเ้าจะไม่แสดงท่าทีอันใด แต่ภายในใจกลับอิจฉาริษยาท่านย่าของข้าตลอดเวลา ยามท่านย่าถูกตาแก่นั่นลงโทษเ้าหัวเราะเยาะเย้ยผ่านสายตาคู่นี้เสมอ ฆ่าคนบาปแล้วอย่างไรในเมื่อพวกเ้าสมควรได้รับผลเช่นนี้”
หมับ! ซูอันเอื้อมมือไปรั้งศีรษะของหลิวเหมยเซียงไว้ แล้วตามด้วยการใช้มีดจ้วงแทงลงไปที่หัวใจจนมิดด้าม และปล่อยให้ร่างที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลา นอนนิ่งเือาบพื้นไปด้วยสีแดงฉาน
คนที่ถูกอู๋ซูกับไห่หยุนสังหารก่อนใคร ย่อมเป็หลิวฉางฮุ่ยและหลิวชางหรง จากนั้นเสียงของคมดาบที่ตวัดลงบนเนืุ้์ ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าใครจะวิ่งหนีไปทิศทางไหน แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหลบหนีได้ ต้องนอนตายเกลื่อนกลาดอยู่ตามทางเดิน
“อย่าลืมจุดไฟเผาเรือนทุกหลัง ข้าจะไปเปลี่ยนชุดและรออยู่ที่เรือนท้ายจวน พวกเราจะออกจากที่นี่โดยใช้ประตูเล็กด้านหลัง” ซูอันเคยอยู่ที่นั่นย่อมรู้ว่ามีเส้นทางหลบหนีออกไปได้
“ขอรับคุณหนูรอง พวกข้าสองคนจะรีบจัดการให้แล้วเสร็จ และจะตามไปพบท่านที่นั่นขอรับ” อู๋ซูกับไห่หยุนรับคำสั่งจากซูอัน ก่อนจะแยกย้ายกันไปจุดไฟตามเรือนต่าง ๆ ให้ลุกไหม้ทั้งหมด
คล้อยหลังบุรุษที่ติดตามมาช่วยงานของตน ซูอันที่ใบหน้ายังคงเผยให้เห็นถึงความโเี้ โดยพูดกับตนเองถึงอีกคนที่นางต้องไปจัดการ
“หึ ยังเหลืออีกคนสินะ ยุ่งไม่เข้าเื่ดีนักก็ควรต้องชดใช้เช่นกัน”
เนื่องจากเรือนแต่ละหลังมีไม้เป็หลัก ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เมื่อทั้งสามคนออกมาทางท้ายจวน ก็เริ่มมีชาวบ้านส่งเสียงโวยวายกับเปลวไฟที่เกิดขึ้น แต่มีชาวบ้านบางคนรู้สึกแปลกใจสงสัย ที่ประตูจวนถูกใส่กุญแจไว้อย่างมิดชิด
แม้แต่เสียงกรีดร้องเพื่อขอความช่วยเหลือก็ไม่มีให้ได้ยิน จนกระทั่งเ้าหน้าที่มาถึงภายในจวนก็ถูกไฟเผา จนวอดไปทั่วทุกมุมการค้นหาผู้คนในจวน ยังไม่มีเ้าหน้าที่คนไหนพบเจอคนรอดชีวิต เมื่อนำไปรายงานท่านเ้าเมืองก็ทำได้เพียงคิดว่า มีโจรบุกเข้าไปปล้นก่อนจะฆ่าปิดปากเท่านั้น
รถม้าของซูอันมาหยุดภายในตรอกไร้ผู้คน นางทำตามที่ไห่หยุนบอก เพราะยังไม่รู้ว่าจวนตระกูลฮ่วน ตั้งอยู่ทิศใดของเมืองถู่หลาน ซูอันกับอู๋ซูรอไม่ถึงหนึ่งเค่อไห่หยุนก็กลับมารายงาน “คุณหนูรองขอรับ จวนของตระกูลฮ่วนตั้งอยู่ทิศตะวันออกของเมือง ซึ่งเป็ที่อยู่ของเหล่าเศรษฐีและคหบดีขอรับ”
“เช่นนั้นพวกเราทิ้งรถม้าไว้ที่นี่และเดินไปแทน เพื่อไม่ให้เป็ที่สงสัยของคนละแวกนั้น ดูจากเวลาแล้วพอไปถึง นายท่านฮ่วนคงเลือกหลับนอนกับอนุคนใดคนหนึ่งแน่ ข้าจะรออยู่ที่ประตูข้างพวกเ้าสองคน เข้าไปดูให้ข้าว่านายท่านฮ่วนนอนอยู่เรือนของอนุคนใด” ซูอันต้องวางแผนให้รัดกุมก่อนจะลักลอบเข้าไป ในการสังหารผู้นำตระกูลฮ่วนในคืนนี้
“ขอรับคุณหนูรอง/ ขอรับคุณหนูรอง”
เพราะจุดที่เลือกจอดรถม้าอยู่ค่อนมาทางทิศตะวันออกอยู่แล้ว ทั้งสามคนจึงใช้เวลาเดินเท้าเพียงหนึ่งเค่อ ก็เจอจวนตระกูลฮ่วนที่ใหญ่โต จากนั้นอู๋ซูกับไห่หยุนก็ลอบเข้าไปด้านใน ตามแผนที่ซูอันได้บอกไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปเพื่อความรวดเร็ว จนอู๋ซูพบว่านายท่านฮ่วนอยู่ในเรือนของอนุคนที่ห้า เขาจึงให้ไห่หยุนเฝ้าอยู่ที่เรือนนี้ ส่วนตนเองจะกลับไปตามซูอันเข้ามาเอง “ไห่หยุนเ้ารออยู่ที่นี่และกำจัดบ่าวของเรือนนี้เสีย ป้องกันความวุ่นวายหากด้านในเกิดเสียงดัง”
“ได้สิ เ้ารีบไปตามคุณหนูรองเถิด นี่ใกล้จะเข้ายามห้าย (21.00-23.00 น.) เข้าไปทุกที พรุ่งนี้ยังต้องออกจากเมืองแต่เช้า”
“อืม”
อู๋ซูใช้ความมืดให้เป็ประโยชน์ในการซ่อนตัว จนถึงประตูข้างของจวนจึงค่อย ๆ แง้มประตูให้ซูอันเข้ามา และตามเขาไปยังเรือนอนุคนที่ห้าอย่างรวดเร็ว ส่วนไห่หยุนก็ลงมือจัดการสาวใช้ รวมถึงบ่าวไพร่อีกไม่กี่คนที่คอยอยู่รับใช้อนุห้า แต่คืนนี้เป็โชคดีของกว่างเสี้ยว ที่เขาขอกลับบ้านไปเยี่ยมมารดาที่ป่วย จึงรอดพ้นจากความตายอย่างหวุดหวิด
ภายในเรือนนอนที่มีเพียงแสงสลัว ๆ จากตะเกียงไม่กี่ดวง บนเตียงมีร่างของบุรุษและสตรี ที่เพิ่งเสร็จสมจากการเสพกาม นอนกอดก่ายหายใจถี่รัวจากความเหน็ดเหนื่อย โดยไม่รู้สึกตัวว่ายามนี้มีคนอื่นลอบเข้ามาด้านในอย่างเงียบ ๆ
“แฮ่ก ๆ ๆ จูเยว่วันนี้เ้าช่างร้อนแรงถึงใจข้ายิ่งนัก ไว้ตระกูลหลิวได้ผ้าไหมทองคำมาแล้ว ข้าจะให้ช่างที่ร้านทำเป็ถุงหอมให้เ้าดีไหม” นายท่านฮ่วนพูดเอาใจอนุคนโปรด
จูเยว่อนุคนที่ห้าและยังอายุน้อย ถึงกับตาโตเมื่อได้ยินคำว่าผ้าไหมทองคำ หากนางได้มาพกติดตัวย่อมเรียกความอิจฉา จากเหล่าอนุด้วยกันหรือแม้แต่ฮูหยินเอกและฮูหยินรอง “ขอบคุณนายท่านที่เมตตาเ้าค่ะ ข้าสัญญาจะทำให้นายท่านมีความสุขทุกวันดีหรือไม่เ้าคะ”
ยิ่งได้ยินเสียงหวาน ๆ พูดจาเอาอกเอาใจ นายท่านฮ่วนยิ่งชื่นชอบเหตุใดเขาจะไม่รู้ ว่าสตรีพวกนี้ล้วนอยากได้เงินทองจากเขาทั้งสิ้น “อืม ย่อมดีอยู่แล้วเพราะเ้าทำให้ข้ารู้สึกถึง่วัยหนุ่มอีกครั้ง รอพรุ่งนี้เช้าข้าจะให้กว่างเสี้ยวเอารางวัลอย่างอื่นมาให้ก่อนก็แล้วกัน”
“ขอบคุณนายท่านเ้าค่ะ”
ระหว่างที่ทั้งสองจบการสนทนา ด้านข้างเตียงทั้งสองด้านก็ปรากฏเงาดำขึ้น และลากตัวลงจากเตียงโดยไม่ยั้งแรง
พรึ่บ! อ้ายยย!!
“นี่มันอะไรกัน! พวกเ้าเป็ใครเข้ามาในห้องนี้ั้แ่เมื่อใด?”
“ข้าไม่จำเป็ต้องตอบ ลงมาจากเตียงมีคนรอพบเ้าอยู่” อู๋ซูไม่พูดมากเขากระชากตัวนายท่านฮ่วนลงมา ก่อนจะลากไปกับพื้นด้วยสภาพเปลือยเปล่า
ด้านจูเยว่ก็ไม่ต่างกันนางก็ถูกไห่หยุนลากออกมา แต่ยังดีที่ไห่หยุนหยิบผ้าห่มโยนไปคลุมตัวนางเอาไว้ เพื่อกันมิให้อุจาดตายามคุกเข่าอยู่ตรงหน้าซูอัน จนนายท่านฮ่วนถูกผลักให้นั่งคู่กัน ผ้าห่มผืนบางจึงโดนแย่งไปคลุมส่วนล่างของเขาทันที
“เ้าก็คือนายท่านฮ่วนคนที่คาบข่าวร้านผ้าของข้า มาบอกกับคนตระกูลหลิวสินะ” เมื่อคนที่้าพบตัวมานั่งอยู่ตรงหน้า ซูอันก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ระ ระ ร้านผ้าอันใดของเ้าข้าไม่เคยพูดอะไรทั้งนั้น”
ซูอันหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อนางต้องมาเจอกับคนปากแข็ง “ทำไมคนแก่ ๆ ถึงได้ชอบทำตัวเหมือนกันเช่นนี้นะ หากไม่มีตัวอย่างให้เห็นเ้าคงไม่ยอมรับล่ะสิ ได้..ข้ายินดีมากที่จะยกตัวอย่างให้เ้าดู อู๋ซู!..”
สิ้นเสียงเรียกชื่อจากปากของซูอัน เ้าของชื่ออย่างอู๋ซูเดินอ้อมไปด้านหลังของจูเยว่ จากนั้นใช้ดาบในมือแทงนางจากด้านหลัง จนปลายดาบทะลุมาด้านหน้าส่งผลให้เืกระเซ็นไปทั่ว
ฉึก!! อั่ก
อ้ากกก!! “พะ พะ พวกเ้า้าอะไรจากข้ากันแน่ หากอยากได้เงินทองก็ไปเอาในห้องเก็บสมบัติสิ อยากได้เท่าใดก็เอาไปเลยแต่อย่าฆ่าข้าก็พอ”
ซูอันยังจำอารมณ์ดีใจของนายท่านฮ่วน ที่พูดถึงผ้าไหมทองคำของนาง โดยหลอกใช้ตระกูลหลิวที่เกิดความโลภเช่นเดียวกัน “เ้าเองก็อยากได้ผ้าไหมทองคำของข้า ถึงได้คิดยืมมือตระกูลหลิวไปกดดันท่านพ่อถึงเมืองผู่เถียน ช่างโลภมากไม่ต่างกันเสียจริง แต่ของ ๆ ข้าหากข้าไม่เต็มใจมอบให้ ใครหน้าไหนก็มาแย่งไปไม่ได้ทั้งนั้น!!”
นายท่านฮ่วนเห็นแววตาที่โเี้ของซูอัน ก็รีบโขกหัวเพื่อร้องขอชีวิต “แม่นางอย่าฆ่าข้าเลย ข้าผิดไปแล้วโปรดเมตตาสักครั้งเถิดนะ เ้าอยากให้ข้าเป็วัวเป็ม้าคอยรับใช้ไปจนตายก็ได้”
“เชอะ ข้าจะเอาคนแก่มักมากในกามอย่างเ้า มาเป็บ่าวรับใช้ที่อาจหักหลังได้ทุกเมื่อไปทำไมกัน แต่ข้าคิดว่าในตระกูลฮ่วนคงมีบุตรหลานอยู่หลายคน ถ้าเ้าไม่อยู่แล้วอย่างไรเสียบุตรชายทั้งหลายที่เกิดมา ก็ช่วยท่านสืบทอดกิจการได้นี่นา เช่นนั้นข้าจะช่วยส่งเ้าไปหาหลิวเฟย พวกเ้าสองคนจะได้มีเพื่อนคุยยามอยู่ในนรกนะ”
“ไม่นะ! หยะ อย่า..” นายท่านฮ่วนพูดได้เพียงเท่านี้ เพราะมีดในมือของซูอันตวัดลงไปที่คอของเขาได้รวดเร็ว ประหนึ่งสายฟ้าฟาดก็มิปาน
ชิ้ง ฉึบ!! อ่ะ ตุบ
ซูอันเช็ดคราบเืบนมีดสั้นของนางก่อนเก็บเข้าฝัก พร้อมกับสั่งให้อู๋ซูและไห่หยุนทำลายร่องรอยภายในห้องนี้ “ตรวจดูว่ามีรอยเท้าพวกเราอยู่จุดใดบ้าง ทำลายให้หมดจดจะได้ออกจากจวน ก่อนจะมีบ่าวไพร่คนอื่น ๆ มาพบเจอ”
“ทราบแล้วขอรับคุณหนูรอง” อู๋ซูกับไห่หยุนรับคำสั่ง จากนั้นเริ่มลบรอยเท้าจากด้านในออกมาถึงด้านนอกเรือน
เมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว ผู้บุกรุกทั้งสามจึงอาศัยความมืดออกจากจวนตระกูลฮ่วน กลับไปพักยังโรงเตี๊ยมธรรมดา ที่อยู่ใกล้ประตูเมืองเพื่อความสะดวกในการเดินทางในยาเหม่า ปล่อยให้เื่ของสองตระกูลเป็ปริศนา ที่ไม่ว่าทางการจะตรวจสอบอย่างไร ก็ไม่สามารถสืบหาตัวคนร้ายได้
